“เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่” แนะนายกฯ ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง กรณี ตร.ทำตัวเป็นไส้ศึกคดีลอบสังหาร “สนธิ” เสนอ “ประทิน-วสิษฐ-คณิต” ร่วมทีมสร้างภูมิคุ้มกันทีมสอบสวน ห่วงคดียิง “สนธิ” ล้อมกรอบ “ธานี” จับแพะ ตัดตอนผู้บงการตัวจริง ที่มีหลายกลุ่มหลายสี เชื่อ เป็นการลงขันฆ่าค่อนข้างชัดเจน เตือน อย่าปล่อยเป็นโศกนาฏกรรมระบบยุติธรรมของไทยอีกครั้ง ชี้ ข่าวพาดพิงนายทหารระดับสูง หรือบุคคลสำคัญหลายคน ย้ำ ถ้าไม่เกี่ยวข้อง ไม่ต้องไปเดือดเนื้อร้อนใจ แต่ควรให้ความร่วมมือกับทีมสอบสวน แปลกใจผู้ต้องหาที่ถูกหมายจับ ยังไม่ถูกส่งให้ทีมสอบสวน
วันนี้ (19 ก.ค.) นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ (ก.ม.ม.) ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงคดีการลอบสังหาร นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ ว่า ตนคิดว่า ตอนนี้คงไม่มีใครปฏิเสธว่าคดีลอบยิง นายสนธิ ลิ้มทองกุล ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว หรือเป็นการดำเนินการของคนมีสีจำพวกปลายแถว เพราะรูปคดีเริ่มเห็นเค้าลางที่น่าเชื่อถือมากขึ้น ว่า โยงใยกับกลุ่มอำนาจระดับสูงอย่างแน่นอน โดยเฉพาะผู้ถูกออกหมายจับที่ยังหลบหนีอยู่ในขณะนี้เ ป็นคนที่กว้างขวางและได้รับการโปรดปรานจากคนมีอำนาจหลายกลุ่ม จึงเป็นไปได้ว่าผู้บงการมีหลายกลุ่มหลายสี และเป็นการลงขันฆ่าค่อนข้างชัดเจน
นายสุริยะใส กล่าวว่า ดังนั้น มีความจำเป็นเร่งด่วนที่นายกรัฐมนตรีจะต้องเร่งสร้างภูมิคุ้มกันและเพิ่มศักยภาพของทีมสอบสวนในคดีนี้ให้มากที่สุด ลำพังคำพูดของนายกฯ ที่ระบุว่า จะไม่มีมวยล้ม หรือใหญ่แค่ไหนก็ต้องรับผิดนั้น จะไม่เกิดผลอะไร ถ้าทีมสืบสวนสอบสวนยังถูกโดดเดี่ยว และปล่อยให้มีไส้ศึกในทีมตำรวจก็เป็นเรื่องยากที่จะปิดคดีนี้ได้ก่อน พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ เกษียณอายุราชการ ซึ่งเหลือเวลาเพียง 2 เดือนเท่านั้น
“ผมขอเรียกร้องให้นายกฯ ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงตามที่ พล.ต.อ.ธานี ระบุว่า มีไส้ศึก และมีนายตำรวจใหญ่ ที่ไม่มีจิตวิญญาณ อาจเชิญผู้ทรงคุณวุฒิเข้าร่วมเป็นกรรมการสอบสวน เช่น พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร นายคณิต ณ นคร อดีตเลขาธิการ ครม.อัยการสูงสุด เป็นต้น วางกรอบสอบสวนแค่ 15 วัน ก็น่าจะได้ข้อเท็จจริง หากนายกฯ ปล่อยปละละเลยให้เรื่องนี้เงียบหายไป ก็คาดการณ์ล่วงหน้าได้ว่าสุดท้ายคดีนี้อย่างมากก็จับได้แต่เฉพาะผู้ร้ายปลายแถวเท่านั้น” เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ กล่าว
นายสุริยะใส กล่าวต่อไปว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่เป็นภาพสะท้อนความล้มเหลวของหลักนิติรัฐและหลักนิตธรรมที่รัฐบาลชุดนี้ และนายกฯ ให้ความสำคัญไว้ในตอนแถลงนโยบาย ถ้าจัดการความจริงด้วยการเลือกที่จะไม่พูดไม่สะสาง หรือปล่อยให้เรื่องเงียบหายไป ก็ถือว่าเป็นโศกนาฏกรรมของระบบยุติธรรมของประเทศอีกครั้งหนึ่ง
ส่วนข่าวที่พาดพิงนายทหารระดับสูง หรือคนสำคัญหลายคนนั้น ถ้าไม่เกี่ยวข้องก็ไม่ต้องไปเดือดเนื้อร้อนใจ แต่ควรให้ความร่วมมือกับทีมสอบสวนจะเป็นประโยนชน์มากกว่า โดยเฉพาะการนำตัวผู้ต้องหาส่งมอบให้กับทีมสอบสวนนั้น จะเป็นบทพิสูจน์ถึงความจริงใจของผู้บังคับบัญชา ซึ่งเป็นเรื่องที่แปลกมากผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ที่ถูกออกหมายจับต่างก็ได้รับความไว้วางใจจากผู้บังคับบัญชา แต่จนป่านนี้ยังไม่มีใครถูกส่งตัวให้ทีมสอบสวน
