นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์ ถึงการแก้ปัญหายาเสพติดของรัฐบาล ภายใต้ปฏิบัติการ 5 รั้วป้องกัน ในรอบ 3 เดือนว่า ปัญหายาเสพติดเป็นความทุกข์ของประชาชนคนไทยจำนวนมาก และยังก่อความเสียหายทั้งเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาน่าจะมีคน ที่เข้าไปอยู่ ในวงจรที่ติดยาเสพติดเพิ่มขึ้นประมาณ 1-2 แสนคน ก็เป็นปัญหาซึ่งรัฐบาลต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษ ซึ่งในอดีตการทำงานส่วนใหญ่ทุกคนก็ให้ความ สนใจมุ่งไปในเรื่องการปราบปราม ซึ่งก็เป็นเรื่องสำคัญ รัฐบาลนี้ก็ดำเนินการ ในเรื่องของการปราบปรามอย่างต่อเนื่อง เพียงแต่ว่าลำพังการปราบปรามอย่างเดียวโดยใช้ความรุนแรงมันจะไม่ได้ผลอย่างที่คิด คงจำได้ว่าใน 5 ปีที่ผ่านมามีบางช่วงก็มีมาตรการ เน้นการปราบปราม ซึ่งอาจจะเกินเลยไปถึงเรื่องของการใช้คำว่าฆ่าตัดตอน มีการละเมิดสิทธิจนกระทั่งทุกวันนี้บางเรื่องยังเป็นคดีความกันอยู่ แต่สิ่งที่พบคือแม้ยาเสพติดจะดูลดลง แต่เป็นแค่ชั่วคราว เพราะพอสักพักกลุ่มผู้ค้าก็สามารถที่จะจัดระบบจัดองค์กรของเขาใหม่ขึ้นมาได้
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ช่วงมีการฆ่าตัดตอนสิ่งที่เกิดขึ้นคือ ราคายาเสพติด พุ่งสูงขึ้น แต่พวกคนค้าก็ใช้วิธีไปรวมกลุ่มบริหารจัดการเป็นรายใหญ่ขึ้น สักพักก็กลับมา ขณะเดียวกันผู้เสียชีวิตในช่วงนั้นประมาณ 2-3 พันคน หลายคนได้พิสูจน์ในเวลา ต่อมาว่าไม่เกี่ยวข้อง จึงเป็นแนวทางที่ไม่ถูกต้องที่จะใช้มาตรการแบบนั้นแล้วมีผู้เสียชีวิตอีก ฉะนั้นการปราบ ปรามก็ต้องทำในกรอบของกฎหมาย แต่สิ่งสำคัญกว่าก็คือว่าถ้าเราทำให้สังคมเข้มแข็ง และป้องกันตามจุดที่เป็นความเสี่ยงต่างๆ ก็จะได้ผลดี
นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ถ้าพูดในแง่ของการสกัดกั้นตามรั้วชายแดน เพราะจริง ๆ ขณะนี้เราไม่ใช่ประเทศที่ผลิตยาเสพติด แต่ว่าเข้ามาตามตะเข็บชายแดนต่างๆ เราก็ต้องสร้างรั้วป้องกันตรงนั้น ส่วนในเรื่องของการสร้างความเข้มแข็ง ในระดับโรงเรียน ชุมชน ครอบครัว ก็ต้องมีการดำเนินการกันไป
ฉะนั้นรัฐบาลจึงบอกว่าปราบปรามก็ต้องทำโดยในช่วง 5 เดือนครึ่งประมาณ 1 ม.ค. - 15 มิ.ย. ก็ยังมีการดำเนินการอย่างเข้มข้นในเรื่องการปราบปราม จริง ๆ แล้วถ้าเทียบกับปีที่แล้ว คดีเพิ่มขึ้นมาก ที่ดำเนินคดีได้เพิ่มขึ้นมาประมาณ 15,000 คดี ได้ผู้ต้องหาเพิ่มมาประมาณ 16,000 คน ยึดของกลางได้เพิ่มเทียบกับปีที่แล้ว 3,000,000 เม็ด เพราะฉะนั้นจึงมีความจริงจังในการดำเนินการในการปราบปราม และถ้าคำนวณจะพบว่ารายที่จับขณะนี้เทียบกับในอดีตจะเป็นรายที่ใหญ่ขึ้นด้วย
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าสำหรับการการตรวจสอบ ยึด อายัดทรัพย์สินนั้น ก็มีการดำเนินการ ปีนี้ทำมากกว่าปีที่แล้วไปแล้ว 100 กว่าล้านในช่วง 5 เดือนครึ่ง และตนก็ทราบดี หลายพื้นที่จะมีเรื่องร้องเรียนว่ายังมีอยู่ตรงนั้นตรงนี้ ที่หนักหน่อยก็คือบางพื้นที่ก็บอกว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ก็ขอยืนยันว่า ขณะนี้หน่วยงานที่ทำงานเรื่องนี้ทั้ง ป.ป.ส. และกอ.รมน. ก็ร่วมมือกัน และขณะนี้ก็ได้เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ มีเบาะแสสามารถแจ้งข้อมูลเข้ามาในทุกพื้นที่จะมีรายชื่อว่าใครเป็นผู้รับผิดชอบอะไรต่างๆ อยู่ ขอให้มั่นใจว่าเราจะเอาข้อมูลนั้นมา แล้วก็มาดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด แต่อยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ส่วนงานทางด้านของการป้องกันนั้น ในเรื่องของการ สร้างพื้นฐานที่ดีให้เยาวชนจะเป็นงานสำคัญที่สุด เพราะฉะนั้นงานสร้างพื้นที่ สร้างสรรค์ทั้งทางกายภาพ คือจะมีเรื่องลานกีฬา มีเรื่องกิจกรรมต่าง ๆ ให้เยาวชนมากขึ้น ก็เป็นส่วนหนึ่งของการลงทุนในโครงการไทยเข้มแข็งด้วย แล้วก็อีกส่วนหนึ่งก็เป็นเรื่องของสื่อ เช่นอินเตอร์เน็ต และอะไรต่างๆ ซึ่งจะมีการรุก ในเรื่องนี้ ในการทำพื้นที่สร้างสรรค์ อันนี้ก็จะผ่านทาง สสส. และองค์กรของชุมชนต่าง ๆ ด้วย ก็จะเป็นขั้นต่อไปในเชิงของนโยบายภาพกว้าง แต่ว่าวันนี้เราก็มีผู้แทน ซึ่งทำงานในเฉพาะด้าน ในรั้วต่าง ๆ รวมทั้งงานทางด้านบำบัดมาสนทนาด้วย
ส่วนการดำเนินการเกี่ยวกับนโยบายบำบัดผู้ติดยาเสพติดนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่ารัฐบาลต้องการที่จะลงโทษในส่วนของผู้ค้า ส่วนของผู้เสพเราต้องการดึงเขากลับมาอยู่ในสังคม แล้วก็สามารถที่จะหลุดพ้นจากวงจรตรงนี้ได้ ทั้งนี้ เรื่องการบำบัด มีสองลักษณะ ลักษณะหนึ่งก็คือ สมัครใจ คือคนที่รู้ตัวเองว่ามีปัญหาก็เดินเข้ามา เพื่อขอรับการบำบัด กับส่วนที่สองคือ ถูกจับหรืออะไรก็แล้วแต่ ก็เหมือนกับเป็นภาคบังคับ ที่น่าเป็นห่วงคือในช่วงปีหลัง ๆ นี้สัดส่วนของการเข้ามารับการบำบัดโดยสมัครใจนี้ลดลง เพราะฉะนั้นตรงนี้คือสิ่งที่ตนได้ให้เป็นนโยบายไป ว่าทำอย่างไรเราจะกระตุ้นให้มีการบำบัดที่เกิดขึ้นจากความสมัครใจได้มากขึ้น
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปัญหายาเสพติดเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาสังคม ปัญหาเรื่องค่านิยม ปัญหาเรื่องคุณธรรม จริยธรรม ซึ่งทั้งหลายทั้งปวงนี้เป็นเรื่องที่ ทุกภาคส่วนของสังคมต้องร่วมมือกัน ผู้ปกครองอย่าไปคิดว่าเป็นภาระของโรงเรียน ครูบาอาจารย์อย่าไปคิดว่าเป็นปัญหาของชุมชน หรือว่าชุมชนไปคิดว่ามันก็เป็นเรื่อง ส่วนตัวของแต่ละคน เพราะว่านี่คืออนาคตของประเทศชาติบ้านเมือง คุณภาพ คนของเรา พลเมืองของเรามีความเข้มแข็งมากน้อยแค่ไหน แล้วก็ถ้าเราไปคิดว่า เป็นภาระของคนอื่น สุดท้ายไม่มีใครดูแล แต่ว่าถ้าเราถือว่าเป็นธุระของพวกเราทุกคน เราก็จะสามารถที่จะทำให้คุณภาพของคนของเรามีการพัฒนา มีการปรับปรุงขึ้นมา
ผมมีความเชื่อโดยส่วนตัวนะครับว่า เด็กและเยาวชนและคนไทยทุกคน มีความดีอยู่ในตัวอยู่แล้ว ทำอย่างไรเท่านั้นเองที่ผู้ปกครองก็ดี เพื่อนฝูงก็ดี ชุมชนก็ดี โรงเรียนก็ดี ดึงสิ่งดี ๆ ออกมาให้ได้ ถ้าเราทำอย่างนี้ได้ก็จะทำให้อนาคตของ บ้านเมืองของเรามีความมั่นคง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภานหลังการจัดรายการฯ นายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานประกาศเกียรติคุณบุคคลและองค์กร ที่มีผลงานยอดเยี่ยมและดีเด่นในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ประจำปี 2552 ณ หอประชุมสุขุมนัยประดิษฐ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน(ก.พ.) จังหวัดนนทบุรี
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ช่วงมีการฆ่าตัดตอนสิ่งที่เกิดขึ้นคือ ราคายาเสพติด พุ่งสูงขึ้น แต่พวกคนค้าก็ใช้วิธีไปรวมกลุ่มบริหารจัดการเป็นรายใหญ่ขึ้น สักพักก็กลับมา ขณะเดียวกันผู้เสียชีวิตในช่วงนั้นประมาณ 2-3 พันคน หลายคนได้พิสูจน์ในเวลา ต่อมาว่าไม่เกี่ยวข้อง จึงเป็นแนวทางที่ไม่ถูกต้องที่จะใช้มาตรการแบบนั้นแล้วมีผู้เสียชีวิตอีก ฉะนั้นการปราบ ปรามก็ต้องทำในกรอบของกฎหมาย แต่สิ่งสำคัญกว่าก็คือว่าถ้าเราทำให้สังคมเข้มแข็ง และป้องกันตามจุดที่เป็นความเสี่ยงต่างๆ ก็จะได้ผลดี
นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ถ้าพูดในแง่ของการสกัดกั้นตามรั้วชายแดน เพราะจริง ๆ ขณะนี้เราไม่ใช่ประเทศที่ผลิตยาเสพติด แต่ว่าเข้ามาตามตะเข็บชายแดนต่างๆ เราก็ต้องสร้างรั้วป้องกันตรงนั้น ส่วนในเรื่องของการสร้างความเข้มแข็ง ในระดับโรงเรียน ชุมชน ครอบครัว ก็ต้องมีการดำเนินการกันไป
ฉะนั้นรัฐบาลจึงบอกว่าปราบปรามก็ต้องทำโดยในช่วง 5 เดือนครึ่งประมาณ 1 ม.ค. - 15 มิ.ย. ก็ยังมีการดำเนินการอย่างเข้มข้นในเรื่องการปราบปราม จริง ๆ แล้วถ้าเทียบกับปีที่แล้ว คดีเพิ่มขึ้นมาก ที่ดำเนินคดีได้เพิ่มขึ้นมาประมาณ 15,000 คดี ได้ผู้ต้องหาเพิ่มมาประมาณ 16,000 คน ยึดของกลางได้เพิ่มเทียบกับปีที่แล้ว 3,000,000 เม็ด เพราะฉะนั้นจึงมีความจริงจังในการดำเนินการในการปราบปราม และถ้าคำนวณจะพบว่ารายที่จับขณะนี้เทียบกับในอดีตจะเป็นรายที่ใหญ่ขึ้นด้วย
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าสำหรับการการตรวจสอบ ยึด อายัดทรัพย์สินนั้น ก็มีการดำเนินการ ปีนี้ทำมากกว่าปีที่แล้วไปแล้ว 100 กว่าล้านในช่วง 5 เดือนครึ่ง และตนก็ทราบดี หลายพื้นที่จะมีเรื่องร้องเรียนว่ายังมีอยู่ตรงนั้นตรงนี้ ที่หนักหน่อยก็คือบางพื้นที่ก็บอกว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ก็ขอยืนยันว่า ขณะนี้หน่วยงานที่ทำงานเรื่องนี้ทั้ง ป.ป.ส. และกอ.รมน. ก็ร่วมมือกัน และขณะนี้ก็ได้เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ มีเบาะแสสามารถแจ้งข้อมูลเข้ามาในทุกพื้นที่จะมีรายชื่อว่าใครเป็นผู้รับผิดชอบอะไรต่างๆ อยู่ ขอให้มั่นใจว่าเราจะเอาข้อมูลนั้นมา แล้วก็มาดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด แต่อยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ส่วนงานทางด้านของการป้องกันนั้น ในเรื่องของการ สร้างพื้นฐานที่ดีให้เยาวชนจะเป็นงานสำคัญที่สุด เพราะฉะนั้นงานสร้างพื้นที่ สร้างสรรค์ทั้งทางกายภาพ คือจะมีเรื่องลานกีฬา มีเรื่องกิจกรรมต่าง ๆ ให้เยาวชนมากขึ้น ก็เป็นส่วนหนึ่งของการลงทุนในโครงการไทยเข้มแข็งด้วย แล้วก็อีกส่วนหนึ่งก็เป็นเรื่องของสื่อ เช่นอินเตอร์เน็ต และอะไรต่างๆ ซึ่งจะมีการรุก ในเรื่องนี้ ในการทำพื้นที่สร้างสรรค์ อันนี้ก็จะผ่านทาง สสส. และองค์กรของชุมชนต่าง ๆ ด้วย ก็จะเป็นขั้นต่อไปในเชิงของนโยบายภาพกว้าง แต่ว่าวันนี้เราก็มีผู้แทน ซึ่งทำงานในเฉพาะด้าน ในรั้วต่าง ๆ รวมทั้งงานทางด้านบำบัดมาสนทนาด้วย
ส่วนการดำเนินการเกี่ยวกับนโยบายบำบัดผู้ติดยาเสพติดนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่ารัฐบาลต้องการที่จะลงโทษในส่วนของผู้ค้า ส่วนของผู้เสพเราต้องการดึงเขากลับมาอยู่ในสังคม แล้วก็สามารถที่จะหลุดพ้นจากวงจรตรงนี้ได้ ทั้งนี้ เรื่องการบำบัด มีสองลักษณะ ลักษณะหนึ่งก็คือ สมัครใจ คือคนที่รู้ตัวเองว่ามีปัญหาก็เดินเข้ามา เพื่อขอรับการบำบัด กับส่วนที่สองคือ ถูกจับหรืออะไรก็แล้วแต่ ก็เหมือนกับเป็นภาคบังคับ ที่น่าเป็นห่วงคือในช่วงปีหลัง ๆ นี้สัดส่วนของการเข้ามารับการบำบัดโดยสมัครใจนี้ลดลง เพราะฉะนั้นตรงนี้คือสิ่งที่ตนได้ให้เป็นนโยบายไป ว่าทำอย่างไรเราจะกระตุ้นให้มีการบำบัดที่เกิดขึ้นจากความสมัครใจได้มากขึ้น
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปัญหายาเสพติดเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาสังคม ปัญหาเรื่องค่านิยม ปัญหาเรื่องคุณธรรม จริยธรรม ซึ่งทั้งหลายทั้งปวงนี้เป็นเรื่องที่ ทุกภาคส่วนของสังคมต้องร่วมมือกัน ผู้ปกครองอย่าไปคิดว่าเป็นภาระของโรงเรียน ครูบาอาจารย์อย่าไปคิดว่าเป็นปัญหาของชุมชน หรือว่าชุมชนไปคิดว่ามันก็เป็นเรื่อง ส่วนตัวของแต่ละคน เพราะว่านี่คืออนาคตของประเทศชาติบ้านเมือง คุณภาพ คนของเรา พลเมืองของเรามีความเข้มแข็งมากน้อยแค่ไหน แล้วก็ถ้าเราไปคิดว่า เป็นภาระของคนอื่น สุดท้ายไม่มีใครดูแล แต่ว่าถ้าเราถือว่าเป็นธุระของพวกเราทุกคน เราก็จะสามารถที่จะทำให้คุณภาพของคนของเรามีการพัฒนา มีการปรับปรุงขึ้นมา
ผมมีความเชื่อโดยส่วนตัวนะครับว่า เด็กและเยาวชนและคนไทยทุกคน มีความดีอยู่ในตัวอยู่แล้ว ทำอย่างไรเท่านั้นเองที่ผู้ปกครองก็ดี เพื่อนฝูงก็ดี ชุมชนก็ดี โรงเรียนก็ดี ดึงสิ่งดี ๆ ออกมาให้ได้ ถ้าเราทำอย่างนี้ได้ก็จะทำให้อนาคตของ บ้านเมืองของเรามีความมั่นคง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภานหลังการจัดรายการฯ นายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานประกาศเกียรติคุณบุคคลและองค์กร ที่มีผลงานยอดเยี่ยมและดีเด่นในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ประจำปี 2552 ณ หอประชุมสุขุมนัยประดิษฐ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน(ก.พ.) จังหวัดนนทบุรี
