00...ทั้งกังขา ทั้งฉงน กันถ้วนหน้า เมื่อ “นายพลไม้บรรทัด” พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร. ผู้ควบคุมการคลี่คลายคดีลอบสังหาร “สนธิ ลิ้มทองกุล” ออกมาพูดชัดถ้อยชัดคำว่า คดีนี้มี “ไส้ศึก” ไม่ว่าจะนั่งนึก นอนตรองดูเช่นใด ก็ยังนึกยังคิดไม่ออกว่า “ไส้ศึก” ที่นายพลไม้บรรทัดว่า เป็นใคร ระดับไหน แว่วว่าอาจจะระดับ “พ.ต.อ.” ขึ้นไปเรื่อยๆ...
สายข่าวจากสำนักปทุมวันรายงานตรงเข้ามาว่า ในการประชุมทีมงานสืบสวนสอบสวนที่สำนักงาน “รองฯ ล้าน” พล.ต.อ.ธานี ทุกวันศุกร์สุดสัปดาห์นั้น ไม่เห็นหน้าค่าตา “เดอะวิน” พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วย ผบ.ตร.มาหลายคราแล้ว แต่มีคนเห็นว่า เมื่อเช้าวันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา ก่อนที่จะมีการพบรถโตโยต้า วีโก้ สีเปลือกมังคุค ทะเบียน บธ 1474 ลพบุรี ที่ว่ากันว่า เป็นพาหนะที่คนร้ายใช้ยิงถล่ม “สนธิ” และในช่วงก่อนจะมีการออกหมายจับ 2 ผู้ต้องหาในวันเดียวกันนั้น มีคนเห็นเงา “เดอะวิน” แวบๆ เข้าไปที่สำนักงาน “บิ๊กป๊อด” พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. จากนั้นเข้าพูดคุยกันสองต่อสอง แต่สายไม่ได้รายงานต่อว่า จะเข้าไปพูดคุยเรื่อง “ไส้ศึก” ที่ พล.ต.อ.ธานีระบุไว้หรือไม่
00...มาถึงตัวตนของ “บิ๊กสีกากี” ที่ชื่อ “พัชรวาท วงษ์สุวรรณ” ผู้นำกรมปทุมวัน ที่บ่งบอกว่า เขาคิดไม่ซื่อและไม่มีความจริงใจที่จะสะสางคดียิง “สนธิ” ก็คือ กรณีเรื่องร้อนๆๆ “พ.ต.อ.วิวัฒน์ คำชำนาญ” นายตำรวจดาวเด่น ทีมสืบสวนผู้เชี่ยวชาญพิเศษในการแกะรอยโทรศัพท์ที่จะเชื่อมโยงไปสู่การจ้างวาน และการวางแผนของทีมลอบสังหาร...แต่เมื่อผลการแกะรอยเริ่มเห็นสว่าง เห็นเค้าลางโฉมหน้าจอมบงการตัวจริง...เรื่องไม่คาดคิด คาดฝันก็ได้เกิดขึ้น เมื่อ “พัชรวาท” ใช้อำนาจ ผบ.ตร.สั่งการให้หยุดทำหน้าที่ทันที...แต่อำนาจของ “บิ๊กป๊อด” ไม่เป็นผล เมื่อตำรวจน้ำดีท่านนี้ยังคงเดินหน้าทำงานให้ “พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์” ต่อไป ...จากนั้บดาบสองของ “ผบ.ตร.” ได้ฟันลงมาที่ “พ.ต.อ.วิวัฒน์” อีกครั้ง....โดยที่ครั้งนี้เป็นคำสั่งส่งตัว พ.ต.อ.วิวัฒน์ คืนถิ่น “ผกก.6 รน.” สังกัดเดิมที่ จ.สุราษฎร์ธานี
หลังย้ายตำรวจมือดีเสร็จสิ้น....บิ๊กป๊อด...คิดว่าทุกอย่างจบเกม แต่ไม่เป็นดั่งหวัง เมื่อเรื่องทราบถึงหู “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ว่าเกิดความไม่ชอบมาพากล เริ่มมีสัญญาณไส้ศึกเกิดขึ้นในคดีนี้ จึงสั่งการให้ย้าย “พ.ต.อ.วิวัฒน์” กลับมาทำงานดั่งเดิม ทำให้ “พัชรวาท” ถึงกับเสียขวัญ...พร้อมกับความหวาดผวาว่า...จะนั่งเก้าอี้ ผบ.ตร.จนถึงเกษียณ 30 ก.ย.นี้หรือไม่ ขณะที่ชะตากรรม แห่งผลกรรมกรณี 7 ตุลาเลือด ป.ป.ช.กำลังนับถอยหลัง (วัน เวลา น.) แห่งการชี้มูลความผิด...ส่วนท้ายสุด “ไส้ศึก สตช.”ใครเป็นใคร หวังว่า “บิ๊กป๊อด” คงรู้อยู่แก่ใจนะครับ...เจ้านาย
00...ประเด็นต่อเนื่อง เรื่องร้อนๆ ที่ดีเอสไอ หลังจากเมื่อวันศุกร์ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา กลุ่มผู้สื่อข่าวหลายสำนักต่างพากันสงสัยในพฤติกรรมอันร้อนรุ่มของ “พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง” อธิบดีดีเอสไอ เมื่อเหลือบไปมองเห็นท่านมีท่าทางเดือดเนื้อร้อนใจ หลังจากลงมาร่วมแถลงข่าวจับแก๊งไต้หวัน แต่กลับซิ่งหนีนักข่าวซักถาม...กรณี “ส.ต.อ.วรวุฒิ มุ่งสันติ” ผู้ต้องหาคดีลอบยิง “สนธิ ลิ้มทองกุล” ที่มาช่วยราชการลับที่ดีเอสไอ และหลังก่อเหตุร่วมทีมล่าสังหารแล้วยังคงวนเวียนอยู่ในตึกดีเอสไอ
ส่วนเส้นทางเดินของ “ส.ต.อ.วรวุฒิ” หากจะเชื่อตามที่ “บิ๊กดีเอสไอ” ออกโรงเรียงแถวชี้แจงแถลงไข ว่า ดีเอสไอ ไม่รู้ไม่ชี้ ด้วยการโยนเรื่องไปที่ บช.ปส.ต้นสังกัดของ “วรวุฒิ” วายร้ายผู้นี้ ..อาจจะทำให้คนดีเอสไอไม่ใช่ลูกผู้ชายร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะเมื่อพบประเด็นสำคัญ คือ ต้นเหตุการเปลี่ยนชื่อเสียง เรียงนามของ “วรวุฒิ” มาเป็น “นายอรรถพล ปาทาน” เมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา ก็ “ดีเอสไอ” เป็นต้นเรื่องชงทำหนังสือลับถึงอธิบดีกรมการปกครอง ในการจัดทำฐานข้อมูลทะเบียนบุคคลใหม่ เพื่อให้เปลี่ยน ชื่อนามสกุล และที่อยู่ ของ “ส.ต.อ.วรวุฒิ” ให้เป็นอีกบุคคลหนึ่ง ภายใต้เหตุผลส่ง “วรวุฒิ” แฝงตัวเข้าไปสืบราชการในขบวนการค้ายาเสพติดภาคใต้ ตามข้อบังคับกรมสอบสวนคดีพิเศษ ว่าด้วยการจัดทําเอกสาร หลักฐาน และการแฝงตัว พ.ศ.2548 ซึ่งเป็นอำนาจอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ
บิ๊กดีเอสไอยิ่งเครียดหนัก! เมื่อ “ธานี” ยังนำรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแมคซ์ สีดำ ทะเบียน สศ 1785 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นรถที่ใช้ในราชการของกรมสอบสวนคดีพิเศษ มาทำการตรวจสอบ หลังจากทางสืบสวนพบว่าเป็นรถที่ “วรวุฒิ” นำไปใช้ ทั้งก่อนและหลังร่วมปฏิบัติการลอบยิง “สนธิ” ส่วนเรื่องราวที่เกี่ยวกับดีเอสไอ “บิ๊กทวี สอดส่อง” จะส่องเห็น เส้นทางหนีของ “วรวุฒิ” หรือไม่ นี่ไม่ได้ทราบครับ!!!