xs
xsm
sm
md
lg

“นพเหล่” พ้อแทน “นายแม้ว” ตัวคนเดียวไม่มีอำนาจทำร้ายประเทศ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดี
“นพดล” อ้างมีภาพ “ทักษิณ” พบผู้นำประเทศ สยบข่าวถูกปฏิเสธ ปัดขอกบดาน แค่เจรจาธุรกิจ ยังปากดีเย้ย “มาร์ค” ได้แค่ไล่ตามหลัง ยันใช้ชื่อจริงเข้าออกต่างประเทศ เฉไฉสอนรัฐบาลเอาเวลาไปแก้ปัญหาหวัด 2009 -ฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างประเทศดีกว่า ทำพูดดีนายตัวคนเดียวไม่มีอำนาจบารมีมากดดันทำร้ายประเทศ

วันนี้ (9 ก.ค.) นายนพดล ปัทมะ อดีตที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่อยู่ระหว่างหลบหนีคดี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ระบุว่า ได้ประสานทางการประเทฟิจิเพื่อจับกุม พ.ต.ท.ทักษิณ ส่งตัวกลับประเทศไทย ว่า รัฐบาลไทยมีสิทธิ์ทำได้ แต่ประเทศฟิจิหรือประเทศอื่นๆ จะให้ความร่วมมือหรือไม่ ขึ้นอยู่กับประเทศนั้น เหมือนประเทศยูเออีที่ทางรัฐบาลไทยประสานไปก็ไม่ได้รับความร่วมมือ

นายนพดลอ้างว่า ประเทศต่างๆ เข้าใจว่า เป็นเรื่องการเมืองภายในประเทศ และยังคงตะแบงว่าคดีของ พ.ต.ท.ทักษิณ เกิดขึ้นหลังการรัฐประหาร ล่าสุด วันที่ 9 ก.ค.พ.ต.ท.ทักษิณ ได้พูดคุยกับผู้นำประเทศฟิจิ ได้หารือถึงเรื่องธุรกิจ ไม่ได้ไปเคลียร์เรื่องการจับกุมจากรัฐบาลไทย และตอนนี้ได้เดินทางออกจากประเทศฟิจิไปแล้ว ซึ่งอยากฝากไปถึงนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ว่า จะดำเนินการอะไรให้คิดและตรวจสอบข้อมูลก่อน เพราะเดินตามหลัง พ.ต.ท.ทักษิณ ลายก้าว นอกจากนี้ เวลาที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางไปประเทศไหนก็จะไปพบผู้นำหรือประมุขของประเทศนั้น

นายนพดล กล่าวอีกว่า ภายใน 2-3 วันนี้ ตนหรือทีมงานของ พ.ต.ท.ทักษิณ จะนำภาพที่ไปพบประมุขของประเทศต่างๆ นำมาแถลงข่าว หลังจากที่ทางการไทยระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้ไปพบประมุขหรือผู้นำประเทศต่างๆ จริง

นายนพดลอ้างอีกว่า กรณีที่ นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช โฆษกส่วนตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้แวะไปเติมน้ำมันเครื่องบิน เพื่อเดินทางต่อไปประเทศฟิจิ ความจริงเป็นการเดินทางมาเพื่อดำเนินการตามแผนตากสิน 2 นั้น ขอยืนยันว่า ไม่ได้มาดำเนินการแผนตากสิน ไม่ได้มาพบนายกฯ มาเลเซีย

ส่วนกรณีที่สื่อมวลชนประเทศออสเตรเลีย ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณใช้ชื่อปลอมเดินทางระหว่างประเทศนั้น นายนพดลยืนยันว่า ใช้ชื่อจริงเข้าประเทศต่างๆ โดยใช้พาสปอร์ตประเทศมอนเตเนโก ซึ่ง นายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย และรัฐบาลน่าจะทราบเรื่องนี้เป็นอย่างดี เพราะที่ไปตรวจสอบที่แวะเติมน้ำมันที่มาเลเซียทก็ใช้พาสปอร์ตนี้

ที่ปรึกษาทางกฎหมายนักโทษหนีคดี กล่าวต่อว่า อยากฝากไปยังรัฐบาลขอให้ตรวจสอบข้อมูลให้ดีก่อนให้ข่าว โดยเฉพาะนายเทพไทขอให้โตได้แล้ว เพราะการให้ข่าวแบบนี้สร้างความเบื่อหน่ายให้แก่ประชาชน

นายนพดล อ้างอีกว่า สาเหตุที่นายกฯ ยังให้ นายกษิต เป็น รมว.ต่างประเทศ ก็เพื่อไล่ล่า พ.ต.ท.ทักษิณ จนละเลยการฟื้นฟูความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน อยากเรียกร้องให้รัฐบาลเอาเวลาไปแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ และไข้หวัด 2009 ดีกว่าการอยู่หรือไปของนายกษิต

ส่วนผลประชุมวอร์รูมพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวทางการเมืองในประเทศไทยนั้น ขอยืนยันว่า ไม่มีเคลื่อนไหวทางการเมืองใด บินไปประเทศต่างๆ ก็ไปเจรจาธุรกิจ ไม่ได้มีแผนไปกดดันประเทศอื่นให้กดดันประเทศไทย อยู่ตัวคนเดียวไม่มีกำลังเคลื่อนไหวทำร้ายประเทศไทย วอร์รูมพรรคประชาธิปัตย์ขอให้หัดมองโลกในแง่ดี และทำงานสร้างสรรค์ อย่าไปใช้จินตนาการสร้างเรื่องให้คนเบื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ทำไปก็ไม่เป็นผล ยิ่งถูกไล่บี้ชาวบ้านยิ่งสงสาร คนที่จำท่านได้ไม่ใช่ว่ารูปหล่อ แต่เป็นคนทำงานเก่ง มีวิสัยทัศน์ มีผลงาน

นายนพดลอ้างอีกว่า คนที่จำพรรคประชาธิปัตย์ได้ คือ เสียดสี โวหาร รัฐบาลอยากให้คนจำได้ต้องเร่งสร้างผลงาน ส่วนกรณีที่มี ส.ส.บางจังหวัดเตรียมจัดงานในพื้นที่ฉลองแซยิดให้ พ.ต.ท.ทักษิณนั้น พ.ต.ท.ทักษิณขอขอบคุณในความมีน้ำใจของชาวบ้านที่จะจัดงานฉลองวันเกิดให้ แต่ไม่อยากให้จัดแบบเอิกเกริก อยากให้ทำบุญแบบเรียบง่ายตามประเพณีไทยที่วัดใกล้บ้าน พี่น้องคงเป็นห่วงเห็นอยู่ไกลจึงระลึกถึง

อนึ่งในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมามีกระแสข่าวสะพัดว่า พ.ต.ท.ทักษิณได้นั่งเครื่องบินส่วนตัวจากดูไบมาแวะเติมน้ำมันและพักค้างที่มาเลเซียราว 1 วันและพยายามจะขอเข้าพบผู้นำมาเลเซียแต่ถูกปฏิเสธ ขณะเดียวการกันทางการไทยได้ประสานกับมาเลเซียเพื่อให้ช่วยจับกุม แต่ พ.ต.ท.ทักษิณไหวตัวทันและเดินทางต่อไปยังประเทศฟิจิก่อน โดยสื่อออสเตรเลียรายงานว่า่ พ.ต.ท.ทักษิณได้ใช้พาสปอร์ตของมอนเตเนโกรและใช้ชื่อปลอมในการเดินทางเข้าฟิจิ และได้พบกับนายกรัฐมนตรีฟิจิที่มาจากการรัฐประหารเมื่อปี 2549 เพื่อเสนอโครงการการลงทุนในฟิจิเป็นมูลค่าประมาณ 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แลกกับการใช้ประเทศฟิจิเป็นที่หลบหนีการจับกุม เนื่องจากประเทศนี้ยังไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับไทย
กำลังโหลดความคิดเห็น