“วิมลศิริ สันติวิภานนท์” เป็นอีกคนที่เบื่อหน่ายชีวิตเงินเดือน ตัดสินใจลาออกมาสร้างธุรกิจตามแบบฉบับตัวเอง โดยใช้ความรักงานแฟชั่น มาสร้างสรรค์เสื้อยืดที่มีเอกลักษณ์เด่น หยิบเศษผ้าชิ้นเล็กชิ้นน้อย มาประดับตกแต่งบนตัวเสื้อ นอกจากจะสวยแปลกตาแล้ว ยังเข้ากับกระแสช่วยโลก จึงถูกใจลูกค้ากลุ่ม “เด็กแนว” ต้องซื้อหาไว้สักตัว
เจ้าของธุรกิจ เล่าว่า เดิมใช้ชีวิตเหมือนมนุษย์เงินเดือนทั่วไป คือ เช้าตอกบัตรเข้างาน เย็นตอกบัตรออก เสาร์อาทิตย์เดินห้าง เป็นเช่นนี้อยู่นาน จนกลายเป็นความซ้ำซากจำเจอยากจะหลุดจากวงจรเช่นนี้เหลือเกิน ในที่สุด เมื่อถึงจุดอิ่มตัวจริงๆ ตัดสินใจลาออกจากงานประจำเลย ทั้งๆ ที่ยังไม่มีอาชีพใหม่รองรับด้วยซ้ำ
“ช่วงแรกออกมาก็อยู่บ้านเฉยๆ ก่อน ค่อยๆคิดว่าเราอยากทำอะไร ก็มานึกถึงตัวเองเป็นคนชอบงานแฟชั่นพวกเสื้อผ้า ก็ลองไปซื้อหนังสือแฟชั่น และเดินดูเสื้อผ้าตามย่านแฟชั่น เพื่อใช้เป็นไอเดียนำมาประยุกต์ออกแบบเสื้อผ้าดีไซน์ของเราเอง ส่วนการผลิตใช้วิธีว่าจ้างช่างตัดเย็บตามแบบที่ต้องการ แล้วไปเช่าพื้นที่ขายในห้างเซ็นทรัลพระราม 2 ซึ่งตอนนั้นเพิ่งเปิดใหม่เลย”
วิมลศิริ ระบุว่า ใช้เงินลงทุนในเบื้องต้นประมาณ 1 แสนบาท โดยตั้งชื่อแบรนด์ We’re What We’re ตั้งแต่แรก เพื่อสื่อว่า เป็นเสื้อตามแบบฉบับของตัวเอง
อย่างไรก็ตาม ธุรกิจยังไม่ประสบความสำเร็จนัก เนื่องจากเวลานั้นห้างเซ็นทรัลพระราม 2 เพิ่งเปิดใหม่ คนเดินยังไม่มากนัก ทำให้เสื้อขายไม่ค่อยดี เหลือค้างสต๊อกจำนวนมาก
เพื่อจะระบายสินค้า เธอลองเปลี่ยนมาเปิดท้ายขายของที่ลานหน้าเมเจอร์ ปิ่นเกล้า ปรากฏว่า ได้การตอบรับที่ดีมาก เลยเปลี่ยนมายึดทำเลแห่งนี้แทน
“ตอนนั้น เสื้อที่ขายจะเป็นแนวแฟชั่นของผู้หญิง ซึ่งจะมีข้อดี คือ ถ้าขายดีก็จะดีมาก ลงของแป๊บเดียวขายหมด แต่ข้อเสีย คือ เราต้องตามแฟชั่นให้ทัน อะไรนิยมขึ้นมาต้องรีบทำขาย เพราะถ้าออกช้าหลุดกระแสไปแล้ว สินค้าจะขายไม่ได้เลย กลายเป็นสต๊อกค้างจำนวนมาก” วิมลศิริ เล่าถึงสาเหตุที่เป็นจุดหันเหที่ลองเปลี่ยนดีไซน์จากแนวแฟชั่นมาทำเสื้อยืดเด็กแนว
“ส่วนตัวแล้ว ดิฉันเป็นคนรักงานเย็บปักถักร้อย แต่ว่าไม่มีฝีมือด้านเย็บจักรเลย ทำได้แค่เย็บมือง่ายๆ ก็เลยลองเอาเศษผ้ามาตัดเป็นตัวการ์ตูน ดอกไม้ หรือสัตว์ฯลฯ แล้วเย็บด้วยมือง่ายๆ เพื่อใส่เอง เวลาไปขายเสื้อที่หน้าเมเจอร์ฯ ลูกค้าก็จะถามว่า ซื้อมาจากไหน บางคนก็จะขอซื้อ ดิฉันเห็นว่า คนที่ชอบงานแบบนี้ก็มีไม่น้อยนะ จึงลองทำออกมาขาย ตอนแรกทำแค่ขนาดเดียว มีขายแค่ไม่กี่ตัว ปรากฏว่า ลูกค้าวัยรุ่นสนใจมาก ประกอบกับตอนนั้น คำว่า “เด็กแนว” เริ่มฮิตในหมู่วัยรุ่นใหม่ๆ เด็กพวกนี้ก็จะชอบเสื้อแบบนี้มาก เพราะมันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ใส่แล้วไม่ซ้ำใครแถมมีความเป็นธรรมชาติสูง”
นอกจากนั้น เมื่อลองขยายธุรกิจ ขายในตลาดนัดสวนจตุจักร เสื้อยืดปักมือยิ่งได้รับความสนใจมากขึ้นไปอีก เพราะมีผู้ติดต่อสั่งออเดอร์ไปขายต่อจำนวนมาก ช่วยเพิ่มยอดขายจากเดิมเป็นเท่าตัว และที่สำคัญช่วยสร้างเอกลักษณ์ให้ลูกค้าจดจำแบรนด์ได้เป็นอย่างดี จนที่สุดหันมายึดการผลิตเสื้อยืดปักมือเป็นหลักทดแทนเสื้อแนวแฟชั่นไปเลย
วิมลศิริ เผยถึงขั้นตอนผลิตในปัจจุบัน จะมีทีมงานผลิตของตัวเองครบวงจร ประมาณ 20 คน ตั้งแต่เย็บเสื้อยืด เย็บและปักลวดลายต่างๆ ด้วยมือ วัตถุดิบผ้าที่ใช้เป็นคัดตอน 100% ส่วนอุปกรณ์ที่มาประดับ เช่น ผ้ายืด กระดุม ไหมพรม ลูกปัด ฯลฯ ทั้งหมดออกแบบด้วยตัวเองตามจินตนาการและความชอบส่วนตัว เน้นให้ออกมาดูน่ารัก สดใส สไตล์หวานๆ เหมาะสำหรับเด็กสาววัยรุ่น
เสื้อยืด We’re What We’re มีให้เลือกถึง 5 ขนาด ตั้งแต่ S , M , L , XL และ XXL รวมถึงมีเสื้อยืดสำหรับเด็กด้วย ราคาขายส่งที่ตัวละ 100-120 บาท ส่วนขายปลีกตัวละ 180-220 บาท ด้านดีไซน์ให้เลือกสรรนับร้อยๆ แบบทีเดียว
สำหรับสัดส่วนตลาด แบ่งเป็นขายส่งประมาณ 70% ส่วนขายปลีก 30% ผ่านหน้าร้านที่ตลาดนัดสวนจตุจักรโครงการ3 ซอย 43/1 ห้อง 107 และที่ชั้น 3 ห้อง 657 ที่ประตูน้ำแพลทตินั่ม
ในส่วนปัญหานั้น ประการแรก เนื่องจากเป็นงานแฮนด์เมด มีข้อจำกัดที่ไม่สามารถจะผลิตในปริมาณครั้งละมากๆ ดังนั้น แก้ปัญหาว่า ในช่วงหน้าฝน ซึ่งถือเป็น Low Season ของธุรกิจเสื้อผ้า จะผลิตสินค้าเก็บเป็นสต๊อกไว้ขายในช่วงปลายปี ซึ่งเป็น Hi Season เป็นต้น
อีกปัญหา สินค้าโดนลอกเลียน ไม่เพียงแค่ดีไซน์เท่านั้น แม้แต่ชื่อแบรนด์ยังถูกนำไปแอบอ้าง ถึงจะจดเครื่องหมายการค้าไว้แล้ว แต่แทบจะไม่ช่วยแก้ปัญหาได้เลย ทางป้องกันที่ดีที่สุด คือ พยายามออกแบบใหม่ๆ เพื่อหนีคู่แข่งไปเรื่อยๆ พร้อมกับรักษาคุณภาพสินค้าไว้เสมอ
นอกจากนั้น อุปสรรคสำคัญที่เวลานี้ผู้ประกอบการแทบทุกรายเจอคล้ายๆ กันคือ ออเดอร์ลดลงเพราะวิกฤตเศรษฐกิจ ทำให้ลูกค้าต่างชาติน้อยลง ขณะเดียวกันลูกค้าคนไทยก็ระมัดระวังการจับจ่ายเพิ่มขึ้น ดังนั้น พยายามปรับตัว โดยออกแบบสินค้าใหม่กระตุ้นความน่าสนใจ เช่น เพิ่มเติมเสื้อยืดคอวี แขนยาว และเสื้อคอโปโล ทั้งหมดยังคงยึดสไตล์การปักมือไว้ นอกจากนั้น เสริมช่องทางขายผ่านทาง เว็บไซต์ และสุดท้าย หวังว่า สภาพเศรษฐกิจจะกลับมาฟื้นตัวในเร็ววัน
*********************
โทร.08-9888-4814 , 08-7252-6562