“วรพงษ์” ย้ำให้ ตร.ช่วยกันทำงานรักษากฎหมาย หลังบ้านเมืองเข้าสู่สภาวะปกติ ลั่นหากเสื้อแดงชุมนุมก็ทำได้แต่ต้องไม่ขัดต่อกฎหมาย ส่วนการคุมตัว 3 แกนนำให้ปฏิบัติตามกฎหมาย หากจะยื่นประกันตัวคงไม่คัดค้าน แต่ต้องดูเป็นรายๆ ไป
วันนี้ (24 พ.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น.กล่าวภายหลังเรียกประชุมนายตำรวจระดับรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1-9 ผู้กำกับการทั้ง 88 สน. และฝ่ายสืบสวน หลังนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ประกาศยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินว่า ในที่ประชุมวันนี้ได้เน้นย้ำนายตำรวจระดับผู้กำกับการเพื่อช่วยกันทำงานรักษากฎหมายให้ได้ เนื่องจากขณะนี้สถานการณ์บ้านเมืองเริ่มปรับเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว
พล.ต.ท.วรพงษ์ กล่าวต่อว่า ในส่วนนี้มีการจัดวางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปดูแลความปลอดภัยสถานที่ราชการ รวมถึงตัวบุคคลสำคัญต่างๆ เช่น ศาลรัฐธรรมนูญ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ นักการเมือง และบ้านพัก เพื่อป้องกันกลุ่มผู้ไม่หวังดีเข้าไปก่อความวุ่นวาย และช่วงที่ผ่านมานั้นตำรวจถูกมองว่าไม่สามารถบังคับใช้กฎหมายได้ แต่ในปัจจุบันนี้นายอภิสิทธิ์ นายกรัฐมนตรี พูดชัดเจนว่าประเทศไทยต้องเป็นนิติรัฐ ตำรวจต้องบังคับใช้กฎหมายได้ ส่วนนี้จึงต้องมาทำความเข้าใจกัน และส่วนที่สำคัญที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ คือ ระดับสถานีตำรวจ ซึ่งผู้กำกับการแต่ละสถานีต้องไปควบคุมกำกับดูแลข้าราชการตำรวจในสังกัดบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด
ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อมีการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จะมีการออกมาชุมนุมทางการเมืองอีกนั้น พล.ต.ท.วรพงษ์ กล่าวว่า หากการชุมนุมนั้นไม่ขัดต่อกฎหมายก็สามารถทำได้ และเมื่อยกเลิก พ.ร.ก.แล้ว หากมีการชุมนุมเจ้าหน้าที่ตำรวจก็คงต้องอำนวยความสะดวกด้านการดูแลปัญหาการจราจร เพื่ออำนวยความสะดวกแก่พี่น้องประชาชนและการชุมนุมต้องอยู่ในขอบเขตของกฎหมาย
“ส่วนการควบคุมตัวแกนนำ เมื่อยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แล้วจะมีการปล่อยตัวแกนนำหรือไม่นั้น ส่วนนี้คงต้องดูกันเป็นรายๆ ไป เพราะบางคนยังมีคดีอาญาอยู่ อย่างกรณี นายวีระ มุสิกพงศ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และ นพ.เหวง โตจิราการ 3 แกนนำยังมีคดีอาญา คงต้องนำตัวมาขอฝากขังกับศาลอีกครั้ง และเมื่อดูตามหลักกฎหมายแล้วการปฏิบัติต้องการให้เป็นไปตามมาตรฐานเดียวกัน ไม่ถูกมองว่า 2 มาตราฐาน ซึ่งในส่วนนี้ตนได้พิจารณาแล้วว่าทั้ง 3 คนมามอบตัว เพราะฉะนั้น มูลเหตุที่จะหลบหนีหรือไปยุ่งเกี่ยวกับหลักฐาน หากมีการยื่นขอประกันตัวตามแนวทางคงไม่คัดค้านแต่อย่างใด”
พล.ต.ท.วรพงษ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.กำชับสั่งการตำรวจทั่วประเทศ เพิ่มเข้มตรวจค้นยานพาหนะ เน้นค้นอาวุธปืน สอดส่องดูแลร้านปืน ขณะเดียวกัน กำชับระวังดูแลอาวุธปืน เครื่องกระสุน ไม่ให้ถูกโจรกรรม หากพบว่าหน่วยงานใดปล่อยปละละเลยจะถือเป็นความรับผิดชอบของหนวยงานนั้นว่า ส่วนนี้ได้กำชับไปยังทุกพื้นที่ในสังกัด บช.น.แล้วให้ดำเนินการตามคำสั่ง ผบ.ตร.อย่างเคร่งครัด
นอกจากนี้ กรณี รปภ.2 รายเสียชีวิต จากการตรวจสอบนั้นเป็นที่แน่ชัดว่าเสียชีวิตหลังจากวันที่ 14 เม.ย. หลังเวลา 02.00 น. แต่ยังไม่ชัดเจนว่าเกี่ยวข้องกับเสื้อแดงหรือไม่ และที่มีการนำคลิปทหารฆ่าประชาชนออกมาเผยแพร่นั้น จากการสั่งการให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง จากการตรวจสอบที่ผ่านมาไม่มีรายงานว่ามีภาพทหารฆ่าประชาชนแต่อย่างใด และหากประชาชนพบเหตุเบาะแสสามารถแจ้งได้ที่หมายเลข 191 หรือโรงพักใกล้บ้าน