xs
xsm
sm
md
lg

กระเป๋าไทยดีไซน์การ์ตูนญี่ปุ่น พลิกกลยุทธ์เปลี่ยนผู้ตามสู่ผู้นำ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดมีมากกว่าพันดีไซน์
วันนี้ หากเข้าไปในร้านสะดวกซื้อยอดฮิต มองไปที่ชั้นขายสินค้ากิฟท์ชอป จะพบเห็นกระเป๋าสีสันสดใส พิมพ์ด้วยลายการ์ตูนสไตล์ญี่ปุ่น แทบทุกคนคงต้องคิดว่าเป็นสินค้าลิขสิทธิ์จากแดนอาทิตย์อุทัย ทว่า ในความเป็นจริง เป็นฝีมือผู้ผลิตไทย 100% ตั้งแต่สร้างสรรค์บุคลิกตัวการ์ตูน ตลอดจนผลิต และจำหน่ายครบวงจร

ผู้อยู่เบื้องหลัง คือ สมโชค แสงไกรรุ่งโรจน์ ประธานกรรมการ บริษัท เอสเอส.โปรดักส์ ดีไซน์ จำกัด ซึ่งพลิกตำแหน่งทางการตลาดจากผู้เดินตามมาสู่ผู้นำ เปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาส ก้าวสู่ความสำเร็จทั้งในแง่ผลประกอบการ และการสร้างแบรนด์บนเวทีโลก
สมโชค แสงไกรรุ่งโรจน์ ประธานกรรมการ บริษัท เอสเอส.โปรดักส์ ดีไซน์ จำกัด
***เปลี่ยนตำแหน่งจากผู้ตามสู่ผู้นำ

ย้อนกลับไปเมื่อเกือบ 20 ปีก่อน สมโชคเริ่มต้นธุรกิจผลิตและจำหน่ายรองเท้า ตามด้วยเข็มขัดหนัง เปิดร้านอยู่ในสยามสแควร์ จนเจอวิกฤตต้มยำกุ้ง จำเป็นต้องหยุดกิจการเดิม แล้วเริ่มทำธุรกิจใหม่ ผลิตกระเป๋าดีไซน์ ด้วยเหตุผล เป็นสินค้าในสายธุรกิจเดิมที่ตัวเองถนัด ประกอบกับสัญชาตญาณส่วนตัวที่เชื่อว่าจะขายได้ดี

สมโชค ลงทุนกับธุรกิจนี้กว่า 2 ล้านบาท โดยโมเดลธุรกิจเหมือนๆ กับผู้ประกอบการอีกจำนวนมากใช้กัน คือ ดูแบบกระเป๋าจากนิตยสารต่างประเทศนำมาประยุกต์ และซื้อลิขสิทธิ์ตัวการ์ตูนชื่อดังจากต่างประเทศมาพิมพ์เป็นลวดลาย จากนั้นไปเสนอตามตลาดสำเพ็ง ซึ่งเป็นแหล่งขายส่งหลัก

ธุรกิจกระเป๋าดังกล่าวได้ผลตอบรับอย่างดี ลายตัวการ์ตูนชื่อดัง ช่วยให้สินค้าติดตลาดอย่างรวดเร็ว เพราะคนส่วนใหญ่รู้จักดีอยู่แล้ว ขายได้ด้วยตัวมันเอง ทว่า ปัญหาที่มาควบคู่กันเสมอ คือ ต้นทุนค่าลิขสิทธิ์สูงลิบ หลักล้านบาทต่อปี อีกทั้ง ยังต้องผลิตสินค้าภายใต้กติกาเข้มงวดจากเจ้าของลิขสิทธิ์

แรงกดดันดังกล่าว กลายเป็นเชื้อไฟผลักดันให้เขาอยากก้าวออกจากการเป็นผู้ตาม สู่ผู้สร้างสรรค์การ์ตูนของตัวเอง

“หลังจากซื้อลิขสิทธิ์มาประมาณ 3-4 ปี ผมก็เริ่มคิดจะทำการ์ตูนของตัวเอง เพราะไม่อยากจะต้องคอยซื้อลิขสิทธิ์ครั้งละแพงๆ แถมยังต้องทำตามกฎกติกาของเขาอีก ดังนั้น ผมจึงเซตทีมงาน ซึ่งมีกำหนดว่า ต้องเก่งทั้งวาดการ์ตูนด้วยมือ และใช้คอมพิวเตอร์ตกแต่งภาพ ที่สำคัญคนที่จะมาทำ แค่ชอบอ่านการ์ตูนไม่พอ แต่ต้องเข้าขั้นบ้าการ์ตูนเลย"
เครื่องพิมพ์ และพนักงานตัดเย็บ
กลยุทธ์ในการใช้ตัวการ์ตูนมาเป็นหัวหอกผลักดันสินค้านั้น สมโชคระบุว่า ดีไซน์บุคลิกเฉพาะแค่ตัวการ์ตูน โดยยังไม่มีเรื่องราวหรือภาพยนตร์รองรับ ซึ่งตัวการ์ตูนที่สร้างสรรค์เป็นตัวแรก นำบุคลิกมาจากลูกสาวคนเดียวของเขาเอง กลายมาเป็นตัวการ์ตูนสาววัยรุ่น สวย เก่ง และฉลาด ในชื่อ “Minmie” (มินมี่) ตามด้วยเพื่อนพ้องอีกหลายตัว เช่น “Yuurei” (ยูเร) และ “Sushi” (ซูชิ) ซึ่งแต่ละตัวจะมีบุคลิกต่างกันไป ในการนำไปตกแต่งบนสินค้าให้เหมาะกับกลุ่มลูกค้าแต่ละประเภท


** แจ้งเกิดการ์ตูนไทยสไตล์ญี่ปุ่น

เนื่องจากเป็นการ์ตูนสัญชาติไทยแท้ๆ การทำตลาดเริ่มต้น จึงเป็นเรื่องยากมาก เพราะลูกค้าซึ่งส่วนใหญ่เป็นร้านขายส่งจะยึดติดกับความเชื่อที่ว่า ต้องเป็นสินค้าพิมพ์การ์ตูนต่างประเทศเท่านั้น จึงจะขายได้ ดังนั้น กลยุทธ์ที่ใช้ระยะแรก จะไม่เน้นชูความเป็นการ์ตูนฝีมือคนไทย


“ตอนไปแนะนำสินค้า ผมก็บอกแค่ว่าเป็นการ์ตูนใหม่ เพราะถ้าไปบอกเป็นของไทย รับรองว่าไม่มีใครยอมรับแน่ แต่จากการวาดที่สวยงามสไตล์ญี่ปุ่น ใครๆ ก็เข้าใจว่าเป็นตัวการ์ตูนนำเข้าของญี่ปุ่นทั้งนั้น กว่าจะรู้ความจริง ก็กว่าครึ่งปี ซึ่งสินค้าติดตลาดไปแล้ว”

สมโชค ยอมรับว่า เริ่มแรกที่คิดจะสร้างตัวการ์ตูนของตัวเอง เพียงแค่อยากให้มาทดแทน หรือแบ่งเบาต้นทุนลิขสิทธิ์จากต่างประเทศ ทว่า ผลตอบรับที่เกิดขึ้น ตัวการ์ตูนมินมี่ และเพื่อนๆ ช่วยกันดันยอดขายเพิ่มขึ้นจากเดิมเสียอีก จนปัจจุบัน บริษัทไม่จำเป็นต้องซื้อลิขสิทธิ์การ์ตูนต่างประเทศอีกต่อไป ผลประกอบการปีที่ผ่านมาทะลุ 8 หลัก และยังก้าวเป็นผู้นำ ขนาดที่ผู้ผลิตจากจีนบางราย ต้องแอบก๊อปปี้ตัวการ์ตูนของเขาไปพิมพ์ด้วยซ้ำ

ภายในโรงงานผลิต
นอกจากจะสร้างความเข้มแข็งของแบรนด์ผ่านตัวการ์ตูน อีกจุดแข็งของบริษัท คือ ดำเนินการได้ครบวงจร ตั้งแต่ออกแบบ ผลิต และจำหน่าย ช่วยให้สร้างสรรค์สินค้าได้หลากหลาย ในระดับต้นทุนควบคุมได้ ขณะที่โรงงาน ใช้แรงงานไทยล้วนๆ วัสดุในประเทศเกือบทั้งหมด เครื่องจักรพิมพ์งานเครื่องหนังได้ทุกประเภท โดยมัศักยภาพผลิตกระเป๋าได้หลักแสนใบต่อเดือน

** วาดฝันการ์ตูนไทยบนเวทีโลก

ประธานบริษัท เผยว่า สัดส่วนการตลาด ณ ปัจจุบัน 30% เป็นตลาดภายใน ผ่านหน้าร้านที่ตลาดนัดสวนจตุจักร และส่งเข้าจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อเจ้าดัง ส่วนอีก 70% จะส่งออกทางอ้อมผ่านร้านตัวแทนจำหน่ายต่างๆ ที่จะสั่งซื้อไปกระจายต่อตามประเทศต่างๆ ทว่า ในระยะ 1-2 ปีที่ผ่านมา บริษัทได้เริ่มทำตลาดต่างประเทศด้วยตัวเองอย่างจริงจัง

สำหรับเป้าหมายต่อไป สมโชค ระบุว่า อยากให้ตัวการ์ตูนที่สร้างสรรค์ขึ้นไปปรากฏในทุกๆ ผลิตภัณฑ์ โดยจะเชิญชวนผู้ผลิตสินค้าประเภทต่างๆ เข้ามาเป็นพันธมิตร นำตัวการ์ตูนของเขาไปติดบนสินค้า ซึ่งจะเกิดประโยชน์แก่ทั้งสองฝ่าย

นอกจากนั้น เตรียมออกมาการ์ตูนเล่ม เริ่มจากเรื่อง "มินมี่" โดยทีมงานจัดทำต้นฉบับเองทั้งหมด แล้วว่าจ้างสำนักพิมพ์การ์ตูนที่มีเครือข่ายใหญ่ๆ เป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายให้ คาดว่าจะออกมาเป็นหนังสือการ์ตูนได้ประมาณปลายปีนี้

และเป้าหมายสูงสุด คือ สร้างการ์ตูนแอดิเมชั่น 2 มิติ ฉายทางโทรทัศน์ ซึ่งจะเป็นจิ๊กซอว์ ชิ้นสุดท้ายที่ต่อให้ธุรกิจทุกส่วนกลายมาเป็นภาพเดียวกันทั้งหมด

สมโชค ทิ้งท้ายว่า ความสำเร็จที่ผ่านมา ไม่ได้เกิดจากความต้องการ “เงิน” เป็นเรื่องสูงสุด แต่จุดหมายหลักต้องการทำงานเพื่อผลงานที่ดีที่สุด และเชื่อว่า เมื่อผลงานออกมาดีที่สุดแล้ว ผลประโยชน์อื่นๆ จะตามเข้ามาเอง ซึ่งผลตอบรับที่ผ่านมา ยืนยันว่า ความคิดดังกล่าวเป็นจริงแน่นอน

************************

โทร.0-2808-7150-3 หรือ www.minmie.com
กำลังโหลดความคิดเห็น