xs
xsm
sm
md
lg

ตร.ลพบุรีจับ"อาก้า"ต้องสงสัย ส่งพิสูจน์พัวพันยิงถล่ม"สนธิ"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน- ตำรวจลพบุรีเข้าจับกุมนักค้ายาบ้า ตรวจพบปืน"อาก้า"ต้องสงสัย 1 กระบอกพร้อมผู้ต้องหา 3 คน รีบส่งเข้าตรวจสอบยังกองพิสูจน์หลักฐานในทันที ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดียิงถล่ม"สนธิ"หรือไม่ หลังแนวทางการสืบสวนพบอาจมีนักการเมืองท้องถิ่นในลพบุรี และอยุธยา พัวพันการลอบสังหาร ขณะที่กองพิสูจน์หลักฐานยอมรับ "ธานี สมบูรณ์ทรัพย์" สั่งให้ทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ส่งอาวุธปืนต้องสงสัยเข้าตรวจสอบ ด้านชุดสืบสวนเร่งแกะรอยรถต้องสงสัย

วานนี้ (28 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าในการคลี่คลายคดีและสืบสวนหาตัวคนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงถล่มนายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ ASTVผู้จัดการ และแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยล่าสุดมีความคืบหน้า ที่จ.ลพบุรี เมื่อพ.ต.ท.พรชัย ไข่สนอง รอง ผกก.กสส.(งานสืบสวน) จ.ลพบุรี ได้นำส่งอาวุธปืนอาก้า มายังกองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) เพื่อให้ทำการตรวจสอบว่า อาวุธปืนที่เพิ่งตรวจยึดมาได้นั้น เป็นอาวุธปืนที่คนร้ายใช้ก่อเหตุอะไรมาบ้าง

พ.ต.ท.พรชัย กล่าวว่า การส่งอาวุธปืนอาก้าดังกล่าวเพื่อให้กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบนั้น ไม่ได้เจาะจงว่าจะเป็นอาวุธปืนกระบอกที่คนร้ายใช้ลอบยิงนายสนธิ หรือไม่ เพราะคดีในเขต จ.ลพบุรี และจังหวัดใกล้เคียงก็มีคดีที่คนร้ายหลายรายใช้อาวุธปืนอาก้า ยิงถล่มเหยื่ออยู่หลายคดี จึงต้องส่งไปตรวจพิสูจน์ว่า จะมีคดีไหนที่เกี่ยวข้องกับอาวุธปืนอาก้าที่ยึดมาได้หรือไม่

ทั้งนี้ การจับกุมอาวุธปืนอาก้ากระบอกดังกล่าว สืบเนื่องจาก เช้าวานนี้ (28 เม.ย.) พ.ต.ท.พรชัย กับพวก สืบทราบว่ามีการลักลอบค้ายาบ้ากันที่ห้องเช่าเลขที่ 12-24 หมู่ที่ 5 ต.ช่องสาริกา อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี จึงส่งสายเข้าไปล่อซื้อ จนกระทั่งสามารถจับกุม นายทวีศักดิ์ สะอาดศึก อายุ 37 ปี นายสุรชาติ สิงห์สาย อายุ 29 ปี และนายพิทักษ์ แซ่อู๋ อายุ 26 ปี พร้อมของกลาง เงินสด 2,000 บาท ยาบ้า จำนวน 7 เม็ด และจากการตรวจสอบภายในห้องเช่าที่เข้าจับกุมผู้ต้องหาได้ ตำรวจพบอาวุธปืนอาก้าอีก 1 กระบอกพร้อมกระสุนอีกจำนวนมาก จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน และนำส่งพฐ. ตรวจพิสูจน์ดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าภายหลังจากที่ปรากฏชื่อนักการเมืองท้องถิ่นของจ.ลพบุรี ซึ่งชาวลพบุรีทั่วไปทราบกันดีว่า นักการเมืองท้องถิ่นคนดังกล่าวนับเป็นผู้มีอิทธิพลคนหนึ่งของจังหวัด ร่วมกับนักการเมืองท้องถิ่นผู้กว้างขวางใน จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งตามแนวทางการสืบสวน นักการเมืองทั้ง 2 คน 2 จังหวัดดังกล่าว อาจเข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีการยิงถล่มนายสนธิ เนื่องจากทั้ง 2 คน มีความสนิทชิดเชื้อเป็นอย่างดียิ่งกับนางพจนีย์ ณ ป้องเพชร มารดา คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ อดีตภรรยา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผู้ต้องหาที่หลบหนีคำพิพากษาจำคุกอยู่ต่างประเทศในขณะนี้ โดยนักการเมืองท้องถิ่นทั้ง 2 คนนั้น มีความเคารพ และยำเกรงนางพจนีย์ เป็นอย่างมาก

เป็นที่น่าสังเกตว่า ภายหลังจากที่ตำรวจชุดจับกุมยาบ้าของพ.ต.ท.พรชัย เข้าจับกุมผู้ต้องหา และตรวจค้นห้องพักของผู้ต้องหาจนพบอาวุธปืนอาก้านั้น ได้ทำการส่งปืนอาก้าเข้ามายังกองพิสูจน์หลักฐานเพื่อให้ตรวจสอบในทันที ทั้งนี้ ยังสอดคล้องกับ เมื่อวันที่ 27 เม.ย.ที่ผ่านมา มีพยานระบุว่า ขณะขับขี่รถจักรยานยนต์ก่อนถึงจุดที่นายสนธิ ถูกลอบยิงนั้น ถูกรถกระบะ ที่จำหมวดจังหวัดสระบุรีได้ ขับปาดหน้า โดย จ.สระบุรี และจ.ลพบุรี นั้น มีพื้นที่เป็นเขตติดต่อกันหลายอำเภอ

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.ต.สุรพล พินิจชอบ ผบก.พฐ. กล่าวยอมรับว่า เรื่องการส่งอาวุธปืนที่ต้องสงสัยในการนำมาใช้ก่อคดีนั้น พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร.ได้ทำหนังสือเวียนส่งไปยังหน่วยงานของตำรวจ เพื่อขอความร่วมมือในการขอให้หน่วยงานตำรวจที่ตรวจพบอาวุธต้องสงสัยที่ใช้ก่อคดียิงนายสนธิ ส่งมาตรวจพิสูจน์ยังกองพิสูจน์หลักฐานแล้วตั้งแต่ 2-3วันที่ผ่านมา โดยขณะนี้ทราบว่ามีเจ้าหน้าที่ได้ทยอยส่งมาตรวจแล้ว 3 ราย

"อาวุธปืนต้องสงสัยทั้งหมด จะถูกส่งไปยังกลุ่มงานอาวุธ และเครื่องกระสุนปืนก่อน ผมจึงยังไม่ทราบว่าอาวุธปืนที่ส่งมาตรวจนั้น มาจากที่ใดบ้าง โดยได้สั่งการให้กลุ่มงานอาวุธ และเครื่องกระสุนปืน ทำรายงานเรื่องอาวุธปืนต้องสงสัยที่ได้รับมาให้ ดูก่อนแล้ว" พล.ต.ต.สุรพลกล่าว

ด้านการติดตามพยานหลักฐานเพื่อคลี่คลายคดีมีรายงานความคืบหน้าว่า ชุดสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดี ได้ภาพจากกล้องวงจรปิดหน้าร้านสะดวกซื้อ ย่านเทเวศร์ ที่บันทึกภาพรถกระบะ มาสด้า ไฟเตอร์ สีน้ำเงิน พร้อมแผ่นป้ายทะเบียน ซึ่งมีผู้ต้องสงสัยนั่งอยู่กระบะหลังไว้ได้ ขณะนี้ชุดทำงานอยู่ระหว่างการตรวจสอบแผ่นป้ายทะเบียนว่า ตรงกับคำให้การของพยานที่เห็นเหตุการณ์หรือไม่

ขณะเดียวกันชุดสืบสวนอีกชุดลงพื้นที่ตรวจหารถกระบะมาสด้า ไฟเตอร์ สีน้ำเงิน ในพื้นที่รอบกรุงเทพมหานคร พบว่ามีทั้งหมด 19 คัน และมีรถต้องสงสัย 1 คัน ซึ่งอยู่ในความครอบครองของสิบเอกรายหนึ่ง ในจ.ราชบุรี ซึ่งยังไม่สามารถชี้แจงรายละเอียดในการใช้รถในวันเกิดเหตุได้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานงานกับทางทหาร เพื่อเข้าตรวจค้นบ้านพัก และสอบปากคำ

ส่วนเส้นทางการหลบหนีของคนร้าย ล่าสุด มีภาพวงจรปิดสามารถจับภาพรถคนร้ายที่วิ่งมาจากสี่แยกคอกวัว โดยรถมุ่งหน้าขึ้นสะพานพระปิ่นเกล้า และกล้องวงจรปิดที่หน้าสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ เป็นจุดสุดท้ายที่มีการบันทึกภาพของคนร้ายไว้ได้ ขณะมุ่งหน้าไปพื้นที่ปริมณฑล
กำลังโหลดความคิดเห็น