รถกระบะโตโยต้า วีโก้ สีดำ หมายเลขทะเบียน บธ 1474 ลพบุรี โดยมีชื่อ น.ส. รัศมี เมฆชัย อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 304 ม. 5 ต.ทะเลชุบศร อ.เมือง จ.ลพบุรี เป็นผู้ที่ครอบครอง คือรถยนต์ต้องสงสัยที่ทีมลอบยิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล ใช้ในการก่อเหตุ และถูกยึดมาเก็บหลักฐาน ก่อนออกหมายจับ 2 ผู้ต้องหาชุดแรก
เมื่อย้อนกลับไปดูแนวทางการสืบสวนคลี่คลายคดีหลังเกิดเหตุเช้าตรู่วันที่ 17 เม.ย.2552 อาจประมวลถึงที่มาที่ไปของรถต้องสงสัยโตโยต้า วีโก้ สีดำ คันนี้ได้ โดยหลังเกิดเหตุเพียงวันเดียว ภาพจากกล้องวงจรปิด ถูกนำเสนอออกไป เป็นรถกระบะวีโก้ วิ่งผ่านสี่แยกบางขุนพรหม แต่ถัดมา นายอนุรักษ์ พุฒซ้อน อายุ 30 ปี เจ้าของรถในภาพวงจรปิดดังกล่าว ออกมาแสดงความบริสุทธิ์ว่า รถกระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน ถง-4071 กทม. ของตนเองนั้น ไม่ใช่รถคนร้าย แต่เป็นรถที่ใช้ขนไข่ไก่ไปค้า และในที่สุด ตำรวจก็ตัดประเด็นนี้ทิ้งไป
20 เม.ย. พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. ระบุว่า ได้ร่วมมือกับบริษัท เวิร์คพอยท์ จำกัด (มหาชน) ส่งแฟนพันธุ์แท้รถมือสองรวม 2 ราย เข้าร่วมตรวจสอบภาพรถกระบะต้องสงสัยที่บันทึกได้จากกล้องวงจรปิดทั้ง 2 จุด คือ บริเวณศาลรัฐธรรมนูญ และจุดเกิดเหตุที่นายสนธิ ถูกยิง ซึ่งผลการตรวจสอบพบว่ารถกระบะต้องสงสัยทั้ง 2 จุด เป็นรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีดำ เหมือนกัน แต่เป็นรถคนละคัน
21 เม.ย.พยานที่เห็นเหตุการณ์ให้การว่า"ขณะได้ยินเสียงปืนดังขึ้นก่อน 2 นัด จึงหันไปดูก็เห็นรถของนายสนธิขับมาถึงหน้าที่ทำงาน ก่อนที่จะมี รถกระบะสีเข้มขับปาดหน้า แต่ไม่ได้หยุดสนิท เพียงชะลอเครื่องยนต์
24 เม.ย. ชุดสืบสวนระบุว่า รถกระบะที่คนร้ายใช้ก่อเหตุเป็นรถกระบะยกสูง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีดำ และรถกระบะยี่ห้อมาสด้า แบบมีแค็บ สีน้ำเงิน หลังก่อเหตุหนีไปทางสะพานปิ่นเกล้า ขึ้นทางยกระดับบรมราชชนนี ซึ่งกล้อง CCTV บริเวณแยกคอกวัว สามารถจับภาพไว้ได้
27 เม.ย. ครบรอบ 10 วันที่นายสนธิ ถูกคนร้ายยิงถล่ม ปรากฏภาพข่าวบนหน้าหนังสือพิมพ์ เป็นรถกระบะต้องสงสัยเป็นพาหนะของคนร้าย ที่ได้มาจากกล้องวงจรปิด ลักษณะคล้ายภาพขาวดำ โดยจับภาพรถกระบะวิ่งผ่านกล้อง เป็นภาพค่อนข้างเบลอ แต่ที่น่าสังเกต คือ มีคนนั่งอยู่ที่ท้ายรถกระบะคันดังกล่าวประมาณ 3-4 คน ทั้งหนึ่งในนั้นยังสวมหมวกไหมพรมด้วย
ในวันเดียวกันมีพยานผู้หนึ่งโทรศัพท์ไปแจ้งและให้ข้อมูลกับชุดสืบสวนว่า ถูกรถกระบะ 2 คันขับปาดหน้าไปอย่างรวดเร็ว โดยจำได้ว่า รถ 1 ใน 2 คันเป็นรถกระบะโตโยต้า จำทะเบียนได้เพียงว่า เป็นหมวดจังหวัดสระบุรีหรือลพบุรี
28 เม.ย.มีรายงานจากชุดสืบสวนว่า ได้ภาพจากกล้องวงจรปิดหน้าร้านสะดวกซื้อย่านเทเวศร์ ที่บันทึกภาพรถกระบะมาสด้า ไฟเตอร์ สีน้ำเงิน พร้อมแผ่นป้ายทะเบียน ซึ่งมีคนร้ายนั่งอยู่กระบะหลังไว้ได้
หลังจากนั้นมา ไม่เคยมีรายงานข่าวที่เล็ดรอดออกมาจากชุดสืบว่า พาหนะที่คนร้ายใช้ เป็นรถชนิดใด กระทั่ง มาปรากฏรถต้องสงสัย รถกระบะโตโยต้า วีโก้ สีดำ หมายเลขทะเบียน บธ 1474 ลพบุรี ที่เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน นำมาตรวจสอบ โดยมีรายงานว่า การที่เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ตรวจพิสูจน์รถกระบะต้องสงสัยดังกล่าวนั้น ไม่ใช่การไปใช้วิธีปัดฝุ่น หรือเรียกโดยรวมว่า วิธีตรวจหาลายนิ้วมือแฝง หรือ Fingerprint enhancement เนื่องจาก เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผ่านพ้นมาแล้วเป็นเวลาแรมเดือน แต่การทำงานของเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานในครั้งนี้ ว่ากันว่า เป็นการไปตรวจสอบหาเขม่าดินปืนนั่นเอง!!!
เมื่อย้อนกลับไปดูแนวทางการสืบสวนคลี่คลายคดีหลังเกิดเหตุเช้าตรู่วันที่ 17 เม.ย.2552 อาจประมวลถึงที่มาที่ไปของรถต้องสงสัยโตโยต้า วีโก้ สีดำ คันนี้ได้ โดยหลังเกิดเหตุเพียงวันเดียว ภาพจากกล้องวงจรปิด ถูกนำเสนอออกไป เป็นรถกระบะวีโก้ วิ่งผ่านสี่แยกบางขุนพรหม แต่ถัดมา นายอนุรักษ์ พุฒซ้อน อายุ 30 ปี เจ้าของรถในภาพวงจรปิดดังกล่าว ออกมาแสดงความบริสุทธิ์ว่า รถกระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน ถง-4071 กทม. ของตนเองนั้น ไม่ใช่รถคนร้าย แต่เป็นรถที่ใช้ขนไข่ไก่ไปค้า และในที่สุด ตำรวจก็ตัดประเด็นนี้ทิ้งไป
20 เม.ย. พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. ระบุว่า ได้ร่วมมือกับบริษัท เวิร์คพอยท์ จำกัด (มหาชน) ส่งแฟนพันธุ์แท้รถมือสองรวม 2 ราย เข้าร่วมตรวจสอบภาพรถกระบะต้องสงสัยที่บันทึกได้จากกล้องวงจรปิดทั้ง 2 จุด คือ บริเวณศาลรัฐธรรมนูญ และจุดเกิดเหตุที่นายสนธิ ถูกยิง ซึ่งผลการตรวจสอบพบว่ารถกระบะต้องสงสัยทั้ง 2 จุด เป็นรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีดำ เหมือนกัน แต่เป็นรถคนละคัน
21 เม.ย.พยานที่เห็นเหตุการณ์ให้การว่า"ขณะได้ยินเสียงปืนดังขึ้นก่อน 2 นัด จึงหันไปดูก็เห็นรถของนายสนธิขับมาถึงหน้าที่ทำงาน ก่อนที่จะมี รถกระบะสีเข้มขับปาดหน้า แต่ไม่ได้หยุดสนิท เพียงชะลอเครื่องยนต์
24 เม.ย. ชุดสืบสวนระบุว่า รถกระบะที่คนร้ายใช้ก่อเหตุเป็นรถกระบะยกสูง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีดำ และรถกระบะยี่ห้อมาสด้า แบบมีแค็บ สีน้ำเงิน หลังก่อเหตุหนีไปทางสะพานปิ่นเกล้า ขึ้นทางยกระดับบรมราชชนนี ซึ่งกล้อง CCTV บริเวณแยกคอกวัว สามารถจับภาพไว้ได้
27 เม.ย. ครบรอบ 10 วันที่นายสนธิ ถูกคนร้ายยิงถล่ม ปรากฏภาพข่าวบนหน้าหนังสือพิมพ์ เป็นรถกระบะต้องสงสัยเป็นพาหนะของคนร้าย ที่ได้มาจากกล้องวงจรปิด ลักษณะคล้ายภาพขาวดำ โดยจับภาพรถกระบะวิ่งผ่านกล้อง เป็นภาพค่อนข้างเบลอ แต่ที่น่าสังเกต คือ มีคนนั่งอยู่ที่ท้ายรถกระบะคันดังกล่าวประมาณ 3-4 คน ทั้งหนึ่งในนั้นยังสวมหมวกไหมพรมด้วย
ในวันเดียวกันมีพยานผู้หนึ่งโทรศัพท์ไปแจ้งและให้ข้อมูลกับชุดสืบสวนว่า ถูกรถกระบะ 2 คันขับปาดหน้าไปอย่างรวดเร็ว โดยจำได้ว่า รถ 1 ใน 2 คันเป็นรถกระบะโตโยต้า จำทะเบียนได้เพียงว่า เป็นหมวดจังหวัดสระบุรีหรือลพบุรี
28 เม.ย.มีรายงานจากชุดสืบสวนว่า ได้ภาพจากกล้องวงจรปิดหน้าร้านสะดวกซื้อย่านเทเวศร์ ที่บันทึกภาพรถกระบะมาสด้า ไฟเตอร์ สีน้ำเงิน พร้อมแผ่นป้ายทะเบียน ซึ่งมีคนร้ายนั่งอยู่กระบะหลังไว้ได้
หลังจากนั้นมา ไม่เคยมีรายงานข่าวที่เล็ดรอดออกมาจากชุดสืบว่า พาหนะที่คนร้ายใช้ เป็นรถชนิดใด กระทั่ง มาปรากฏรถต้องสงสัย รถกระบะโตโยต้า วีโก้ สีดำ หมายเลขทะเบียน บธ 1474 ลพบุรี ที่เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน นำมาตรวจสอบ โดยมีรายงานว่า การที่เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ตรวจพิสูจน์รถกระบะต้องสงสัยดังกล่าวนั้น ไม่ใช่การไปใช้วิธีปัดฝุ่น หรือเรียกโดยรวมว่า วิธีตรวจหาลายนิ้วมือแฝง หรือ Fingerprint enhancement เนื่องจาก เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผ่านพ้นมาแล้วเป็นเวลาแรมเดือน แต่การทำงานของเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานในครั้งนี้ ว่ากันว่า เป็นการไปตรวจสอบหาเขม่าดินปืนนั่นเอง!!!