xs
xsm
sm
md
lg

จีนเล็งร่วมลงทุนระบบราง "มาร์ค"เลิกวีซ่าดึงท่องเที่ยว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - China Railway Engineering Corporation บริษัทเอกชนสาธารณูปโภคใหญ่ที่สุดของจีนแสดงสนใจร่วมลงทุนก่อสร้างระบบรางในไทย นายกฯ อภิสิทธิ์อ้าแขนรับ เผยมีความพร้อม พร้อมใช้ศูนย์ One Start One Stop อำนวยความสะดวก หยอดรัฐบาลไทยยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนด้วยการยกเลิกการขอวีซ่า

ในโอกาสเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ภารกิจวันที่ 2 วานนี้ (25 มิ.ย.) นายกรัฐมนตรีได้พบปะกับนักธุรกิจไทยในจีน และนักธุรกิจจีน โดยนายฉี ต้า หัว ประธานบริษัท China Railway Engineering Corporation บริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในการก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน และเป็นบริษัทก่อสร้างที่ใหญ่ที่สุดของจีน แสดงสนใจที่จะร่วมลงทุนก่อสร้างระบบรางกับไทยทุกรูปแบบ

นายฉี ต้า หัวอ้างว่า เพื่อให้มีคุณภาพและทันสมัยมากขึ้น การใช้เทคโนโลยีที่ปรับปรุงมาจากประเทศญี่ปุ่นและเยอรมนี ซึ่งจะทำให้ระบบรางไม่มีรอยเชื่อมต่อ อีกทั้งจะทำให้รถไฟสามารถวิ่งได้เร็วขึ้น เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวนายกรัฐมนตรีระบุว่า พร้อมเปิดโอกาสให้เข้ามาศึกษาระบบรางของไทยก่อน เพื่อให้เกิดการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ และการสร้างงาน

วันเดียวกันนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์รายการ หยางหลาน ซึ่งเป็นรายการที่มีชื่อเสียงของจีน และเยี่ยมชมงานกิจกรรมโรดโชว์ไชน่าไทยแลนด์คอมเมิซเน็ตเวิร์ค เพื่อส่งเสริมและประชาสัมพันธ์สินค้าเกษตรในไทย พร้อมจะกล่าวสุนทรพจน์ในงานเลี้ยงอาหารกลางวัน งาน Lunch Talk "Amazing Thailand Amazing Value" เพื่อสร้างความเชื่อมั่น พร้อมเชิญชวนนักลงทุนชาวจีนให้มาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น

"ไทยมีความพร้อมที่จะรองรับนักลงทุนจีนที่จะเข้ามาลงทุน และอาศัยอยู่ในเมืองไทย ซึ่งในอนาคตจะมีการตั้งศูนย์ One Start One Stop เพื่ออำนวยความสะดวก และให้คำปรึกษาด้านกฎหมายกับนักลงทุน และจากการลงนามขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้า ก็จะเป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มพูนการค้าระหว่างกันให้มากขึ้นในอนาคต รวมทั้งจีนและอาเซียนที่ยังมีความร่วมมือกัน ซึ่งจะทำให้จีนสามารถใช้ไทยเป็นฐานกระจายสินค้าไปยังอาเซียนได้" กรณีของการท่องเที่ยวนายอภิสิทธิ์กล่าวว่า รัฐบาลไทยยินดีที่จะให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวจีน โดยเฉพาะการยกเลิกการขอวีซ่า ซึ่งจะทำให้นักท่องเที่ยวได้รับความสะดวกมากยิ่งขึ้น

ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรียืนยันว่า สถานการณ์ภายในประเทศไทยขณะนี้ได้กลับสู่ภาวะปกติแล้ว และรัฐบาลก็กำลังกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อให้เศรษฐกิจของประเทศเกิดความเข้มแข็ง ตามแผนโครงการไทยเข้มแข็ง 2555

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มาตรการช่วยเหลือการท่องเที่ยว ด้วยการยกเว้นค่าธรรมเนียมการตรวจลงตราหรือค่าวีซ่า ให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในไทย มีผลบังคับใช้แล้วระหว่าง 25 มิ.ย.52 ถึง 4 มี.ค.53 โดยครอบคลุม นักท่องเที่ยวทุกประเทศที่ขอวีซ่า ที่สถานเอกอัครราชทูต สถานกงสุลใหญ่และสถานกงสุลกิตติมศักดิ์ไทยทุกแห่งทั่วโลก รวมถึงการขอวีซ่าที่ช่องทางอนุญาต ของด่านตรวจคนเข้าเมืองของคนชาติที่มีสิทธิ จำนวน 20 ชาติ และไต้หวัน ด้วย โดยไม่ต้องชำระค่าธรรมเนียมตามที่กำหนด

ทั้งนี้พบว่า คนต่างชาติที่ขอรับการตรวจลงตราหรือขอวีซ่า เพื่อเดินทางเข้าประเทศไทยเพื่อวัตถุประสงค์อื่น สามารถกระทำได้เช่นเดียวกัน แต่ยังต้องเสียค่าธรรมเนียมตามปกติ โดยคนต่างชาติที่มีสัญชาติของประเทศที่ได้รับการยกเว้นการตรวจลงตราเพื่อการท่องเที่ยว (ผ.30) จำนวน 42 ประเทศ และประเทศที่ทำความตกลงยกเว้นการตรวจลงตรากับประเทศไทยยังสามารถเดินทางเข้าประเทศไทยเพื่อการท่องเที่ยว โดยไม่ต้องขอรับการตรวจลงตราเช่นเดิม ทั้งนี้ สามารถดูข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการตรวจลงตรา (วีซ่า) ของไทยได้ที่www.mfa.go.th และ www.consular.go.th

ที่ผ่านมามีบริษัททัวร์เป็นจำนวนมากได้ร้องเรียนมาที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ว่าแม้ว่ารัฐบาลจะมีนโยบายชัดเจนและให้ต่อมาตรการการยกเว้นการจัดเก็บค่าธรรมเนียมวีซ่า ออกไปอีก 1 ปี เป็นเวลานานแล้วแต่ยังไม่มีผลทางปฏิบัติ

"การยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวไทย เป็นไปตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 21 เม.ย.52 และวันที่ 3 มิ.ย.52 ที่ให้ขยายระยะเวลายกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่าให้แก่นักท่องเที่ยวทุกสัญชาติ ตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 20 ม.ค. 52 ออกไปอีก 1 ปี”
กำลังโหลดความคิดเห็น