xs
xsm
sm
md
lg

บี้เทพเทือกžกลืนน้ำลายยกพระวิหารžให้กัมพูชา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่านายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ได้รายงานให้ทราบถึงผลการเดินทาง ไปเยือนประเทศกัมพูชา เพื่อพบ สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.ว่า ทุกอย่างเรียบร้อยดี มีความเข้าใจที่ดีขึ้นในปัญหาต่างๆ คิดว่าคงจะทำให้ความ ตึงเครียดน่าจะผ่อนคลายลง ซึ่งในการหารือครั้งนี้ได้มีการสานต่อความร่วมมือ หลังจากที่ตนได้เดินทางไปเยือนกัมพูชามาก่อนหน้านี้ และคิดว่าคงจะทำให้ความ ตึงเครียดบริเวณแนวชายแดนลดลงได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่าไทยไม่จำเป็นต้องเพิ่มกำลังทหารตามแนวชายแดน แล้วใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า จะดูตามสถานการณ์ ซึ่งการพูดจาสร้างความเข้าใจ ก็ที่ดีขึ้น เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่าสถานการณ์ตามแนวชายแดนคลี่คลายลงแล้วใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ก็น่าจะดีขึ้น และคิดว่าทั้ง 2 ฝ่ายคงจะได้ยึดถือตามที่มีการพูดคุย กันก่อนหน้านี้ว่าจะแก้ไขปัญหากันด้วยสันติวิธี และการเดินทางไปเยือนกัมพูชาของ นายสุเทพ น่าจะทำให้เกิดความเข้าใจที่ดีขึ้นอีกระดับหนึ่ง
นายนพดล ปัทมะ อดีตรมว.ต่างประเทศ กล่าวว่าการที่นายสุเทพระบุว่า ปราสาทพระวิหารศาลโลกได้ตัดสินไว้หลายสิบปีแล้วว่าเป็นกรรมสิทธิ์ของกัมพูชาและจะไม่โต้แย้ง ถือว่าเป็นฝันร้ายในอดีตนั้นถือเป็นการกลับลำ 360 องศา กลืนน้ำลายตัวเอง แต่ในทางกลับกันเป็นการยืนยันคำพูดของตนและรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช จึงต้องขอบคุณนายสุเทพที่ออกมาจำใจยอมรับความจริง แม้จะช้าไปหน่อย แต่ก็ทำให้คนไทยทราบข้อเท็จจริงว่า ใครเป็นคนปกป้องดินแดนให้ประเทศไทย
นายนพดล กล่าวว่าสถานการณ์วันนี้สุ่มเสี่ยงที่จะเกิดสงคราม นายสุเทพ จึงต้องจำใจยอมรับความจริง เนื่องจากจำนนด้วยข้อเท็จจริง เมื่อครั้งที่เป็นฝ่ายค้าน พูดอย่างหนึ่งแต่พอมาเป็นรัฐบาลก็กลับพูดอีกอย่างหนึ่ง มุ่งแต่ทำลายล้าง ทางการเมืองโดยไม่คิดถึงปัญหาของประเทศชาติ พรรคประชาธิปัตย์ไม่จำเป็นต้อง ขอโทษตน แต่ให้ไปขอโทษประชาชนแทน
ผมเป็นคนปกป้องพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตรแต่กลับถูกกล่าวหาว่า เป็นคนขายชาติจนประชาชนเข้าใจผิด แต่ผมยกโทษให้ อยากให้ทุกคนพูดและยอมรับความจริง นายกรัฐมนตรีก็เข้าใจผิดอย่างมากในเรื่องนี้ อยากให้ยอมรับความจริงเสียดีกว่า
ขณะที่ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ระบุว่ายอมยกธงขาว ยกเขาพระวิหารให้กัมพูชาเพราะศาลโลกได้ตัดสินไปนานแล้ว แสดงให้เห็นว่าคำพูดสมัยนายสุเทพ และพรรคประชาธิปัตย์ เป็นฝ่ายค้านเชื่อถือไม่ได้ เพราะตอนนั้นออกมาเรียกร้องเรื่องนี้ว่าจะต้องต่อสู้ เพราะพื้นที่เป็นของคนไทย โดยเฉพาะ นายกษิต ภิรมย์ รมว .ต่างประเทศ รวมถึงพรรคประชาธิปัตย์ สมัยเป็นฝ่ายค้านก็ออกมาต่อว่ารัฐบาลพรรคพลังประชาชนไปเจรจาขายชาติ ขายแผ่นดิน ทั้งที่ก็รู้อยู่แล้วว่าศาลโลกตัดสินเรื่องนี้จบไปแล้วตั้งแต่สมัยที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล พ.ศ. 2505
สมัยก่อนพรรคประชาธิปัตย์ พยายามนำเรื่องปราสาทเขาพระวิหารมาเป็น ประเด็นทางการเมือง พยายามเบี่ยงเบนว่าพรรคพลังประชาชนโดยนายนพดล ปัทมะ อดีตร มว.ต่างประเทศ ไปทำสัญญาขายชาติยกแผ่นดินให้กัมพูชา ทั้งที่ไม่ใช่ แต่มาวันนี้ นายสุเทพ กลับมายอมรับและยกที่ดินให้กัมพูชาโดยบอกว่าศาลโลกตัดสินไปแล้ว ทั้งที่เป็นแกนนำสำคัญคัดค้านเรื่องการยกเขาพระวิหารให้กัมพูชามาโดยตลอด แต่วันนี้กลับยกธงขาวแบบง่ายๆ “ นายพร้อมพงษ์ กล่าว
เรื่องนี้จะทำให้ประชาชนเห็นว่าสิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ทำตอนเป็นฝ่ายค้าน จะทำทุกอย่าง รวมถึงเอาผลประโยชน์ของประเทศชาติมาเป็นเกมทางการเมือง เพราะตอนนี้สิ่งที่พูดไว้เหมือนเป็นการเอาลิ้นมาพันคอตัวเอง ตอนแรกว่าจะทวงเขาพระวิหารคืน แต่วันนี้กลับยกให้อย่างนี้เรียกว่าขายชาติหรือไม่ ตอนนี้ประชาชนทั้งประเทศเห็นธาตุแท้ของพรรคประชาธิปัตย์แล้ว ว่า คิดได้ พูดได้ แต่กลับทำไม่ได้สักอย่าง เป็นพวกขายฝันสร้างภาพ เพื่อประโยชน์ทางการเมืองแค่นั้นเอง
นายพิทยา พุกกะมาน รองโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า ตนขอเรียกร้องไปถึงรัฐบาล ให้เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทระหว่างประเทศเรื่องการคัดค้านการขึ้น ทะเบียนปราสาทพระวิหาร เป็นมรดกโลก เพราะความไม่เข้าใจที่เกิดขึ้นนั้นสืบเนื่อง มาจากเมื่อครั้งที่นายอภิสิทธิ์เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เดินทางไปเยือนกัมพูชา แต่กลับไม่หยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมาหารือ แต่อีกไม่กี่วันให้หลัง รัฐบาลได้ส่งนายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว . ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ไปตัวแทนเดินทางไปร่วมประชุมกับคณะกรรมการมรดกโลกที่ประเทศสเปนเพื่อคัดค้านการขึ้นทะเบียน แสดงให้เห็นว่า นายอภิสิทธิ์ พูดอย่างทำอย่าง เป็นผู้นำที่ตีสองหน้าซึ่งในเวทีโลกเขาไม่ทำกันเพราะถือว่าผิดมารยาท
รวมทั้งกรณีที่รัฐบาลไปวิพากษ์วิจารณ์กรณีของอองซาน ซูจี จนรัฐบาลพม่า ไม่พอใจ จึงอยากเรียกร้องว่านายอภิสิทธิ์ ควรให้ความสำคัญและจริงใจในการแก้ปัญหา จะมาทำเป็นเล่นไม่ได้เพราะเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อน
กำลังโหลดความคิดเห็น