นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัว นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษาทางกฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุว่า นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ออกแถลงการณ์ในฐานะประธานอาเซียน สร้างความแตกแยกระหว่างประเทศไทยกับพม่าที่เรียกร้องให้ปล่อย ออง ซาน ซู จี ว่า นายกฯ ได้ออกแถลงการณ์ในฐานะที่เป็นประธานอาเซียน จึงจำเป็นต้องแสดงบทบาทและท่าทีให้ชัดเจนและอยู่บนพื้นฐานของความปรารถนาดีของสมาชิกอาเซียนที่มีต่อสหภาพพม่า ซึ่งเนื้อหาของแถลงการณ์อยู่บนหลักการเดิมที่กลุ่มอาเซียนเคยเรียกร้องต่อกรณีนี้มาแล้ว ไม่มีอะไร ทุกอย่างที่แสดงท่าทีออกมานั้นก็เป็นความเห็นตรงไปตรงมาไม่มีเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน
โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การแสดงภาวะผู้นำของนายอภิสิทธิ์ในฐานะผู้นำอาเซียนครั้งนี้ได้รับการชื่นชมจากกลุ่มประเทศอาเซียน กลุ่มอียู และกลุ่มเอ็นจีโอ ด้านสิทธิมนุษยชนในระดับนานาชาติว่า นายกรัฐมนตรี ไทยมีจุดยืนต่อกรณีนี้ชัดเจนไม่เปลี่ยน แม้แต่ประธานาธิบดีบารัก โอบามา ของสหรัฐฯ เองก็ได้แสดงท่าทีที่จะคว่ำบาตรต่อรัฐบาลพม่าอย่างรุนแรง ซึ่งเป็นท่าทีสอดคล้องกับท่าทีของรัฐบาลไทย คงมีเพียงแต่กลุ่มคนในระบอบทักษิณเท่านั้น ที่แสดงอาการคัดค้านและไม่เห็นด้วยต่อท่าทีของนานาประเทศทั่วโลก เพียงหวังเพื่อเอาใจต่อรัฐบาลพม่าเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจของกลุ่มตนเองใช่หรือไม่
โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การแสดงภาวะผู้นำของนายอภิสิทธิ์ในฐานะผู้นำอาเซียนครั้งนี้ได้รับการชื่นชมจากกลุ่มประเทศอาเซียน กลุ่มอียู และกลุ่มเอ็นจีโอ ด้านสิทธิมนุษยชนในระดับนานาชาติว่า นายกรัฐมนตรี ไทยมีจุดยืนต่อกรณีนี้ชัดเจนไม่เปลี่ยน แม้แต่ประธานาธิบดีบารัก โอบามา ของสหรัฐฯ เองก็ได้แสดงท่าทีที่จะคว่ำบาตรต่อรัฐบาลพม่าอย่างรุนแรง ซึ่งเป็นท่าทีสอดคล้องกับท่าทีของรัฐบาลไทย คงมีเพียงแต่กลุ่มคนในระบอบทักษิณเท่านั้น ที่แสดงอาการคัดค้านและไม่เห็นด้วยต่อท่าทีของนานาประเทศทั่วโลก เพียงหวังเพื่อเอาใจต่อรัฐบาลพม่าเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจของกลุ่มตนเองใช่หรือไม่
