คดียิง “สนธิ” คืบหน้า ชุดสืบสวนพบคนร้ายใช้รถกระบะยกสูงยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีดำ และรถกระบะยี่ห้อมาสด้า แบบมีแค็บ สีน้ำเงิน หลังก่อเหตุได้หลบหนีไปทางสะพานปิ่นเกล้า ขึ้นทางยกระดับบรมราชชนนี กล้อง CCTV บริเวณแยกคอกวัวสามารถจับภาพไว้ได้ โดยได้เบาะแสนักการเมืองท้องถิ่นใน จ.ลพบุรี ก่อนเกิดเหตุเรียกทหารหน่วยรบพิเศษจาก จ.ลพบุรี 3 นาย และปราจีนบุรี 2 นายเข้ามาในพื้นที่ สงสัยมารับงานอย่างใดอย่างหนึ่ง
วันนี้ (24 เม.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีลอบยิง นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยว่า คดีนี้เป็นความรับผิดชอบของ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร.ซึ่งความคืบหน้าและรายละเอียดของคดียังไม่ได้มีการพูดคุยกันเนื่องจากเพิ่งมอบหมายให้รับผิดชอบเพียงไม่กี่วัน
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีข่าวว่าอาวุธที่ใช้ยิงนายสนธิเป็นของทหาร พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า ข่าวที่ออกมาก็คือข่าว ยังไม่ได้มีการตรวจพิสูจน์หลักฐานยืนยันว่าจริงหรือไม่ ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรก็ยังไม่ทราบ ส่วนที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ออกมายอมรับว่าเป็นอาวุธของทหารนั้น ไม่รู้ว่าท่านยอมรับอย่างไรเพราะไม่ได้ฟัง
วันเดียวกัน ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) เวลา 13.30 น. พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) เรียกประชุมชุดสืบสวนคดียิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในส่วนของ บช.ก.เพื่อติดตามความคืบหน้าการสืบสวนจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุ โดยมี พล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร พล.ต.ต.ปัญญา มาเม่น รอง ผบช.ก. พ.ต.อ.ประยนต์ ลาเสือ พ.ต.อ.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.พรศักดิ์ สุรสิทธิ ผกก.1 บก.ป. พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี ผกก.2 บก.ป. พ.ต.อ.วิวัฒน์ คำชำนาณ ผกก.6 บก.รน. และชุดสืบสวนเข้าร่วมประชุม โดยใช้เวลา 1 ชั่วโมง
พล.ต.ท.ไถง กล่าวว่า วันนี้ได้เรียกชุดสืบสวนที่ บช.ก.ตั้งขึ้นมาช่วยคลี่คลายคดียิงนายสนธิมารายงานความคืบหน้าของเรื่องที่ได้รับมอบหมาย 2 เรื่อง โดยเรื่องแรกเกี่ยวกับเส้นทางการหลบหนีของคนร้าย ซึ่งได้ขยายพื้นที่ปฏิบัติการไปยังปริมณฑล โดยได้ไปติดตามเบาะแสจากกล้องวงจรปิดต่างๆ โดยรอบ ที่คาดว่าคนร้ายใช้เป็นเส้นทางหลบหนี ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าคนร้ายหลบหนีไปขึ้นสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า
ผบช.ก.กล่าวต่อไปว่า ส่วนประเด็นที่ 2 วิเคราะห์หลักฐานที่ตรวจพบในที่เกิดเหตุ เพื่อนำไปสู่การพิสูจน์หาตัวบุคคล เช่น รถ 2 คันที่คนร้ายใช้เป็นพาหนะในการก่อเหตุ ร่องรอยการติดต่อสื่อสารของคนร้าย ซึ่งได้ผลเป็นที่น่าพอใจว่าเราได้ข้อมูลเพิ่มเติมที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี อย่างไรก็ตาม ไม่มีการจับตากลุ่มไหนเป็นพิเศษ ทั้งนี้ ในการสืบสวนติดตามตัวคนร้ายทาง บช.กได้ส่งชุดสืบสวนหลายคนโดยเฉพาะทีมสืบสวนกองปราบปราม เข้าไปร่วมทำงานกับชุดสืบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล
“เราใช้เครือข่ายที่เรามีมากกว่ามาช่วยเหลือ ตั้งเป็นทีมขึ้นมาเสริม โดยใช้เครือข่ายที่เรามีอยู่ทั่วประเทศ หากมีข้อมูลก็จะส่งให้ทาง บช.น.ไปดำเนินการต่อ ที่ผ่านมาเราทำงานอย่างรอบคอบ เน้นการใช้พยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์เป็นหลักในการสืบสวนสอบสวน ขอเวลาเจ้าหน้าที่ทำงานอีกระยะ เชื่อว่าหากทุกฝ่ายช่วยกันจะสามารถติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีได้” ผบช.ก.กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าได้มีการพูดคุยหรือสอบปากคำนายสนธิบ้างหรือไม่ พล.ต.ท.ไถง กล่าวว่า เราไม่ดำเนินการในทางนั้น เป็นหน้าที่ของ บช.น.ในฐานะเจ้าของเรื่อง บช.ก.มีหน้าที่เพียงช่วยหาพยานหลักฐาน
รายงานข่าวจากชุดสืบสวนคลี่คลายคดีแจ้งว่า รถกระบะที่คนร้ายใช้ก่อเหตุเป็นรถกระบะยกสูง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีดำ และรถกระบะยี่ห้อมาสด้า แบบมีแค็บ สีน้ำเงิน หลังก่อเหตุได้หลบหนีไปทางสะพานปิ่นเกล้า ขึ้นทางยกระดับบรมราชชนนี ซึ่งกล้อง CCTV บริเวณแยกคอกวัว สามารถจับภาพไว้ได้
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่สืบสวนได้รับเบาะแสว่านักการเมืองท้องถิ่นรายหนึ่ง ผู้กว้างขวางใน จ.ลพบุรี มีสายสัมพันธ์กับทหารหน่วยรบพิเศษหลายหน่วย ซึ่งทราบว่าก่อนเกิดเหตุได้มีการเรียกทหารหน่วยรบพิเศษจาก จ.ลพบุรี 3 นาย และปราจีนบุรี 2 นายเข้ามาในพื้นที่ มารับงานอย่างใดอย่างหนึ่ง เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงลงพื้นที่เพื่อไปตรวจสอบว่าเกี่ยวข้องกับคดีนี้หรือไม่ หรืออาจเป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งกันเอง
ด้าน พล.ต.ตพงษ์สันต์ เจียมอ่อน รอง ผบช.น.เปิดเผยถึงกรณีความคืบหน้ากรณีคนร้ายลอบยิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล ว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ในระหว่างการดำเนินการ ในเบื้องต้นได้มีการตรวจวิธีกระสุน ทำให้ทราบว่าคนร้ายยิงมาจากจุดใด ในวันพรุ่งนี้ (24 เม.ย.) พล.ต.ท.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร.หัวหน้าชุดสืบสวน มีการนัดเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าของคดี ในเวลา 14.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล ส่วนความคืบหน้า 2 เจ้าหน้าที่รักษาความปลอภัยถูกทำร้ายและโยนศพทิ้งน้ำ ภายหลังเข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มเสื้อแดงว่าคดียังไม่มีความคืบหน้า เจ้าหน้าที่เร่งสืบสวนเพื่อติดตามรถที่ถูกชิงไป อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะเร่งทำการสืบสวนเพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
วันนี้ (24 เม.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีลอบยิง นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยว่า คดีนี้เป็นความรับผิดชอบของ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร.ซึ่งความคืบหน้าและรายละเอียดของคดียังไม่ได้มีการพูดคุยกันเนื่องจากเพิ่งมอบหมายให้รับผิดชอบเพียงไม่กี่วัน
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีข่าวว่าอาวุธที่ใช้ยิงนายสนธิเป็นของทหาร พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า ข่าวที่ออกมาก็คือข่าว ยังไม่ได้มีการตรวจพิสูจน์หลักฐานยืนยันว่าจริงหรือไม่ ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรก็ยังไม่ทราบ ส่วนที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ออกมายอมรับว่าเป็นอาวุธของทหารนั้น ไม่รู้ว่าท่านยอมรับอย่างไรเพราะไม่ได้ฟัง
วันเดียวกัน ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) เวลา 13.30 น. พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) เรียกประชุมชุดสืบสวนคดียิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในส่วนของ บช.ก.เพื่อติดตามความคืบหน้าการสืบสวนจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุ โดยมี พล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร พล.ต.ต.ปัญญา มาเม่น รอง ผบช.ก. พ.ต.อ.ประยนต์ ลาเสือ พ.ต.อ.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.พรศักดิ์ สุรสิทธิ ผกก.1 บก.ป. พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี ผกก.2 บก.ป. พ.ต.อ.วิวัฒน์ คำชำนาณ ผกก.6 บก.รน. และชุดสืบสวนเข้าร่วมประชุม โดยใช้เวลา 1 ชั่วโมง
พล.ต.ท.ไถง กล่าวว่า วันนี้ได้เรียกชุดสืบสวนที่ บช.ก.ตั้งขึ้นมาช่วยคลี่คลายคดียิงนายสนธิมารายงานความคืบหน้าของเรื่องที่ได้รับมอบหมาย 2 เรื่อง โดยเรื่องแรกเกี่ยวกับเส้นทางการหลบหนีของคนร้าย ซึ่งได้ขยายพื้นที่ปฏิบัติการไปยังปริมณฑล โดยได้ไปติดตามเบาะแสจากกล้องวงจรปิดต่างๆ โดยรอบ ที่คาดว่าคนร้ายใช้เป็นเส้นทางหลบหนี ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าคนร้ายหลบหนีไปขึ้นสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า
ผบช.ก.กล่าวต่อไปว่า ส่วนประเด็นที่ 2 วิเคราะห์หลักฐานที่ตรวจพบในที่เกิดเหตุ เพื่อนำไปสู่การพิสูจน์หาตัวบุคคล เช่น รถ 2 คันที่คนร้ายใช้เป็นพาหนะในการก่อเหตุ ร่องรอยการติดต่อสื่อสารของคนร้าย ซึ่งได้ผลเป็นที่น่าพอใจว่าเราได้ข้อมูลเพิ่มเติมที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี อย่างไรก็ตาม ไม่มีการจับตากลุ่มไหนเป็นพิเศษ ทั้งนี้ ในการสืบสวนติดตามตัวคนร้ายทาง บช.กได้ส่งชุดสืบสวนหลายคนโดยเฉพาะทีมสืบสวนกองปราบปราม เข้าไปร่วมทำงานกับชุดสืบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล
“เราใช้เครือข่ายที่เรามีมากกว่ามาช่วยเหลือ ตั้งเป็นทีมขึ้นมาเสริม โดยใช้เครือข่ายที่เรามีอยู่ทั่วประเทศ หากมีข้อมูลก็จะส่งให้ทาง บช.น.ไปดำเนินการต่อ ที่ผ่านมาเราทำงานอย่างรอบคอบ เน้นการใช้พยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์เป็นหลักในการสืบสวนสอบสวน ขอเวลาเจ้าหน้าที่ทำงานอีกระยะ เชื่อว่าหากทุกฝ่ายช่วยกันจะสามารถติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีได้” ผบช.ก.กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าได้มีการพูดคุยหรือสอบปากคำนายสนธิบ้างหรือไม่ พล.ต.ท.ไถง กล่าวว่า เราไม่ดำเนินการในทางนั้น เป็นหน้าที่ของ บช.น.ในฐานะเจ้าของเรื่อง บช.ก.มีหน้าที่เพียงช่วยหาพยานหลักฐาน
รายงานข่าวจากชุดสืบสวนคลี่คลายคดีแจ้งว่า รถกระบะที่คนร้ายใช้ก่อเหตุเป็นรถกระบะยกสูง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีดำ และรถกระบะยี่ห้อมาสด้า แบบมีแค็บ สีน้ำเงิน หลังก่อเหตุได้หลบหนีไปทางสะพานปิ่นเกล้า ขึ้นทางยกระดับบรมราชชนนี ซึ่งกล้อง CCTV บริเวณแยกคอกวัว สามารถจับภาพไว้ได้
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่สืบสวนได้รับเบาะแสว่านักการเมืองท้องถิ่นรายหนึ่ง ผู้กว้างขวางใน จ.ลพบุรี มีสายสัมพันธ์กับทหารหน่วยรบพิเศษหลายหน่วย ซึ่งทราบว่าก่อนเกิดเหตุได้มีการเรียกทหารหน่วยรบพิเศษจาก จ.ลพบุรี 3 นาย และปราจีนบุรี 2 นายเข้ามาในพื้นที่ มารับงานอย่างใดอย่างหนึ่ง เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงลงพื้นที่เพื่อไปตรวจสอบว่าเกี่ยวข้องกับคดีนี้หรือไม่ หรืออาจเป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งกันเอง
ด้าน พล.ต.ตพงษ์สันต์ เจียมอ่อน รอง ผบช.น.เปิดเผยถึงกรณีความคืบหน้ากรณีคนร้ายลอบยิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล ว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ในระหว่างการดำเนินการ ในเบื้องต้นได้มีการตรวจวิธีกระสุน ทำให้ทราบว่าคนร้ายยิงมาจากจุดใด ในวันพรุ่งนี้ (24 เม.ย.) พล.ต.ท.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร.หัวหน้าชุดสืบสวน มีการนัดเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าของคดี ในเวลา 14.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล ส่วนความคืบหน้า 2 เจ้าหน้าที่รักษาความปลอภัยถูกทำร้ายและโยนศพทิ้งน้ำ ภายหลังเข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มเสื้อแดงว่าคดียังไม่มีความคืบหน้า เจ้าหน้าที่เร่งสืบสวนเพื่อติดตามรถที่ถูกชิงไป อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะเร่งทำการสืบสวนเพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป