ศาลอาญาให้ประกัน 3 แกนนำ นปช.แต่วางเงื่อนไข ห้ามปลุกระดม หรือกระทำการใดๆ อันก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง พ่วงห้ามออกนอกประเทศ ด้าน “วีระ” ไม่กล้ารับปากขึ้นเวทีเสื้อแดงสนามหลวง พรุ่งนี้ (25 เม.ย.) ขอปรึกษาทนายหวั่นผิดข้อกำหนดศาล
วันนี้ (24 เม.ย.) เมื่อเวลา 13.45 น.ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น.ได้ยื่นคำร้องขอฝากขังครั้งแรก นายวีระ มุสิกพงศ์ อายุ 60 ปี นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อายุ 33 ปี และ นพ.เหวง โตจิราการ 58 ปี แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ผู้ต้องหาที่ 1-3 คดีปลุกระดมมวลชนเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน และมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง ซึ่งศาลอาญาได้อนุมัติออกหมายจับ พร้อมกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และพวกรวม 14 คน ตามประมวลวิธีพิจารณาความอาญา หลังจาก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ประกาศยุติสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล
โดยคำร้องสรุปว่า ผู้ต้องหาทั้งสาม ถูกออกหมายจับในข้อหาร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชน ด้วยวาจา อันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริตเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116(3) และมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใด ให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง โดยเป็นหัวหน้า หรือผู้สั่งการ มาตรา 215 วรรคแรก และวรรคสาม ซึ่งพนักงานสอบสวน ได้ยื่นคำร้องขอฝากขังต่อศาลอาญาเมื่อวันที่ 16 เม.ย.ที่ผ่านมา แต่ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ผู้ต้องหาทั้งสาม ถูกพนักงานเจ้าหน้าที่ควบคุม ตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 มาตรา 12 จึงให้ยกคำร้อง โดยให้จับกุมและควบคุมตัวทั้งสามไว้ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตาม พ.ร.ก.ได้ควบคุมตัวทั้งสามไว้ที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 คลองห้า จ.ปทุมธานี จนครบ 7 วัน ในวันที่ 22 เม.ย.และได้ขออนุญาตศาลขยายเวลาควบคุมตัวอีก 7 วัน จนถึงวันที่ 29 เม.ย.ต่อมาวันที่ 24 เม.ย.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศยกเลิกการบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จึงทำให้การควบคุมตัวทั้งสามตาม พ.ร.ก.สิ้นสุดลง แต่การสอบสวนดียังไมเสร็จสิ้น ต้องสอบสวนพยานอีก 20 ปาก และรอผลการตรวจสอบประวัติอาชญากร จึงมีความจำเป็นต้องฝากขังผู้ต้องหาเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 24 เม.ย.-5 พ.ค.นี้
ด้าน นายคารม พลทะกลาง ทนายความ นปช.กล่าวว่า ตนได้ยื่นคำร้องคัดค้านการฝากขังของพนักงานสอบสวน เนื่องจาก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศยกเลิก พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉินแล้ว และที่ผ่านมา ได้พ้นระยะเวลาการควบคุมตัว 48 ชั่วโมง ตั้งแต่วันที่ 16 เม.ย.แล้ว และยืนยันว่า ผู้ต้องหาทั้งสาม ไม่ได้มีพฤติการณ์ที่จะหลบหนี หรือยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน ขณะเดียวกัน ตนก็ยื่นคำร้องขอประกันตัว 3 แกนนำด้วย ซึ่งเตรียมหลักทรัพย์ทั้งเงินสดคนละ 5 แสนบาท และตำแหน่ง ส.ส.ต่อศาล รวมทั้งตำแหน่ง ส.ส.ของนายการุณ โหสกุล และ นายประเกียรติ นาสิมมา ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ต้องหาทั้งสามถูกนำตัวจาก บก.ตชด.ภาค 1 มายังศาล โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล 2 จำนวน 1 กองร้อย 150 นาย กระจายกำลังรอบบริเวณศาลเพื่อดูแลความปลอดภัย ซึ่งวันนี้มีกลุ่มผู้สนับสนุน นปช.สวมเสื้อแดง และเสื้อผ้าหลากสีประมาณ 30 คน เดินทางมา พร้อมนำดอกกุหลาบสีแดงมามอบให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมทั้ง นายมานิตย์ จิตต์จันทร์กลับ และ นายการุณ โหสกุล ส.ส.พรรคเพื่อไทย นายคำนวณ ชโลปถัมภ์ ทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางมาให้กำลังใจผู้ต้องหาทั้งสามด้วย
ต่อมาเวลา 14.00 น.ที่ห้องพิจารณา 801 ศาลได้ไต่สวนคำร้องฝากขังของพนักงานสอบสวนและคำคัดค้านฝากขังผู้ต้องหา โดย พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น.เข้าเบิกความสรุปว่า หลังจากที่ศาลออกหมายจับผู้ต้องหาเมื่อวันที่ 14 เม.ย.เวลา 15.30 น.ผู้ต้องหาได้แสดงตนต่อพนักงานสอบสวน บช.น.ซึ่งแจ้งข้อหาดำเนินคดี ต่อมาวันที่ 16 เม.ย.เวลา 08.00 น. พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวผู้ต้องหามายื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาควบคุมตัว ซึ่งศาลได้อนุญาตให้ควบคุมตัวผู้ต้องหาไว้ตามที่ถูกออกหมายจับ และควบคุมตัว ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มาตรา 11 อนุ 1 มาตรา 12 เป็นเวลา 7 วัน และวันที่ 24 เม.ย.เวลา 12.00 น.นายกรัฐมนตรี ได้มีประกาศยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เจ้าพนักงานจึงหมดอำนาจควบคุมตัว ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จำเป็นต้องยื่นคำร้องฝากขังในคดีอาญาเป็นเวลา 12 วัน
พล.ต.ต.อำนวย ได้ตอบการซักค้านทนายความเกี่ยวกับการชุมนุมของคนเสื้อแดง และระยะเวลาการควบคุมตัวผู้ต้องหาว่า การชุมนุมของกลุ่ม นปช.ไม่ถือว่าสงบ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ซึ่งการชุมนุมได้ใช้ถ้อยคำยุยงให้ประชาชน กระทำละเมิดต่อกฎหมาย และใช้ความรุนแรงขึ้นเป็นลำดับ ซึ่งกลุ่มผู้ชุมนุมจะมาด้วยความสมัครใจหรือไม่ ตนไม่ทราบ ส่วนการควบคุมตัวผู้ต้องหา 48 ชั่วโมง หลังแสดงตัวต่อเจ้าหน้าที่จะนับรวมการเดินทางเข้ามอบตัว และการเดินทางจากสถานที่ควบคุมตัวมาศาล สำหรับเรื่องการขอปล่อยตัวชั่วคราว พนักงานสอบสวนไม่คัดค้าน จึงขอให้อยู่ในดุบพินิจของศาล และระหว่างผู้ต้องหาได้ปฏิบัติตัวถูกต้อง ไม่ฝ่าฝืนกฎหมาย ไม่มีพฤติการณ์หลบหนี หรือไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ซึ่งการยื่นคำร้องฝากขัง ได้ปฏิบัติตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ซึ่งผู้ต้องหาถูกตั้งข้อหา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 และ มาตรา 215 พยานเบิกความเรื่องอื่นๆ แล้วเสร็จ ศาลจึงนัดฟังคำสั่งต่อไป
ต่อมา เมื่อเวลา 17.30 น.ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ฝากขัง นายวีระ มุสิกพงศ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และ นพ.เหวง โตจิราการ 3 แกนนำ นปช.เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 24 เม.ย.-5 พ.ค. นี้ และอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว โดยตีราคาประกันคนละ 500,000 บาท โดยมีเงื่อนไข
ทั้งนี้ ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ผู้ต้องหาทั้งสาม เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับที่ออกเมื่อวันที่ 14 เม.ย.ซึ่งปรากฏว่า ผู้ต้องหาได้เข้ามอบตัวในวันเดียวกัน ต่อมาเมื่อวันที่ 16 เม.ย.พนักงานสอบสวนนำตัวผู้ต้องหามาฝากขัง ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และกำหนดให้ควบคุมตัวตาม พ.ร.ก. จำนวน 7 วัน หลังครบกำหนด พนักงานสอบสวน นำตัวมาขอขยายเวลาควบคุมตาม พ.ร.ก. อีก 7 วัน กระทั่งวันที่ 24 เม.ย.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ มีคำสั่งยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พนักงานสอบสวนจึงไม่มีอำนาจควบคุมตัวเกินกว่า 48 ชั่วโมงตามกฎหมายกำหนด ผู้ต้องหาทั้งสามคัดค้านว่า หลัง ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พนักงานสอบสวนไม่มีอำนาจควบคุมตัว จึงขอให้ศาลปล่อยตัว
ศาลเห็นว่า การควบคุมตัวผู้ต้องหาตั้งแต่วันที่ 16 เม.ย.พนักงานสอบสวนทำโดยชอบด้วยกฎหมาย ประกอบกับเห็นว่า คำร้องฝากขัง พนักงานสอบสวนอ้างว่า ต้องมีการสอบสวนพยานเพิ่มเติมอีก 20 ปาก และต้องรอผลตรวจประวัติอาชญากรจาก สตช.จึงมีเหตุจำเป็นให้ต้องคุมขังต่อไป จึงอนุญาตให้ฝากขังผู้ต้องหาตามคำร้องตั้งแต่วันที่ 24 เม.ย.-5 พ.ค.คำคัดค้านของผู้ต้องหาฟังไม่ขึ้น
ส่วนคำร้องผู้ต้องหาขอประกันตัว ศาลเห็นว่า ข้อหาที่ผู้ต้องหาทั้งสามถูกออกหมายจับ มีอัตราโทษไม่สูง ประกอบกับมีการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน สถานการณ์มีความคลี่คลายลงแล้ว จึงอนุญาตให้ปล่อยตัวเป็นการชั่วคราว โดยตีราคาหลักทรัพย์คนละ 5 แสนบาท และห้ามผู้ต้องหา ออกนอกราชอาณาจักร โดยให้แจ้ง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ทราบด้วย และวางเงื่อนไขห้ามผู้ต้องหา กระทำการปลุกระดม หรือกระทำการใดๆ อันก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง และห้ามมิให้กระทำการใดๆ ที่มีผลกระทบต่อการสอบสวนของพนักงานสอบสวน มิฉะนั้น ศาลจะถอดประกัน
ภายหลังศาลมีคำสั่งปล่อยตัว นายวีระ, นายณัฐวุฒิ และ นพ.เหวง เดินลงมาจากห้องพิจารณาคดี พบกับกลุ่มผู้สนับสนุนที่เฝ้ารอให้กำลังใจประมาณ 100 คน พร้อมกล่าวขอบคุณกลุ่มผู้สนับสนุน โดย นายวีระ กล่าวว่า ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณศาลที่ให้ประกันตัว ซึ่งถือเป็นการมองเห็นถึงสิทธิของประชาชนตาม รธน.ส่วนที่กลุ่ม นปช.นัดชุมนุมกันในวันพรุ่งนี้ (25 เม.ย.) สนามหลวง พวกตนจะเดินทางไปร่วมได้หรือไม่ ต้องรอปรึกษาทีมทนายความก่อนว่าจะเป็นการฝ่าฝืนข้อกำหนดของศาลในการปล่อยตัวชั่วคราวหรือไม่
ด้าน นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า สิ่งแรกที่ตนจะทำหลังจากได้รับอิสรภาพ คือ ชำระล้างข้อเท็จจริง เรื่องการเสียชีวิตของกลุ่มคนเสื้อแดงในการใช้กำลังทหารสลายการชุมนุม เมื่อเช้าวันที่ 13 เม.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากวันดังกล่าว หลังได้ยินเสียงปืนนัดแรก มีกลุ่มคนเสื้อแดง รวมทั้งกลุ่มแท็กซี่ โทรศัพท์แจ้งตนว่ามีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ซึ่งตนเชื่อว่ากลุ่มคนดังกล่าวไม่มีเหตุผลที่จะมาโกหก เมื่อรัฐบาลมีข้อเท็จจริงที่แตกออกไป ก็ต้องนำข้อเท็จจริง 2 ฝ่ายมาชำระล้างกัน
ขณะที่ นพ.เหวง กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า ขอขอบคุณในความกรุณาของศาล และเคารพเงื่อนไขที่ศาลกำหนดไว้