ASTVผู้จัดการรายวัน- กางตัวเลขผลกระทบแรงงานของกระทรวงแรงงานพบช่วงต.ค.51-พ.ค.52 โรงงานแห่เปิดโครงการเออรี่รีไทส์หรือสมัครใจออกเพื่อลดคนให้สอดคล้องกับกำลังผลิตที่ลดจากวิกฤติเศรษฐกิจส่งผลให้ ยอดการลาออกของแรงงานมีจำนวน 3.26 แสนคน มากกว่าอัตราการถูกเลิกจ้างที่มีจำนวน 1.67 แสนคน
นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า จากข้อมูลรายงานสถาการณ์แรงงานของกระทรวงแรงงานพบว่า ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจตั้งแต่เดือน ต.ค. 2551- พ.ค. 2552 มีจำนวนผู้ขึ้นทะเบียนขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานทั้งสิ้นจำนวน 4.94 แสนคน แบ่งเป็นการถูกเลิกจ้างจำนวน 1.67 แสนคน และลาออก 3.26 แสนคนซึ่งสาเหตุมาจากโรงงานที่ได้รับผลกระทบจากคำสั่งซื้อที่ลดลงโดยเฉพาะอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ และอุตสาหกรรมยานยนต์เปิดโครงการสมัครใจลาออกหรือเออร์รี่รีไทร์จำนวนมากเพื่อให้คนสอดคล้องกับกำลังการผลิตที่ลดลงไป
“ ที่ผ่านมาแรงงานเองก็ไม่ได้ต้องการจะลาออกแต่การเปิดเออร์รี่รีไทร์จะได้รับผลตอบแทนพนักงานจึงเลือกเข้าโครงการมากกว่าจะรออนาคตที่อาจถูกลดเงินเดือนลงหรือไม่ก็อาจจะไม่ได้รับผลตอบแทนอะไรเลย ประกอบกับมีพนักงานส่วนหนึ่งที่ลาออกเพื่อเปลี่ยนงาน ซึ่งเป็นการลาออกโดยปกติ จึงส่งผลให้ยอดการลาออกสูงขึ้นมากกว่าช่วงปกติ”นายธนิตกล่าว
ทั้งนี้ข้อมูลจากการเฝ้าระวังของกระทรวงแรงงานพบว่าสถานการณ์การเลิกจ้างเริ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้น คือ จำนวนผู้ประกันตนที่มาขอขึ้นทะเบียนขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานเริ่มลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 หลังจากจำนวนเพิ่มขึ้นสูงสุดในเดือนก.พ. 2552 ที่มีจำนวน 1.01 แสนคน ลดลงเป็น 6.49 หมื่นคน ในเดือนเม.ย. และลดลงมาที่จำนวน 5.89 หมื่นคนในเดือนพ.ค.2552
ขณะที่การกลับเข้าทำงานของผู้ประกันตนมีแนวโน้มสูงขึ้นจำนวน 2.8 หมื่นคน คิดเป็น 43.18% ในเดือนเม.ย. และเพิ่มขึ้นเป็น 3.33 หมื่นคน หรือ 56.6% ในเดือนพ.ค. 2552 เมื่อเทียบกับผู้ลาออกจากงาน
นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า จากข้อมูลรายงานสถาการณ์แรงงานของกระทรวงแรงงานพบว่า ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจตั้งแต่เดือน ต.ค. 2551- พ.ค. 2552 มีจำนวนผู้ขึ้นทะเบียนขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานทั้งสิ้นจำนวน 4.94 แสนคน แบ่งเป็นการถูกเลิกจ้างจำนวน 1.67 แสนคน และลาออก 3.26 แสนคนซึ่งสาเหตุมาจากโรงงานที่ได้รับผลกระทบจากคำสั่งซื้อที่ลดลงโดยเฉพาะอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ และอุตสาหกรรมยานยนต์เปิดโครงการสมัครใจลาออกหรือเออร์รี่รีไทร์จำนวนมากเพื่อให้คนสอดคล้องกับกำลังการผลิตที่ลดลงไป
“ ที่ผ่านมาแรงงานเองก็ไม่ได้ต้องการจะลาออกแต่การเปิดเออร์รี่รีไทร์จะได้รับผลตอบแทนพนักงานจึงเลือกเข้าโครงการมากกว่าจะรออนาคตที่อาจถูกลดเงินเดือนลงหรือไม่ก็อาจจะไม่ได้รับผลตอบแทนอะไรเลย ประกอบกับมีพนักงานส่วนหนึ่งที่ลาออกเพื่อเปลี่ยนงาน ซึ่งเป็นการลาออกโดยปกติ จึงส่งผลให้ยอดการลาออกสูงขึ้นมากกว่าช่วงปกติ”นายธนิตกล่าว
ทั้งนี้ข้อมูลจากการเฝ้าระวังของกระทรวงแรงงานพบว่าสถานการณ์การเลิกจ้างเริ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้น คือ จำนวนผู้ประกันตนที่มาขอขึ้นทะเบียนขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานเริ่มลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 หลังจากจำนวนเพิ่มขึ้นสูงสุดในเดือนก.พ. 2552 ที่มีจำนวน 1.01 แสนคน ลดลงเป็น 6.49 หมื่นคน ในเดือนเม.ย. และลดลงมาที่จำนวน 5.89 หมื่นคนในเดือนพ.ค.2552
ขณะที่การกลับเข้าทำงานของผู้ประกันตนมีแนวโน้มสูงขึ้นจำนวน 2.8 หมื่นคน คิดเป็น 43.18% ในเดือนเม.ย. และเพิ่มขึ้นเป็น 3.33 หมื่นคน หรือ 56.6% ในเดือนพ.ค. 2552 เมื่อเทียบกับผู้ลาออกจากงาน
