มีข้อสงสัยกันหลากหลายเข้ามาว่า เมื่อตำรวจออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการสังหาร"นายสนธิ ลิ้มทองกุล"แล้ว มีการตรวจยึดรถของกลาง เป็นรถกระบะโตโยต้าวีโก้ สีเปลือกมังคุด จาก จ.ลพบุรีแล้ว ใครคือ"ไอ้โม่ง" ผู้บงการอยู่เบื้องหลัง อีกทั้ง ทีมงานสืบสวนสอบสวน ภายใต้การควบคุมดูแลคดีของ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองผบ.ตร. จะสามารถกระชากหน้ากาก"ไอ้โม่ง"ที่อยู่เบื้องหลังการวางแผนสังหารทั้งหมดได้หรือไม่
คงปฏิเสธไม่ได้ว่า น้ำหนักจากคำพูดของผู้ถูกกระทำ คือตัวนายสนธินั้น มีนัยยะถึงผู้อยู่เบื้องหลังการลอบสังหารครั้งนี้อย่างไร และ ณ วันนี้ ผู้ร่วมขบวนการลอบสังหาร ที่ถูกออกหมายจับนั้น เริ่มปรากฏชัดแล้วว่า มีทั้งทหาร ตำรวจ และพลเรือน ซึ่งเมื่อมองย้อนกลับไป ถึงวันที่นายสนธิ ได้ออกมาพูดเปิดใจเป็นครั้งแรกกับสื่อมวลชน หลังเกิดเหตุการณ์ลอบสังหารขึ้น เมื่อวันที่ 3 พ.ค. 2552 จะเห็นได้ว่า มีความเป็น"รูปธรรม"ชัดเจนขึ้น
"...การต่อสู้ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนั้น เป็นการต่อสู้เพื่อการเมืองใหม่ คำว่าการเมืองใหม่ มันมีนัยมากกว่าการเอาคนรุ่นใหม่ๆ เข้ามาเล่นการเมือง ถ้าเราสังเกตให้ดีๆ แล้ว การต่อสู้ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนั้น เป็นการต่อสู้เพื่อเรียกร้องให้สังคมไทยกลับไปสู่ความโปร่งใส มีความซื่อสัตย์สุจริตในการบริหารชาติบ้านเมือง ในยุคสมัยทุกๆ ยุค ทุกสมัย ที่มีการต่อสู้นั้น เมื่อใดก็ตามที่มีการเปลี่ยนแปลงจากเก่าไปสู่ใหม่นั้น ย่อมมีการคัดค้าน ย่อมมีการไม่เห็นด้วย ย่อมมีการต่อต้านจากกลุ่มผู้มีอำนาจเก่า หรือกลุ่มผู้กำลังจะมีอำนาจใหม่ และอยากจะกลับไปใช้อำนาจแบบเก่าที่ไม่มีการตรวจสอบ เพราะฉะนั้นแล้วการต่อต้านการคัดค้านนั้นก็จะมาหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบของสภาผู้แทนราษฎร รูปแบบของสื่อมวลชนที่มีความเห็นไม่ตรงกัน ลงมาจนกระทั่งในที่สุดถึงรูปแบบของการใช้กำลังรุนแรงเพื่อข่มขู่...
...ผมเป็นคนแรกที่เสนอทฤษฎีว่า การเมืองใหม่ ขั้วอำนาจใหม่นั้นกำลังก้าวเข้ามาสู่ในวงการเมือง คือผมมองว่าการเมืองโดยรวมนั้น สมัยก่อนเราสู้กับคุณทักษิณ เราสู้กับกลุ่มเสื้อแดง วันนี้พิสูจน์ชัดแล้วว่ากลุ่มเสื้อแดงอ่อนแรงไปแล้ว.....แต่การต่อสู้กับกลุ่มที่มีอุดมการณ์อย่างเช่นกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งมีปัญญา และผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านความเป็นความตายมานาน 7 ตุลาคม ตลอดจนถูกยิงถล่มที่ทำเนียบ หลายๆ อย่างนั้น มันหล่อหลอมให้เกิดความแข็งแกร่ง และทำให้คนซึ่งสู้ต่อไปนั้นมีความมั่นใจว่าการสู้นั้นเป็นการสู้ที่ไม่ผิด เพราะฉะนั้นแล้ว คนพวกนี้เป็นอุปสรรคยิ่งใหญ่มากสำหรับใครก็ตามที่อยากจะแทรกเข้ามาในช่องสุญญากาศที่กลุ่มคนเสื้อแดงและคุณทักษิณเริ่มอ่อนแรงไป ทีนี้การแทรกเข้ามาในสุญญากาศตรงนี้ เป็นการแทรกเพื่ออะไร ถ้าเป็นการแทรกเพื่อที่จะพัฒนาไปสู่การเมืองใหม่ ผมเชื่อว่าพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะไม่ขัดขวาง และพร้อมจะให้การสนับสนุน...."
ความเป็น"รูปธรรม"ชัดเจนขึ้นนั้นเป็นอย่างไร ข้อสันนิษฐานของนายสนธิ ที่บ่งบอกให้เห็นว่า เป็น"กลุ่มอำนาจใหม่" ที่กำลังก่อตัวขึ้นในประเทศนี้ อันประกอบด้วยกลุ่มทหาร ตำรวจ และพลเรือน รวมถึงนักการเมืองชั่ว ที่ต้องการขึ้นมาเป็นใหญ่ และกุมอำนาจในบ้านเมืองได้อย่างเบ็ดเสร็จ หากไร้ซึ่งคนที่ชื่อ"สนธิ ลิ้มทองกุล"!!
อย่างไรก็ตาม เมื่อมองดู หมายจับผู้ต้องหาในคดีนี้ ที่ออกมาในระลอกแรก ถือว่า เป็น"กองกำลังผสม" อันประกอบด้วยทหาร ตำรวจ และพลเรือน ซึ่งต้องมี "ผู้บังคับการกองผสม" หรือผู้บงการใหญ่ ที่สามารถสั่งเป็นสั่งตายกับผู้ที่จะลงมือได้อยู่เบื้องหลัง และใครเป็นผู้บงการใหญ่...ในภารกิจล่าสังหารนายสนธิ ครั้งนี้ คงต้องตามไปดูว่า แต่ละคนมีสายโยงใยไปถึงใคร
ทีมลอบสังหารคนแรก "ส.ต.อ.วรวุฒิ มุ่งสันติ" ผบ.หมู่ ศูนย์การข่าวบช.ปส. ช่วยราชการกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ซึ่งการไปช่วยราชการที่ดีเอสไอนั้น ส.ต.อ.วรวุฒิ ถือว่า มีสายสัมพันธ์อันดีกับบิ๊กดีเอสไอ อีกทั้งเมื่อครั้งอยู่ที่ บช.ปส.นั้น ถือว่าเคยมีความใกล้ชิด หรือเรียกว่าเคยรับใช้ก็ว่าได้ กับ"บิ๊กตร."ในปัจจุบัน ที่อดีตเคยกำกับดูแล บช.ปส.มาก่อน ทั้งยังมีสัมพันธ์ที่แนบแน่นราวกับญาติสายโลหิตกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีด้วย ดังนั้น การที่ ส.ต.อ.วรวุฒิ ซึ่งนอกจากจะเกลียดนายสนธิ และเอเอสทีวี อย่างชนิดเข้าไส้แล้ว การเข้าไปร่วมขบวนการสังหารครั้งนี้ อาจถือได้ว่า เป็นการแทนคุณ"นาย"อีกประการหนึ่งด้วย ส่วนตัวนายจะรู้เห็นด้วยหรือไม่ เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่จะต้องมีการพิสูจน์กันต่อไป
ทีมลอบสังหารคนที่สอง "จ.ส.อ.ปัญญา หรือ ห่อ ศรีเหรา" สังกัด หน่วยบัญชาการสงครามพิเสษ (นสศ.) หรือที่รู้จักกันดีในนามพลร่มป่าหวาย ลพบุรี เป็นอีกผู้หนึ่งที่ถูกออกหมายจับด้วยข้อหาฉกรรจ์หลายข้อหาในคดีนี้ โดยตามสายปกครองนั้น หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษมี พล.ท.ภุชงค์ รัตนวรรณ เป็นผบ.นสศ. โดยมีอดีต ผบ.นสศ.ที่ขึ้นมาเรืองอำนาจหลังการปฏิวัติ 19 ก.ย.2549 ถึง 2 คน ทั้งพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ และ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน แต่ทั้งนี้ พล.ท.ภุชงค์ คงปฏิเสธไม่ได้ที่จะส่งตัว จ.ส.อ.ปัญญา เพื่อให้ตำรวจดำเนินคดีไปตามขั้นตอน ดังเช่นที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ได้กล่าวไว้ นอกจากนี้ ยังมีปลอกกระสุนปืนซึ่งตกในที่เกิดเหตุ ที่ถูกระบุว่า หลุดรอดออกมาจาก พล.ร.9 เป็นหลักฐานชิ้นสำคัญ โดย จ.ส.อ.ปัญญานั้น ถูกขอตัวไปช่วยราชการยัง กอ.รมน.ตั้งแต่ปี 2547 เพื่อทำงานลับให้กับ พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร อดีต ผบ.ทบ. และหากตำรวจจะขอตัวมาดำเนินคดี ต้องทำเรื่องไปยัง กอ.รมน.ส่วน 4 ส่วนผู้บังคับบัญชาของ จ.ส.อ.ปัญญา จะมีส่วนรู้เห็นกับการกระทำครั้งนี้ด้วยหรือไม่ คงขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานในมือตำรวจ และการแสดงความบริสุทธิ์ใจของตนเอง
ทีมลอบสังหารพลเรือนที่จะออกหมายจับเร็วๆ นี้ ถูกระบุว่า เป็นผู้กว้างขวางในพื้นที่ จ.สระบุรี และ จ.ลพบุรี โดยผู้กว้างขวางผู้นี้ มีสายสัมพันธ์อันดีกับนักการเมืองใหญ่ ที่กำลังมาแรง โดยมีความฝันอันสูงสุดที่จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำประเทศ หากพ้นจากบ่วงกรรมที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองไปก่อนหน้านี้เสีย 5 ปี โดยชื่อ"อรรถพล ปาทาน"นั้น ก็มีกระแสข่าวว่า อาจเป็นชื่อลวง แท้ที่จริงกับเป็นนักการเมืองผู้ทรงอิทธิพลในพื้นที่สระบุรีและลพบุรีร่วมกัน โดยมีนักการเมืองใหญ่คนที่ว่า ไฟเขียวอยู่เบื้องหลัง
แผนปฏิบัติการล่าสังหารนายสนธิ ลิ้มทองกุล ในครั้งนี้ "กลุ่มอำนาจใหม่" ที่ก่อตัวขึ้นทั้ง 3 ฝ่าย จึงประสาน และใช้จังหวะในการเข้าร่วมรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์ เป็นภาพสร้างความดี ทว่าเบื้องหลัง แผนชั่วช้ากลับถูกกำหนดขึ้น การกำจัด"สนธิ ลิ้มทองกุล" จึงก่อร่างขึ้น เพื่อโยนบาปไปให้ฝั่ง"ทักษิณ" ในขณะเดียวกัน ใช่ว่า ฝั่งทักษิณ จะไม่ได้ประโยชน์ แต่เมื่อ"สนธิ ลิ้มทองกุล"สิ้นชีพ กลุ่มอำนาจใหม่ จะผงาดขึ้นมาบดบังรัศมี"ทักษิณ ชินวัตร"ไปอย่างช้าๆ และถึงกัลปาวสานในที่สุด
อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการออกหมายจับผู้ต้องหา และได้ยึดรถของกลางมาได้ อีกทั้ง พล.ต.อ.ธานี ยืนยันอย่างหนักแน่นว่า คดีแม้จะสะดุด แต่ไม่มีอุปสรรค ในขณะที่นายกรัฐมนตรียืนยันเช่นกันว่า รูปคดีไม่มีมวยล้มแน่ ทั้งเร็วๆนี้จะได้เห็นข่าวดี ซึ่งหากเป็นเช่นนี้จริง การจับกุมตัวบงการใหญ่ จากกลุ่มอำนาจใหม่ คงต้องถือว่า เป็นการปิดคดีที่สมบูรณ์ของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ที่ชื่อ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์" ก่อนที่จะเกษียณอายุราชการลงอย่างงดงาม
สายข่าวเชิงลึก แจ้งว่า คดีนี้เดินมาถูกทางแล้ว และไม่มีการจับผิดตัวแน่ โดยผู้รับงานจากผู้ยิ่งใหญ่ และมาจ่ายงานให้กลุ่มมือปืน มีนามว่า"เสธ.ดำ" หรือ "เสธ.สุนัย"นายทหารยศ "พล.ท."ซึ่งเป็นคนสนิทของอดีต บิ๊ก คมช.ส่วน บิ๊ก คมช.คนดังว่า จะรู้เห็นหรือไม่ หลักฐานยังไม่บ่งชี้ โดยสายข่าวแจ้งว่า ความหวังที่จะ กระชากหน้ากาก บิ๊กตัวการใหญ่ ก็จะต้องอยู่ที่ คำให้การของผู้ต้องหาหลังถูกจับกุม
นอกจากนั้นทางข่าว ยังได้โยงไปถึง นายทหารในราชการที่กำลังมีอำนาจอยู่ในขณะนี้ เนื่องจากพบว่า หลังนายสนธิ ถูกยิง ได้มีนายทหารยศ "พ.อ."หน้าห้องบิ๊กทหาร ได้สอบถามว่า เป็นอย่างไง"สนธิ ตายไหม"ส่วนผู้เป็นนาย จะมีเอี่ยวและรับรู้หรือไม่ ทางสอบสวนกำลังใช้ความพยายามอยู่
สำหรับประเด็นรถกระบะโตโยต้าวีโก้ สีเปลือกมังคุด ทะเบียน บธ 1474 ลพบุรี ที่มี น.ส.รัศมี เมฆชัย เป็นผู้ครอบครองรถนั้น สายข่าวแจ้งว่า เสธ.ดำ คนรับงานฆ่า และมีความสนิทกับ ส.ต.อ.วรวุฒิ เป็นผู้ไปยืมรถมาใช้ โดยที่ น.ส.รัศมี ไม่มีส่วนรู้เห็น โดยในช่วงเกิดเหตุท้ายรถกระบะวีโก้คันดังกล่าว มีอยู่ด้วยกัน 4 คน ประกอบด้วย พลเรือน 2 คน ทหาร 1 คน และ ตำรวจ 1 คน
อย่างไรก็ตาม ทางการข่าวที่จะโยงไปยังกลุ่มนักการเมือง ที่มีอำนาจและอยู่เบื้องหลัง รัฐบาลชุดนี้ ทางชุดสืบสวนได้ถอดรหัสไปที่ ผู้ต้องหาพลเรือน ซึ่งเป็นผู้กว้างขวางในพื้นที่ จ.สระบุรีและ จ.ลพบุรี อาจจะเป็นผู้ร่วมผสมโรง ภายใต้แผนงานกองกำลังผสม"ตำรวจ-ทหาร-พลเรือน"โดยมี กลุ่มอำนาจใหม่ เป็นผู้ชักใยสั่งการฆ่า"สนธิ"