ASTVผู้จัดการรายวัน –วิกฤตเศรษฐกิจลูกค้ารับสร้างบ้านสุดช้ำ ถูกบริษัทรับสร้างบ้านงัดวิชามาร "สร้างบ้านไม่ได้บ้าน" ทั้งหยุดทำ ทิ้งงาน ถ่วงเวลา ปล่อยให้ลูกค้ารับภาระหนี้ บางรายคดีความหมดอายุ ต้องนั่งผ่อนเงินกู้กับแบงก์หัวโต คนในวงการแฉพฤติกรรม บริษัทแบล็กลิสต์"เพลสซิเด้นซ์โฮม "ฉาวโฉ่สุด "ศิวัช ภูธนแสงทอง" ล่าสุดผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนโผล่อีก38ราย ทั้งร้องสคบ. ยื่นฟ้องคดี บอกเลิกสัญญา ด้านนายกสมาคมรับสร้างบ้านโบ้ยไม่ออกความเห็น ส่วนคนในวงการแฉพฤติกรรม“ศิวัช ภูธนแสงทอง”เน่า
วิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในหลายประเทศไทย ได้ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อภาคธุรกิจต่างๆ แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงในสถานการณ์เช่นนี้ คือ การที่ผู้บริโภคจะถูกเอารัดเอาเปรียบ โดยเฉพาะธุรกิจบริการที่เกี่ยวกับธุรกิจรับสร้างบ้าน ที่พบว่ามีคดีฟ้องร้องและร้องเรียนต่อหน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภคมากขึ้น อาทิ พฤติกรรมที่ส่อไปในทางฉ้อโกงลูกค้าเหล่านี้ ไม่ปฏิบัติตามสัญญาที่ได้ตกลงไว้กับลูกค้า หลังจากได้เบิกเงินในการก่อสร้างบ้านจากลูกค้ามาหลายงวด
ล่าสุด กลุ่มผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากพฤติกรรมการฉ้อโกงของบริษัทเพรสซิเดนท์ โฮม จำกัด ในเครือของภูธนแสงทอง ที่ดำเนินธุรกิจรับสร้างบ้านกว่า 38ราย ได้รวมตัวกันออกมา เรียกร้องหาความรับผิดชอบจากบริษัทฯแล้ว โดยมีผู้เสียหายบางส่วนที่ได้บอกเลิกสัญญาและยื่นเรื่องให้ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เข้ามาตรวจสอบและดำเนินการเรื่องดังกล่าวแล้ว แต่การดำเนินการในเรื่องยังล่าช้ามาก นอกจากนี้ ลูกค้าบางรายที่เตรียมดำเนินการยื่นฟ้องบริษัทฯด้วย
แฉ‘เพรสซิเดนท์โฮม’ฉาว
ในจำนวนหลายคดีที่เกิดขึ้น ลูกค้าที่ใช้บริการรับสร้างบ้านรายหนึ่ง ได้ร้องเรียนมายังหนังสือพิมพ์ “ASTVผู้จัดการรายวัน ” ถึงพฤติกรรมของบริษัท เพรสซิเดนท์โฮม จำกัด มีนายศิวัช ภูธนแสงทอง ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการและเป็นเจ้าของบริษัทฯว่าตนได้ว่าจ้างให้บริษัทฯเข้ามาทำการก่อสร้างบ้าน ซึ่งเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาด 126 ตารางวา ด้วยมูลค่าว่าจ้างกว่า 3 ล้านบาท ซึ่งตามข้อตกลงแล้ว การก่อสร้างทั้งหมดจะต้องแล้วเสร็จในปี 2551 แต่งานก่อสร้างก็ไม่มีความก้าวหน้าตามข้อตกลง
“ แม้ว่าเราจะให้โอกาสบริษัท เพรสซิเดนท์โฮม ทำการก่อสร้างบ้านให้แล้วเสร็จ โดยกำหนดให้ภายในเดือนเม.ย. ทุกอย่างต้องสมบูรณ์ แต่จนแล้วจนรอด ก็ไม่เสร็จ และตอนนี้ก็ไม่ทำแล้ว ซึ่งผมก็ไม่รู้จะไปพึ่งใคร จึงตัดสินใจมาร้องเรียนกับหนังสือพิมพ์ เพราะอย่างน้อย ก็น่าจะทำให้องค์กรที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแล ที่สำคัญเงินที่จ่ายไปกับเงินที่ไปขอกู้กับธนาคารไทยพาณิชย์ ผมก็ต้องจ่ายดอกเบี้ยให้ทุกเดือน แทนที่แบงก์จะไปไล่จี้บริษัทรับสร้างบ้านรายนี้ แต่กลับพูดว่า เห็นใจ แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร อย่างนี้ ผมก็เสียดอกเบี้ยฟรี”ลูกค้ากล่าวด้วยความช้ำใจกับการเลือกใช้บริษัทรับสร้างบ้าน
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค(สคบ.) ได้รับข้อมูลว่า ปัจจุบันการกระทำผิดสัญญาระหว่างผู้ประกอบการธุรกิจกับผู้บริโภคเริ่มมีสูงขึ้น ทำให้สคบ.ต้องพิจารณาหาแนวทางในการป้องกันปัญหา ซึ่งล่าสุดอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลการแก้ปัญหาการกระทำผิดสัญญา เพื่อกำหนดเป็นข้อปฏิบัติในการร่างสัญญาทั่วไป ซึ่งอาจจะมีข้อกำหนดเบื้องต้นว่า ในการทำสัญญาทั่วไป จะต้องมีข้อปฏิบัติใดบ้างที่จะต้องเขียนไว้ในการทำสัญญาร่วมกัน ในส่วนของการดำเนินการกับบริษัทรับสร้างบ้านที่ไม่ปฏิบัติตามสัญญานั้น พบว่า ธุรกิจที่เกี่ยวโยงกับนายศิวัช ภูธนแสงทอง มีการสั่งฟ้องคดีใน
ส่วนของบริษัท ภูธนแสงทอง จำกัดไปแล้ว 1 คดี จากจำนวน 6 เรื่อง และสั่งฟ้องคดีบริษัท พีทีเอส โฮม จำกัด จำนวน 2 เรื่อง ซึ่งทั้ง 2 บริษัทฯมีนายศิวัช ภูธนแสงทอง เป็นผู้ก่อตั้ง
สมาคมรับสร้างบ้านโบ้ยไม่เกี่ยว!
จากปัญหาการทิ้งงานสร้างบ้านให้ลูกค้าของบริษัท เพรสซิเด้นท์ โฮมฯ กำลังกลายเป็น “เนื้อร้าย”ต่อตลาดรับสร้างบ้าน โดยก่อนหน้านี้ ทางผู้สื่อข่าวได้มีการสอบถามไปยัง นายพันธุ์เทพ ทานชิติกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมคเคอร์โฮม จำกัด ในฐานะนายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน ซึ่งกำกับดูแลสมาชิกบริษัทรับสร้างบ้านในสมาคมฯ และลูกค้าที่ได้รับความเดือดร้อนจากการดำเนินงานของบริษัทรับสร้างบ้าน โดยได้รับคำตอบต่อ
เรื่องดังกล่าวว่า ในฐานะที่เป็นนายกสมาคมฯไม่สามารถให้ความเห็นในเรื่องดังกล่าวได้ เนื่องจากบริษัท ภูธนแสงทอง บริษัท พีทีเอส โฮม (PTS Home) และบริษัท เพรสซิเด้นท์ โฮม จำกัด ไม่ได้เป็นสมาชิกของสมาคมฯแล้ว
“ ธุรกิจรับสร้างบ้านเอง เป็นธุรกิจเปิดเสรี ไม่สามารถห้ามให้ใคร หรือบุคคลใดเข้ามาประกอบธุรกิจนี้ได้ ”นายกสมาคมฯกล่าว
และเมื่อถามว่า จะมีคำแนะนำลูกค้าอย่างไรไม่ให้ถูกหลอกลวงหรือถูกฉ้อโกง หรือแนะนำลูกค้าว่า ควรจะเลือกบริษัทรับสร้างบ้านอย่างไรจึงไม่พบปัญหาดังกล่าว ก็ได้รับคำตอบว่า เรื่องดังกล่าวไม่สามารถให้คำแนะนำได้ แต่เชื่อว่าลูกค้าจะมีวิจารณญาณในการเลือกใช้ผู้ประกอบการได้เอง
อนึ่ง จากการตั้งข้อสังเกต กรณีการฉ้อโกงลูกค้าของบริษัท สุระปัญญา จำกัด บริษัทรับสร้างบ้านที่ถูกฟ้องร้องคดีฉ้อโกงทรัพย์ ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการดำเนินคดีที่ศาลอาญา ก็เป็นบริษัทที่ไม่ได้เป็นสมาชิกของสมาคมฯ แต่ในขณะนั้นสมาคมฯเองก็ได้มีการรวบรวมข้อมูล และยื่นข้อมูล ชี้มูลความผิดของบริษัท สุระปัญญา ซึ่งเป็นไปตามเจตนารมณ์ในการจัดตั้งสมาคมฯในครั้งแรก ซึ่งเดิมเจตนารมณ์ในการการก่อสร้างสมาคมฯก่อตั้งขึ้นมา เพื่อเป็นการยกระดับบริษัทรับสร้างบ้านทั้งในสมาคมรับสร้างบ้านและนอกสมาคมฯ
คนในวงการขยาด”ภูธนแสงทอง”สุดฉาว
แหล่งข่าวจากบริษัทรับสร้างบ้านกล่าวว่า กรณีของบริษัท ภูธนแสงทองฯ นั้น จากการตรวจสอบ เดิมทีเป็นสมาชิกอยู่ในสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน ซึ่งในช่วงแรกของการจัดตั้งสมาคมฯนั้น ไม่ได้มีการตรวจสอบประวัติและผลการดำเนินงานของสมาชิกที่เข้มข้นเหมือนปัจจุบัน เนื่องจากต้องการรวบรวมกลุ่มผู้ประกอบการให้เข้ามาร่วมกันก่อตั้งสามาคมฯ แต่หลังจากที่บริษัท ภูธนแสงทองฯ เข้ามาเป็นสมาชิกสมาคมฯแล้ว ปรากฏว่ามีการร้องเรียนจากลูกค้าเข้ามาจำนวนมาก
ต่อมาสมาคมฯได้เรียกบริษัทดังกล่าวเข้ามาเจรจาให้ดำเนินการ ซึ่งบริษัทภูธนแสงทอง ก็รับปากว่าจะดำเนินการก่อสร้างต่อให้แล้วเสร็จ แต่หลังจากนั้น ก็ยังมีการร้องเรียนของลูกค้าเข้ามาต่อเนื่อง ทำให้สมาคมฯเรียกให้บริษัทภูธนแสงทองฯและลูกค้า เข้ามาเจรจากันอีกครั้ง และครั้งนั้น บริษัทฯดังกล่าว รับปากว่าจะจ่ายค่าชดเชย 2 แสนบาท เป็นค่าชดเชยงานก่อสร้างที่ล่าช้า แต่ปรากฏว่ามีการจ่ายค่าชดเชยเพียง 1 แสนบาท ทำให้ลูกค้าเข้ามาร้องเรียนอีกครั้งและครั้งนั้น นายศิวัช ภูธนแสงทอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ภูธนแสงทอง จำกัด ปฏิเสธที่จะดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น ในขณะที่ลูกค้าเองไม่ต้องการดำเนินการถึงขั้นศาล เพราะเป็นผู้ประกอบธุรกิจ ทำให้ไม่สามารถดำเนินการเอาผิดทางกฎหมายกับบริษัทดังกล่าวได้
นอกจากนี้ ในระหว่างการเจรจา ก็ปรากฏว่า ได้มีลูกค้าอีกหลายรายร้องเรียนบริษัทภูธนแสงทองฯเข้ามาต่อเนื่อง ทำให้นายศิวัช ได้ไปจัดตั้งบริษัท พีทีเอส โฮม จำกัด และเข้ามาขอต่ออายุสมาชิกกับสมาคมรับสร้างบ้าน ซึ่งเมื่อตรวจสอบหลักฐานการจดทะเบียนบริษัทพีทีเอส โฮมฯ แม้จะไม่ปรากฏชื่อนายศิวัช แต่นายศิวัช ได้นำพนักงานบริษัทมาถือหุ้นในบริษัทแทน เพื่อฟ้องกันการถูกฟ้องเอาผิดทางกฎหมายได้
หลังจากที่มีการยื่นต่ออายุสมาชิกแล้ว ปรากฏว่าได้มีลูกค้ารายใหม่เข้ามาร้องเรียนต่อสมาคมฯ ทั้งในส่วนของผู้ค้าวัสดุก่อสร้างและลูกค้าสร้างบ้าน ซึ่งทางสมาคมฯได้เรียกนายศิวัช เข้ามาเจรจาและขอให้ออกจากสมาคมฯไป แต่นายศิวัช ได้ยื่นเรื่องฟ้องศาลว่า ทางสมาคมฯได้ให้ข่าวเสียหายต่อชื่อเสียงของบริษัท ซึ่งขณะนั้นนายศักดา โควิสุทธิ์ ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมฯอยู่ ก็ได้มีการพูดคุยเจรจาไกล่เกลี่ยกันจนในที่สุดต่างฝ่ายต่างไม่เลิกแล้วต่อกันไป.
วิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในหลายประเทศไทย ได้ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อภาคธุรกิจต่างๆ แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงในสถานการณ์เช่นนี้ คือ การที่ผู้บริโภคจะถูกเอารัดเอาเปรียบ โดยเฉพาะธุรกิจบริการที่เกี่ยวกับธุรกิจรับสร้างบ้าน ที่พบว่ามีคดีฟ้องร้องและร้องเรียนต่อหน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภคมากขึ้น อาทิ พฤติกรรมที่ส่อไปในทางฉ้อโกงลูกค้าเหล่านี้ ไม่ปฏิบัติตามสัญญาที่ได้ตกลงไว้กับลูกค้า หลังจากได้เบิกเงินในการก่อสร้างบ้านจากลูกค้ามาหลายงวด
ล่าสุด กลุ่มผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากพฤติกรรมการฉ้อโกงของบริษัทเพรสซิเดนท์ โฮม จำกัด ในเครือของภูธนแสงทอง ที่ดำเนินธุรกิจรับสร้างบ้านกว่า 38ราย ได้รวมตัวกันออกมา เรียกร้องหาความรับผิดชอบจากบริษัทฯแล้ว โดยมีผู้เสียหายบางส่วนที่ได้บอกเลิกสัญญาและยื่นเรื่องให้ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เข้ามาตรวจสอบและดำเนินการเรื่องดังกล่าวแล้ว แต่การดำเนินการในเรื่องยังล่าช้ามาก นอกจากนี้ ลูกค้าบางรายที่เตรียมดำเนินการยื่นฟ้องบริษัทฯด้วย
แฉ‘เพรสซิเดนท์โฮม’ฉาว
ในจำนวนหลายคดีที่เกิดขึ้น ลูกค้าที่ใช้บริการรับสร้างบ้านรายหนึ่ง ได้ร้องเรียนมายังหนังสือพิมพ์ “ASTVผู้จัดการรายวัน ” ถึงพฤติกรรมของบริษัท เพรสซิเดนท์โฮม จำกัด มีนายศิวัช ภูธนแสงทอง ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการและเป็นเจ้าของบริษัทฯว่าตนได้ว่าจ้างให้บริษัทฯเข้ามาทำการก่อสร้างบ้าน ซึ่งเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาด 126 ตารางวา ด้วยมูลค่าว่าจ้างกว่า 3 ล้านบาท ซึ่งตามข้อตกลงแล้ว การก่อสร้างทั้งหมดจะต้องแล้วเสร็จในปี 2551 แต่งานก่อสร้างก็ไม่มีความก้าวหน้าตามข้อตกลง
“ แม้ว่าเราจะให้โอกาสบริษัท เพรสซิเดนท์โฮม ทำการก่อสร้างบ้านให้แล้วเสร็จ โดยกำหนดให้ภายในเดือนเม.ย. ทุกอย่างต้องสมบูรณ์ แต่จนแล้วจนรอด ก็ไม่เสร็จ และตอนนี้ก็ไม่ทำแล้ว ซึ่งผมก็ไม่รู้จะไปพึ่งใคร จึงตัดสินใจมาร้องเรียนกับหนังสือพิมพ์ เพราะอย่างน้อย ก็น่าจะทำให้องค์กรที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแล ที่สำคัญเงินที่จ่ายไปกับเงินที่ไปขอกู้กับธนาคารไทยพาณิชย์ ผมก็ต้องจ่ายดอกเบี้ยให้ทุกเดือน แทนที่แบงก์จะไปไล่จี้บริษัทรับสร้างบ้านรายนี้ แต่กลับพูดว่า เห็นใจ แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร อย่างนี้ ผมก็เสียดอกเบี้ยฟรี”ลูกค้ากล่าวด้วยความช้ำใจกับการเลือกใช้บริษัทรับสร้างบ้าน
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค(สคบ.) ได้รับข้อมูลว่า ปัจจุบันการกระทำผิดสัญญาระหว่างผู้ประกอบการธุรกิจกับผู้บริโภคเริ่มมีสูงขึ้น ทำให้สคบ.ต้องพิจารณาหาแนวทางในการป้องกันปัญหา ซึ่งล่าสุดอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลการแก้ปัญหาการกระทำผิดสัญญา เพื่อกำหนดเป็นข้อปฏิบัติในการร่างสัญญาทั่วไป ซึ่งอาจจะมีข้อกำหนดเบื้องต้นว่า ในการทำสัญญาทั่วไป จะต้องมีข้อปฏิบัติใดบ้างที่จะต้องเขียนไว้ในการทำสัญญาร่วมกัน ในส่วนของการดำเนินการกับบริษัทรับสร้างบ้านที่ไม่ปฏิบัติตามสัญญานั้น พบว่า ธุรกิจที่เกี่ยวโยงกับนายศิวัช ภูธนแสงทอง มีการสั่งฟ้องคดีใน
ส่วนของบริษัท ภูธนแสงทอง จำกัดไปแล้ว 1 คดี จากจำนวน 6 เรื่อง และสั่งฟ้องคดีบริษัท พีทีเอส โฮม จำกัด จำนวน 2 เรื่อง ซึ่งทั้ง 2 บริษัทฯมีนายศิวัช ภูธนแสงทอง เป็นผู้ก่อตั้ง
สมาคมรับสร้างบ้านโบ้ยไม่เกี่ยว!
จากปัญหาการทิ้งงานสร้างบ้านให้ลูกค้าของบริษัท เพรสซิเด้นท์ โฮมฯ กำลังกลายเป็น “เนื้อร้าย”ต่อตลาดรับสร้างบ้าน โดยก่อนหน้านี้ ทางผู้สื่อข่าวได้มีการสอบถามไปยัง นายพันธุ์เทพ ทานชิติกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมคเคอร์โฮม จำกัด ในฐานะนายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน ซึ่งกำกับดูแลสมาชิกบริษัทรับสร้างบ้านในสมาคมฯ และลูกค้าที่ได้รับความเดือดร้อนจากการดำเนินงานของบริษัทรับสร้างบ้าน โดยได้รับคำตอบต่อ
เรื่องดังกล่าวว่า ในฐานะที่เป็นนายกสมาคมฯไม่สามารถให้ความเห็นในเรื่องดังกล่าวได้ เนื่องจากบริษัท ภูธนแสงทอง บริษัท พีทีเอส โฮม (PTS Home) และบริษัท เพรสซิเด้นท์ โฮม จำกัด ไม่ได้เป็นสมาชิกของสมาคมฯแล้ว
“ ธุรกิจรับสร้างบ้านเอง เป็นธุรกิจเปิดเสรี ไม่สามารถห้ามให้ใคร หรือบุคคลใดเข้ามาประกอบธุรกิจนี้ได้ ”นายกสมาคมฯกล่าว
และเมื่อถามว่า จะมีคำแนะนำลูกค้าอย่างไรไม่ให้ถูกหลอกลวงหรือถูกฉ้อโกง หรือแนะนำลูกค้าว่า ควรจะเลือกบริษัทรับสร้างบ้านอย่างไรจึงไม่พบปัญหาดังกล่าว ก็ได้รับคำตอบว่า เรื่องดังกล่าวไม่สามารถให้คำแนะนำได้ แต่เชื่อว่าลูกค้าจะมีวิจารณญาณในการเลือกใช้ผู้ประกอบการได้เอง
อนึ่ง จากการตั้งข้อสังเกต กรณีการฉ้อโกงลูกค้าของบริษัท สุระปัญญา จำกัด บริษัทรับสร้างบ้านที่ถูกฟ้องร้องคดีฉ้อโกงทรัพย์ ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการดำเนินคดีที่ศาลอาญา ก็เป็นบริษัทที่ไม่ได้เป็นสมาชิกของสมาคมฯ แต่ในขณะนั้นสมาคมฯเองก็ได้มีการรวบรวมข้อมูล และยื่นข้อมูล ชี้มูลความผิดของบริษัท สุระปัญญา ซึ่งเป็นไปตามเจตนารมณ์ในการจัดตั้งสมาคมฯในครั้งแรก ซึ่งเดิมเจตนารมณ์ในการการก่อสร้างสมาคมฯก่อตั้งขึ้นมา เพื่อเป็นการยกระดับบริษัทรับสร้างบ้านทั้งในสมาคมรับสร้างบ้านและนอกสมาคมฯ
คนในวงการขยาด”ภูธนแสงทอง”สุดฉาว
แหล่งข่าวจากบริษัทรับสร้างบ้านกล่าวว่า กรณีของบริษัท ภูธนแสงทองฯ นั้น จากการตรวจสอบ เดิมทีเป็นสมาชิกอยู่ในสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน ซึ่งในช่วงแรกของการจัดตั้งสมาคมฯนั้น ไม่ได้มีการตรวจสอบประวัติและผลการดำเนินงานของสมาชิกที่เข้มข้นเหมือนปัจจุบัน เนื่องจากต้องการรวบรวมกลุ่มผู้ประกอบการให้เข้ามาร่วมกันก่อตั้งสามาคมฯ แต่หลังจากที่บริษัท ภูธนแสงทองฯ เข้ามาเป็นสมาชิกสมาคมฯแล้ว ปรากฏว่ามีการร้องเรียนจากลูกค้าเข้ามาจำนวนมาก
ต่อมาสมาคมฯได้เรียกบริษัทดังกล่าวเข้ามาเจรจาให้ดำเนินการ ซึ่งบริษัทภูธนแสงทอง ก็รับปากว่าจะดำเนินการก่อสร้างต่อให้แล้วเสร็จ แต่หลังจากนั้น ก็ยังมีการร้องเรียนของลูกค้าเข้ามาต่อเนื่อง ทำให้สมาคมฯเรียกให้บริษัทภูธนแสงทองฯและลูกค้า เข้ามาเจรจากันอีกครั้ง และครั้งนั้น บริษัทฯดังกล่าว รับปากว่าจะจ่ายค่าชดเชย 2 แสนบาท เป็นค่าชดเชยงานก่อสร้างที่ล่าช้า แต่ปรากฏว่ามีการจ่ายค่าชดเชยเพียง 1 แสนบาท ทำให้ลูกค้าเข้ามาร้องเรียนอีกครั้งและครั้งนั้น นายศิวัช ภูธนแสงทอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ภูธนแสงทอง จำกัด ปฏิเสธที่จะดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น ในขณะที่ลูกค้าเองไม่ต้องการดำเนินการถึงขั้นศาล เพราะเป็นผู้ประกอบธุรกิจ ทำให้ไม่สามารถดำเนินการเอาผิดทางกฎหมายกับบริษัทดังกล่าวได้
นอกจากนี้ ในระหว่างการเจรจา ก็ปรากฏว่า ได้มีลูกค้าอีกหลายรายร้องเรียนบริษัทภูธนแสงทองฯเข้ามาต่อเนื่อง ทำให้นายศิวัช ได้ไปจัดตั้งบริษัท พีทีเอส โฮม จำกัด และเข้ามาขอต่ออายุสมาชิกกับสมาคมรับสร้างบ้าน ซึ่งเมื่อตรวจสอบหลักฐานการจดทะเบียนบริษัทพีทีเอส โฮมฯ แม้จะไม่ปรากฏชื่อนายศิวัช แต่นายศิวัช ได้นำพนักงานบริษัทมาถือหุ้นในบริษัทแทน เพื่อฟ้องกันการถูกฟ้องเอาผิดทางกฎหมายได้
หลังจากที่มีการยื่นต่ออายุสมาชิกแล้ว ปรากฏว่าได้มีลูกค้ารายใหม่เข้ามาร้องเรียนต่อสมาคมฯ ทั้งในส่วนของผู้ค้าวัสดุก่อสร้างและลูกค้าสร้างบ้าน ซึ่งทางสมาคมฯได้เรียกนายศิวัช เข้ามาเจรจาและขอให้ออกจากสมาคมฯไป แต่นายศิวัช ได้ยื่นเรื่องฟ้องศาลว่า ทางสมาคมฯได้ให้ข่าวเสียหายต่อชื่อเสียงของบริษัท ซึ่งขณะนั้นนายศักดา โควิสุทธิ์ ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมฯอยู่ ก็ได้มีการพูดคุยเจรจาไกล่เกลี่ยกันจนในที่สุดต่างฝ่ายต่างไม่เลิกแล้วต่อกันไป.