ททท.จัดแพ็คเกจ 15 เส้นทาง ตามโครงการสร้างรายได้จากนักท่องเที่ยวเดินทางผ่านระหว่างประเทศ (Transfer Passenger) หวังกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ประธานกรรมการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ ผู้อำนวยการการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) พล.ต.ต.พงศ์เดช ไชยประวัจน์ ผู้บังคับการกองบังคับการกองตรวจคนเข้าเมือง ท่าอากาศยานแห่งชาติ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) นายปานฑิต ชนะภัย รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายการพาณิชย์ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) (ทอ.) นายสุรพล ศรีตระกูล นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) และนายชัยวัฒน์ นวราช ประธานคณะกรรมการดำเนินงานธุรกิจการบิน (AOC) ร่วมแถลงข่าวและเปิดตัว โครงการสร้างรายได้จากนักท่องเที่ยวเดินทางผ่านระหว่างประเทศ (Transfer Passenger) โดยมีแขกผู้มีเกียรติ และสื่อมวลชน ร่วมในงานแถลงข่าว ณ ชั้น 2 ประตู 2 อาคารผู้โดยสารขาเข้า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
โครงการสร้างรายได้จากนักท่องเที่ยวเดินทางผ่านระหว่างประเทศ (Transfer Passenger) เกิดจากความร่วมมือของหลายหน่วยงานในภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ประกอบด้วย ททท. ทอท. สตม. ทอ. ATTA และ AOC โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มรายได้และกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศจากนักท่องเที่ยวเดินทางผ่านระหว่างประเทศที่มีระยะเวลารอเปลี่ยนเครื่องตั้งแต่ 6 ชั่วโมง แต่ไม่เกิน 12 ชั่วโมง และสร้างแรงจูงใจให้นักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางกลับมาท่องเที่ยวยังประเทศไทย ผ่านความประทับใจที่ได้รับขณะร่วมเดินทางท่องเที่ยวตามเส้นทางท่องเที่ยว ที่มีให้เลือกสรรถึง 15 เส้นทาง อาทิ ซิติทัวร์ในเขตกรุงเทพมหานคร วัดไตรมิตรวิทยาราม เยาวราช วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม ล่องเรือชมวิถีชีวิตริมคลองธนบุรี พิพิธภัณฑ์เรือพระราชพิธี วัดพระศรีรัตนศาสดาราม งานศิลป์แผ่นดิน ครั้งที่ 5 สยามโอเชี่ยนเวิลด์ สยามนิรมิต โรงละครอักษรา หรือเลือกกิจกรรมช้อปปิ้ง ณ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ เช่น เซ็นทรัลชิดลม เซ็นทรัลเวิลด์ สยามพารากอน มาบุญครอง
นอกจากนี้ ยังมีเส้นทางท่องเที่ยวในเขตจังหวัดสมุทรปราการ นครปฐม และฉะเชิงเทรา อาทิ ชมพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ และเมืองโบราณ ฟาร์มจระเข้ ตลาดคลองสวน และวัดหลวงพ่อโสธรวราราม วรวิหาร ฟาร์มจระเข้สวนสามพราน โรงแรมโรสการ์เดน เป็นต้น รวมถึงเลือกใช้บริการนวดและสปา หรือทัวร์เล่นกอล์ฟ จากสถานบริการและสนามกอล์ฟชั้นนำ ทั้งนี้ การจัดรายการนำเที่ยวดังกล่าว ดำเนินการโดยความร่วมมือระหว่าง ATTA และ ททท.
สำหรับสิทธิพิเศษสำหรับผู้โดยสารเดินทางระหว่างประเทศที่เข้าร่วมโครงการ กระทรวงคมนาคมได้ยกเว้นค่าธรรมเนียมการใช้สนามบินของผู้โดยสารออกนอกสนามบินแก่ผู้โดยสารเดินทางระหว่างประเทศ ซึ่งออกไปนอกบริเวณห้องผู้โดยสารผ่านเพื่อเข้าร่วมกิจกรรม และออกเดินทางภายใน 12 ชั่วโมง รวมถึง สตม.ได้อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสารที่เข้าร่วมโครงการ โดยได้รับการยกเว้นเรื่องการตรวจลงตรา ไม่ต้องยื่นแบบ ตม. 6 และจัดช่องทางพิเศษให้
ทั้งนี้ ผู้โดยสารสามารถขอรับ Vat Refund ในกรณีซื้อสินค้าได้ที่เคาน์เตอร์กรมศุลกากร ภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยผู้โดยสารที่สนใจจะเข้าร่วมโครงการสามารถติดต่อซื้อโปรแกรมท่องเที่ยวได้ ณ เคาน์เตอร์ทัวร์ ที่ได้มีการจัดไว้จำนวน 2 เคาน์เตอร์บริเวณเคาน์เตอร์บริเวณผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 Concourse F และ Concourse C ในห้อง Transit Passenger ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ
จากสถิติจำนวนนักท่องเที่ยว Transfer ในปี พ.ศ.2549-2551 มีอัตราเฉลี่ยปีละประมาณ 3 ล้านคนเศษ โดยคาดการณ์ว่าจะมีผู้เข้าร่วมโครงการ ใน 1 ปี เป็นจำนวนร้อยละ 1 ของจำนวนผู้เดินทางผ่านระหว่างประเทศ (รอเปลี่ยน เครื่อง) ในปี 2551 มีจำนวน 31,798 คน ค่าใช้จ่ายจากการซื้อรายการนำเที่ยวเฉลี่ย 1,932 บาท/คน คิดเป็นมูลค่า 61,433,736 บาท รวมการจับจ่ายใช้สอยสินค้าที่ระลึก อาหาร เครื่องดื่ม เฉลี่ยคนละ 1,072 บาท คิดเป็นมูลค่า 34,087,456 บาท ก่อให้เกิดรายได้รวม ต่อปีจำนวน 95,521,192 บาท
โครงการนี้ได้ตั้งเป้าหมายในการดำเนินการเป็นระยะเวลา 2 ปี คาดว่าจะก่อให้เกิดรายได้ประมาณ 191,042,384 บาท ซึ่งอาจมีอัตราที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากปัจจัยภายนอกหลายประการ อาทิ ความหลากหลายของแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจบริเวณใกล้เคียงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ความสะดวกของเส้นทางคมนาคม โดยเฉพาะจะมีการเปิดใช้บริการ Airport Link ในเดือนสิงหาคม 2552