xs
xsm
sm
md
lg

วอนเข้าใจคนตรง “ต้าร์” โวยสื่อเสี้ยม ยัน "ได๋" แค่เพื่อน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ต้าร์” ยืนยันคำเดิม “ได๋” ได้แค่เพื่อน ไม่เปลี่ยนเป็นอื่น โวยสื่อชอบให้คนทะเลาะกัน เผยไม่เคยนึกเสียใจกับคำพูดตัวเอง ตนเป็นคนตรงไปตรงมา ขอให้สื่อและคนเสพสื่อเข้าใจตามนี้ด้วย

กลายเป็นเรื่องไปซะแล้วสำหรับคำให้สัมภาษณ์ของอดีตนักร้องหนุ่ม “ต้าร์ นาวิน เยาวพลกุล” ต่ออดีตสาวคนสนิท “ได๋ ไดอาน่า จงจินตนาการ” ที่ค่อนข้างจะตรงและแรงว่าเป็นได้แค่เพื่อนโอกาสพัฒนาความสัมพันธ์เป็นศูนย์ กระทั่งถูกมองว่าไม่รักษาน้ำใจและไม่นึกถึงความสัมพันธ์ที่ดีๆ ในอดีตซึ่งทั้งคู่มีให้กัน

ซึ่งหนุ่มต้าร์ ขอเปิดใจอีกทีในกองถ่ายละครเรื่อง “แม่หญิง” ที่ มนตรีสตูดิโอ ซอยลาดพร้าว101 โดยเผยว่าตนเป็นคนตรงไปตรงมา พูดไปตามที่คิด และแอบเหน็บสื่อว่าชอบหาเรื่องให้คนทะเลาะกัน มันสนุกตรงไหน

“ต้องบอกว่าผมเป็นคนตรงไปตรงมานะครับ ไม่ชอบพูดอ้อมค้อม คือมันน่ารำคาญ ถ้ารู้อะไรคิดอะไรก็พูดไปตามนั้น แต่ในบางข่าวเราก็เสียใจนะ แล้วก็เศร้าใจกับการที่จะต้องมีอาชีพๆ หนึ่งและการที่จะประสบความสำเร็จได้ มันจะต้องแลกมาด้วยความผิดเพี้ยนทางศีลธรรม หรือว่าการละเมิดทางจรรยาบรรณสักหน่อย”

“ซึ่งผมก็ท้อใจนะ ว่าสังคมไทยไปยอมรับ ไปชื่นชมกับกลุ่มคนนี้ได้ยังไง เพราะผมว่ามันไม่ต่างอะไรจากการที่ประกอบมิจฉาชีพ บิดเบือน โกหก เราก็ท้อใจในส่วนหนึ่ง แต่นี่ผมพูดกว้างๆ ไม่ได้เหมารวมนะ อะไรที่ดีก็มีอยู่เยอะ แต่ปลาเน่าตัวเดียวมันก็เหม็นกันทั้งบ่อ มันก็จะเป็นอย่างที่เห็น”

“คือตัวผมมีความบริสุทธิ์ใจกับได๋อยู่แล้ว คือเราเป็นเพื่อนกันด้วยความบริสุทธิ์ใจจริงๆ นะ เราเป็นเพื่อนรักกันนะครับ แล้วก็ไม่เคยที่จะต้องมานั่งทะเลาะงี่เง่ากันอย่างที่สื่อเขียนไป อ่านดูผมก็รู้สึกตลก คิดว่ามันเป็นอย่างนั้นได้ยังไง มันอยู่ที่การนำเสนอนะ ถ่ายกลับไปกลับมามันกลายเป็นอย่างนั้นได้ ตัวเขาก็ไม่เห็นจะถือสาอะไร เท่าที่ผมทราบเขาก็ไม่ได้คิดอะไรนะ”

“ผมเอาความบริสุทธิ์ใจเข้าแลกกับความเป็นเพื่อน ให้ความเป็นเพื่อนที่มีความบริสุทธิ์ใจ 100% เพราะฉะนั้นผมจะไม่คิดถึงเรื่องอื่น เราก็ต้องรักษาความสัมพันธ์อันนี้ ผมรู้สึกว่าเราให้เกียรติเขา ในส่วนของการที่เราจะไม่ไปกรุ้มกริ่มหรือหวังอะไรไปมากกว่าตอนนี้ ผมขอแค่นี้ เพราะฉะนั้นเพื่อน 100% โอกาสจะเป็นอย่างอื่นไม่มี ผมก็คิดแบบนี้ เขาก็คิดแบบนี้”

“แต่ผมเป็นคนที่โชคดีนะในชีวิตได้เจอแต่คนที่ฉลาดๆ เก่งๆ แล้วก็น่าสนใจเยอะมาก กับได๋ก็เป็นอีกคนนึง เขาเป็นคนน่าสนใจมากนะ ถ้าเกิดใครได้รู้จักเขาจะมีความรู้สึกว่าเขามีมุมมอง มีทัศนคติ ซึ่งคุยด้วยแล้วเรารู้สึกสบายใจ และเราก็ภูมิใจที่เรามีเพื่อนคนนี้แหละที่เราคอยพูดคุย คอยปรึกษาปัญหาชีวิตอะไรต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตามเราคุยกันตลอด ก็ดีใจที่เรามีเพื่อนคนนี้อยู่ ซึ่งความเป็นเพื่อนจริงๆ แล้วมันประเสริฐมาก เพื่อนมันก็ยังมีอยู่ตลอดไป”

เผยว่า ไม่เคยคิดว่าผลที่ตามมาจะดูรุนแรงขนาดนี้ เพราะโดยเจตนาคิดว่าสื่อและคนอ่านคงจะมีวิจารณญาณส่วนตัวพิจารณาได้เอง และได้เคลียร์กับ “ได๋” เรียบร้อย ไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน

“ผมไม่รู้ว่าผลที่ออกมามันเป็นยังไงนะครับ คือตัวเราพูดอะไรไปหวังอยู่ในใจลึกๆ ว่าเราเชื่อในวิจารณญาณของคนที่นำเอาสื่อไปออกส่วนหนึ่ง และก็เชื่อในวิจารณญาณของคนเสพสื่อด้วยส่วนหนึ่ง และเคารพเขาด้วย และผมก็เชื่อว่าเขาควรที่จะเคารพผมด้วย ในความคิดต่างๆ อย่าเอามาจบในคำพูดๆ เดียวหรือภาพที่เห็น”

“ซึ่งจริงๆ แล้วเรามีความเป็นเรามากกว่าที่เห็นในจอแบบนี้ คุณยังไม่รู้จักผมหรอก เพราะว่าผมเป็นผมแบบนี้ คุณต้องคุยกับผมอีกนานกว่าคุณจะรู้จัก เพราะฉะนั้นถ้าทำอะไรที่มันบันเทิงแล้วมีความสุข เรามาทำกันดีกว่า มาแชร์กัน มาสนุกด้วยกัน แต่จะมานั่งโจมตีอะไรแบบนี้ ผมไม่เอาด้วย ถ้าพูดวันนี้แล้วออกไปอีกแบบหนึ่ง ผมก็ไม่รู้จะสัมภาษณ์ไปทำไม ผมเดินกลับเข้าบ้านดีกว่า เพราะผมว่ามันก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา คือทำอะไรผมมีความบริสุทธิ์ใจอยู่แล้ว และผมก็พูดตรงไปตรงมา พูดตามที่คิด”

“หลังจากวันนั้นก็ได้คุยกันครับ ว่าดูๆ ไปมันก็แรงพอสมควร แต่ถ้าคนที่รู้จักผม รู้จักเขา และรู้จักเรา เขาก็คงจะเข้าใจดีว่าจริงๆ แล้วมันไม่มีอะไร คือหลังจากงานวันนั้น ผมก็แอบไปพักร้อน ไปดำน้ำกับที่บ้านมา ผมรู้สึกว่ามีความสุขมาก ไปอยู่กับทะเล อยู่กับธรรมชาติ ไม่ต้องยุ่งกับใครเลย ผมชอบอะไรของผมแบบนี้ ออกไปอยู่กลางทะเล ไม่ต้องมีสัญญาณโทรศัพท์ ไม่มีใครติดต่อได้”

“แต่พอกลับเข้าฝั่งเท่านั้นแหละ คนโทรหาผมเยอะมาก (หัวเราะ) บอกว่าจะมารายงานว่าข่าวออกแล้วนะ คนด่าต้าร์ยับเลย(หัวเราะ) พอก่อนที่จะกลับยังนึกเลยว่า ไม่อยากกลับมาสู่โลกของความเป็นจริงเลย รู้สึกสนุกและสบายใจ กลับมาดันมาเจอข่าวอะไรแบบนี้ ผมก็รีบโทรหาได๋เลย แล้วก็คุยกันถามว่ามันเกิดอะไรขึ้น มันเป็นอะไร ซึ่งถ้าใครอยู่ในเหตุการณ์วันนั้นก็จะเห็นว่ามันไม่มีอะไร ผมก็ไม่รู้ว่าทำกันไปทำไม”

“ต้าร์” ยอมรับว่าสาว “ได๋” ได้เขียนข้อความในไฮไฟว์ของตัวเองถึง “ต้าร์” ว่าอย่าไปหลงเชื่อภาพมายา ให้เข้าใจว่ามันเป็นเพียงข่าวเท่านั้น
“ตอนนี้แต่ละคนก็ต่างทำงาน แล้วก็ยุ่งๆ กัน บางทีก็ไม่ค่อยได้เจอเขา เห็นเขาบอกว่าตอนนี้มีงานเยอะ ทำงานได้เยอะเราก็ดีใจกับเขาด้วย ส่วนเรื่องข้อความในไฮไฟว์ เขาก็บอกประมาณว่า อย่าหลงในภาพมายา"

"เขาหมายถึงว่าคนที่มาดูข่าวเนี่ย อย่าไปเชื่อแล้วกัน เพราะจริงๆ แล้วมันไม่ได้เป็นอย่างนั้น และผมก็บอกในวันนั้นไปแล้วว่าเราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันตลอดมา แล้วก็คงจะเป็นตลอดไปจริงๆ เพราะสำหรับผมก็มีแต่ความรู้สึกดีๆ ให้ แต่ไม่รู้ทำไมคนเขารักกันดีๆ กัน มาเป็นข่าวว่าทะเลาะกัน มันสนุกตรงไหน ไม่เข้าใจ(หัวเราะ) ทำอะไรกัน”

“ความสนิทก็ยังเหมือนเดิมครับ เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็คงไม่ทำให้มันจะกลายเป็นอะไรอย่างอื่นไปได้ ณ ตอนนี้ความบริสุทธิ์ใจของผมคืออย่างนี้ ความซื่อสัตย์ ความจริงใจเวลาที่ผมคบกับใครผมก็เป็นแบบนี้ ผมจะไม่มีมากรุ้มกริ่ม ไม่เอา บางคนบอกว่าผู้ชายกับผู้หญิงเป็นเพื่อนกันไม่ได้ ผมว่าเป็นได้ แต่อนาคตจะเป็นยังไงก็ปล่อยให้มันเป็นไป พรุ่งนี้เราก็เปลี่ยนเป็นอีกคนนึงแล้ว บางทีเราได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ เราก็เปลี่ยนความคิดได้”

“ต้าร์รู้สึกยังไงก็พูดไปตามนั้น ก็อยากให้คิดแบบนั้นแหละครับ ที่พูดก็ขอให้คิดแล้วกัน เพราะหมายความอย่างนั้นจริงๆ เราก็เสียใจที่อยู่ๆ มันกลายมาเป็นอย่างนี้ เราก็ไม่รู้จะทำยังไง ที่ทำไปก็เพราะอยากจะทำ แล้วมันก็ออกมาเป็นอย่างนี้เอง ที่สัมภาษณ์วันนี้ก็ไม่ได้ต่างไปจากวันนั้นเท่าไหร่ มันก็กลับไปกลับมาเป็นงงๆ แบบนั้น ผมก็ทำอะไรไม่ได้”

“แต่ต้าร์ไม่เคยเสียใจว่าต้าร์พูดอะไรไป ต้าร์ไม่เคยเสียใจ ถ้าเห็นว่าทุกอย่างที่เราพูดเราคิด บางคนคุยกับต้าร์เยอะ เขาจะบอกว่าต้าร์เหตุผลเยอะเกิน หลักการมันเยอะ คือเราเป็นคนอย่างนั้น เราคิดก่อนที่จะพูด โดยเฉพาะพูดกับสื่อด้วยยิ่งต้องคิดหนักเลย เพราะเราต้องพูดให้ไม่มีช่องว่าง แต่เนื่องจากเราเป็นคนตรง พูดอะไรมันก็อาจจะดูรุนแรงขึ้นมา ก็เลยไม่รู้จะเสียใจไปทำไม อย่างที่พูดไปอยู่ๆ มันออกมาอย่างนั้นให้ทำยังไงล่ะ”

กำลังโหลดความคิดเห็น