"กษิต" ไล่บี้ "นช.แม้ว" หารือ "มอนเตเนโกร-ยูเออี-มาเลย์" เพื่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ชี้อดีตนายฯบ่อนทำลายเสถียรภาพการเมืองไทย ส.ส.พท.ระบุ "นช.ทักษิณ" ประกาศกลับมาเป็นเล่นการเมือง นั่งหัวหน้พรรคตัวจริง
ผู้สื่อข่าวรายงานจากเมืองชาร์ม เอล เชค ประเทศอียิปต์ วานนี้ (16 ก.ค.) ซึ่งเป็นสถานที่ประชุมสุดยอดกลุ่มประเทศไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด หรือ NAM-นาม ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 15-16 ก.ค. โดยวันแรกของการประชุม นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ฐานะผู้แทนนายกรัฐมนตรีของไทย ได้ร่วมพิธีเปิดและเข้าร่วมประชุมในวันแรกแล้ว ขณะเดียวกันยังได้มีการหารือทวิภาคีกับหลายประเทศ อาทิ ฟินแลนด์ มอนเตเนโกร โมรอคโค สหภาพยุโรป เกาหลีเหนือ และซูดาน
นายกษิต ภายหลังการหารือทวิภาคีกับแต่ละประเทศเสร็จสิ้นว่า ประเทศมอนเตเนโกร ได้แจ้งให้ทราบว่าต้องการมาท่องเที่ยวที่ประเทศไทย และอยากกระชับความสัมพันธ์กับไทย อีกทั้งยังสรุปให้ฟังถึงการเข้าเป็นสมาชิกในสหภาพยุโรปและองค์การนาโต้ และกำลังพัฒนาภายในประเทศ โดยเฉพาะการเป็นประชาธิปไตยและการเคารพกฎหมาย สิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญมากกับสถานะในการเข้าเป็นสมาชิก ในสหภาพยุโรปอย่างสมบูรณ์แบบ
นายกษิต กล่าวว่า ตนได้ถือโอกาสนี้ยกประเด็นปัญหา กรณีข่าวการออก หนังสือเดินทางให้กับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โดยตนก็ได้แจ้งสถานะของพ.ต.ท.ทักษิณ ในกระบวนการยุติธรรมของไทย และการดำเนินการของพ.ต.ท.ทักษิณในช่วง 6 เดือน ที่ผ่านมา บ่อนทำลายเสถียรภาพทางการเมืองของประเทศไทย ให้ทราบ
รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่าอยากขอร้องให้มอนเตเนโกรพิจารณาว่าควรปฏิบัติ หรือไม่ปฏิบัติอย่างไรต่อตัวพ.ต.ท.ทักษิณที่มีคดีอาญาอยู่ และขอให้คำนึงภาพรวม ของโอกาสที่จะกระชับความสัมพันธ์ ที่ต่างคนก็ต่างมุ่งมั่นที่จะเคารพในความเป็นประชาธิปไตยและกฎหมาย นโยบายภายในของแต่ละคนก็ย่อมสะท้อนพฤติกรรมต่างๆ ว่า จะไม่ให้มีการขัดกันในตัวว่า ประเทศหนึ่งประเทศใดให้การพักพิงกับคนที่หนีกระบวนการยุติธรรมและมีความไม่ชอบมาพากล ทิ้งไว้ให้พิจารณา ไม่ได้ไปบีบบังคับ แต่ขอความร่วมมือกันในฐานะที่เป็นประเทศที่มีมิตรจิตมิตรใจต่อกัน เราเองก็เป็นประเทศแรกๆ ที่ให้การรับรองการเป็นประเทศเอกราช เขาก็ซาบซึ้งในเรื่องนี้
นายกษิต กล่าวถึงท่าทีของประเทศมอนเตเนโกร ว่า ได้พูดในทำนองว่าเป็นประเทศที่รักษากฎเกณฑ์ การที่จะเข้าเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป ต้องไปตรวจสอบประเด็น พ.ต.ท.ทักษิณหนีหมายจับ โดยตนย้ำว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ยังมีประเด็นทางสังคมและยังมีพฤติกรรมทางการเมืองที่ทำให้เกิดความแตกแยกใน สังคม
"ถ้าบอกว่าสังคมที่รักสันติภาพรักประชาธิปไตย ไม่ต้องการให้มีความขัดแย้งนองเลือดในสังคม ดังนั้นพฤติกรรมการไปให้ที่พักพิง ออกหนังสือเดินทางให้ มันไม่สอดคล้องกัน อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ไม่ใช่ประเด็นระหว่างเรากับเขา แต่เป็นประเด็นของเขากับสหภาพยุโรป ผมก็ให้ข้อคิดไปในฐานะเพื่อน แต่เราไปทำอะไรไม่ได้ เพราะเขามีอธิปไตยโดยตรง แต่ต้องให้เขาคิดดูว่าการที่ไปปกป้องคุ้มครอง หรือคบค้าสมาคมใดๆ มันเกี่ยวข้องกับสถานะของเขาด้วย ที่สำคัญมันเกี่ยวกับสภาวะจิตใจของคนไทยเหมือนกัน"
นายกษิต กล่าวด้วยว่าวันเดียวกันนี้ นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ผู้ช่วย รมต.ต่างประเทศ ได้พบกับรัฐมนตรีช่วยว่าการต่างประเทศ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเอเอี) ได้พูดถึงประเด็น พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ที่เมืองดูไบว่า เห็นความสัมพันธ์กับประเทศไทย เปรียบเทียบกับการปกป้องดูแลหรือต้อนรับ พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างไร เนื่องจากมีข่าวหนาหูว่า พ.ต.ท.ทักษิณ พักอยู่ที่เมืองดูไบ
นายพณิช กล่าวเสริมว่า ได้ยืนยันว่าขอให้ยูเออีไปตรวจสอบ ยูเออีก็บอกว่า มีข้อมูลเช่นกันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มาโดยพาสปอร์ตมอนเตเนโกร อยู่ เขาก็จะเชิญ พ.ต.ท.ทักษิณ มาให้เซ็นเอกสาร เพื่อให้ปฏิบัติตัวให้ดี คือ ห้ามขับเคลื่อนทางการเมืองในยูเออี
ส่วนที่ยูเออีตอบเช่นนี้รัฐบาลไทยพอใจกับคำตอบหรือไม่นั้น นายกษิต กล่าวว่า คำตอบนี้ยังไม่ใช่คำตอบสุดท้าย แต่เป็นการตอบกลับให้ทราบว่าจะได้กลับไปพิจารณาเพิ่มเติม โดยจะเอาประเทศไทยเป็นตัวตั้ง หรือจะเอาพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นตัวตั้ง ต้องถามทุกประเทศทั่วโลก
ผู้สื่อข่าวถามว่าในการประชุมสุอดยอดกลุ่ม NAM ได้ถามกับผู้นำมาเลเซียเกี่ยวกับการเดินทางเข้าประเทศของ พ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่ นายกษิตกล่าวว่า ได้เจอกันและตนได้ฝากกับ รมว.ต่างประเทศมาเลเซียว่าช่วยตรวจสอบสักนิดว่าอะไร เป็นอะไร ก็ได้รับคำตอบว่าจะไปดูให้ รวมทั้งขอทราบมาตรการในอนาคต ทั้งหมด จะใช้เรื่องความสัมพันธ์ของประเทศนั้นๆ เป็นตัวตั้งหรือไม่ ส่วนประเทศนิคารากัว บอกว่าความสัมพันธ์ระหว่างไทยและนิคารากัวไม่ใช่ตัวตั้ง เพราะตอบปฏิเสธที่จะพบปะ กับเราเอง จึงได้ฝากฝังกับนิคารากัวและมิตรบางประเทศว่าขอให้กรุณาทบทวนกันสักนิดด้วย เหตุด้วยผล
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาตนได้เดินทางไปยังเมืองดูไบ เพื่อเยี่ยมพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งท่านสบายดีและมีความสุขมาก โดยเฉพาะเมื่อพ.ต.ท.ทักษิณเลิกทานอาหารทะเลและเนื้อสัตว์ก็ยิ่งมีสีหน้าที่แจ่มใสมากขึ้น อย่างไรก็ตามอดีตนายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงการกลับมาเมืองไทย ว่ าหากมีโอกาสได้กลับมาจะมาลงสมัครส.ส.เชียงใหม่ ซึ่งตนก็พร้อมที่จะลาออก เพื่อให้ พ.ต.ท.ทักษิณลงสมัครแทน และพ.ต.ท.ทักษิณก็ยืนยันว่าจะกลับมาเป็นหัวหน้าพรรคตัวจริง ส่วนจะมาเป็นนายกฯ อีกหรือไม่นั้น อยู่ที่ประชาชนต้องการหรือไม่ อดีตนายกรัฐมนตรีอาจกลับมาเป็นส.ส.ธรรมดาก็ได้ แต่เป็นหัวหน้าพรรคแน่นอน
ส่วนที่ พ.ต.ท.ทักษิณย้ำมาตลอดว่าจะวางมือทางการเมือง ซึ่งการพูดเช่นนี้จะเป็นการกลับคำพูดหรือไม่ นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ไม่ใช่การกลับคำพูด แต่เมื่อประชาชนต้องการ พ.ต.ท.ทักษิณก็ต้องลงสมัคร แต่พ.ต.ท.ทักษิณคงยังไม่กลับมาช่วงนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานจากเมืองชาร์ม เอล เชค ประเทศอียิปต์ วานนี้ (16 ก.ค.) ซึ่งเป็นสถานที่ประชุมสุดยอดกลุ่มประเทศไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด หรือ NAM-นาม ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 15-16 ก.ค. โดยวันแรกของการประชุม นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ฐานะผู้แทนนายกรัฐมนตรีของไทย ได้ร่วมพิธีเปิดและเข้าร่วมประชุมในวันแรกแล้ว ขณะเดียวกันยังได้มีการหารือทวิภาคีกับหลายประเทศ อาทิ ฟินแลนด์ มอนเตเนโกร โมรอคโค สหภาพยุโรป เกาหลีเหนือ และซูดาน
นายกษิต ภายหลังการหารือทวิภาคีกับแต่ละประเทศเสร็จสิ้นว่า ประเทศมอนเตเนโกร ได้แจ้งให้ทราบว่าต้องการมาท่องเที่ยวที่ประเทศไทย และอยากกระชับความสัมพันธ์กับไทย อีกทั้งยังสรุปให้ฟังถึงการเข้าเป็นสมาชิกในสหภาพยุโรปและองค์การนาโต้ และกำลังพัฒนาภายในประเทศ โดยเฉพาะการเป็นประชาธิปไตยและการเคารพกฎหมาย สิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญมากกับสถานะในการเข้าเป็นสมาชิก ในสหภาพยุโรปอย่างสมบูรณ์แบบ
นายกษิต กล่าวว่า ตนได้ถือโอกาสนี้ยกประเด็นปัญหา กรณีข่าวการออก หนังสือเดินทางให้กับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โดยตนก็ได้แจ้งสถานะของพ.ต.ท.ทักษิณ ในกระบวนการยุติธรรมของไทย และการดำเนินการของพ.ต.ท.ทักษิณในช่วง 6 เดือน ที่ผ่านมา บ่อนทำลายเสถียรภาพทางการเมืองของประเทศไทย ให้ทราบ
รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่าอยากขอร้องให้มอนเตเนโกรพิจารณาว่าควรปฏิบัติ หรือไม่ปฏิบัติอย่างไรต่อตัวพ.ต.ท.ทักษิณที่มีคดีอาญาอยู่ และขอให้คำนึงภาพรวม ของโอกาสที่จะกระชับความสัมพันธ์ ที่ต่างคนก็ต่างมุ่งมั่นที่จะเคารพในความเป็นประชาธิปไตยและกฎหมาย นโยบายภายในของแต่ละคนก็ย่อมสะท้อนพฤติกรรมต่างๆ ว่า จะไม่ให้มีการขัดกันในตัวว่า ประเทศหนึ่งประเทศใดให้การพักพิงกับคนที่หนีกระบวนการยุติธรรมและมีความไม่ชอบมาพากล ทิ้งไว้ให้พิจารณา ไม่ได้ไปบีบบังคับ แต่ขอความร่วมมือกันในฐานะที่เป็นประเทศที่มีมิตรจิตมิตรใจต่อกัน เราเองก็เป็นประเทศแรกๆ ที่ให้การรับรองการเป็นประเทศเอกราช เขาก็ซาบซึ้งในเรื่องนี้
นายกษิต กล่าวถึงท่าทีของประเทศมอนเตเนโกร ว่า ได้พูดในทำนองว่าเป็นประเทศที่รักษากฎเกณฑ์ การที่จะเข้าเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป ต้องไปตรวจสอบประเด็น พ.ต.ท.ทักษิณหนีหมายจับ โดยตนย้ำว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ยังมีประเด็นทางสังคมและยังมีพฤติกรรมทางการเมืองที่ทำให้เกิดความแตกแยกใน สังคม
"ถ้าบอกว่าสังคมที่รักสันติภาพรักประชาธิปไตย ไม่ต้องการให้มีความขัดแย้งนองเลือดในสังคม ดังนั้นพฤติกรรมการไปให้ที่พักพิง ออกหนังสือเดินทางให้ มันไม่สอดคล้องกัน อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ไม่ใช่ประเด็นระหว่างเรากับเขา แต่เป็นประเด็นของเขากับสหภาพยุโรป ผมก็ให้ข้อคิดไปในฐานะเพื่อน แต่เราไปทำอะไรไม่ได้ เพราะเขามีอธิปไตยโดยตรง แต่ต้องให้เขาคิดดูว่าการที่ไปปกป้องคุ้มครอง หรือคบค้าสมาคมใดๆ มันเกี่ยวข้องกับสถานะของเขาด้วย ที่สำคัญมันเกี่ยวกับสภาวะจิตใจของคนไทยเหมือนกัน"
นายกษิต กล่าวด้วยว่าวันเดียวกันนี้ นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ผู้ช่วย รมต.ต่างประเทศ ได้พบกับรัฐมนตรีช่วยว่าการต่างประเทศ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเอเอี) ได้พูดถึงประเด็น พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ที่เมืองดูไบว่า เห็นความสัมพันธ์กับประเทศไทย เปรียบเทียบกับการปกป้องดูแลหรือต้อนรับ พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างไร เนื่องจากมีข่าวหนาหูว่า พ.ต.ท.ทักษิณ พักอยู่ที่เมืองดูไบ
นายพณิช กล่าวเสริมว่า ได้ยืนยันว่าขอให้ยูเออีไปตรวจสอบ ยูเออีก็บอกว่า มีข้อมูลเช่นกันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มาโดยพาสปอร์ตมอนเตเนโกร อยู่ เขาก็จะเชิญ พ.ต.ท.ทักษิณ มาให้เซ็นเอกสาร เพื่อให้ปฏิบัติตัวให้ดี คือ ห้ามขับเคลื่อนทางการเมืองในยูเออี
ส่วนที่ยูเออีตอบเช่นนี้รัฐบาลไทยพอใจกับคำตอบหรือไม่นั้น นายกษิต กล่าวว่า คำตอบนี้ยังไม่ใช่คำตอบสุดท้าย แต่เป็นการตอบกลับให้ทราบว่าจะได้กลับไปพิจารณาเพิ่มเติม โดยจะเอาประเทศไทยเป็นตัวตั้ง หรือจะเอาพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นตัวตั้ง ต้องถามทุกประเทศทั่วโลก
ผู้สื่อข่าวถามว่าในการประชุมสุอดยอดกลุ่ม NAM ได้ถามกับผู้นำมาเลเซียเกี่ยวกับการเดินทางเข้าประเทศของ พ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่ นายกษิตกล่าวว่า ได้เจอกันและตนได้ฝากกับ รมว.ต่างประเทศมาเลเซียว่าช่วยตรวจสอบสักนิดว่าอะไร เป็นอะไร ก็ได้รับคำตอบว่าจะไปดูให้ รวมทั้งขอทราบมาตรการในอนาคต ทั้งหมด จะใช้เรื่องความสัมพันธ์ของประเทศนั้นๆ เป็นตัวตั้งหรือไม่ ส่วนประเทศนิคารากัว บอกว่าความสัมพันธ์ระหว่างไทยและนิคารากัวไม่ใช่ตัวตั้ง เพราะตอบปฏิเสธที่จะพบปะ กับเราเอง จึงได้ฝากฝังกับนิคารากัวและมิตรบางประเทศว่าขอให้กรุณาทบทวนกันสักนิดด้วย เหตุด้วยผล
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาตนได้เดินทางไปยังเมืองดูไบ เพื่อเยี่ยมพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งท่านสบายดีและมีความสุขมาก โดยเฉพาะเมื่อพ.ต.ท.ทักษิณเลิกทานอาหารทะเลและเนื้อสัตว์ก็ยิ่งมีสีหน้าที่แจ่มใสมากขึ้น อย่างไรก็ตามอดีตนายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงการกลับมาเมืองไทย ว่ าหากมีโอกาสได้กลับมาจะมาลงสมัครส.ส.เชียงใหม่ ซึ่งตนก็พร้อมที่จะลาออก เพื่อให้ พ.ต.ท.ทักษิณลงสมัครแทน และพ.ต.ท.ทักษิณก็ยืนยันว่าจะกลับมาเป็นหัวหน้าพรรคตัวจริง ส่วนจะมาเป็นนายกฯ อีกหรือไม่นั้น อยู่ที่ประชาชนต้องการหรือไม่ อดีตนายกรัฐมนตรีอาจกลับมาเป็นส.ส.ธรรมดาก็ได้ แต่เป็นหัวหน้าพรรคแน่นอน
ส่วนที่ พ.ต.ท.ทักษิณย้ำมาตลอดว่าจะวางมือทางการเมือง ซึ่งการพูดเช่นนี้จะเป็นการกลับคำพูดหรือไม่ นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ไม่ใช่การกลับคำพูด แต่เมื่อประชาชนต้องการ พ.ต.ท.ทักษิณก็ต้องลงสมัคร แต่พ.ต.ท.ทักษิณคงยังไม่กลับมาช่วงนี้