xs
xsm
sm
md
lg

ล่า"5รบพิเศษ"ทีมยิงสนธิโยงกำนันดังลพบุรีรับงาน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คดีลอบสังหาร"สนธิ"คืบหน้า ซีซีทีวี จับภาพรถคนร้ายขึ้นสะพานปิ่นเกล้า-ทางยกระดับบรมราชชนนี หนี พร้อมได้เบาะแสก่อนเกิดเหตุ นักการเมืองท้องถิ่นในจ.ลพบุรี เรียกทหารหน่วยรบพิเศษ จากลพบุรี 3 นาย และปราจีนบุรี 2 นาย เข้ามาในพื้นที่ สงสัยรับงานอย่างใดอย่างหนึ่ง ส่งชุดสืบตามประกบ ขณะที่“สนธิ” อาการดีขึ้นมาก กำหนดออกจาก รพ. 09.00 น.วันนี้ “อดุลย์”อาการดีขึ้น ออกจากห้องไอซียู แล้ว
วานนี้ (24 เม.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีลอบสังหารนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยว่า คดีนี้เป็นความรับผิดชอบของพล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร.ซึ่งความคืบหน้าและรายละเอียดของคดียังไม่ได้มีการพูดคุยกัน เนื่องจากเพิ่งมอบหมายให้รับผิดชอบเพียงไม่กี่วัน
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีข่าวว่า อาวุธที่ใช้ยิงนายสนธิ เป็นของทหาร พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า ข่าวที่ออกมาก็คือข่าว ยังไม่ได้มีการตรวจพิสูจน์หลักฐานยืนยันว่าจริงหรือไม่ ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรก็ยังไม่ทราบ ส่วนที่พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ออกมายอมรับว่าเป็นอาวุธของทหารนั้น ไม่รู้ว่าท่านยอมรับอย่างไร เพราะไม่ได้ฟัง
ด้านพล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) เรียกประชุมชุดสืบสวนคดียิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล ในส่วนของบช.ก.เพื่อติดตามความคืบหน้าการสืบสวนจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุ โดยมี พล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร พล.ต.ต.ปัญญา มาเม่น รองผบช.ก. พ.ต.อ.ประยนต์ ลาเสือ พ.ต.อ.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ รองผบก.ป. พ.ต.อ.พรศักดิ์ สุรสิทธิ ผกก..1 บก.ป. พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี ผกก.2 บก.ป. พ.ต.อ.วิวัฒน์ คำชำนาณ ผกก. 6 บก.รน. และชุดสืบสวนเข้าร่วมประชุม โดยใช้เวลา 1 ชั่วโมง

พบร่องรอยการติดต่อของคนร้าย

พล.ต.ท.ไถง กล่าวว่า ได้เรียกชุดสืบสวนที่บช.ก.ตั้งขึ้นมาช่วยคลี่คลายคดียิงนายสนธิ มารายงานความคืบหน้าของเรื่องที่ได้รับมอบหมาย 2 เรื่อง โดยเรื่องแรกเกี่ยวกับเส้นทางการหลบหนีของคนร้าย ซึ่งได้ขยายพื้นที่ปฏิบัติการไปยังปริมณฑล โดยได้ไปติดตามเบาะแสจากกล้องวงจรปิดต่างๆโดยรอบ ที่คาดว่าคนร้ายใช้เป็นเส้นทางหลบหนี ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าคนร้ายหลบหนีไปทางแยกบางขุนพรหม ก่อนขึ้นสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า
ส่วนประเด็นที่ 2 วิเคราะห์หลักฐานที่ตรวจพบในที่เกิดเหตุ เพื่อนำไปสู่การพิสูจน์หาตัวบุคคล เช่น รถ 2 คันที่คนร้ายใช้เป็นพาหนะในการก่อเหตุ ร่องรอยการติดต่อสื่อสารของคนร้าย ซึ่งได้ผลเป็นที่น่าพอใจว่าเราได้ข้อมูลเพิ่มเติมที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี
อย่างไรก็ตามไม่มีการจับตากลุ่มไหนเป็นพิเศษ ทั้งนี้ ในการสืบสวนติดตามตัวคนร้ายทาง บช.ก.ได้ส่งชุดสืบสวนหลายคนโดยเฉพาะทีมสืบสวนกองปราบปราม เข้าไปร่วมทำงานกับชุดสืบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล
“เราใช้เครือข่ายที่เรามีมาช่วยเหลือ ตั้งเป็นทีมขึ้นมาเสริม โดยใช้เครือข่ายที่เรามีอยู่ทั่วประเทศ หากมีข้อมูลก็จะส่งให้ทางบช.น.ไปดำเนินการต่อ ที่ผ่านมาเราทำงานอย่างรอบคอบ เน้นการใช้พยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์เป็นหลักในการสืบสวนสอบสวน ขอเวลาเจ้าหน้าที่ทำงานอีกระยะ เชื่อว่าหากทุกฝ่ายช่วยกัน จะสามารถติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีได้” ผบช.ก.กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าได้มีการพูดคุย หรือสอบปากคำนายสนธิ บ้างหรือไม่ พล.ต.ท.ไถง กล่าวว่า เราไม่ดำเนินการในทางนั้น เป็นหน้าที่ของบช.น.ในฐานะเจ้าของเรื่อง บช.ก.มีหน้าที่เพียงช่วยหาพยานหลักฐาน

5 ทหารหน่วยรบพิเศษรับงาน

รายงานข่าวจากชุดสืบสวนคลี่คลายคดีแจ้งว่า รถกระบะที่คนร้ายใช้ก่อเหตุเป็นรถกระบะ ยกสูงยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีดำ และรถกระบะยี่ห้อมาสด้า แบบมีแค็บ สีน้ำเงิน หลังก่อเหตุได้หลบหนีไปทางสะพานปิ่นเกล้า ขึ้นทางยกระดับบรมราชชนนี ซึ่งกล้อง CCTV บริเวณแยกคอกวัว สามารถจับภาพไว้ได้
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่สืบสวนได้รับเบาะแสว่า กำนันคนดัง ซึ่งเป็นนักการเมืองท้องถิ่นรายหนึ่ง ผู้กว้างขวางใน จ.ลพบุรี มีสายสัมพันธ์ ทหารหน่วยรบพิเศษ หลายหน่วย ซึ่งทราบว่าก่อนเกิดเหตุได้มีการเรียกทหารหน่วยรบพิเศษ จากจ.ลพบุรี 3 นาย และปราจีนบุรี 2 นาย เข้ามาในพื้นที่ มารับงานอย่างใดอย่างหนึ่ง เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน จึงลงพื้นที่เพื่อไปตรวจสอบว่าเกี่ยวข้องกับคดีนี้หรือไม่ หรืออาจเป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งกันเอง

"ธานี"ประชุมความคืบหน้าวันนี้

พล.ต.ตพงษ์สันต์ เจียมอ่อน รอง ผบช.น. เปิดเผยความคืบหน้าของคดีนี้ว่า เจ้าหน้าที่อยู่ในระหว่างการดำเนินการ ในเบื้องต้นได้มีการตรวจวิธีกระสุน ทำให้ทราบว่าคนร้ายยิงมาจากจุดใด และพล.ต.ท.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร. หัวหน้าชุดสืบสวน มีการนัดเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาประชุม เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดี ในเวลา 14.00 น.(24เม.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล
ส่วนความคืบหน้า 2 เจ้าหน้ารักษาความปลอภัยถูกทำร้ายและโยนศพทิ้งน้ำ ภายหลังเข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มเสื้อแดงนั้น คดียังไม่มีความคืบหน้า เจ้าหน้าที่เร่งสืบสวนเพื่อติดตามรถที่ถูกชิงไป อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะเร่งทำการสืบสวนเพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป

ประสานกองทัพตรวจสอบกระสุน

พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(ผบช.น.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มีการประสานขอข้อมูลไปทางกองทัพบก เพื่อตรวจสอบกระสุนแล้ว และทางกองพิสูจน์หลักฐานได้ร่วมประชุมเพื่อหาข้อยุติ ส่วนแนววิถีกระสุนนั้นขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบอย่างเร่งด่วนแล้ว สำหรับจำนวนรถยนต์ที่ใช้ก่อเหตุนั้นมีไม่ต่ำกว่า 2 คัน และคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุ อยู่ที่ประมาณ 5-7 คน ส่วนปืนที่ยิงกระสุนระเบิดนั้นยังไม่ชัดเจนว่าเป็นเครื่องยิงแบบ เอ็ม 203 หรือ เอ็ม 79

“สนธิ” อาการดีขึ้นมาก

วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานจากโรงพยาบาลจุฬาฯว่า รศ.นพ.อดิศร ภัทราดูลย์ ผอ.รพ.จุฬาฯ เปิดเผยถึงอาการของนายสนธิ ว่าอาการ ดีขึ้นมาก ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง และสามารถออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว ขึ้นอยู่กับว่าผู้ป่วยจะสะดวกออกจากโรงพยาบาลเมื่อไร และขณะนี้นายสนธิ ก็ยังไม่ได้แจ้งขอออกจากโรงพยาบาล อย่างไรก็ตาม หลังจากออกจากโรงพยาบาล นายสนธิ อาจจะมีอาการปวดศีรษะบ้าง แต่ก็เป็นปกติของผู้ป่วยที่ผ่านการผ่าตัดสมอง
สำหรับนายอดุลย์ นั้น รศ.นพ.อดิศร กล่าวว่า คนไข้รู้สึกตัวดี หายใจเองได้ปกติ รับประทานอาหารได้ พูดคุยได้ แขนขายังอ่อนแรงเหมือนเดิม ที่แขนขวามีเลือดซึมออกมาเล็กน้อย ไม่มีอาการไข้ ไม่มีอาการแทรกซ้อน สัญญาณชีพปกติ และต้องรอดูอาการอีกสักระยะ แต่คาดว่าวันนี้น่าจะนำตัวออกจากห้องไอซียูได้ เพราะผู้ป่วยสามารถช่วยเหลือตัวเองได้มากแล้ว และสามารถขยับร่างกาย รวมถึงตอบสนองต่อคำสั่งต่างๆ ได้ดีมากขึ้น แต่ในส่วนของจุดบาดเจ็บอื่นๆ เช่น ที่แขนซึ่งได้รับการผ่าตัดดามเหล็กนั้น ต้องรอให้อาการทางสมองดีขึ้นกว่านี้เสียก่อน จึงจะพิจารณาให้การรักษาในจุดบาดเจ็บอื่นๆ ต่อไป ส่วนอาการของนายวาร์ยุภักดิ์นั้น ดีขึ้นมาก และสามารถกลับบ้านได้แล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศใต้โถงอาคารชั้นล่าง ตึก สก. รพ.จุฬาฯ ซึ่งเป็นจุดลงชื่อเยี่ยมนายสนธิ มีประชาชนเดินทางมาลงชื่อค่อนข้างบางตากว่าวันก่อนๆ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นเพราะทราบข่าวว่านายสนธิ ปลอดภัย และใกล้จะออกจากโรงพยาบาลแล้ว
เวลา 11.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะแพทย์ได้ทำการตัดไหม ที่แผลบริเวณศีรษะของนายสนธิ แล้ว โดยแพทย์ได้แนะนำให้นายสนธิ พักเพื่ออยู่รอดูอาการที่โรงพยาบาลอีก 2-3 วัน

"อดุลย์"ออกจากห้องไอซียูแล้ว

ต่อเวลา 16.25 น. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าอาการของนายอดุลย์ว่า รศ.นพ.อดิศร เปิดเผยว่า อนุญาตให้ออกจากห้องไอซียูได้แล้ว เพราะอาการดีขึ้นตามลำดับ แต่ก็ต้องดูห้องพักผู้ป่วยในพิเศษว่าว่างหรือเปล่า ถ้าว่างก็สามารถออกได้เลย คณะแพทย์มีความเป็นห่วงเรื่องกระดูกแขนที่หัก แต่ไม่น่าเป็นห่วงมากเพราะไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต
ส่วนในช่วงเย็น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ เดินทางมาเยี่ยมนายสนธิ พร้อมกับกล่าวว่า ขณะนี้อาการนายสนธิ ดีขึ้นมาก คาดว่าจะกลับบ้านได้อีกประมาณ 1-2 วัน แต่ยังไม่สามารถระบุวันเวลาที่แน่นอนได้ เนื่องจากเกรงเรื่องความไม่ปลอดภัย ไม่อยากให้เกิดเหตการณ์ซ้ำรอย เพราะขณะนี้ไม่สามารถพึ่งพากลไกของรัฐบาล เพราะขนาดประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ยังเกิดเหตุยิงกันด้วยอาวุธสงคราม และยิ่งตอนนี้ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้ว ยิ่งต้องระมัดระวังตัวมากขึ้น

จี้รัฐเร่งจับตัวคนทำผิดโดยด่วน

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับเหตุการณ์การลอบสังหารนายสนธินั้น อยากให้รัฐบาลเร่งหาตัวผู้กระทำผิดโดยด่วน มากกว่จะมามุ่งเรื่องในขอการแก้รัฐธรรมนูญที่หลายฝ่ายอยากให้ดำเนินการ ซึ่งทางกลุ่มพันธมิตรฯ ไม่เคยเห็นด้วย และพร้อมจะคัดค้านตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีหลักฐานที่แน่ชัดแล้วว่า กระสุนที่ใช้ยิงรถนายสนธินั้น มาจากกองทัพ แต่พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. กลับระบุว่าเป็นเรื่องธรรมดา ซึ่งไม่ถูกต้อง เป็นเหมือนการปัดความรับผิดชอบ ทั้งๆที่หากรู้ว่ากระสุนมาจากกองทัพ ก็ไม่น่าจะเป็นเรื่องยากที่จะสาวถึงตัวผู้กระทำผิด ดังนั้นรัฐบาลึงต้องเร่งจัดการ ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถเรียกความเชื่อมั่นจากต่างประเทศได้เลย
ต่อข้อซักถามที่ว่ากลุ่มพันธมิตรฯ จะมีการเคลื่นไหวภายหลังการประกาศยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า คาดว่าต้องรอนายสนธิกลับไปพักฟื้นอีกประมาณ 4-5 วัน จากนั้นจะมีการแถลงข่าวความเคลื่อนไหวเรื่องนี้อีกครั้ง
ล่าสุดเมื่อเวลา 18.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสนธิ ได้แจ้งกำหนดออกจากโรงพยาบาลแล้ว โดยแจ้งว่าจะออกจากโรงพยาบาลในวันนี้ (25 เม.ย.) เวลา 09.00 น.
กำลังโหลดความคิดเห็น