โตโย-ไทย รับงานใหม่ 4 โครงการ มูลค่ากว่า 2 พันล้านบาท ส่งผลดีงานในมือเพิ่มเป็น 9.3 พันล้านบาท หวังสร้างน้ำหนักทางธุรกิจให้น่าสนใจ ก่อนส่งหุ้นลงเทรดวันแรกที่ 16 มิ.ย. นี้ คาดสรุปราคายไอพีโอได้ 4 มิ.ย. โดยกำหนดกรอบราคาไว้ที่ 3.75-4.25 บาทต่อหุ้น มั่นใจกระแสตอบรับดีเยี่ยม เหตุพื้นฐานแน่น – ส่วนลดสูงกว่า 30%
นายสุวิทย์ มโนมัยยานนท์ ผู้อำนวยการและผู้จัดการทั่วไปฝ่ายขายและสัญญาใหญ่ บริษัท โตโย-ไทย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าบริษัทได้รับงานโครงการใหม่ 4 โครงการมูลค่ารวมกว่า 2 พันล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปีนี้ไปจนถึงปีหน้า ทำให้บริษัทมีงานในมือ (Backlog) เพิ่มเป็นประมาณ 9,300 ล้านบาท ซึ่งจะมีส่วนช่วยแสดงศักยภาพความแข็งแกร่งทางธุรกิจและทำให้มีคนสนใจใจตัวบริษัท
ทั้งนี้ เป็นการรับงานจากกลุ่มปตท กลุ่มเคมีคัล กลุ่มอูเบะ และไบโอ แนชเชอรัล เอ็นเนอร์ยี ได้แก่ งานสร้างโรงงานเคมีสำหรับการผลิต 1,6-Hexanediol(1,6-HDL) และ 1,5-Pentanediol(1,5-PDL)ที่ จังหวัดระยอง งานสร้างโรงงานโซดาไฟ และคลอรีน งานสร้างโรงงานต้นแบบ ผลิตน้ำมันหล่อลื่นขั้นพื้นฐานคุณภาพระดับโลกตามาตรฐาน API และงานสร้างโรงไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพ
สำหรับการขายหุ้นไอพีโอ 130 ล้านหุ้น จะแบ่งให้กับนักลงทุนรายย่อย 60% และนักลงทุนสถาบันอีก 40% ส่วนราคาไอพีโอนั้นรอให้ทางที่ปรึกษาทางการเงินกำหนดก่อน ส่วนปีนี้ยังคงตั้งเป้ารายได้ใกล้เคียงกับปีก่อนที่ทำได้ 11,049 ล้านบาท และบริษัทฯ ยังคงเดินหน้าประมูลงานใหม่อย่างต่อเนื่อง
ด้านนายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการบริหารบริษัท หลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ โตโย-ไทยฯ เชื่อมั่นว่าหุ้นจะเข้าเทรดได้วันที่ 16 มิถุนายน หลังจากที่สรุปราคาขายไอพีโอวันที่ 4 มิถุนายน รวมถึงจะทำบุ๊กบิวส์วันที่ 3 มิถุนายน และเปิดจองตั้งแต่วันที่ 9-11 มิถุนายน โดยได้กำหนดกรอบราคาไว้ที่ประมาณ 3.75-4.25 บาทต่อหุ้น และให้ส่วนลด 25-30%
โดยในฐานะที่ปรึกษาฯ มั่นใจศักยภาพของบริษัทว่าจะสามารถยืนเหนือราคาจอง ประกอบด้วยสถานการณ์ภาวะตลาดในขณะนี้ก็ไม่มีปัจจัยจะส่งผลกระทบที่รุนแรง ขณะเดียวกันหุ้นดังกล่าวยังได้รับความสนใจจากนักลงทุนสถาบันและรายย่อยเป็นอย่างดี เนื่องจากเป็นผู้นำในธุรกิจรับเหมาครบวงจร EPC ที่ขยายตัวต่อเนื่องมีฐานลูกค้าประจำและมีผลประกอบการที่เติบโตสูงและต่อเนื่องมากว่า 20 ปี รวมทั้งการบริหารงานที่ผ่านมายังมีความน่าเชื่อถือ ซึ่งหลังจากเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้ว ศักยภาพในการรับงานคงจะเพิ่มขึ้นจากเดิมที่รับงานที่มีขนาด 100 ล้านเหรียญสหรัฐ จะเพิ่มเป็น 300-500 ล้านเหรียญสหรัฐ
นอกจากนี้หลังจากที่ได้นำบริษัท โตโย-ไทยฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้วบริษัทคาดว่าจะนำหุ้นบมจ.สตาร์ ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ต่อไปช่วงไตรมาส 3/5
นายสุวิทย์ มโนมัยยานนท์ ผู้อำนวยการและผู้จัดการทั่วไปฝ่ายขายและสัญญาใหญ่ บริษัท โตโย-ไทย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าบริษัทได้รับงานโครงการใหม่ 4 โครงการมูลค่ารวมกว่า 2 พันล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปีนี้ไปจนถึงปีหน้า ทำให้บริษัทมีงานในมือ (Backlog) เพิ่มเป็นประมาณ 9,300 ล้านบาท ซึ่งจะมีส่วนช่วยแสดงศักยภาพความแข็งแกร่งทางธุรกิจและทำให้มีคนสนใจใจตัวบริษัท
ทั้งนี้ เป็นการรับงานจากกลุ่มปตท กลุ่มเคมีคัล กลุ่มอูเบะ และไบโอ แนชเชอรัล เอ็นเนอร์ยี ได้แก่ งานสร้างโรงงานเคมีสำหรับการผลิต 1,6-Hexanediol(1,6-HDL) และ 1,5-Pentanediol(1,5-PDL)ที่ จังหวัดระยอง งานสร้างโรงงานโซดาไฟ และคลอรีน งานสร้างโรงงานต้นแบบ ผลิตน้ำมันหล่อลื่นขั้นพื้นฐานคุณภาพระดับโลกตามาตรฐาน API และงานสร้างโรงไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพ
สำหรับการขายหุ้นไอพีโอ 130 ล้านหุ้น จะแบ่งให้กับนักลงทุนรายย่อย 60% และนักลงทุนสถาบันอีก 40% ส่วนราคาไอพีโอนั้นรอให้ทางที่ปรึกษาทางการเงินกำหนดก่อน ส่วนปีนี้ยังคงตั้งเป้ารายได้ใกล้เคียงกับปีก่อนที่ทำได้ 11,049 ล้านบาท และบริษัทฯ ยังคงเดินหน้าประมูลงานใหม่อย่างต่อเนื่อง
ด้านนายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการบริหารบริษัท หลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ โตโย-ไทยฯ เชื่อมั่นว่าหุ้นจะเข้าเทรดได้วันที่ 16 มิถุนายน หลังจากที่สรุปราคาขายไอพีโอวันที่ 4 มิถุนายน รวมถึงจะทำบุ๊กบิวส์วันที่ 3 มิถุนายน และเปิดจองตั้งแต่วันที่ 9-11 มิถุนายน โดยได้กำหนดกรอบราคาไว้ที่ประมาณ 3.75-4.25 บาทต่อหุ้น และให้ส่วนลด 25-30%
โดยในฐานะที่ปรึกษาฯ มั่นใจศักยภาพของบริษัทว่าจะสามารถยืนเหนือราคาจอง ประกอบด้วยสถานการณ์ภาวะตลาดในขณะนี้ก็ไม่มีปัจจัยจะส่งผลกระทบที่รุนแรง ขณะเดียวกันหุ้นดังกล่าวยังได้รับความสนใจจากนักลงทุนสถาบันและรายย่อยเป็นอย่างดี เนื่องจากเป็นผู้นำในธุรกิจรับเหมาครบวงจร EPC ที่ขยายตัวต่อเนื่องมีฐานลูกค้าประจำและมีผลประกอบการที่เติบโตสูงและต่อเนื่องมากว่า 20 ปี รวมทั้งการบริหารงานที่ผ่านมายังมีความน่าเชื่อถือ ซึ่งหลังจากเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้ว ศักยภาพในการรับงานคงจะเพิ่มขึ้นจากเดิมที่รับงานที่มีขนาด 100 ล้านเหรียญสหรัฐ จะเพิ่มเป็น 300-500 ล้านเหรียญสหรัฐ
นอกจากนี้หลังจากที่ได้นำบริษัท โตโย-ไทยฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้วบริษัทคาดว่าจะนำหุ้นบมจ.สตาร์ ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ต่อไปช่วงไตรมาส 3/5
