ASTVผู้จัดการรายวัน – ตลาดผลิตภัณฑ์เจลล้างมือแบบไม่ต้องล้างคึกคัก คาดตลาดรวมโตไม่ต่ำกว่า 50% เหตุหวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่2009ระบาดหนัก ผู้ประกอบการสบช่องโหมทำตลาดหนัก ทั้งโปรโมชั่น ออกสินค้าใหม่ อีเวนต์ รายใหม่ลงตลาด จากปรกติเป็นตลาดที่แทบจะไม่มีความเคลื่อนไหวเลย เผยสินค้าเริ่มขาดตลาด แถมสินค้าปลอมออกอาละวาด
ท่ามกลางความหวาดกลัวของการระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่2009ในขณะนี้ ในอีกมุมหนึ่งของธุรกิจสามารถใช้จังหวะวิกฤตินี้เป็นโอกาสได้อย่างดี โดยเฉพาะสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันเช่น เจลล้างมือ สบู่ ตลอดจนหน้ากากอนามัย เป็นต้น ซึ่งมีความคึกคักไม่น้อยเมื่อเทียบกับสถานการณ์ปรกติที่สินค้าเหล่านี้แทบจะไม่ได้อยู่ในความสนใจเลย
ผู้ประกอบการที่ทำตลาดอยู่แล้วก็เพิ่มกิจกรรมมากขึ้น ทั้งเซฟเคล็นซ์ , มายบาติก โปรเท็กซ์ ขณะที่รายใหม่ก็สบช่องเข้าสู่ตลาดอย่างกรณีของ ค่ายสหพัฒน์ ที่เพิ่งเปิดตัวสินค้าเจลล้างมือ “คิเรอิ คิเรอิ” เมื่อช่วงงานสหพัฒน์เอ็กซ์โปเมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา
นางนิสิตา จินดารัตน์ ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ บริษัท เดอร์มาซาลว์ ไซน์ เอเชีย แปซิฟิค (จำกัด) ผู้จัดจำหน่ายเจลทำความสะอาดมือแบบไม่ต้องล้างเป็นรายแรกในไทย เมื่อปี 2007 กล่าวกับ “ASTVผู้จัดการรายวัน” ว่า แต่เดิมนั้นตลาดผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดมือจะเป็นตลาดที่ไม่ใหญ่มากนัก ซึ่งที่ผ่านมาส่วนใหญ่แล้วจะเป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดมือที่ล้างกับน้ำ ขณะที่ตลาดเจลทำความสะอาดมือโดยไม่ต้องล้างน้ำนั้นจะเป็น็นตลาดเฉพาะกลุ่ม เช่น บุคลากรสาธารณสุข ผู้ที่ต้องเดินทางบ่อย หรือผู้ที่ต้องการดูแลเรื่องความสะอาดเป็นพิเศษ เช่น กลุ่มคุณแม่ที่มีเด็กเล็ก เป็นต้น
อย่างไรก็ตามนางสาวนิสิตายอมรับว่า ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ที่เกิดการระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่2009อย่างแพร่หลายและรวดเร็ว ทำให้ผู้บริโภคเกิดการตื่นตัว และใส่ใจในการป้องกันและดูแลในเรื่องการรักษาความสะอาดมือมากยิ่งขึ้น รวมถึงการรณรงค์อย่างต่อเนื่องจากภาครัฐ ทำให้ยอดขายเจลทำความสะอาดมือโดยไม่ต้องล้างน้ำมีการเติบโตอย่างมาก จนทำให้ขณะนี้สินค้าดังกล่าวเริ่มเข้าสู่ภาวะขาดดตลาดบ้างแล้ว แม้ว่าจะผลิตออกมาเท่าไรก็ไม่เพียงพอกับความต้องการของลูกค้า
เนื่องจากสถานการณ์การระบาดหนักเช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ถือว่าดีมานด์ที่เกิดขึ้นตอนนี้มากกว่าปรกตินั่นเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์ตลาดเจลล้างมือเวลานี้ถือได้ว่าคึกคักและเริ่มมีการแข่งขันมากขึ้น แม้จะยังไม่มีหน่วยงานใดเก็บตัวเลขมูลค่าตลาดรวมของผลิตภัณฑ์เจลล้างมือก็ตาม เนื่องจากที่ผ่านมาเป็นเพียงตลาดเล็กๆเท่านั้น แต่คาดกันว่า ด้วยกระแสของการระบาดหวัด2009นี้จะทำให้เจลล้างมือมีการเติบโตเกือบ 50-100% ในช่วงปีนี้เลยทีเดียว
เพราะการทำตลาดในจังหวะที่ถูกต้อง จะส่งผลให้ตลาดโตมากขึ้น ซึ่งช่วงนี้จะเห็นได้ว่า สินค้าที่ไม่เคยทำตลาดก็ออกมาทำตลาดกันมากขึ้น ในหลายรูปแบบ เช่น การทำสื่อโฆษณาเป็นใบแขวนไว้ที่ตัวผลิตภัณฑ์เพือ่กระตุ้นการซื้อและให้ความรู้ด้วย เช่น โปรเท็กซ์ การทำโปรโมชั่นร่วมกับห้างเช่น แคร์เร็กซ์ จับมือกับศูนย์อาหารของเทสโก้โลตัส เมื่อซื้อคูปองทานอาหารแบบไม่คืนเงินจำนวน 70 บาท รับฟรีสบู่แคร์เร็กซ์ทำความสะอาดมือ 1 ก้อน เป็นต้น หรือการแจกสินค้าเจลล้างมือตามสถานที่ทั่วไปของแบรนด์ต่างๆ
ในส่วนของ เซฟเคล็นซ์ นางนิสิตา กล่าวเสริมว่า ที่ผ่านมาได้มอบผลิตภัณฑ์เพื่อส่งเสริมการล้างมือให้สะอาดให้กับรายการโทรทัศน์ต่างๆเช่น ผู้หญิงถึงผู้หญิง 30 ยังแจ๋ว คอนเสิร์ตช่อง 3 สัญจร รวมถึงการมอบผลิตภัณฑ์เพื่อเป็นของรางวัลตามนิตยสารต่างๆ นอกจากนี้ ยังมีการจัดกิจกรรมรณรงค์ส่งเสริมการล้างมือ โดยได้ไปแจกตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่ตลาดนัดสวนจตุจักร ตามอาคารสำนักงานต่างๆเช่นแถว สาทร สีลม อโศก รวมถึงลูกค้าที่มาที่ร้านขายยาต่างๆ
ขณะเดียวกันเซฟเคล็นซ์ยังได้ขยายช่องทางการจำหน่ายให้ครอบคลุมทั่วถึงยิ่งขึ้น ทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด จากปัจจุบัน เซฟเคล็นซ์มีขายที่ร้านขายยา ซูเปอร์มาร์เก็ตช เช่น ท็อปส์ โฮมเฟรชมาร์ท ร้านค้าสะดวกซื้อแฟมิลี่มาร์ท คอลล์เซ็นเตอร์ 1577 แอมเวย์ ช็อปเปอร์แค็ตตาล็อก ร้านหนังสือคู่คิด ร้านขายยาในโรงพยาบาลชั้นนำ โรงพยาบาลสัตว์ เป็นต้น
โดยในครึ่งปีหลังนี้จะเพิ่มงบตลาดอีก 20% เพื่อทำการส่งเสริมการขายเพื่อรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดที่เป็นอันดับ 1 ในขณะนี้ โดยเมื่อช่วงต้นนี้ปีนี้ตั้งเป้าหมายยอดขายเดิมไว้ที่ 25% แต่เนื่องจากกระแสความต้องการในช่วงนี้พุ่งสูงมากขึ้น จึงอาจจะต้องปรับเป้าเติบโตเป็น 50% โดยมีขนาด 30 มล. แบบหลอดสำหรับพกพา ราคา 85 บาท ขนาด 50 มล. เป็นประเภทที่ขายดีที่สุด แบบขวดปั๊มสำหรับพกพา ราคา 150 บาท และขนาด 500 มล. แบบขวดปั๊มสำหรับครอบครัวหรือสำนักงาน ราคา 600 บาท
อีกรายที่เพิ่งเปิดตัวนายบุญฤทธิ์ มหามนตรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไลอ้อน ประเทศไทย จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคในเครือสหพัฒน์ กล่าวว่า บริษัทยังได้เปิดตัวเจลล้างมือ คิเรอิ คิเรอิ หลังจากก่อนหน้านี้บริษัทได้เปิดตัวโฟมล้างมือ โดยขณะนี้ได้เร่งทำตลาดอย่างหนัก หลังจากไข้หวัด 2009 แพร่ระบาดในประเทศ ส่งผลให้ยอดขาย 1 เดือน 20 ล้านบาท เนื่องจากผู้บริโภคมีความระมัดระวังมากขึ้น ซึ่งล่าสุดได้แจกสินค้าตัวอย่างเจลล้างมือขนาด 30 มล. เพื่อสร้างการรับรู้และกระตุ้นให้เกิดการทดลองใช้สินค้า พร้อมกันนี้ขยายช่องทางจำหน่ายตามห้างสรรพสินค้า โมเดิร์นเทรด และโรงพยาบาล ทั้งนี้ปัจจุบันสินค้าดังกล่าวยังได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีในประเทศญี่ปุ่น
นายกกวิน สัณฑกุล กรรมการและประธานบริหารฝ่ายการตลาด บริษัท เอก-ชัย ดิสทริบิวชั่น ซิสเท็ม ประเทศไทย จำกัด ผู้บริหารเทสโก้โลตัสในไทย กล่าวว่า
เทสโก้โลตัสได้ผลิตชุดสุขอนามัยออกมาโดยเฉพาะออกมาวางตลาดในแบรนด์ เทสโก้โลตัส เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถป้องกันตัวเองได้ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น ในราคา 35 บาท ประกอบด้วย เจลทำความสะอาดมือ โดยไม่ต้องใช้น้ำ แผ่นเช็ดทำความสะอาดมือ หน้ากากอนามัย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แบรนด์ที่มีความเคลื่อนไหวอีกรายคือ “มายเซฟติค มายบาซิน คลีนซิ่ง แอนด์ เจล” ของ บริษัท เกรทเตอร์ฟาร์ม่า จำกัด ซึ่งขณะนี้ได้เพิ่มไลน์ลติภัณฑ์ออกมาวางตลาดอีกจากเดิมที่จะมีเพียง เจลทำความสะอาดมือแบบไม่ต้องล้างแบบขวดปั๊มตามคำสั่งซื้อเท่านั้น แต่ขณะนี้ได้วางตลาด เจลล้างมือ 2 กลิ่นคือ กลิ่นชาเขียวและกลิ่นแอปเปิล 2 ขนาดคือ 500 มล. กับ 60 มล. ทำตลาดอย่างจริงจัง
และจะมีแบบแฮนด์สเปรย์ ขนาด 8 มล. ขายคู่กับรีฟิลที่ทใช้เติมราคา 150 บาท ทำน้ำยาบ้วนปาก ขนาด 750 มล. ขายเป็นแพคคู่กับหน้ากากอนามัย ชนิดเอ็น 95 จะเริ่มขายปลายเดือนกรกฎาคมนี้
จากกระแสความต้องการที่มากนี้เอง ทำให้ขณะนี้เริ่มมีกระแสข่าวว่า มีสินค้าที่ลอกเลียนแบบและสินค้าปลอมต่างๆออกมาจำหน่าย ซึ่งสร้างความสับสนให้กับลูกค้าและความเสียหายให้กับแบรนด์ดังที่ถูกลอกเลียนแบบอย่างาก เช่นกรณีของ มายเซฟติค มายบาซิน คลีนซิ่ง แฮนด์ ที่เจอสินค้าปลอมเพราะมีเจลสีขาววางจำหน่าย ทั้งๆที่ของจริงจะมีแค่สีเขียวกลิ่นแอปเปิลและกลิ่นชาเขียวเท่านั้น
ท่ามกลางความหวาดกลัวของการระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่2009ในขณะนี้ ในอีกมุมหนึ่งของธุรกิจสามารถใช้จังหวะวิกฤตินี้เป็นโอกาสได้อย่างดี โดยเฉพาะสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันเช่น เจลล้างมือ สบู่ ตลอดจนหน้ากากอนามัย เป็นต้น ซึ่งมีความคึกคักไม่น้อยเมื่อเทียบกับสถานการณ์ปรกติที่สินค้าเหล่านี้แทบจะไม่ได้อยู่ในความสนใจเลย
ผู้ประกอบการที่ทำตลาดอยู่แล้วก็เพิ่มกิจกรรมมากขึ้น ทั้งเซฟเคล็นซ์ , มายบาติก โปรเท็กซ์ ขณะที่รายใหม่ก็สบช่องเข้าสู่ตลาดอย่างกรณีของ ค่ายสหพัฒน์ ที่เพิ่งเปิดตัวสินค้าเจลล้างมือ “คิเรอิ คิเรอิ” เมื่อช่วงงานสหพัฒน์เอ็กซ์โปเมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา
นางนิสิตา จินดารัตน์ ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ บริษัท เดอร์มาซาลว์ ไซน์ เอเชีย แปซิฟิค (จำกัด) ผู้จัดจำหน่ายเจลทำความสะอาดมือแบบไม่ต้องล้างเป็นรายแรกในไทย เมื่อปี 2007 กล่าวกับ “ASTVผู้จัดการรายวัน” ว่า แต่เดิมนั้นตลาดผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดมือจะเป็นตลาดที่ไม่ใหญ่มากนัก ซึ่งที่ผ่านมาส่วนใหญ่แล้วจะเป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดมือที่ล้างกับน้ำ ขณะที่ตลาดเจลทำความสะอาดมือโดยไม่ต้องล้างน้ำนั้นจะเป็น็นตลาดเฉพาะกลุ่ม เช่น บุคลากรสาธารณสุข ผู้ที่ต้องเดินทางบ่อย หรือผู้ที่ต้องการดูแลเรื่องความสะอาดเป็นพิเศษ เช่น กลุ่มคุณแม่ที่มีเด็กเล็ก เป็นต้น
อย่างไรก็ตามนางสาวนิสิตายอมรับว่า ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ที่เกิดการระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่2009อย่างแพร่หลายและรวดเร็ว ทำให้ผู้บริโภคเกิดการตื่นตัว และใส่ใจในการป้องกันและดูแลในเรื่องการรักษาความสะอาดมือมากยิ่งขึ้น รวมถึงการรณรงค์อย่างต่อเนื่องจากภาครัฐ ทำให้ยอดขายเจลทำความสะอาดมือโดยไม่ต้องล้างน้ำมีการเติบโตอย่างมาก จนทำให้ขณะนี้สินค้าดังกล่าวเริ่มเข้าสู่ภาวะขาดดตลาดบ้างแล้ว แม้ว่าจะผลิตออกมาเท่าไรก็ไม่เพียงพอกับความต้องการของลูกค้า
เนื่องจากสถานการณ์การระบาดหนักเช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ถือว่าดีมานด์ที่เกิดขึ้นตอนนี้มากกว่าปรกตินั่นเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์ตลาดเจลล้างมือเวลานี้ถือได้ว่าคึกคักและเริ่มมีการแข่งขันมากขึ้น แม้จะยังไม่มีหน่วยงานใดเก็บตัวเลขมูลค่าตลาดรวมของผลิตภัณฑ์เจลล้างมือก็ตาม เนื่องจากที่ผ่านมาเป็นเพียงตลาดเล็กๆเท่านั้น แต่คาดกันว่า ด้วยกระแสของการระบาดหวัด2009นี้จะทำให้เจลล้างมือมีการเติบโตเกือบ 50-100% ในช่วงปีนี้เลยทีเดียว
เพราะการทำตลาดในจังหวะที่ถูกต้อง จะส่งผลให้ตลาดโตมากขึ้น ซึ่งช่วงนี้จะเห็นได้ว่า สินค้าที่ไม่เคยทำตลาดก็ออกมาทำตลาดกันมากขึ้น ในหลายรูปแบบ เช่น การทำสื่อโฆษณาเป็นใบแขวนไว้ที่ตัวผลิตภัณฑ์เพือ่กระตุ้นการซื้อและให้ความรู้ด้วย เช่น โปรเท็กซ์ การทำโปรโมชั่นร่วมกับห้างเช่น แคร์เร็กซ์ จับมือกับศูนย์อาหารของเทสโก้โลตัส เมื่อซื้อคูปองทานอาหารแบบไม่คืนเงินจำนวน 70 บาท รับฟรีสบู่แคร์เร็กซ์ทำความสะอาดมือ 1 ก้อน เป็นต้น หรือการแจกสินค้าเจลล้างมือตามสถานที่ทั่วไปของแบรนด์ต่างๆ
ในส่วนของ เซฟเคล็นซ์ นางนิสิตา กล่าวเสริมว่า ที่ผ่านมาได้มอบผลิตภัณฑ์เพื่อส่งเสริมการล้างมือให้สะอาดให้กับรายการโทรทัศน์ต่างๆเช่น ผู้หญิงถึงผู้หญิง 30 ยังแจ๋ว คอนเสิร์ตช่อง 3 สัญจร รวมถึงการมอบผลิตภัณฑ์เพื่อเป็นของรางวัลตามนิตยสารต่างๆ นอกจากนี้ ยังมีการจัดกิจกรรมรณรงค์ส่งเสริมการล้างมือ โดยได้ไปแจกตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่ตลาดนัดสวนจตุจักร ตามอาคารสำนักงานต่างๆเช่นแถว สาทร สีลม อโศก รวมถึงลูกค้าที่มาที่ร้านขายยาต่างๆ
ขณะเดียวกันเซฟเคล็นซ์ยังได้ขยายช่องทางการจำหน่ายให้ครอบคลุมทั่วถึงยิ่งขึ้น ทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด จากปัจจุบัน เซฟเคล็นซ์มีขายที่ร้านขายยา ซูเปอร์มาร์เก็ตช เช่น ท็อปส์ โฮมเฟรชมาร์ท ร้านค้าสะดวกซื้อแฟมิลี่มาร์ท คอลล์เซ็นเตอร์ 1577 แอมเวย์ ช็อปเปอร์แค็ตตาล็อก ร้านหนังสือคู่คิด ร้านขายยาในโรงพยาบาลชั้นนำ โรงพยาบาลสัตว์ เป็นต้น
โดยในครึ่งปีหลังนี้จะเพิ่มงบตลาดอีก 20% เพื่อทำการส่งเสริมการขายเพื่อรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดที่เป็นอันดับ 1 ในขณะนี้ โดยเมื่อช่วงต้นนี้ปีนี้ตั้งเป้าหมายยอดขายเดิมไว้ที่ 25% แต่เนื่องจากกระแสความต้องการในช่วงนี้พุ่งสูงมากขึ้น จึงอาจจะต้องปรับเป้าเติบโตเป็น 50% โดยมีขนาด 30 มล. แบบหลอดสำหรับพกพา ราคา 85 บาท ขนาด 50 มล. เป็นประเภทที่ขายดีที่สุด แบบขวดปั๊มสำหรับพกพา ราคา 150 บาท และขนาด 500 มล. แบบขวดปั๊มสำหรับครอบครัวหรือสำนักงาน ราคา 600 บาท
อีกรายที่เพิ่งเปิดตัวนายบุญฤทธิ์ มหามนตรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไลอ้อน ประเทศไทย จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคในเครือสหพัฒน์ กล่าวว่า บริษัทยังได้เปิดตัวเจลล้างมือ คิเรอิ คิเรอิ หลังจากก่อนหน้านี้บริษัทได้เปิดตัวโฟมล้างมือ โดยขณะนี้ได้เร่งทำตลาดอย่างหนัก หลังจากไข้หวัด 2009 แพร่ระบาดในประเทศ ส่งผลให้ยอดขาย 1 เดือน 20 ล้านบาท เนื่องจากผู้บริโภคมีความระมัดระวังมากขึ้น ซึ่งล่าสุดได้แจกสินค้าตัวอย่างเจลล้างมือขนาด 30 มล. เพื่อสร้างการรับรู้และกระตุ้นให้เกิดการทดลองใช้สินค้า พร้อมกันนี้ขยายช่องทางจำหน่ายตามห้างสรรพสินค้า โมเดิร์นเทรด และโรงพยาบาล ทั้งนี้ปัจจุบันสินค้าดังกล่าวยังได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีในประเทศญี่ปุ่น
นายกกวิน สัณฑกุล กรรมการและประธานบริหารฝ่ายการตลาด บริษัท เอก-ชัย ดิสทริบิวชั่น ซิสเท็ม ประเทศไทย จำกัด ผู้บริหารเทสโก้โลตัสในไทย กล่าวว่า
เทสโก้โลตัสได้ผลิตชุดสุขอนามัยออกมาโดยเฉพาะออกมาวางตลาดในแบรนด์ เทสโก้โลตัส เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถป้องกันตัวเองได้ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น ในราคา 35 บาท ประกอบด้วย เจลทำความสะอาดมือ โดยไม่ต้องใช้น้ำ แผ่นเช็ดทำความสะอาดมือ หน้ากากอนามัย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แบรนด์ที่มีความเคลื่อนไหวอีกรายคือ “มายเซฟติค มายบาซิน คลีนซิ่ง แอนด์ เจล” ของ บริษัท เกรทเตอร์ฟาร์ม่า จำกัด ซึ่งขณะนี้ได้เพิ่มไลน์ลติภัณฑ์ออกมาวางตลาดอีกจากเดิมที่จะมีเพียง เจลทำความสะอาดมือแบบไม่ต้องล้างแบบขวดปั๊มตามคำสั่งซื้อเท่านั้น แต่ขณะนี้ได้วางตลาด เจลล้างมือ 2 กลิ่นคือ กลิ่นชาเขียวและกลิ่นแอปเปิล 2 ขนาดคือ 500 มล. กับ 60 มล. ทำตลาดอย่างจริงจัง
และจะมีแบบแฮนด์สเปรย์ ขนาด 8 มล. ขายคู่กับรีฟิลที่ทใช้เติมราคา 150 บาท ทำน้ำยาบ้วนปาก ขนาด 750 มล. ขายเป็นแพคคู่กับหน้ากากอนามัย ชนิดเอ็น 95 จะเริ่มขายปลายเดือนกรกฎาคมนี้
จากกระแสความต้องการที่มากนี้เอง ทำให้ขณะนี้เริ่มมีกระแสข่าวว่า มีสินค้าที่ลอกเลียนแบบและสินค้าปลอมต่างๆออกมาจำหน่าย ซึ่งสร้างความสับสนให้กับลูกค้าและความเสียหายให้กับแบรนด์ดังที่ถูกลอกเลียนแบบอย่างาก เช่นกรณีของ มายเซฟติค มายบาซิน คลีนซิ่ง แฮนด์ ที่เจอสินค้าปลอมเพราะมีเจลสีขาววางจำหน่าย ทั้งๆที่ของจริงจะมีแค่สีเขียวกลิ่นแอปเปิลและกลิ่นชาเขียวเท่านั้น
