ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการประชุมสภาฯ เพื่อพิจารณาพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ.2553 วานนี้ (18 มิ.ย.) นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย อภิปรายตอนหนึ่งว่า ว่าตนยอมรับไม่ได้กับงบประมาณของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ที่ไปรับใช้นักการเมืองและปฏิบัติสองมาตรฐานกับประชาชน นอกจากนี้ยังมีงบประมาณของกระทรวงมหาดไทยอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งเวลานี้กำลังจะมีการเลือกตั้งซ่อมที่จ.สกลนคร แต่ปรากฎว่ามีการร้องเรียน เรื่องการทุจริตเป็นจำนวนมาก มีการขนคนไปเลือกตั้ง เอาหีบบัตรใส่ในรถผู้คุมขัง ตนอยากบอกว่าให้เอาหีบบัตรออก แต่ให้เอาผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่ไปขังแทน เพื่อให้การเลือกตั้งเกิดความบริสุทธิ์ยุติธรรม
การเอาหีบบัตรไปไว้ในรถคุมขังผู้ต้องหา ผมเกรงว่าจะมีการเปลี่ยนหีบบัตรเลือกตั้งล่วงหน้า เพราะมีคนไปใช้สิทธิ์มากผิดปกติ เจ้าหน้าที่รัฐไม่มีสิทธิไปบอกประชาชนให้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า ไม่ใช่มาขนคนมาเลือกตั้ง โดยมีการตั้งเป้าไว้ถึง 5 หมื่นคน และขนคนมาเพียง 2 หมื่นคนเท่านั้น จึงอยากขอให้ กกต.จัดการเลือกตั้งอย่างบริสุทธิ์ ยุติธรรม
ต่อจากนั้นนายสนอง เทพอักษรณรงค์ ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย ลุกขึ้นประท้วงว่า พรรคภูมิใจไทยเสียหายที่ถูกกล่าวหาว่ามีการกระทำส่อทุจริตเลือกตั้ง จนทำให้คนที่อยู่ในต่างประเทศ ต้องโทรมาหากำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ว่าต้องช่วยกัน ทั้งหมดนี้เป็นการกล่าวคำเท็จของนายจตุพร จึงอยากให้มีการถอนคำพูด
ด้านนายจุมพฎ บุญใหญ่ ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย ซึ่งนั่งอยู่ในกลุ่มของ ส.ส.ภูมิใจไทย ได้ลุกขึ้น ประท้วงว่านายจตุพรกล่าวพาดพิงว่าขายตัว ทั้งๆ ที่ตนได้แสดงเจตนาชัดเจนว่าเตรียมตัวจะย้ายไปพรรคภูมิใจไทย ทำให้ครอบครัวและวงศ์ตระกูลของตนเสียหาย
หากผมขายตัว รับเงินแม้แต่บาทเดียวจากพรรคภูมิใจไทย ขอให้โคตรตระกูลของกระผม ฉิบหายวายวอด หากคำกล่าวหาไม่เป็นความจริง ขอให้โคตรตระกูลของคนนั้นฉิบหายวายวอดเช่นกัน
นายจุมพฏกล่าวว่า ตนไม่อยากจะเป็นส.ส.ที่อยู่ใต้การบงการของใครคนใด คนหนึ่ง แต่ตนเป็นส.ส.คนจนไม่มีเงินจ่ายค่าเลือกตั้งซ่อม หากพรรคเพื่อไทยวางเงิน 11ล้านบาทเป็นค่าเลือกตั้งซ่อมให้ตนได้ ก็พร้อมจะลาออกทันที เพราะไม่อยากเป็นส.ส.ของพรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว
ขณะที่ นายจตุพร ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยขับออกแน่นอน ไม่เอาคนทรยศไว้ จึงอยากขอถาม กกต.ว่าถ้าจ่ายเงินแทนทำได้หรือไม่ แต่คนที่ออกมาพูดเช่นนี้ เป็นการสะท้อนถึงความโง่
ขณะที่นายเชิดชัย วิเชียรวรรณ ส.ส.อุดรธานี พรรคภูมิไทย ได้ลุกขึ้นตอบโต้ที่ นายจตุพร กล่าวหาว่ามีการขนคนไปเลือกตั้งล่วงหน้าที่จ.สกลนครแบ่งเป็นวันคู่และวันคี่ ทำให้พรรคภูมิใจไทยเสียหาย จึงขอท้าให้ไปสาบานที่หน้าพระบรมรานุสาวรีย์รัชการที่ 7 ที่บริเวรหน้าอาควรรัฐสภา จากนั้นนายชัยได้พยายามไกล่เกลี่ย และตัดบทให้สมาชิกอภิปรายงบประมาณต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่มีการท้าทายให้มีการสาบานในห้องประชุมสภาฯ ปรากฎว่าในเวลา 18.30 น. นายสนอง เทพอักษรณรงค์ ส.ส.บุรีรัมย์ นายเชิดชัย วิเชียรวรรณ ส.ส.อุดรธานี และส.ส.ของพรรคภูมิใจไทยรวม 6 คนลงมาสาบาน ต่อหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าฯ รัชกาลที่ 7 ด้านหน้าอาคารรัฐสภา โดยนายสนอง กล่าวว่า การอภิปรายของนายจตุพร ใช้ถ้อยคำ ที่เป็นเท็จกรณีการกล่าวหาเรื่องหาเสียงเลือกตั้งซ่อมสกลนคร หากเป็นเรื่องจริง ขอให้พรรคภูมิใจไทยมีอันเป็นไปในทางการเมือง แต่ถ้าไม่จริงขอให้พรรคเพื่อไทย และนายจตุพรและครอบครัวพบกับความวิบัติ อย่ารุ่งเรืองทั้งอนาคตทางการเมืองและชีวิตในทางการเมือง ขอให้มีอันเป็นไปภายใน 7 วัน
นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต. ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง ให้สัมภาษณ์ ถึงการที่นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ในฐานะ รมว.มหาดไทย ได้ ลาลงพื้นที่เพื่อช่วยลูกพรรคหาเสียง ว่า สามารถทำได้ เพราะ รมต. มีตำแหน่งเป็น กรรมการบริหารพรรคก็มีหน้าที่ช่วยลูกพรรคหาเสียง แต่ต้องระวังเรื่องการใช้หน้าที่ ราชการในการหาเสียง และต้องระวังเรื่องการปราศรัยที่อาจเป็นคุณหรือโทษให้กับผู้สมัคร
สำหรับเรื่องร้องเรียนทุจริตนั้นมีการร้องทั้ง 2 ฝ่าย อยู่ระหว่างการ สืบสวน สอบสวน ซึ่งต้องดำเนินการไปตามขั้นตอน ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะมีการสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งได้ก่อน หรือหลังเลือกตั้งหรือไม่ เพราะต้องขึ้นกับพยานหลักฐาน ความเร็วและช้าในการส่งสำนวนของอนุกรรมการสอบสวนฯ แต่ในเรื่องที่มีการขนคน ไปลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้ากกต.ได้มอบหมายให้กกต.จว.สกลนคร ไปดำเนินการแจ้งความแล้ว
วันเดียวกันนาย สิทธิโชค สิงหเสนี ตัวแทนนายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย ได้เดินทางมาร้องเรียน ต่อกกต. ขอให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งนาง อนุรักษ์ บุญศล ผู้สมัครหมายเลข 2 พรรคเพื่อไทย จากกรณีที่ ร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง ไปปราศรัยหาเสียงสนับสนุน และระบุว่า พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยที่แท้จริง และ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้โทรศัพท์ไปขอให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สนับสนุนนางอนุรักษ์ และแจกรูป พ.ต.ท.ทักษิณ ในการหาเสียง ซึ่งถือว่าเป็นการกระทำผิดเนื่องจากจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครหรือพรรคการเมือง และนำหลักฐานเป็นวีซีดีและคำสัมภาษณ์ในหนังสือพิมพ์ฉบับต่างๆ รวมทั้งในอินเตอร์เน็ตด้วย
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทยและ ประธานส.ส.พรรค กล่าวว่า ขณะนี้มีการใช้อำนาจรัฐอย่างไม่เป็นธรรมในการเลือกตั้งซ่อมที่จ.สกลนคร โดยมีการแทรกแซง ทั้งเปลี่ยนหีบเลือกตั้งและใช้วิธีการกาบัตรไว้ล่วงหน้า โดยให้ประชาชนนำบัตรปลอมที่กาไว้ไปหย่อน โดยให้นำบัตรที่เจ้าหน้าที่แจกหน้าหน่วยไปขึ้นเงิน ซึ่งขณะนี้พรรคกำลังเก็บข้อมูลหลักฐาน เพราะเรื่องนี้จับคาหนังคาเขายาก และหลักฐานที่ชัดเจน ที่มีอยู่ก็คือการจัดรถขนคน ที่เป็นรถ 6 ล้อ 6 คัน คนที่มาได้คนละ 250 บาท แต่ถ้าหากได้จำนวนคนน้อย ก็จะไปซื้อที่หมู่บ้านเลย โดยจ่ายหัวละ 1 พันบาท มีการเก็บบัตรประชาชนเรียบร้อย
ผมและแกนนำพรรคได้ประเมินการหาเสียงโค้งสุดท้ายว่า การเลือกตั้งซ่อมที่ จ.สกลนคร จะชนะ โดยมีคะแนนนำเพียง 3-5 พันคะแนน แต่ก็ยังชนะอยู่ ขณะที่การเลือกตั้งซ่อมที่ศรีสะเกษ ชนะแน่ ส่วนที่รัฐมนตรีพรรคภูมิในไทย จะลางานลงพื้นที่ ช่วยหาเสียง ผมขอท้าว่าให้รีบลงไปเลย เพราะยิ่งไปคะแนนก็จะยิ่งไหลมายังพรรคเพื่อไทย
การเอาหีบบัตรไปไว้ในรถคุมขังผู้ต้องหา ผมเกรงว่าจะมีการเปลี่ยนหีบบัตรเลือกตั้งล่วงหน้า เพราะมีคนไปใช้สิทธิ์มากผิดปกติ เจ้าหน้าที่รัฐไม่มีสิทธิไปบอกประชาชนให้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า ไม่ใช่มาขนคนมาเลือกตั้ง โดยมีการตั้งเป้าไว้ถึง 5 หมื่นคน และขนคนมาเพียง 2 หมื่นคนเท่านั้น จึงอยากขอให้ กกต.จัดการเลือกตั้งอย่างบริสุทธิ์ ยุติธรรม
ต่อจากนั้นนายสนอง เทพอักษรณรงค์ ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย ลุกขึ้นประท้วงว่า พรรคภูมิใจไทยเสียหายที่ถูกกล่าวหาว่ามีการกระทำส่อทุจริตเลือกตั้ง จนทำให้คนที่อยู่ในต่างประเทศ ต้องโทรมาหากำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ว่าต้องช่วยกัน ทั้งหมดนี้เป็นการกล่าวคำเท็จของนายจตุพร จึงอยากให้มีการถอนคำพูด
ด้านนายจุมพฎ บุญใหญ่ ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย ซึ่งนั่งอยู่ในกลุ่มของ ส.ส.ภูมิใจไทย ได้ลุกขึ้น ประท้วงว่านายจตุพรกล่าวพาดพิงว่าขายตัว ทั้งๆ ที่ตนได้แสดงเจตนาชัดเจนว่าเตรียมตัวจะย้ายไปพรรคภูมิใจไทย ทำให้ครอบครัวและวงศ์ตระกูลของตนเสียหาย
หากผมขายตัว รับเงินแม้แต่บาทเดียวจากพรรคภูมิใจไทย ขอให้โคตรตระกูลของกระผม ฉิบหายวายวอด หากคำกล่าวหาไม่เป็นความจริง ขอให้โคตรตระกูลของคนนั้นฉิบหายวายวอดเช่นกัน
นายจุมพฏกล่าวว่า ตนไม่อยากจะเป็นส.ส.ที่อยู่ใต้การบงการของใครคนใด คนหนึ่ง แต่ตนเป็นส.ส.คนจนไม่มีเงินจ่ายค่าเลือกตั้งซ่อม หากพรรคเพื่อไทยวางเงิน 11ล้านบาทเป็นค่าเลือกตั้งซ่อมให้ตนได้ ก็พร้อมจะลาออกทันที เพราะไม่อยากเป็นส.ส.ของพรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว
ขณะที่ นายจตุพร ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยขับออกแน่นอน ไม่เอาคนทรยศไว้ จึงอยากขอถาม กกต.ว่าถ้าจ่ายเงินแทนทำได้หรือไม่ แต่คนที่ออกมาพูดเช่นนี้ เป็นการสะท้อนถึงความโง่
ขณะที่นายเชิดชัย วิเชียรวรรณ ส.ส.อุดรธานี พรรคภูมิไทย ได้ลุกขึ้นตอบโต้ที่ นายจตุพร กล่าวหาว่ามีการขนคนไปเลือกตั้งล่วงหน้าที่จ.สกลนครแบ่งเป็นวันคู่และวันคี่ ทำให้พรรคภูมิใจไทยเสียหาย จึงขอท้าให้ไปสาบานที่หน้าพระบรมรานุสาวรีย์รัชการที่ 7 ที่บริเวรหน้าอาควรรัฐสภา จากนั้นนายชัยได้พยายามไกล่เกลี่ย และตัดบทให้สมาชิกอภิปรายงบประมาณต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่มีการท้าทายให้มีการสาบานในห้องประชุมสภาฯ ปรากฎว่าในเวลา 18.30 น. นายสนอง เทพอักษรณรงค์ ส.ส.บุรีรัมย์ นายเชิดชัย วิเชียรวรรณ ส.ส.อุดรธานี และส.ส.ของพรรคภูมิใจไทยรวม 6 คนลงมาสาบาน ต่อหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าฯ รัชกาลที่ 7 ด้านหน้าอาคารรัฐสภา โดยนายสนอง กล่าวว่า การอภิปรายของนายจตุพร ใช้ถ้อยคำ ที่เป็นเท็จกรณีการกล่าวหาเรื่องหาเสียงเลือกตั้งซ่อมสกลนคร หากเป็นเรื่องจริง ขอให้พรรคภูมิใจไทยมีอันเป็นไปในทางการเมือง แต่ถ้าไม่จริงขอให้พรรคเพื่อไทย และนายจตุพรและครอบครัวพบกับความวิบัติ อย่ารุ่งเรืองทั้งอนาคตทางการเมืองและชีวิตในทางการเมือง ขอให้มีอันเป็นไปภายใน 7 วัน
นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต. ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง ให้สัมภาษณ์ ถึงการที่นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ในฐานะ รมว.มหาดไทย ได้ ลาลงพื้นที่เพื่อช่วยลูกพรรคหาเสียง ว่า สามารถทำได้ เพราะ รมต. มีตำแหน่งเป็น กรรมการบริหารพรรคก็มีหน้าที่ช่วยลูกพรรคหาเสียง แต่ต้องระวังเรื่องการใช้หน้าที่ ราชการในการหาเสียง และต้องระวังเรื่องการปราศรัยที่อาจเป็นคุณหรือโทษให้กับผู้สมัคร
สำหรับเรื่องร้องเรียนทุจริตนั้นมีการร้องทั้ง 2 ฝ่าย อยู่ระหว่างการ สืบสวน สอบสวน ซึ่งต้องดำเนินการไปตามขั้นตอน ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะมีการสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งได้ก่อน หรือหลังเลือกตั้งหรือไม่ เพราะต้องขึ้นกับพยานหลักฐาน ความเร็วและช้าในการส่งสำนวนของอนุกรรมการสอบสวนฯ แต่ในเรื่องที่มีการขนคน ไปลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้ากกต.ได้มอบหมายให้กกต.จว.สกลนคร ไปดำเนินการแจ้งความแล้ว
วันเดียวกันนาย สิทธิโชค สิงหเสนี ตัวแทนนายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย ได้เดินทางมาร้องเรียน ต่อกกต. ขอให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งนาง อนุรักษ์ บุญศล ผู้สมัครหมายเลข 2 พรรคเพื่อไทย จากกรณีที่ ร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง ไปปราศรัยหาเสียงสนับสนุน และระบุว่า พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยที่แท้จริง และ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้โทรศัพท์ไปขอให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สนับสนุนนางอนุรักษ์ และแจกรูป พ.ต.ท.ทักษิณ ในการหาเสียง ซึ่งถือว่าเป็นการกระทำผิดเนื่องจากจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครหรือพรรคการเมือง และนำหลักฐานเป็นวีซีดีและคำสัมภาษณ์ในหนังสือพิมพ์ฉบับต่างๆ รวมทั้งในอินเตอร์เน็ตด้วย
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทยและ ประธานส.ส.พรรค กล่าวว่า ขณะนี้มีการใช้อำนาจรัฐอย่างไม่เป็นธรรมในการเลือกตั้งซ่อมที่จ.สกลนคร โดยมีการแทรกแซง ทั้งเปลี่ยนหีบเลือกตั้งและใช้วิธีการกาบัตรไว้ล่วงหน้า โดยให้ประชาชนนำบัตรปลอมที่กาไว้ไปหย่อน โดยให้นำบัตรที่เจ้าหน้าที่แจกหน้าหน่วยไปขึ้นเงิน ซึ่งขณะนี้พรรคกำลังเก็บข้อมูลหลักฐาน เพราะเรื่องนี้จับคาหนังคาเขายาก และหลักฐานที่ชัดเจน ที่มีอยู่ก็คือการจัดรถขนคน ที่เป็นรถ 6 ล้อ 6 คัน คนที่มาได้คนละ 250 บาท แต่ถ้าหากได้จำนวนคนน้อย ก็จะไปซื้อที่หมู่บ้านเลย โดยจ่ายหัวละ 1 พันบาท มีการเก็บบัตรประชาชนเรียบร้อย
ผมและแกนนำพรรคได้ประเมินการหาเสียงโค้งสุดท้ายว่า การเลือกตั้งซ่อมที่ จ.สกลนคร จะชนะ โดยมีคะแนนนำเพียง 3-5 พันคะแนน แต่ก็ยังชนะอยู่ ขณะที่การเลือกตั้งซ่อมที่ศรีสะเกษ ชนะแน่ ส่วนที่รัฐมนตรีพรรคภูมิในไทย จะลางานลงพื้นที่ ช่วยหาเสียง ผมขอท้าว่าให้รีบลงไปเลย เพราะยิ่งไปคะแนนก็จะยิ่งไหลมายังพรรคเพื่อไทย
