ตอนที่พบภรรยาครั้งแรกเมื่อสี่ปีที่แล้ว มาร์ติน โจนส์ ไม่เคยนึกฝันว่าจะมีวันที่เขาได้เห็นหน้าเธอ
ช่างก่อสร้างวัย 42 ปีผู้นี้ตาบอดทั้งสองข้างหลังประสบอุบัติเหตุในการทำงานเมื่อกว่าทศวรรษที่แล้ว
แต่ด้วยการผ่าตัดเพื่อปลูกถ่ายเศษฟันลงในดวงตา ทำให้โลกที่เคยมืดมิดของมาร์ตินกลับสว่างสดใสขึ้นอีกครั้ง
กระบวนการที่มีการผ่าตัดกันมาแล้วกว่า 50 ครั้งในอังกฤษ สกัดบางส่วนของฟันมาเป็นตัวยึดเลนส์ใหม่ที่ปลูกถ่ายมาจากผิวหนังของเจ้าตัว
มาร์ตินจากเซาธ์ยอร์กเชียร์ แต่งงานกับกิลล์ วัย 50 ปี เมื่อสี่ปีที่แล้ว ตอนนั้นเขาตาบอดมาได้แปดปีหลังจากท่อน้ำร้อนอลูมิเนียมในโกดังเก็บซากเหล็กระเบิดใส่หน้า ร่างกาย 37% ไหม้ และเขาต้องสวมบอดี้สูทพิเศษไว้ข้างในวันละ 23 ชั่วโมง รวมถึงต้องผ่าตาซ้ายออก ส่วนตาข้างขวาที่เหลืออยู่บอดสนิท
ตอนแรกผู้เชี่ยวชาญในนอตติ้งแฮมพยายามรักษามาร์ตินโดยใช้สเต็มเซลล์จากผู้บริจาค แต่ไม่สำเร็จ
จนกระทั่งแพทย์ในคลินิกตาที่ซัสเซ็กซ์ได้ริเริ่มวิธีการผ่าตัดแบบใหม่ มาร์ตินจึงมีโอกาสที่จะกลับมามองเห็นอีกครั้ง
ระหว่างการผ่าตัด แพทย์นำผิวหนังจากกระพุ้งแก้มมาปลูกถ่ายในดวงตาและทิ้งไว้นานสองเดือนเพื่อให้ผิวหนังส่วนนั้นสร้างเส้นเลือดขึ้นมา จากนั้น จึงสกัดชิ้นส่วนเล็กๆ จากเขี้ยวของมาร์ตินมาเจียรเป็นรูปทรงใหม่เพื่อใช้เป็นตัวยึดเลนส์
สุดท้าย แพทย์เจาะรูในกระจกตาที่ปลูกถ่ายลงไปใหม่เพื่อเป็นช่องรับแสง
“ผมรู้สึกดีมากๆ ที่ได้กลับมามองเห็นอีกครั้ง จนไม่รู้จะอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้อย่างไร ผมตาบอดมา 12 ปี พอกลับมามองเห็นได้ใหม่ ทุกสิ่งจึงเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
“สิ่งแรกที่ผมเห็นคือสมาร์ทคาร์ ผมหัวเราะไม่หยุดเพราะไม่เคยเห็นมาก่อน และคิดว่ามันเหมือนรถที่ถูกผ่าหายไปครึ่งหนึ่ง
“การมองเห็นอีกครั้งเปลี่ยนชีวิตของผม เป็นของขวัญมีค่า คุณจะไม่มีวันเห็นคุณค่าของสิ่งนี้จนกว่ามันจะหลุดลอยไปแล้ว
“ตอนที่หมอแกะผ้าพันแผลออก ผมรู้สึกเหมือนกำลังมองผ่านม่านน้ำ แล้วผมก็เห็นว่าคนที่ยืนอยู่ข้างหน้าคือกิลล์ เธอสวยมาก ไม่น่าเชื่อเลยที่ผมได้มีโอกาสเห็นหน้าเธอ
“ผมเคยคิดมาตลอดว่า ถ้ามีโอกาสมองเห็นอีกครั้ง คนแรกที่ผมอยากเห็นคือเธอ
“ผมโชคดีมากที่กลับมามองเห็น ผมรู้สึกว่าความสุขอยู่ใกล้ตัวเรานิดเดียว แค่ได้เห็นสิ่งที่รายล้อมอยู่เท่านั้น”
การผ่าตัดที่ใช้เวลา 8 ชั่วโมง และนำโดยศัลยแพทย์คริสโตเฟอร์ หลิว ได้รับการพัฒนาขึ้นมาเพื่อช่วยผู้ป่วยที่ตาบอดจากกระจกตา แต่ไม่สามารถรับการปลูกถ่ายกระจกตาแบบปกติได้
“ตอนที่ได้ยินเรื่องเทคนิคนี้ครั้งแรก ผมไม่เชื่อว่าจะเป็นไปได้กับทุกคน แม้แต่เพื่อนยังคิดว่าผมอำ ผมต้องถอดแว่นออก แล้วพวกเขาก็จะอุทานออกมาทันทีว่า ‘โอ พระเจ้า’ เพราะตาผมเหมือนก๊อปออกมาจากหนังไซไฟไม่มีผิด”
ช่างก่อสร้างวัย 42 ปีผู้นี้ตาบอดทั้งสองข้างหลังประสบอุบัติเหตุในการทำงานเมื่อกว่าทศวรรษที่แล้ว
แต่ด้วยการผ่าตัดเพื่อปลูกถ่ายเศษฟันลงในดวงตา ทำให้โลกที่เคยมืดมิดของมาร์ตินกลับสว่างสดใสขึ้นอีกครั้ง
กระบวนการที่มีการผ่าตัดกันมาแล้วกว่า 50 ครั้งในอังกฤษ สกัดบางส่วนของฟันมาเป็นตัวยึดเลนส์ใหม่ที่ปลูกถ่ายมาจากผิวหนังของเจ้าตัว
มาร์ตินจากเซาธ์ยอร์กเชียร์ แต่งงานกับกิลล์ วัย 50 ปี เมื่อสี่ปีที่แล้ว ตอนนั้นเขาตาบอดมาได้แปดปีหลังจากท่อน้ำร้อนอลูมิเนียมในโกดังเก็บซากเหล็กระเบิดใส่หน้า ร่างกาย 37% ไหม้ และเขาต้องสวมบอดี้สูทพิเศษไว้ข้างในวันละ 23 ชั่วโมง รวมถึงต้องผ่าตาซ้ายออก ส่วนตาข้างขวาที่เหลืออยู่บอดสนิท
ตอนแรกผู้เชี่ยวชาญในนอตติ้งแฮมพยายามรักษามาร์ตินโดยใช้สเต็มเซลล์จากผู้บริจาค แต่ไม่สำเร็จ
จนกระทั่งแพทย์ในคลินิกตาที่ซัสเซ็กซ์ได้ริเริ่มวิธีการผ่าตัดแบบใหม่ มาร์ตินจึงมีโอกาสที่จะกลับมามองเห็นอีกครั้ง
ระหว่างการผ่าตัด แพทย์นำผิวหนังจากกระพุ้งแก้มมาปลูกถ่ายในดวงตาและทิ้งไว้นานสองเดือนเพื่อให้ผิวหนังส่วนนั้นสร้างเส้นเลือดขึ้นมา จากนั้น จึงสกัดชิ้นส่วนเล็กๆ จากเขี้ยวของมาร์ตินมาเจียรเป็นรูปทรงใหม่เพื่อใช้เป็นตัวยึดเลนส์
สุดท้าย แพทย์เจาะรูในกระจกตาที่ปลูกถ่ายลงไปใหม่เพื่อเป็นช่องรับแสง
“ผมรู้สึกดีมากๆ ที่ได้กลับมามองเห็นอีกครั้ง จนไม่รู้จะอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้อย่างไร ผมตาบอดมา 12 ปี พอกลับมามองเห็นได้ใหม่ ทุกสิ่งจึงเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
“สิ่งแรกที่ผมเห็นคือสมาร์ทคาร์ ผมหัวเราะไม่หยุดเพราะไม่เคยเห็นมาก่อน และคิดว่ามันเหมือนรถที่ถูกผ่าหายไปครึ่งหนึ่ง
“การมองเห็นอีกครั้งเปลี่ยนชีวิตของผม เป็นของขวัญมีค่า คุณจะไม่มีวันเห็นคุณค่าของสิ่งนี้จนกว่ามันจะหลุดลอยไปแล้ว
“ตอนที่หมอแกะผ้าพันแผลออก ผมรู้สึกเหมือนกำลังมองผ่านม่านน้ำ แล้วผมก็เห็นว่าคนที่ยืนอยู่ข้างหน้าคือกิลล์ เธอสวยมาก ไม่น่าเชื่อเลยที่ผมได้มีโอกาสเห็นหน้าเธอ
“ผมเคยคิดมาตลอดว่า ถ้ามีโอกาสมองเห็นอีกครั้ง คนแรกที่ผมอยากเห็นคือเธอ
“ผมโชคดีมากที่กลับมามองเห็น ผมรู้สึกว่าความสุขอยู่ใกล้ตัวเรานิดเดียว แค่ได้เห็นสิ่งที่รายล้อมอยู่เท่านั้น”
การผ่าตัดที่ใช้เวลา 8 ชั่วโมง และนำโดยศัลยแพทย์คริสโตเฟอร์ หลิว ได้รับการพัฒนาขึ้นมาเพื่อช่วยผู้ป่วยที่ตาบอดจากกระจกตา แต่ไม่สามารถรับการปลูกถ่ายกระจกตาแบบปกติได้
“ตอนที่ได้ยินเรื่องเทคนิคนี้ครั้งแรก ผมไม่เชื่อว่าจะเป็นไปได้กับทุกคน แม้แต่เพื่อนยังคิดว่าผมอำ ผมต้องถอดแว่นออก แล้วพวกเขาก็จะอุทานออกมาทันทีว่า ‘โอ พระเจ้า’ เพราะตาผมเหมือนก๊อปออกมาจากหนังไซไฟไม่มีผิด”
