ASTVผู้จัดการรายวัน – “คาร์ลตันฯ” ตั้ง “แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์”ขึ้นที่ปรึกษาฯ เพื่อแต่งตัวเข้าตลาดเอ็ม เอ ไอ ในต้นปี 2554 หวังระดมทุนรองรับงานที่ขยายตัวเพิ่ม โดยเตรียมยื่นไฟลิ่งให้ก.ล.ต.พิจารณาช่วงไตรมาส3 ปีหน้านี้ ล่าสุดอยู่ระหว่างจีบกองทุนทั้งในและต่างประเทศร่วมลงทุน คาดได้ข้อสรุปภายในกันยายนนี้
นายปฏิภาณ มุ่งศิริ รักษาการกรรมการผู้จัดการ บริษัท คาร์ลตัน อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีแผนจะยื่นแบบแสดงคำขอซื้อขายหลักทรัพย์ (ไฟลิ่ง) ให้กับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในช่วงไตรมาส 3/2553 และคาดว่าจะเข้าทำการซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ได้ในช่วงประมาณสิ้นปีเดียวกันหรือต้นปี 2554
ทั้งนี้ ทางบริษัทได้ทำการแต่งตั้งบริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินของบริษัทเพื่อให้สอดคล้องการดำเนินการดังกล่าว โดยปัจจุบันบริษัทมีทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้ทุนจดทะเบียนเพิ่มขึ้นเป็น 50 ล้านบาทจากผู้ถือหุ้นเดิม
อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดการณ์ว่าจะได้รับเงินจากการระดมจากการเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอ ไอ ประมาณ 50-80 ล้านบาท เพื่อนำไปปรับปรุงประสิทธิ์ของธุรกิจให้เพียงพอกับการรับงานด้านวิศวกรรมมูลค่าขนาด 100 ล้านบาท จากปัจจุบันที่สามารถรับงานได้ประมาณ 30-50 ล้านบาท
สำหรับในปีนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้ารักษารายได้ให้ใกล้เคียงกับปีก่อนที่ 220 ล้านบาท แต่อย่างไรก็ดีมองว่าในช่วงครึ่งปีหลังทิศทางเศรษฐกิจและราคาน้ำมันน่าจะดีขึ้น จึงเชื่อว่าน่าจะทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับน้ำมันมีการารลงทุนเพิ่มขึ้น ดังนั้นในช่วงครึ่งหลังปีนี้บริษัทมีแผนจะเข้าร่วมประมูลงานด้านวิศวกรรมเพิ่มอีก รวมมูลค่าประมาณ 200 ล้านบาท โดยคาดว่าน่าจะชนะการประมูลประมาณ 30% ของมูลค่ารวม
ขณะเดียวกัน ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือมูลค่า 150 ล้านบาท จากงานในส่วนวิศกรรมรับเหมาก่อสร้างของกลุ่มบมจ.ปตท. และในเครือ ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปีนี้ ดังหากทุกอย่างออกมาตามที่มองไว้ เชื่อว่าจะทำให้กำไรของบริษัทปีนี้น่าจะเติบโตกว่าปีที่ผ่านมา อย่างแน่นอน
ด้าน นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า หลังจากกระบวนการเพิ่มทุนจากผู้ถือหุ้นเดิมเสร็จสิ้น ทางบริษัทเตรียมเข้าเจรจากับกองทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศประมาณ 3 ราย ได้แก่ กองทุนข้าวกล้า, กองทุนVNET, กองทุนJAIC เพื่อเข้ามาร่วมลงทุนในธุรกิจของคาร์ลตันเพิ่มอีก 10 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนในการถือหุ้นประมาณ 13% ในลักษณะการเข้าถือPre –IPO เป็นระยะเวลา 1 ปี ซึ่งคาดว่าน่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือนกันยายนนี้ และจะทำให้ทุนจดทะเบียนเพิ่มขึ้นเป็น 60 ล้านบาท ต่อจากนั้นก็เริ่มดำเนินการปรับเปลี่ยนราคาพาร์เป็นหุ้นละ 0.25 บาท จำนวน 120 ล้านหุ้น จากปัจจุบันที่มีราคาพาร์หุ้นละ 100 บาท จำนวน 10 ล้านหุ้น เพื่อนำเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เอ็ม เอ ไอต่อไป
นายปฏิภาณ มุ่งศิริ รักษาการกรรมการผู้จัดการ บริษัท คาร์ลตัน อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีแผนจะยื่นแบบแสดงคำขอซื้อขายหลักทรัพย์ (ไฟลิ่ง) ให้กับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในช่วงไตรมาส 3/2553 และคาดว่าจะเข้าทำการซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ได้ในช่วงประมาณสิ้นปีเดียวกันหรือต้นปี 2554
ทั้งนี้ ทางบริษัทได้ทำการแต่งตั้งบริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินของบริษัทเพื่อให้สอดคล้องการดำเนินการดังกล่าว โดยปัจจุบันบริษัทมีทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้ทุนจดทะเบียนเพิ่มขึ้นเป็น 50 ล้านบาทจากผู้ถือหุ้นเดิม
อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดการณ์ว่าจะได้รับเงินจากการระดมจากการเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอ ไอ ประมาณ 50-80 ล้านบาท เพื่อนำไปปรับปรุงประสิทธิ์ของธุรกิจให้เพียงพอกับการรับงานด้านวิศวกรรมมูลค่าขนาด 100 ล้านบาท จากปัจจุบันที่สามารถรับงานได้ประมาณ 30-50 ล้านบาท
สำหรับในปีนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้ารักษารายได้ให้ใกล้เคียงกับปีก่อนที่ 220 ล้านบาท แต่อย่างไรก็ดีมองว่าในช่วงครึ่งปีหลังทิศทางเศรษฐกิจและราคาน้ำมันน่าจะดีขึ้น จึงเชื่อว่าน่าจะทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับน้ำมันมีการารลงทุนเพิ่มขึ้น ดังนั้นในช่วงครึ่งหลังปีนี้บริษัทมีแผนจะเข้าร่วมประมูลงานด้านวิศวกรรมเพิ่มอีก รวมมูลค่าประมาณ 200 ล้านบาท โดยคาดว่าน่าจะชนะการประมูลประมาณ 30% ของมูลค่ารวม
ขณะเดียวกัน ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือมูลค่า 150 ล้านบาท จากงานในส่วนวิศกรรมรับเหมาก่อสร้างของกลุ่มบมจ.ปตท. และในเครือ ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปีนี้ ดังหากทุกอย่างออกมาตามที่มองไว้ เชื่อว่าจะทำให้กำไรของบริษัทปีนี้น่าจะเติบโตกว่าปีที่ผ่านมา อย่างแน่นอน
ด้าน นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า หลังจากกระบวนการเพิ่มทุนจากผู้ถือหุ้นเดิมเสร็จสิ้น ทางบริษัทเตรียมเข้าเจรจากับกองทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศประมาณ 3 ราย ได้แก่ กองทุนข้าวกล้า, กองทุนVNET, กองทุนJAIC เพื่อเข้ามาร่วมลงทุนในธุรกิจของคาร์ลตันเพิ่มอีก 10 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนในการถือหุ้นประมาณ 13% ในลักษณะการเข้าถือPre –IPO เป็นระยะเวลา 1 ปี ซึ่งคาดว่าน่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือนกันยายนนี้ และจะทำให้ทุนจดทะเบียนเพิ่มขึ้นเป็น 60 ล้านบาท ต่อจากนั้นก็เริ่มดำเนินการปรับเปลี่ยนราคาพาร์เป็นหุ้นละ 0.25 บาท จำนวน 120 ล้านหุ้น จากปัจจุบันที่มีราคาพาร์หุ้นละ 100 บาท จำนวน 10 ล้านหุ้น เพื่อนำเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เอ็ม เอ ไอต่อไป