พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยถึงคดียิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ว่า คืบหน้าไปมาก โดยส่งชุดสืบสวนเข้าไปในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี และ จ.ลพบุรี เพื่อหาเบาะแสข้อมูลคนร้าย พร้อมสั่งให้รวบรวมบัญชีรายชื่อกลุ่มบุคคลเป้าหมายที่ต้องติดตามเป็นพิเศษ
ขณะที่วันนี้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน นำผลการตรวจพิสูจน์วิถีกระสุน และภาพจำลองเหตุการณ์ยิงนายสนธิ ไปหารือกับผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และฝ่ายสืบสวน เพื่อวิเคราะห์เส้นทางก่อเหตุและหลบหนี
นอกจากนี้ มีรายงานจากฝ่ายสืบสวนว่า ตำรวจได้พบภาพจากกล้องวงจรปิดของธนาคารแห่งประเทศไทย ที่สามารถบันทึกภาพขณะเกิดเหตุไว้ได้ ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างการตรวจสอบ และติดตามพยานคนสำคัญอีกคนหนึ่งที่อยู่ในเหตุการณ์ มาสอบปากคำเพิ่มเติม เพราะหลังเกิดเหตุพยานรายนี้ได้หลบหนีไปอยู่ที่ต่างจังหวัด
พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เรียกชุดสืบสวนสอบสวนประชุม โดยมอบหมายให้เร่งรัดตรวจสอบ 2 เรื่อง คือ เส้นทางการหลบหนีของคนร้าย ซึ่งขยายพื้นที่ไปยังปริมณฑล หลังกล้อง CCTV สามารถจับภาพของคนร้ายขณะหลบหนีมุ่งหน้าไปที่สะพานพระปิ่นเกล้าได้ และวิเคราะห์พยานหลักฐานที่พบในที่เกิดเหตุ ร่องรอยการติดต่อสื่อสารของคนร้าย
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้รับเบาะแสว่านักการเมืองท้องถิ่นรายหนึ่งใน จ.ลพบุรี มีสายสัมพันธ์กับหน่วยรบพิเศษหลายหน่วย ซึ่งทราบว่าก่อนเกิดเหตุได้เรียกหน่วยรบพิเศษจาก จ.ลพบุรี 3 นาย และปราจีนบุรี 2 นาย เข้ามาในพื้นที่
ขณะที่ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก แสดงความเห็นถึงกรณีกระสุนปืนที่ใช้ยิงนายสนธิ ซึ่ง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ยอมรับว่า กระสุนปืน M-16 เป็นของกองพลทหารราบที่ 9 รักษาพระองค์ โดยยืนยันว่ากระสุนชนิดนี้มีใช้ทุกหน่วยในกองทัพ ซึ่งจากการตรวจสอบตัวเลขกระสุนที่พบไม่มีซีเรียล นัมเบอร์ (Serial Number) จึงไม่น่าใช่ของกองพลทหารราบที่ 9
วันพรุ่งนี้ เวลา 14.00 น. พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เรียกประชุมชุดพนักงานสอบสวนทั้งหมด เพื่อติดตามควมคืบหน้าคดี ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล
ขณะที่วันนี้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน นำผลการตรวจพิสูจน์วิถีกระสุน และภาพจำลองเหตุการณ์ยิงนายสนธิ ไปหารือกับผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และฝ่ายสืบสวน เพื่อวิเคราะห์เส้นทางก่อเหตุและหลบหนี
นอกจากนี้ มีรายงานจากฝ่ายสืบสวนว่า ตำรวจได้พบภาพจากกล้องวงจรปิดของธนาคารแห่งประเทศไทย ที่สามารถบันทึกภาพขณะเกิดเหตุไว้ได้ ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างการตรวจสอบ และติดตามพยานคนสำคัญอีกคนหนึ่งที่อยู่ในเหตุการณ์ มาสอบปากคำเพิ่มเติม เพราะหลังเกิดเหตุพยานรายนี้ได้หลบหนีไปอยู่ที่ต่างจังหวัด
พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เรียกชุดสืบสวนสอบสวนประชุม โดยมอบหมายให้เร่งรัดตรวจสอบ 2 เรื่อง คือ เส้นทางการหลบหนีของคนร้าย ซึ่งขยายพื้นที่ไปยังปริมณฑล หลังกล้อง CCTV สามารถจับภาพของคนร้ายขณะหลบหนีมุ่งหน้าไปที่สะพานพระปิ่นเกล้าได้ และวิเคราะห์พยานหลักฐานที่พบในที่เกิดเหตุ ร่องรอยการติดต่อสื่อสารของคนร้าย
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้รับเบาะแสว่านักการเมืองท้องถิ่นรายหนึ่งใน จ.ลพบุรี มีสายสัมพันธ์กับหน่วยรบพิเศษหลายหน่วย ซึ่งทราบว่าก่อนเกิดเหตุได้เรียกหน่วยรบพิเศษจาก จ.ลพบุรี 3 นาย และปราจีนบุรี 2 นาย เข้ามาในพื้นที่
ขณะที่ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก แสดงความเห็นถึงกรณีกระสุนปืนที่ใช้ยิงนายสนธิ ซึ่ง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ยอมรับว่า กระสุนปืน M-16 เป็นของกองพลทหารราบที่ 9 รักษาพระองค์ โดยยืนยันว่ากระสุนชนิดนี้มีใช้ทุกหน่วยในกองทัพ ซึ่งจากการตรวจสอบตัวเลขกระสุนที่พบไม่มีซีเรียล นัมเบอร์ (Serial Number) จึงไม่น่าใช่ของกองพลทหารราบที่ 9
วันพรุ่งนี้ เวลา 14.00 น. พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เรียกประชุมชุดพนักงานสอบสวนทั้งหมด เพื่อติดตามควมคืบหน้าคดี ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล
