วานนี้ (6 ก.ค.) ภาคีคณาจารย์ นักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา นำโดย ผศ.ดร.สามารถ จับโจร อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ได้ร่วมกันออกแถลงการณ์ เรียกร้องหยุดการปลุกระดมประชาชน และคัดค้านการล่า 1 ล้านรายชื่อ เพื่อถวายฎีกา ขอพระราชทานอภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษชายหนีคดีอาญาแผ่นดิน
แถลงการณ์ดังกล่าว ระบุว่า จากกรณีของลิ่วล้อ ตลอดจนผู้สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษต้องคดีอาญาแผ่นดินและกำลังหลบหนีคดีอยู่ในขณะนี้ ได้พยายามหาช่องทางให้พ.ต.ท.ทักษิณ พ้นผิด และกลับมามีอำนาจอีกครั้ง โดยอาศัยพี่น้องประชาชนเป็นเครื่องมือ เสนอล่ารายชื่อประชาชนให้ได้ 1 ล้านคน เพื่อถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจว่า การกระทำเช่นนั้น ผิดขั้นตอน และวิธีปฏิบัติในการขอพระราชทานอภัยโทษ
"ไม่ใช่การเอาชื่อประชาชนจำนวนมากมาเป็นกำบังฉากหน้า หรือมากดดันพระราชวินิจฉัย เพราะถือเป็นเรื่องที่ไม่บังควรอย่างยิ่ง และพยายามสร้างความสับสนวุ่นวายให้เกิดขึ้นในสังคมไทย เพียงเพื่อไม่ให้ตัวเองติดคุก และถูกยึดทรัพย์ จากการกระทำผิดทุจริตโกงชาติกินเมืองที่ผ่านมา"
ดังนั้น ภาคีคณาจารย์ นักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา จึงขอประณาม และเรียกร้องให้หยุดการกระทำดังกล่าว เพื่อความสงบสุขของชาติบ้านเมือง และขอเสนอข้อเรียกร้องดังต่อไปนี้
1. ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ หยุดพฤติกรรมจาบจ้วงล่วงละเมิด บงการ ด้วยการใช้หรือจ้างวานหรือการกระทำอันใดเพื่อสร้างความสับสนและเกิดความวุ่นวายในสังคมไทย เพื่อหวังผลทางการเมือง และฟอกตัวเองให้พ้นผิดจากการกระทำชั่วของตนครั้งดำรงตำแหน่งในอดีต และกระทบกระเทือนต่อพระบารมีขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สถาบันพระมหากษัตริย์ โดยทันที
2.หยุดการพยายามทุกวิถีทาง ที่ใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือ เพื่อหวังผลทางการเมืองในการร่วมลงชื่อถวายฎีกา เพื่อขอพระราชทานอภัยโทษให้พ.ต.ท.ทักษิณ ที่กำลังกระทำอยู่ในขณะนี้
3.เรียกร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางกลับมารับโทษ และต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรมในเมืองไทย
4.หยุดให้สัมภาษณ์ และกล่าวโจมตี สถาบันตุลาการ ตลอดจนองคมนตรี ผู้ซึ่งทำคุณประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติ เพราะศาลคือ สถาบันยุติธรรมทำหน้าที่ตัดสินพิพากษาคดีความไปตามกฎหมาย และปฏิบัติหน้าที่ในพระปรมาภิไธยขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ คณะองคมนตรี คือ สถาบันที่ปรึกษาส่วนพระองค์ และเป็นสัญลักษณ์ของผู้ทำงานแทนพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
5.หยุดการพยายามทำให้พี่น้องประชาชนเข้าใจผิดว่า หากมีการถวายฎีกาให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ แล้ว สามารถกลับประเทศไทยได้ เพราะเป็นการมิบังควร และถือเป็นการจงใจกระทำให้ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท เพราะหาก พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้รับอภัยโทษตามฎีกา จะทำให้พี่น้องประชาชนเข้าใจสถาบัน และพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ ผิดได้
6.เรียกร้องให้กรมประชาสัมพันธ์ และนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ใช้สื่อของรัฐ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสาร ตลอดจนการพยายามใช้โล่มนุษย์ของลิ่วล้อทางการเมืองของ พ.ต.ท.ทักษิณ การใส่ร้าย และจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ ตลอดจนวิธีการปฏิบัติเกี่ยวกับระเบียบวิธีการในการขอถวายฎีกาพระราชทานอภัยโทษ ว่า มีขั้นตอนอย่างไร เนื่องจากประชาชนจำนวนมากยังไม่รู้ถึงวิธีการปฏิบัติ และโทษทัณฑ์ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะได้รับ เพื่อเป็นการให้ข้อมูลข่าวสารที่เป็นข้อเท็จจริงแก่พี่น้องประชาชน เพื่อคลายจากความสับสนวุ่นวายของประชาชน และชาติบ้านเมือง
**ไม่สนเสื้อแดงขู่ฟ้องคนค้านล่าชื่อ
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี กลุ่มคนเสื้อแดงขู่จะฟ้องผู้ที่ขัดขวางการล่ารายชื่อประชาชน เพื่อถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้พ.ต.ท.ทักษิณว่า เท่าที่ไปพลิกกฎหมายดู ไม่เห็นว่าจะมีกฎหมายฉบับใดที่คนเสื้อแดงสามารถนำมาฟ้องได้ หากคนเสื้อแดงจะฟ้อง ก็ต้องฟ้องคนไทยทั้ง 63 ล้านคน ที่รับไม่ได้กับการกระทำเช่นนี้ เพราะการเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นยุทธศาสตร์ทางการเมือง เพื่อกดดันพระราชอำนาจ แบ่งประชาชนเป็น 2 ฝ่าย ทำให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต้องลำบากพระราชหฤทัย ดังนั้นพ.ต.ท.ทักษิณ ต้องแสดงความชัดเจน เพราะ 3 เกลอ พูดชัดว่า เป็นสายตรงของพ.ต.ท.ทักษิณ นายเทพไท กล่าวว่าส่วนที่ 3 เกลอหัวกลมทะเลาะกับนายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ อาจเป็นการช่วงชิงว่าใครใกล้ชิดนายใหญ่มากกว่ากัน นอกจากนี้ ยังเป็นการสร้างภาพว่า 3 เกลอ จงรักภักดี เพราะไม่เกี่ยวข้องกับนายสุรชัย ที่เป็นซ้ายประกาศล้มศักดินา เป็นการแบ่งพวกซ้ายเก่าในกลุ่มคนเสื้อแดง ออกเป็น 2 พวก คือซ้ายคอมมิวนิสต์ กับซ้ายคอมมิชชั่น
**จวกใช้สนามหลวงจัดแซยิดแม้ว
โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวด้วยว่า สำหรับกรณีที่คนเสื้อแดงอ้างว่าท้องสนามหลวง เป็นพื้นที่สาธารณะ สามารถใช้จัดงานแซยิด ฉลองครบรอบ 60 ปีให้กับพ.ต.ท.ทักษิณในวันที่ 26 ก.ค.ได้ ว่า
"คนที่จัดงานวันเกิดที่ท้องสนามหลวงได้ มีแต่เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินเท่านั้น คือวัน 5 ธันวามหาราชแลวันที่ 12 สิงหามหาราชินี หากพ.ต.ท.ทักษิณมาจัดอีก ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเป็นการจัดงาน “ทักษิณาธิบดี” หรือไม่”
นายเทพไท ยังกล่าวถึงกรณีที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย จะเดินทางไปเยี่ยมพ.ต.ท.ทักษิณ ที่ ดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ว่าหากใครจะไปตนจะฝากเสื้อ“ฉันรักประเทศไทย”ไปให้ พ.ต.ท.ทักษิณ 1 ตัว หากใครจะไปก็บอกด้วย และหากพ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาเข้าคุก ตนก็จะเข้าไปเยี่ยมตามช่องทางปกติในการเยี่ยมผู้ต้องหา
**แจงขั้นตอนการขออภัยโทษ
น.พ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าการขออภัยโทษ เป็นราชประเพณี ซึ่งต้องดำเนินการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา 3 ขั้นตอนคือ
1. ผู้ต้องโทษจะต้องรับผิด และถูกคุมขัง 2. ต้องดำเนินการโดยเจ้าตัว หรือญาติพี่น้องเท่านั้น และ 3. จะต้องให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ทำบันทึกความเห็นส่งไปยังสำนักราชเลขาธิการ
"พรรครู้สึกเป็นห่วง เพราะมีการบิดเบือนเพื่อหาวิธีล้างความผิดให้กับพ.ต.ท.ทักษิณ นอกจากนี้ตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ยังหลบหนีความผิด และไม่เคยสำนึกในความผิดที่ตัวเองได้ก่อไว้เลย การขออภัยโทษดังกล่าว จึงเป็นการใช้ประชาชนให้ตกเป็นเครื่องมือทางการเมือง จึงสุ่มเสี่ยงจะทำให้เกิดความขัดแย้งรอบใหม่" น.พ.บุรณัชย์กล่าว
**วุฒิออกโรงค้านล่าชื่อถวายฎีกา
นายอโณทัย ฤทธิปัญญาวงศ์ รองประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาติดตามการบังคับใช้กฎหมาย และมาตรการเกี่ยวกับการพิทักษ์สถาบันพระมหากษัตริย์ วุฒิสภา กล่าวถึงกรณีแกนนำ นปช.ประกาศจะฟ้องผู้ที่วิจารณ์การล่าชื่อประชาชน 1 ล้านชื่อ เพื่อถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า ไม่มีใครสามารถไปสกัดกั้นการล่าชื่อได้ แต่กรรมาธิการฯ อาจออกมาเคลื่อนไหวในลักษณะขอร้อง ชี้แจงให้ประชาชนทั่วประเทศเข้าใจหลักกฎหมายที่ถูกต้อง ซึ่งนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา ได้ออกมาแสดงความเห็นแล้วว่า กรณีแบบนี้ไม่สามารถทำได้ เพราะผูที่จะถวายฎีกา ไม่ใช่พ่อแม่ หรือตัวผู้ต้องขัง ในส่วนของกรรมาธิการฯยอมรับว่า ยังมีความเห็นในเรื่องดังกล่าวแตกต่างกันไป จนไม่สามารถจะแถลงข่าวในนามคณะกรรมาธิการได้ จึงอนุญาตให้แต่ละคนแสดงความคิดเห็นกันไป
รองประธานคณะกรรมาธิการฯ กล่าวอีกว่า หลังจากที่ตนรับหนังสือจากนายแก้วสรร อติโพธิ อดีต คตส. ที่ต้องการให้วุฒิสภามีบทบาทในการออกมาชี้แจงให้สาธารณชนเข้าใจการขอพระราชทานอภัยโทษให้ถูกต้องนั้น จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้นำเรื่องดังกล่าวเข้ามาหารือในที่ประชุม เนื่องจากติดวันหยุดต่อเนื่องหลายวัน จึงคาดว่าจะนำมาหารือได้ในสัปดาห์หน้าเพียงแต่ที่ผ่านมาเหล่า ส.ว.ได้พูดคุยเรื่องนี้กันอยู่ บางคนก็ออกมาเคลื่อนไหวในนามส่วนตัว ขณะที่บางคนปรารถนาดีว่า หากไปรับลูกจะกลายเป็นเรื่องการเมืองในที่สุดหรือไม่ และจะไปก้าวล่วงพระราชอำนาจของสถาบันฯหรือไม่ด้วย ฉะนั้นการพิจารณาเรื่องนี้ จึงต้องรอบคอบ เพราะเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก และไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
เมื่อถามว่าส่วนตัวได้คุยกับประธานวุฒิสภาหรือไม่ เพราะถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ที่อาจกระทบสถาบันสูงสุดได้ นายอโณทัย กล่าวว่า ได้มีการหารือกับประธานวุฒิสภาทั้งเป็นทางการและไม่เป็นทางการมาหลายรอบแล้ว ซึ่งประธานวุฒิสภาไม่อยากให้นำองค์กรวุฒิสภาไปเคลื่อนไหวเรื่องนี้ตามที่นายแก้วสรรต้องการ แต่จะให้ส.ว.แต่ละคนมีสิทธิ์แสดงความเห็นจะเป็นการดีกว่า
**เพื่อไทยไม่สนเสียงค้านเร่งล่าชื่อ
นายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำชมรมคนคิดถึงทักษิณ เปิดเผยว่า การลงชื่อเพื่อร่วมถวายฎีกาช่วยพ.ต.ท.ทักษิณ นั้น มีประชาชนสนใจกันมาก ทั้งนี้ ชมรมคนคิดถึงทักษิณรวมทั้งกลุ่มเสื้อแดงที่มีเครือข่ายประชาชนจะลงไปอำนวยความสะดวกให้ประชาชนในพื้นที่ต่างๆ ทั้งใน กทม. และ ต่างจังหวัด เพื่อรณรงค์และตั้งโต๊ะในจุดสำคัญเพื่อให้ประชาชนที่สนใจร่วมลงชื่อถวายฎีกา ทั้งนี้ ส่วนตัวพร้อมทำหน้าที่ในการประสานงาน และเป็นผู้รวบรวมรายชื่อประชาชนไปส่งให้กลุ่มเสื้อแดง ที่มีนายวีระ มุสิกพงศ์ เป็นแกนนำต่อไป เชื่อว่าระยะเวลาที่เหลืออยู่ 20 วันก่อนจะถึงสิ้นเดือนก.ค. น่าจะได้รายชื่อประชาชนทั่วประเทศเกิน1 ล้านคนอย่างแน่นอน ทั้งนี้ ในส่วนของกทม.จะมีจุดเข้าชื่อถวายฎีกาในช่วงเช้า กลางวัน และเย็นในพื้นที่เขตดอนเมือง โดยจะเริ่มตั้งจุดในวันที่ 9 ก.ค. ที่หน้าวัดดอนเมือง
แถลงการณ์ดังกล่าว ระบุว่า จากกรณีของลิ่วล้อ ตลอดจนผู้สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษต้องคดีอาญาแผ่นดินและกำลังหลบหนีคดีอยู่ในขณะนี้ ได้พยายามหาช่องทางให้พ.ต.ท.ทักษิณ พ้นผิด และกลับมามีอำนาจอีกครั้ง โดยอาศัยพี่น้องประชาชนเป็นเครื่องมือ เสนอล่ารายชื่อประชาชนให้ได้ 1 ล้านคน เพื่อถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจว่า การกระทำเช่นนั้น ผิดขั้นตอน และวิธีปฏิบัติในการขอพระราชทานอภัยโทษ
"ไม่ใช่การเอาชื่อประชาชนจำนวนมากมาเป็นกำบังฉากหน้า หรือมากดดันพระราชวินิจฉัย เพราะถือเป็นเรื่องที่ไม่บังควรอย่างยิ่ง และพยายามสร้างความสับสนวุ่นวายให้เกิดขึ้นในสังคมไทย เพียงเพื่อไม่ให้ตัวเองติดคุก และถูกยึดทรัพย์ จากการกระทำผิดทุจริตโกงชาติกินเมืองที่ผ่านมา"
ดังนั้น ภาคีคณาจารย์ นักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา จึงขอประณาม และเรียกร้องให้หยุดการกระทำดังกล่าว เพื่อความสงบสุขของชาติบ้านเมือง และขอเสนอข้อเรียกร้องดังต่อไปนี้
1. ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ หยุดพฤติกรรมจาบจ้วงล่วงละเมิด บงการ ด้วยการใช้หรือจ้างวานหรือการกระทำอันใดเพื่อสร้างความสับสนและเกิดความวุ่นวายในสังคมไทย เพื่อหวังผลทางการเมือง และฟอกตัวเองให้พ้นผิดจากการกระทำชั่วของตนครั้งดำรงตำแหน่งในอดีต และกระทบกระเทือนต่อพระบารมีขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สถาบันพระมหากษัตริย์ โดยทันที
2.หยุดการพยายามทุกวิถีทาง ที่ใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือ เพื่อหวังผลทางการเมืองในการร่วมลงชื่อถวายฎีกา เพื่อขอพระราชทานอภัยโทษให้พ.ต.ท.ทักษิณ ที่กำลังกระทำอยู่ในขณะนี้
3.เรียกร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางกลับมารับโทษ และต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรมในเมืองไทย
4.หยุดให้สัมภาษณ์ และกล่าวโจมตี สถาบันตุลาการ ตลอดจนองคมนตรี ผู้ซึ่งทำคุณประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติ เพราะศาลคือ สถาบันยุติธรรมทำหน้าที่ตัดสินพิพากษาคดีความไปตามกฎหมาย และปฏิบัติหน้าที่ในพระปรมาภิไธยขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ คณะองคมนตรี คือ สถาบันที่ปรึกษาส่วนพระองค์ และเป็นสัญลักษณ์ของผู้ทำงานแทนพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
5.หยุดการพยายามทำให้พี่น้องประชาชนเข้าใจผิดว่า หากมีการถวายฎีกาให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ แล้ว สามารถกลับประเทศไทยได้ เพราะเป็นการมิบังควร และถือเป็นการจงใจกระทำให้ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท เพราะหาก พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้รับอภัยโทษตามฎีกา จะทำให้พี่น้องประชาชนเข้าใจสถาบัน และพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ ผิดได้
6.เรียกร้องให้กรมประชาสัมพันธ์ และนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ใช้สื่อของรัฐ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสาร ตลอดจนการพยายามใช้โล่มนุษย์ของลิ่วล้อทางการเมืองของ พ.ต.ท.ทักษิณ การใส่ร้าย และจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ ตลอดจนวิธีการปฏิบัติเกี่ยวกับระเบียบวิธีการในการขอถวายฎีกาพระราชทานอภัยโทษ ว่า มีขั้นตอนอย่างไร เนื่องจากประชาชนจำนวนมากยังไม่รู้ถึงวิธีการปฏิบัติ และโทษทัณฑ์ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะได้รับ เพื่อเป็นการให้ข้อมูลข่าวสารที่เป็นข้อเท็จจริงแก่พี่น้องประชาชน เพื่อคลายจากความสับสนวุ่นวายของประชาชน และชาติบ้านเมือง
**ไม่สนเสื้อแดงขู่ฟ้องคนค้านล่าชื่อ
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี กลุ่มคนเสื้อแดงขู่จะฟ้องผู้ที่ขัดขวางการล่ารายชื่อประชาชน เพื่อถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้พ.ต.ท.ทักษิณว่า เท่าที่ไปพลิกกฎหมายดู ไม่เห็นว่าจะมีกฎหมายฉบับใดที่คนเสื้อแดงสามารถนำมาฟ้องได้ หากคนเสื้อแดงจะฟ้อง ก็ต้องฟ้องคนไทยทั้ง 63 ล้านคน ที่รับไม่ได้กับการกระทำเช่นนี้ เพราะการเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นยุทธศาสตร์ทางการเมือง เพื่อกดดันพระราชอำนาจ แบ่งประชาชนเป็น 2 ฝ่าย ทำให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต้องลำบากพระราชหฤทัย ดังนั้นพ.ต.ท.ทักษิณ ต้องแสดงความชัดเจน เพราะ 3 เกลอ พูดชัดว่า เป็นสายตรงของพ.ต.ท.ทักษิณ นายเทพไท กล่าวว่าส่วนที่ 3 เกลอหัวกลมทะเลาะกับนายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ อาจเป็นการช่วงชิงว่าใครใกล้ชิดนายใหญ่มากกว่ากัน นอกจากนี้ ยังเป็นการสร้างภาพว่า 3 เกลอ จงรักภักดี เพราะไม่เกี่ยวข้องกับนายสุรชัย ที่เป็นซ้ายประกาศล้มศักดินา เป็นการแบ่งพวกซ้ายเก่าในกลุ่มคนเสื้อแดง ออกเป็น 2 พวก คือซ้ายคอมมิวนิสต์ กับซ้ายคอมมิชชั่น
**จวกใช้สนามหลวงจัดแซยิดแม้ว
โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวด้วยว่า สำหรับกรณีที่คนเสื้อแดงอ้างว่าท้องสนามหลวง เป็นพื้นที่สาธารณะ สามารถใช้จัดงานแซยิด ฉลองครบรอบ 60 ปีให้กับพ.ต.ท.ทักษิณในวันที่ 26 ก.ค.ได้ ว่า
"คนที่จัดงานวันเกิดที่ท้องสนามหลวงได้ มีแต่เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินเท่านั้น คือวัน 5 ธันวามหาราชแลวันที่ 12 สิงหามหาราชินี หากพ.ต.ท.ทักษิณมาจัดอีก ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเป็นการจัดงาน “ทักษิณาธิบดี” หรือไม่”
นายเทพไท ยังกล่าวถึงกรณีที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย จะเดินทางไปเยี่ยมพ.ต.ท.ทักษิณ ที่ ดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ว่าหากใครจะไปตนจะฝากเสื้อ“ฉันรักประเทศไทย”ไปให้ พ.ต.ท.ทักษิณ 1 ตัว หากใครจะไปก็บอกด้วย และหากพ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาเข้าคุก ตนก็จะเข้าไปเยี่ยมตามช่องทางปกติในการเยี่ยมผู้ต้องหา
**แจงขั้นตอนการขออภัยโทษ
น.พ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าการขออภัยโทษ เป็นราชประเพณี ซึ่งต้องดำเนินการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา 3 ขั้นตอนคือ
1. ผู้ต้องโทษจะต้องรับผิด และถูกคุมขัง 2. ต้องดำเนินการโดยเจ้าตัว หรือญาติพี่น้องเท่านั้น และ 3. จะต้องให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ทำบันทึกความเห็นส่งไปยังสำนักราชเลขาธิการ
"พรรครู้สึกเป็นห่วง เพราะมีการบิดเบือนเพื่อหาวิธีล้างความผิดให้กับพ.ต.ท.ทักษิณ นอกจากนี้ตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ยังหลบหนีความผิด และไม่เคยสำนึกในความผิดที่ตัวเองได้ก่อไว้เลย การขออภัยโทษดังกล่าว จึงเป็นการใช้ประชาชนให้ตกเป็นเครื่องมือทางการเมือง จึงสุ่มเสี่ยงจะทำให้เกิดความขัดแย้งรอบใหม่" น.พ.บุรณัชย์กล่าว
**วุฒิออกโรงค้านล่าชื่อถวายฎีกา
นายอโณทัย ฤทธิปัญญาวงศ์ รองประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาติดตามการบังคับใช้กฎหมาย และมาตรการเกี่ยวกับการพิทักษ์สถาบันพระมหากษัตริย์ วุฒิสภา กล่าวถึงกรณีแกนนำ นปช.ประกาศจะฟ้องผู้ที่วิจารณ์การล่าชื่อประชาชน 1 ล้านชื่อ เพื่อถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า ไม่มีใครสามารถไปสกัดกั้นการล่าชื่อได้ แต่กรรมาธิการฯ อาจออกมาเคลื่อนไหวในลักษณะขอร้อง ชี้แจงให้ประชาชนทั่วประเทศเข้าใจหลักกฎหมายที่ถูกต้อง ซึ่งนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา ได้ออกมาแสดงความเห็นแล้วว่า กรณีแบบนี้ไม่สามารถทำได้ เพราะผูที่จะถวายฎีกา ไม่ใช่พ่อแม่ หรือตัวผู้ต้องขัง ในส่วนของกรรมาธิการฯยอมรับว่า ยังมีความเห็นในเรื่องดังกล่าวแตกต่างกันไป จนไม่สามารถจะแถลงข่าวในนามคณะกรรมาธิการได้ จึงอนุญาตให้แต่ละคนแสดงความคิดเห็นกันไป
รองประธานคณะกรรมาธิการฯ กล่าวอีกว่า หลังจากที่ตนรับหนังสือจากนายแก้วสรร อติโพธิ อดีต คตส. ที่ต้องการให้วุฒิสภามีบทบาทในการออกมาชี้แจงให้สาธารณชนเข้าใจการขอพระราชทานอภัยโทษให้ถูกต้องนั้น จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้นำเรื่องดังกล่าวเข้ามาหารือในที่ประชุม เนื่องจากติดวันหยุดต่อเนื่องหลายวัน จึงคาดว่าจะนำมาหารือได้ในสัปดาห์หน้าเพียงแต่ที่ผ่านมาเหล่า ส.ว.ได้พูดคุยเรื่องนี้กันอยู่ บางคนก็ออกมาเคลื่อนไหวในนามส่วนตัว ขณะที่บางคนปรารถนาดีว่า หากไปรับลูกจะกลายเป็นเรื่องการเมืองในที่สุดหรือไม่ และจะไปก้าวล่วงพระราชอำนาจของสถาบันฯหรือไม่ด้วย ฉะนั้นการพิจารณาเรื่องนี้ จึงต้องรอบคอบ เพราะเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก และไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
เมื่อถามว่าส่วนตัวได้คุยกับประธานวุฒิสภาหรือไม่ เพราะถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ที่อาจกระทบสถาบันสูงสุดได้ นายอโณทัย กล่าวว่า ได้มีการหารือกับประธานวุฒิสภาทั้งเป็นทางการและไม่เป็นทางการมาหลายรอบแล้ว ซึ่งประธานวุฒิสภาไม่อยากให้นำองค์กรวุฒิสภาไปเคลื่อนไหวเรื่องนี้ตามที่นายแก้วสรรต้องการ แต่จะให้ส.ว.แต่ละคนมีสิทธิ์แสดงความเห็นจะเป็นการดีกว่า
**เพื่อไทยไม่สนเสียงค้านเร่งล่าชื่อ
นายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำชมรมคนคิดถึงทักษิณ เปิดเผยว่า การลงชื่อเพื่อร่วมถวายฎีกาช่วยพ.ต.ท.ทักษิณ นั้น มีประชาชนสนใจกันมาก ทั้งนี้ ชมรมคนคิดถึงทักษิณรวมทั้งกลุ่มเสื้อแดงที่มีเครือข่ายประชาชนจะลงไปอำนวยความสะดวกให้ประชาชนในพื้นที่ต่างๆ ทั้งใน กทม. และ ต่างจังหวัด เพื่อรณรงค์และตั้งโต๊ะในจุดสำคัญเพื่อให้ประชาชนที่สนใจร่วมลงชื่อถวายฎีกา ทั้งนี้ ส่วนตัวพร้อมทำหน้าที่ในการประสานงาน และเป็นผู้รวบรวมรายชื่อประชาชนไปส่งให้กลุ่มเสื้อแดง ที่มีนายวีระ มุสิกพงศ์ เป็นแกนนำต่อไป เชื่อว่าระยะเวลาที่เหลืออยู่ 20 วันก่อนจะถึงสิ้นเดือนก.ค. น่าจะได้รายชื่อประชาชนทั่วประเทศเกิน1 ล้านคนอย่างแน่นอน ทั้งนี้ ในส่วนของกทม.จะมีจุดเข้าชื่อถวายฎีกาในช่วงเช้า กลางวัน และเย็นในพื้นที่เขตดอนเมือง โดยจะเริ่มตั้งจุดในวันที่ 9 ก.ค. ที่หน้าวัดดอนเมือง