สำหรับคู่ที่รู้ตัวว่ากำลังจะไปปาร์ตี้สำคัญสาย เคล็ดลับเพื่อความปลอดภัยเฉพาะหน้าคือ ให้ผู้หญิงเป็นคนขับ โดยนักวิจัยระบุผู้ชายมีแนวโน้มตอบสนองต่อสถานการณ์ตึงเครียดด้วยพฤติกรรมเสี่ยง ขณะที่ผู้หญิงควบคุมสถานการณ์และสติได้ดีกว่า
ความแตกต่างทางเพศอีกข้อนี้มาจากการทดสอบทางจิตวิทยาของมหาวิทยาลัยเซาธ์เทิรนแคลิฟอร์เนีย ซึ่งพบว่าผู้ชายมีแนวโน้มมากกว่าผู้หญิงที่จะรับมือความเครียดด้วยการขับรถโลดโผน สูบบุหรี่ เสี่ยงโชค ใช้ยาเสพติด หรือมีเพศสัมพันธ์ โดยปัจจัยเบื้องหลังความแตกต่างนี้คือเรื่องของวิวัฒนาการ
กล่าวคือในยุคโบราณนั้น เผ่าพันธุ์มนุษย์จะอยู่รอดได้มากกว่าหากฝ่ายชายก้าวร้าวต่อสถานการณ์ที่ตนเองถูกคุกคาม ขณะที่ฝ่ายหญิงที่ต้องเลี้ยงดูลูก มีความระแวดระวังมากกว่า
การศึกษานี้ที่ตีพิมพ์ในวารสารวิทยาศาสตร์ ‘พลอส’ ในอเมริกา ขอให้อาสาสมัคร 48 คนเล่นเกมเสี่ยงโชคในคอมพิวเตอร์โดยใช้เมาส์และคีย์บอร์ด
กติกาของเกมที่ว่าคือ ผู้เล่นจะต้องอัดลมใส่ลูกโป่งโดยใช้ที่อัดลมเสมือน และทุกครั้งที่อัดลมเข้าไปจะได้เงิน 5 เซนต์ซึ่งจะได้รับเมื่อหยุดอัดลม อย่างไรก็ดี สิ่งที่ต้องระวังก็คือ ลูกโป่งอาจแตกเมื่อใดก็ได้ ซึ่งหากเป็นแบบนั้น ผู้เล่นจะต้องคืนเงินที่ได้ทั้งหมด
อาสาสมัครถูกแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม และนักวิจัยใช้เทคนิคเลียนแบบการสร้างความเครียด ด้วยการขอให้อาสาสมัครกลุ่มหนึ่งจุ่มมือลงในเหยือกน้ำใส่น้ำแข็งสามนาทีก่อนเริ่มต้นเล่นเกม ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มระดับคอร์ติซอล ซึ่งเป็นฮอร์โมนความเครียดในกระแสเลือด
กลุ่มควบคุมได้รับคำสั่งให้ยกมือขึ้นจากน้ำในบรรยากาศที่อุณหภูมิห้อง ทำให้ระดับความเครียดไม่เพิ่มขึ้น และผลปรากฏว่าอาสาสมัครกลุ่มนี้ทั้งชายและหญิงมีความกล้าเสี่ยงพอๆ กัน กล่าวคืออัดลมลงในลูกโป่งเฉลี่ย 40 ครั้งเท่ากันก่อนขอรับเงิน
อย่างไรก็ตาม อีกกลุ่มที่อยู่ในสถานการณ์ที่ถูกจำลองให้มีความเครียด อาสาสมัครหญิงจะอัดลมใส่ลูกโป่งเฉลี่ยเพียง 32 ครั้ง ขณะที่อาสาสมัครชายอัดลมถึง 48 ครั้ง
“ผู้ชายมีแนวโน้มเข้าสู่สถานการณ์การเงินที่ล่อแหลมมากกว่าผู้หญิง” ดร.นิโคล ไลท์ฮอลล์ ผู้นำการวิจัย กล่าวถึงพฤติกรรมส่วนหนึ่งที่เป็นแรงจูงใจให้มีการศึกษาครั้งนี้ และเสริมว่า
“แต่เราจะพบความแตกต่างในเชิงสถิติเกี่ยวกับพฤติกรรมเสี่ยงระหว่างผู้ชายกับผู้หญิงเฉพาะในสถานการณ์ที่ตึงเครียดเท่านั้น”
ดร.ไลท์ฮอลล์เชื่อว่า ผู้ชายตอบสนองต่อสถานการณ์ดังกล่าวด้วยปฏิกิริยาของ ‘สู้หรือถอย’ ที่วิวัฒนาการมาเมื่อหลายล้านปีที่แล้ว
“ในทางกลับกัน ผู้หญิงในการศึกษาของเรามีแนวโน้มมีสติกว่าเมื่อเจอความกดดัน ซึ่งเป็นวิธีการรับมือที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งในมนุษย์ยุคต้น เพราะถ้าผู้หญิงกล้าเสี่ยงเหมือนผู้ชาย อันตรายคงตกกับลูกๆ ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของพวกเรานั่นเอง
“เห็นได้ชัดว่ามีสถานการณ์มากมายในโลกแห่งความเป็นจริง ที่พฤติกรรมเสี่ยงไม่เป็นประโยชน์อย่างแน่นอน ในทางตรงข้าม การมีสติ ยับยั้งชั่งใจ และค่อยๆ แก้ปัญหาจะได้ผลดีกว่า”
ความแตกต่างทางเพศอีกข้อนี้มาจากการทดสอบทางจิตวิทยาของมหาวิทยาลัยเซาธ์เทิรนแคลิฟอร์เนีย ซึ่งพบว่าผู้ชายมีแนวโน้มมากกว่าผู้หญิงที่จะรับมือความเครียดด้วยการขับรถโลดโผน สูบบุหรี่ เสี่ยงโชค ใช้ยาเสพติด หรือมีเพศสัมพันธ์ โดยปัจจัยเบื้องหลังความแตกต่างนี้คือเรื่องของวิวัฒนาการ
กล่าวคือในยุคโบราณนั้น เผ่าพันธุ์มนุษย์จะอยู่รอดได้มากกว่าหากฝ่ายชายก้าวร้าวต่อสถานการณ์ที่ตนเองถูกคุกคาม ขณะที่ฝ่ายหญิงที่ต้องเลี้ยงดูลูก มีความระแวดระวังมากกว่า
การศึกษานี้ที่ตีพิมพ์ในวารสารวิทยาศาสตร์ ‘พลอส’ ในอเมริกา ขอให้อาสาสมัคร 48 คนเล่นเกมเสี่ยงโชคในคอมพิวเตอร์โดยใช้เมาส์และคีย์บอร์ด
กติกาของเกมที่ว่าคือ ผู้เล่นจะต้องอัดลมใส่ลูกโป่งโดยใช้ที่อัดลมเสมือน และทุกครั้งที่อัดลมเข้าไปจะได้เงิน 5 เซนต์ซึ่งจะได้รับเมื่อหยุดอัดลม อย่างไรก็ดี สิ่งที่ต้องระวังก็คือ ลูกโป่งอาจแตกเมื่อใดก็ได้ ซึ่งหากเป็นแบบนั้น ผู้เล่นจะต้องคืนเงินที่ได้ทั้งหมด
อาสาสมัครถูกแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม และนักวิจัยใช้เทคนิคเลียนแบบการสร้างความเครียด ด้วยการขอให้อาสาสมัครกลุ่มหนึ่งจุ่มมือลงในเหยือกน้ำใส่น้ำแข็งสามนาทีก่อนเริ่มต้นเล่นเกม ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มระดับคอร์ติซอล ซึ่งเป็นฮอร์โมนความเครียดในกระแสเลือด
กลุ่มควบคุมได้รับคำสั่งให้ยกมือขึ้นจากน้ำในบรรยากาศที่อุณหภูมิห้อง ทำให้ระดับความเครียดไม่เพิ่มขึ้น และผลปรากฏว่าอาสาสมัครกลุ่มนี้ทั้งชายและหญิงมีความกล้าเสี่ยงพอๆ กัน กล่าวคืออัดลมลงในลูกโป่งเฉลี่ย 40 ครั้งเท่ากันก่อนขอรับเงิน
อย่างไรก็ตาม อีกกลุ่มที่อยู่ในสถานการณ์ที่ถูกจำลองให้มีความเครียด อาสาสมัครหญิงจะอัดลมใส่ลูกโป่งเฉลี่ยเพียง 32 ครั้ง ขณะที่อาสาสมัครชายอัดลมถึง 48 ครั้ง
“ผู้ชายมีแนวโน้มเข้าสู่สถานการณ์การเงินที่ล่อแหลมมากกว่าผู้หญิง” ดร.นิโคล ไลท์ฮอลล์ ผู้นำการวิจัย กล่าวถึงพฤติกรรมส่วนหนึ่งที่เป็นแรงจูงใจให้มีการศึกษาครั้งนี้ และเสริมว่า
“แต่เราจะพบความแตกต่างในเชิงสถิติเกี่ยวกับพฤติกรรมเสี่ยงระหว่างผู้ชายกับผู้หญิงเฉพาะในสถานการณ์ที่ตึงเครียดเท่านั้น”
ดร.ไลท์ฮอลล์เชื่อว่า ผู้ชายตอบสนองต่อสถานการณ์ดังกล่าวด้วยปฏิกิริยาของ ‘สู้หรือถอย’ ที่วิวัฒนาการมาเมื่อหลายล้านปีที่แล้ว
“ในทางกลับกัน ผู้หญิงในการศึกษาของเรามีแนวโน้มมีสติกว่าเมื่อเจอความกดดัน ซึ่งเป็นวิธีการรับมือที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งในมนุษย์ยุคต้น เพราะถ้าผู้หญิงกล้าเสี่ยงเหมือนผู้ชาย อันตรายคงตกกับลูกๆ ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของพวกเรานั่นเอง
“เห็นได้ชัดว่ามีสถานการณ์มากมายในโลกแห่งความเป็นจริง ที่พฤติกรรมเสี่ยงไม่เป็นประโยชน์อย่างแน่นอน ในทางตรงข้าม การมีสติ ยับยั้งชั่งใจ และค่อยๆ แก้ปัญหาจะได้ผลดีกว่า”