โฆษกพรรคเพื่อไทยขู่วอล์กเอาต์ไม่ร่วมสังฆกรรมพิจารณา พ.ร.ก.กู้เงินหากรัฐหมกเม็ดไม่ถ่ายทอดสดการเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ ด้าน “สุรพงษ์” เจ้าเก่าเหน็บ กกต.สองมาตรฐาน โฟนอิน “พ่อแม้ว” ผิดตรงไหน ด้านไข่แม้วจ้องถล่มเลือกตั้งซ่อมสกลนคร เชื่อ ภท.เกณฑ์คนมาใส่คะแนนคึกคัก
วันนี้ (14 มิ.ย.) ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.ก.และร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน เพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศษรฐกิจ ในวันที่ 15 มิ.ย.ว่า ขอให้รัฐบาลมีความชัดเจนเรื่องการถ่ายทอดสดร่าง พ.ร.ก.ดังกล่าว อย่าเล่นบทตีสองหน้า เพราะในขณะที่นายกรัฐมนตรีบอกว่าไม่ขัดข้องที่จะให้ถ่ายทอดสดร่างกฎหมายนี้ แต่วิปรัฐบาลกลับยืนยันไม่ให้มีการถ่ายทอดสด ดังนั้นนายกฯต้องมีความชัดเจนว่าจะให้มีการถ่ายทอดสดหรือไม่ ซึ่งในวันที่ 15 มิ.ย.เวลา 08.00 น.วิปฝ่ายค้านจะประชุมหารือกันก่อนการเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ หากรัฐบาลยืนยันไม่ให้มีการถ่ายทอดสด ฝ่ายค้านก็ยืนยันที่จะวอกต์เอาท์ไม่เข้าร่วมประชุม
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ยืนยันว่าหากรัฐบาลไม่อนุญาตให้ถ่ายทอดสดการพิจารณาร่าง พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน เพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ในวันที่ 15 มิ.ย. พรรคเพื่อไทยจะไม่ร่วมประชุมการพิจารณากฎหมายดังกล่าวกับรัฐบาล เราจะไม่ร่วมสังฆกรรมแน่ ไม่ใช่เพราะฝ่ายค้านตีรวน แต่ฝ่ายค้านจะยอมให้รัฐบาลนำงบประมาณ 8 แสนล้านบาทก้อนนี้ไปปู้ยี่ปู้ยำ โดยปราศจากการตรวจสอบไม่ได้ ขอให้ประชาชนเข้าใจด้วย
นายสุรพงษ์กล่าวว่า ส่วนกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะตรวจสอบการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มายังที่ประชุมส.ส.พรรคเพื่อไทย เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น อยากถาม กกต.ว่า กรณีที่นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคเพื่อไทย ไปกอดคอกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ทำไม กกต.จึงยกคำร้อง ทั้งที่มีความชัดเจนว่าเข้ามายุ่งเกี่ยวการเมือง กกต.อย่ามีสองมาตรฐาน ไม่ใช่ให้สัมภาษณ์เอามันอย่างเดียว ไม่เข้าใจว่าเหตุใดจึงคิดว่าการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นการยุ่งเกี่ยวกับการเมือง
นายพร้อมพงศ์ยังกล่าวถึงการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.สกลนครว่า พรรคเพื่อไทยได้ส่งทีมกฎหมายลงพื้นที่ไปตรวจสอบการเลือกตั้งล่วงหน้า เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.พบว่า มีความผิดปกติในการจัดการเลือกตั้งหลายเรื่อง โดยเฉพาะหน่วยเลือกตั้งกลาง อ.สว่างดินแดน ซึ่งมีประชาชนมาใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าจำนวนมากตั้งแต่เช้าจนถึงเวลา 17.00 น. แต่เจ้าหน้าที่ กกต.ประจำหน่วยเลือกตั้งไม่ปฏิบัติตาม มาตรา 95 พ.ร.บ.การเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว. พ.ศ.2550 และระเบียบของ กกต.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.2550 ข้อ 161 และ 162 โดยให้ผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าเข้าไปใช้สิทธิได้ทันที โดยไม่มีการสอบถามสาเหตุว่า เหตุใดจึงไม่สามารถมาใช้สิทธิเลือกตั้งจริงในวันที่ 21 มิ.ย.ได้ ซึ่งผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยได้คัดค้านต่อ กกต.จังหวัด และกกต.เขตแล้ว เพื่อให้ตรวจสอบเรื่องนี้โดยเร่งด่วน
นายพิทยา พุกกะมาน รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การลงคะแนนเลือกตั้งซ่อมล่วงหน้า จ.สกลนคร เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.ที่ผ่านมาว่า มีผู้มาใช้สิทธิมาผิดปกติ อยากตั้งข้อสังเกตว่า อาจมีการทุจริตเกิดขึ้น ดังนั้น ในการเลือกตั้งจริง วันที่ 27 มิ.ย. พรรคเพื่อไทยจะเชิญผู้สังเกตการณ์จากต่างประเทศ คือ องค์กรระหว่างประเทศ มาร่วมตรวจสอบและสังเกตการณ์เลือกตั้งในวันดังกล่าว ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะเชิญองค์กรใดมาร่วมสังเกตการณ์ ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา หากจะมีองค์กรจากต่างประเทศมาร่วมตรวจสอบการเลือกตั้ง เพราะเป็นการเชิญมาเพื่อเป็นหลักประกันว่าการเลือกตั้งจะมีความบริสุทธิ์ ขาวสะอาด อย่าไปมองว่าเชิญมาสังเกตการณ์แล้วต้องเสียอธิปไตย ทุกประเทศก็ทำแบบนี้ ถ้าไม่มีอะไรปิดบังก็ไม่ต้องกลัว