xs
xsm
sm
md
lg

หัก"พัชรวาท"! "มาร์ค"ทันเกมไส้ศึก ย้ายกลับมือทำคดี"สนธิ"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-นายกฯ ยันคดียิง “สนธิ”ไม่หนักใจ แย้มมีข้อมูลใครสั่งฆ่า แต่ต้องมีพยานหลักฐาน เชื่อฝีมือ“ธานี”ทำคดีไม่เหวี่ยงแห ทันเกมไส้ศึก สั่งให้นายตำรวจมือข้อมูลสอบกลับทำหน้าที่ต่อ หลัง“พัชรวาท”สั่งย้าย อ้างกลับปฏิบัติภารกิจเมืองสุราษฏ์ธานี "พัชรวาท-ประวิตร"ปัดไม่เกี่ยวคดี ด้าน รมว.ยุติธรรม สั่งตรวจสอบ“วรวุฒิ”เบิกปืนและรถดีเอสไอไปใช้ในคดีหรือไม่

วานนี้(19 ก.ค.)นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยในรายการ“เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์” ถึงความคืบหน้าคดีลอบยิง นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยว่า เรื่องการดำเนินคดี ไม่มีสี ทุกคดี ซึ่งเรื่องนี้ไม่หนักใจ ได้มอบให้ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองผบ.ตร. ดูแล ได้มีการพบปะกันเป็นระยะๆ และตนจะถามว่ามีอุปสรรค หรือไม่ หากมีให้บอกมาว่า จะแก้อย่างไร วันนี้ก็ยังเป็นอย่างนั้นอยู่ พล.ต.อ.ธานี บอกว่ามั่นใจทำต่อได้เดินต่อได้และตนเชื่อความตรงไปตรงมาของ พล.ต.อ.ธานี

ฉะนั้นคดีของคุณสนธิ ตนไม่หนักใจ ใครทำก็ต้องรับผล จะเป็นยศอะไร เข้ามาเกี่ยวข้องก็ต้องทำ เพราะสิ่งหนึ่งที่ตนพูดชัดเจนคือ ประเทศเรามีปัญหาเรื่องการบังคับใช้กฎหมายมาช้านาน และเป็นตัวที่ทำลายและทำให้เกิดความขัดแย้งในเรื่องต่างๆจนถึงขณะนี้ คิดว่าดีที่สุดคือไปสอบถาม พล.ต.อ.ธานี ว่าได้รับการสนุบสนุนจากตนอย่างเต็มที่หรือไม่ และถ้า พล.ต.อ.ธานี ไม่ไหวก็ต้องบอกหรือติดขัดอะไร ก็ต้องบอก ถ้า พล.ต.อ.ธานี บอกแล้วตนไม่ทำก็มาเล่นงานตนเองได้

ส่วนใครที่อยู่เบื้องหลังนั้น นายกฯ กล่าวว่า ตนไม่ลงไปในรายละเอียด และไม่คาดคะเนด้วยตนเอง แต่ได้บอกให้ พล.ต.อ.ธานี ทำไปตามพยานหลักฐาน พล.ต.อ.ธานี ก็จะไม่พูดทั้งหมด จะพูดคร่าวๆ และตนได้ขอความเห็นใจ แม้คดีจะอยู่ในความสนใจของประชาชนเท่าไร การที่จะให้พนักงานสอบสวนมาบอกกับประชาชน ว่ามีข้อมูลอะไรบ้างอยู่ในมือ คงทำไม่ได้ แต่เราจะต้องดำเนินการ

**แย้ม"ธานี"รู้ตัวคนทำ

ทั้งนี้ สิ่งที่ตนชอบใจคือ พล.ต.อ.ธานี บอกชัดเจนว่า หลักการทำคดีของท่าน จะไม่เหวี่ยงไปก่อน แล้วค่อยวัดดวงเอา สุดท้ายในหลายคดี อัยการไม่ฟ้อง ขึ้นศาลยกฟ้อง ไม่ทำอย่างนั้น เอาความแน่นอนระดับหนึ่งถึงจะดำเนินการ

เมื่อย้ำถามว่า แต่ท่านทราบไหมว่าใครทำ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ท่านก็ต้องทราบแหละครับ การเชื่อมโยงมันมี แต่ต้องมีพยานหลักฐาน เมื่อถามว่า แสดงว่า พล.ต.อ.ธานี ได้รายงานนายกฯด้วย นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนก็พยายามหาข้อมูลด้วยตัวเองบ้าง แต่ไม่ใช่เรื่องที่ตนจะมาพูดกับสาธารณะว่าคิดอย่างไร ยังไง เดี๋ยวจะเป็นเรื่องการชี้นำไป

อย่างไรก็ตาม ทั้งคดีของนายสนธิ และคดียิงมัสยิด สิ่งลำบากคือ การจับกุม การหลบหนี การไหวตัว การได้ข้อมูล ซึ่งคนทำรู้ตัวอยู่แล้ว ฉะนั้นอันนี้จะต้องมีการรัดกุมมากยิ่งขึ้น ในการวางแผนที่จะต้องจับกุมให้ได้

**ทันเกมไส้ศึกย้าย ตร.กลับทำคดี

ต่อมาเวลา 15.00 น.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. ย้ายเจ้าหน้าที่ ที่ทำงานในคดีลอบยิงนายสนธิ กลับโดยที่นายกรัฐมนตรี สั่งให้กลับมาปฏิบัติหน้าที่เหมือนเดิมว่า มีนายตำรวจซึ่งถูกยืมตัวมาและถูกส่งกลับไป ทีนี้เมื่อมีความต้องการให้อยู่ตรงนี้ต่อก็ดึงมา ผู้สื่อข่าวถามว่า ไม่สงสัยหรือว่าทำไม พล.ต.อ.พัชรวาท ถึงทำแบบนั้นทั้งๆที่ก่อนหน้านี้พูดมาตลอดว่าไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับคดีนี้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ได้คุยกับ พล.ต.อ.พัชรวาท ท่านพูดว่าเรื่องของนายตำรวจท่านนี้มีภารกิจอยู่ที่ จ. สุราษฏ์ธานีด้วย แต่ตนบอกว่าตรงนี้น่าจะต้องมาทำต่อ

เมื่อถามว่าตามข่าวที่ออกมาระบุว่าตำรวจคนนี้ทำหน้าที่เกี่ยวกับเรื่องของโทรศัพท์ แต่ถูก พล.ต.อ.พัชรวาท เรียกไปให้หยุดการปฏิบัติหน้าที่นี้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ใช่อย่างนั้น ที่ตนได้คุยกับทาง ผบ.ตร. เอาเป็นว่าไม่ว่าจะมีปัญหาอะไร หากเป็นปัญหาที่ทำให้คดีนี้ไม่คืบหน้าก็แก้ไขแน่นอนและก็แก้ไขแล้วและทาง ผบ.ตร.ต้องทราบดีว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญ พล.ต.อ.พัชรวาท ก็ไม่มีประเด็นอะไรพอพูดปั๊บก็ดำเนินการ

ต่อข้อถามว่าการอยู่ในตำแหน่งทำให้คนทำดคีเกิดความหวาดผวาไม่กล้าที่จะทำคดีต่อหรือเปล่า นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ครับ ได้คุยกับ พล.ต.อ.ธานี ก็ยืนยันว่าไม่มีปัญหา เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.ธานี บอกว่าตอนนี้เหลือคนทำงานแค่ 4-5 คนเท่านั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ได้ถามอยู่ หากต้องการเพิ่มเดี๋ยวจะจัดให้ เมื่อถามว่า คิดว่าเพียงพอกับการที่จะสะสางคดีนี้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวยืนยันว่า ได้สอบถามทุกครั้งว่ามีประเด็นอะไรหรือไม่ที่ต้องการให้ดำเนินการ พล.ต.อ.ธานี บอกเองว่ายังสามารถทำงานได้

เมื่อถามว่าท่านคิดว่า พล.ต.อ.พัชรวาท ไม่ใช่อุปสรรคต่อการทำคดียิงนายสนธิ ใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในขณะนี้ไม่ได้เป็นอย่างนั้น พร้อมกับเชื่อว่า พล.ต.อ.ธานี จะปิดคดีได้ก่อนเกษียน ตามที่ท่านพูดไว้

**คำสั่งย้ายมัด"พัชรวาท"ขวางทำคดี

ทั้งนี้ข้อมูลที่ นายอภิสิทธิ์ ได้รับทราบ คือ ในช่วงที่มีการตั้งทีมคลี่คลายคดีลอบสังหาร นายสนธิ นั้น พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วย ผบ.ตร.ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมคลี่คลายคดี ได้ขอยืมตัว พ.ต.อ.วิวัฒน์ คำชำนาญ ผู้กำกับการ 6 กองบังคับการตำรวจน้ำ จ.สุราษฎ์ธานี มาชั่วคราวเพื่อช่วยทำคดี เนื่องจาก พ.ต.อ.วิวัฒน์ เชี่ยวชาญพิเศษในการแกะรอยโทรศัพท์ที่จะเชื่อมโยงไปสู่การจ้างวาน และการวางแผนของทีมลอบสังหาร ซึ่งถือว่า พ.ต.อ.วิวัฒน์ สามารถทำให้คดีดังกล่าวก้าวหน้าไปได้มาก ทั้งนี้ พล.ต.อ.ธานี ได้รายงานโดยตรงกับนายอภิสิทธิ์ ว่า พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.กลับมีคำสั่งให้ พ.ต.อ.วิวัฒน์ หยุดทำหน้าที่กะทันหัน ทั้งๆ ที่ขณะนั้นคดีคืบหน้าจนใกล้จะรู้เส้นทางการจ้างวานแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า อย่างไรก็ตาม แม้ว่า พ.ต.อ.วิวัฒน์ จะถูกสั่งการจาก พล.ต.อ.พัชรวาท ให้หยุดทำหน้าที่ในชุดคลี่คลายคดี แต่ พ.ต.อ.วิวัตน์ ก็ไม่ได้หยุดปฏิบัติหน้าที่ตามที่ พล.ต.อ.พัชรวาท ออกคำสั่ง ทำให้ พล.ต.อ.พัชรวาท ไม่พอใจ จึงมีคำสั่งอีกครั้ง โดยในครั้งนี้ พล.ต.อ.พัชรวาท ได้มีคำสั่งส่งตัว พ.ต.อ.วิวัฒน์ คืนสังกัดเดิมที่ จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อต้องการให้พ้นจากทีมคลี่คลายคดี

อย่างไรก็ตาม นายอภิสิทธิ์ ได้โทรศัพท์ถึง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เพื่อเล่าเรื่องดังกล่าวและได้บอกให้ นายสุเทพ สั่ง พล.ต.อ.พัชรวาท ให้เรียกตัว พ.ต.อ.วิวัฒน์ กลับมาปฏิบัติหน้าที่ในชุดคลี่คลายคดีทันที จนกระทั่งเมื่อกลางดึกวันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา พ.ต.อ.วิวัฒน์ ได้รับแจ้งจากหน้าห้องของ พล.ต.อ.พัชรวาท ให้กลับมาปฏิบัติหน้าที่ในชุดคลี่คลายคดีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซี่ง นายอภิสิทธิ์ ไม่พอใจกับกรณีดังกล่าวเป็นอย่างมาก โดยขณะนี้ นายอภิสิทธิ์ อยู่ระหว่างตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่งเกี่ยวกับตำแหน่งของ พล.ต.อ.พัชรวาท

**ไม่รับปากไม่ย้าย"พัชรวาท"

ต่อข้อถาม เหตุที่ไม่มีการโยกย้าย ผบ.ตร.เป็นเพราะมีปัญหาเรื่องการเมืองอยู่ เพราะ พล.อ.ประวิทย์ วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ ไม่ตอบ แต่พูดย้ำว่า ตนได้ถาม พล.ต.อ.ธานี ว่ามีอะไรที่อยากจะให้ทำเพิ่มเติมหรือไม่ เพราะตนก็เป็นห่วง ท่านก็ตอบทุกครั้งว่าไม่มีสามารถที่จะดำเนินการได้ พอมีข่าวอะไรต่างๆตนก็จะสอบถาม พอครั้งสุดท้ายที่มีกรณีนายตำรวจช่วยเรื่องของข้อมูล ก็ไม่กี่ชั่วโทงก็เรียบร้อย

ส่วนข่าวไส้ศึกที่ออกมา พล.ต.อ.ธานี ยืนยันว่าไม่เป็นไร ดูแลได้ เมื่อบอกว่าดูแลได้ตนถือว่าท่านสามารถทำงานได้และยังได้ย้ำว่าหากมีอะไรที่จะเป็นอุปสรรค์ให้ทำงานไม่ได้ขอให้บอก จะดำเนินการแก้ไขให้ เมื่อถามว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่การทำงานของ พล.ต.อ.พัชรวาท กับ พล.ต.อ.ธานี มีความขัดแย้งกัน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ท่านก็ไม่เห็นพูดอย่างนั้น

**"พัชรวาท"ลั่นไม่เคยขัดแย้ง“ธานี”

พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ได้รับรายงาน ส่วนที่มีข่าวว่า จะมีการออกหมายจับเพิ่มเติมนั้นจะต้องไปถาม พล.ต.อ.ธานี เนื่องจากเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบ

เมื่อถามว่า ในฐานะที่เป็น ผบ.ตร. ทาง พล.ต.อ.ธานี ไม่ได้รายงานให้ทราบเลยหรือ ถึงปัญหาอุปสรรค พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รายงานมาให้ทราบ ส่วนที่ หลายคนมองว่าคดีที่ไม่คืบ เนื่องจากเกิดปัญหาความขัดแย้งระหว่างตัว ผบ.ตร. กับ พล.ต.อ.ธานี นั้น พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า ไม่มีหรอก ไม่มีอะไร

**"ประวิตร"ยันไม่เกี่ยวข้อง

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณี จ.ส.อ.ปัญญา ศรีเหรา ทหารจากหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษเป็นผู้ต้องหาคดีลอบยิง นายสนธิ ว่าตนคงไม่เข้าไปเกี่ยวข้อง ปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการไปตามกระบวนการกฎหมาย หากจะมีการประสานระหว่างหน่วยงานเพื่อส่งตัว จ.ส.อ.ปัญญา เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ต้องประสานไปยังผู้บัญชาการทหารบก

พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวถึงกรณีที่คดีดังกล่าวมีการพาดพิงมาถึงตน และ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ซึ่งเป็นน้องชายว่า ก็ว่ากันไป แต่ยืนยันไม่ได้เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ขอให้ตำรวจตรวจสอบคดีให้เป็นที่ปรากฏ

ส่วนที่นายกรัฐมนตรีระบุว่าจะดำเนินการอย่างเด็ดขาด ไม่ว่าผลการสอบสวนพาดพิงไปถึงผู้ใหญ่คนใด ว่า เป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว เพราะต้องดำเนินการทุกอย่างตามกฎหมาย

**แนะนายกฯ ตั้งกรรมการสอบไส้ศึก

นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ (กมม.) กล่าวว่า ตอนนี้คงไม่มีใครปฏิเสธว่าคดีลอบยิงนายสนธิ ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวหรือเป็นการดำเนินการของคนมีสีจำพวกปลายแถว เพราะรูปคดีเริ่มเห็นเค้าลางที่น่าเชื่อถือมากขึ้นว่าโยงใยกับกลุ่มอำนาจระดับสูงอย่างแน่นอน โดยเฉพาะผู้ถูกออกหมายจับที่ยังหลบหนีอยู่ในขณะนี้เป็นคนที่กว้างขวางและได้รับการโปรดปรานจากคนมีอำนาจหลายกลุ่ม จึงเป็นไปได้ว่าผู้บงการมีหลายกลุ่มหลายสีและเป็นการลงขันฆ่าค่อนข้างชัดเจน

ฉะนั้นมีความจำเป็นเร่งด่วนที่นายกรัฐมนตรี จะต้องเร่งสร้างภูมิคุ้มกันและเพิ่มศักยภาพของทีมสอบสวนในคดีนี้ให้มากที่สุด โดยผมขอเรียกร้องให้นายกฯ ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงตามที่ พล.ต.อ.ธานี ระบุว่ามีไส้ศึกและมีนายตำรวจใหญ่ที่ไม่มีจิตวิญญาณ อาจเชิญผู้ทรงคุณวุฒิเข้าร่วมเป็นกรรมการสอบสวน เช่น พล.ต.อ. ประทิน สันติประภพ พล.ต.อ.วสิษฐ์ เดชกุญชร นายคณิต ณ นคร เลขาธิการ ครม. อัยการสูงสุด เป็นต้น วางกรอบสอบสวนแค่ 15 วันก็น่าจะได้ข้อเท็จจริง หากนายกฯ ปล่อยปละละเลยให้เรื่องนี้เงียบหายไปก็คาดการณ์ล่วงหน้าได้ว่าสุดท้ายคดีนี้อย่างมากก็จับได้แต่เฉพาะผู้ร้ายปลายแถวเท่านั้น

**ยธ.สั่งสอบ"วรวุฒิ"เบิกปืน-รถ

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีทีมพนักงานสอบสวนของ พล.ต.อ.ธานี ได้ประสานมายัง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) เพื่อขอรถยนต์กระบะโตโยต้า ดีแม็กซ์ สีดำ สศ 1785 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นพาหนะต้องสงสัยที่ ส.ต.อ.วรวุฒิ มุ่งสันติ ใช้หลบหนีมาตรวจสอบว่า ล่าสุดได้ลงนามในคำสั่งด่วน เมื่อวันศุกร์ที่ 17 ก.ค.ให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รายงานตรวจสอบข้อเท็จจริงการปฏิบัติหน้าที่ของ ส.ต.อ.วรวุฒิ เป็นลายลักษณ์อักษร นอกจากนี้ให้ตรวจสอบว่าได้เบิกจ่ายอาวุธและเครื่องมืออุปกรณ์ของดีเอสไอไปใช้หรือไม่ หากนำไปใช้จริงนั้นนำไปใช้ในภารกิจใด และนำมาส่งคืนให้ดีเอสไอ อย่างถูกต้องครบถ้วนหรือไม่

นายพีระพันธ์ กล่าวต่อว่า สำหรับการติดตามตัว ส.ต.อ.วรวุติ นั้นทีมพนักงานสอบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องการให้ช่วยเหลือประเด็นใด ก็ให้ประสานโดยตรงมายัง รมว.ยุติธรรมด้วย เพื่อจะได้ช่วยเร่งรัดหรือตรวจสอบในส่วนที่เกี่ยวข้อง เพราะถือว่าดีเอสไอ เป็นหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมเช่นเดียวกัน

“คิดว่าในทางปฏิบัติการคลี่คลายคดีนี้ ทั้งสองหน่วยงานจะต้องร่วมมือกัน เมื่อทางตำรวจประสานมาทางกระทรวงยุติธรรมก็ต้องดำเนินการ เพื่อให้กระบวนการดำเนินไปได้ และเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม”

วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบริเวณลานจอดรถของกรมสอบสวนคดีพิเศษ พบรถกระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ สีดำ จอดอยู่ 1 คัน แต่ไม่ใช่ทะเบียน สศ 1785 กรุงเทพมหานคร คันที่ชุดสืบสวนขอให้ดีเอสไอส่งไปตรวจสอบ โดยเมื่อผู้สื่อข่าวไปถึง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ห้ามไม่ให้ถ่ายรูปจากนั้นไม่นาน ก็มีผู้มาขับรถปิกอัพสีดำ ไปจากที่จอดรถในทันที

**เตรียมเรียกตัว"เสธ.สุนัย"สอบ

ส่วนความคืบหน้าทางคดี พล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์ รอง ผบช.น.ฝ่ายสอบสวน กล่าวว่า ช่วงวันหยุดราชการยังไม่มีความคืบหน้าด้านเอกสาร รวมทั้งคำสั่งออกหมายจับ หรือหมายเรียกใดๆ เพิ่มเติม อย่างไรก็ดี ฝ่ายสืบสวนสอบสวนมีเบาะแสของคนร้ายที่ถูกออกหมายจับไปก่อนหน้านี้ คือ ส.ต.อ.วรวุฒิ มุ่งสันติ แต่ไม่สามารถเปิดเผยแหล่งที่กบดานได้ เนื่องจากเกรงว่าผู้ต้องหาจะไหวตัว ซึ่งขณะนี้ชุดแกะรอยกำลังไล่ล่าอย่างต่อเนื่อง

พล.ต.ต.สุเมธ กล่าวว่า ภายในสัปดาห์หน้าจะมีความคืบหน้าที่ชัดเจนมากขึ้น เจ้าหน้าที่กำลังเร่งหาพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาเป็นทีมสังหารเพิ่มอีกหลายคน ซึ่งมีทั้งคนมีสีและพลเรือน นอกจากนี้ ยังเตรียมเรียก พ.อ.สุนัย ประภูชะเนย์ หรือ เสธ.สุนัย นายทหาร ผู้ที่ยืมรถกระบะโตโยต้า วีโก้ ของ น.ส.รัศมี เมฆชัย ซึ่งตำรวจยึดมาได้เข้ามาให้ปากคำด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.อ.สุนัย เป็นนักเรียนเตรียมทหารทหารรุ่นที่ 21 จบหลักสูตรรบพิเศษจากศูนย์สงครามพิเศษ เคยสังกัดกองพันจู่โจม (พัน จจ.) ค่ายเอราวัณ ต.เขาสามยอด อ.เมือง จ.ลพบุรี ปัจจุบันดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายเสนาธิการประจำรองเสนาธิการ กอ.รมน.ภาค4 ส่วนหน้า และเนื่องจากมีนิสัยส่วนตัวสุภาพ เงียบขรึมจึงมักถูกนายทหารชั้นผู้ใหญ่เรียกมาใช้งานด้านการปฏิบัติการทางลับเสมอ

**ทัพภาค 4 พร้อมส่งตัว"พ.อ.สุนัย"

พล.ท.พิเชษฐ์ วิสัยจร แม่ทัพภาคที่ 4 ปฏิเสธไม่ทราบกรณี พ.อ.สุนัย ประภูชะเนย์ หัวหน้าฝ่ายเสนาธิการประจำรองเสนาธิการ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า อาจถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกสอบ คดีลอบยิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล ว่าเรื่องดังกล่าวต้องว่าตามกฎหมาย หากเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกมา ในฐานะผู้บังคับบัญชาก็ยินดีส่งตัวให้ทันที ใครผิดก็ว่าไปตามผิด ซึ่งขณะนี้ พ.อ.สุนัย ไม่ได้มีการขอเข้าปรึกษาเรื่องดังกล่าวกับผู้บังคับบัญชา และเห็นว่าไม่จำเป็นต้องเรียก พ.อ.สุนัย เข้ามาชี้แจง เพราะเป็นเรื่องส่วนตัว และไม่เกี่ยวกับความพยายามทำลายความน่าเชื่อถือของกองทัพ

แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวด้วยว่า พ.อ.สุนัย ทำงานด้านการข่าว อยู่ไม่เป็นที่ ซึ่งการทำงานจะรายงานมาตามระบบ ไม่ได้รายงานกับตนเองโดยตรง

**"วรวุฒิ"ยังไม่ประสานมอบตัว

พล.ต.ต.อดิเทพ ปัญจมานนท์ รอง ผบช.ปส.กล่าวถึงการติดตามตัว ส.ต.อ.วรวุฒิ มุ่งสันติ ตำรวจสังกัดศูนย์ข่าว บช.ปส.ช่วยราชการกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีลอบยิง นายสนธิ ว่าหลังจากที่ พล.ต.ท.วุฒิ ลิปตพัลลภ ผบช.ปส.ลงนามคำสั่งให้ ส.ต.อ.วรวุฒิ ออกจากราชการแล้วเมื่อวันที่ 17 ก.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากผิดวินัยร้ายแรงจากการขาดราชการเกิน 15 วัน ทำให้ความเป็นเจ้าพนักงานสิ้นสุดลงทันที

“จนถึงขณะนี้ ส.ต.อ.วรวฺฒิ ยังไม่มีการติดต่อขอเข้ามอบตัว อย่างไรก็ดี ทราบว่า ทีมสอบสวนของ พล.ต.อ.ธานี กำลังติดตามตัวอย่างใกล้ชิด ส่วนทาง บช.ปส. ได้ประสานติดต่อกับญาติของ ส.ต.อ.วรวุฒิ เพื่อขอให้เข้ามอบตัว แต่ทางญาติก็ยืนยันว่าไม่สามารถติดต่อได้เช่นกัน”

ส่วนกรณีที่ดีเอสไอได้ทำหนังสือลับส่งถึงอธิบดีกรมการปกครอง เพื่อขอให้จัดทำฐานข้อมูลทะเบียนบุคคลใหม่ โดยให้เปลี่ยน ชื่อ-นามสกุล และที่อยู่ ของ ส.ต.อ.วรวุฒิ เป็นนายอรรถพล ปาทาน เพื่อแฝงตัวเข้าไปสืบราชการในขบวนการค้ายาเสพติดทางภาคใต้นั้น พล.ต.ต.อดิเทพ กล่าวว่า ข้อมูลดังกล่าวแสดงถึงข้อเท็จจริงที่ ส.ต.อ.วรวุฒิ เคยทำงานให้กับดีเอสไอ อย่างไรก็ดี สังกัดของ ส.ต.อ.วรวุฒิ ยังคงอยู่ที่ บช.ปส.
กำลังโหลดความคิดเห็น