นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประ เทศ ให้สัมภาษณ์ถึงการติดตาม ความเคลื่อนไหวของพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ที่ล่าสุดออกมาโฟนอินปลุกใจ ส.ส.พรรคเพื่อไทยว่า กำลังติดตามอยู่ วันนี้ปัญหาไม่ได้อยู่ที่เราแต่อยู่ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เมื่อพูดจบนายกษิต ทำท่าเดินออกไปแต่แล้วก็หันกลับมาพูดต่อว่า กลับมาเข้าคุกได้แล้ว
นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานกกต.กล่าวว่าการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอินยืนยันสนับสนุนการเงินกับพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งครั้งหน้า ต้องดูข้อเท็จจริงว่าพูดอย่างไร แต่คนที่ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งกฎหมาย ห้ามเป็นกรรมการบริหารพรรรค จัดตั้งพรรค ฉะนั้นต้องดูพฤติกรรมว่า เสมือนเป็นกรรมการบริหารพรรคหรือไม่
อย่างไรก็ตามการประกาศเช่นนี้หากอยู่ในประเทศไทยก็ถือว่าผิดกฎหมาย แต่เมื่ออยู่ต่างประเทศก็ยังไม่ทราบว่ากฏหมายไทยจะไปถึงหรือไม่ ส่วนพรรคเพื่อไทย ที่จูงเข้ามา กกต.กำลังดูพฤติกรรมว่าเป็นเสมือนกรรมการบริหารพรรคหรือไม่ ซึ่งก่อนหน้า กกต.เคยตอบความเห็นไว้ว่า ผู้ถูกตัดสิทธิทางการเมืองจะช่วยหาเสียง หรือเป็นที่ปรึกษาพรรคไม่ได้
ส่วนที่พ.ต.ท.ทักษิณ อ้างว่าได้พูดคุยกับ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในเขตเลือกตั้งที่ 3 จ.สกลนคร เพื่อให้ช่วยในการเลือกตั้งซ่อมนั้นเรื่องนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ ฝ่ายสืบสวนเก็บหลักฐานไว้ทั้งหมดแล่ว ซึ่งต้องดูว่าได้พูดตามที่เป็นข่าวจริงหรือไม่ แต่ถ้าอยู่ต่างประเทศกฏหมายไทยไม่สามารถตามเอาผิดได้ และก็ต้องดูว่าพฤติกรรมทั้งหมดก่อให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบในการเลือกตั้งหรือทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริตหรือไม่
กรณีนี้กกต.จะดูว่าผู้สมัครไปจูงใจ จูงมือ ให้มีการโฟนอินเข้ามาและทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริตหรือไม่ โดยทั้งหมดอนุกรรมการสอบข้อเท็จจริงที่กกต.ตั้งขึ้นจะรวบรวมและสรุปเสนอ กกต.ภายใน 10 วัน ขณะที่ประชาชนก็ต้องช่วยกันตรวจสอบเพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริต แต่จะมีการเชิญนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และนายเนวิน ชิดชอบ มาให้ปากคำหรือไม่ ก็เป็นเรื่องที่คณะอนุฯจะพิจารณา
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ปฏิเสธว่าไม่ทราบข่าวที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ระบุว่ามีการให้เงิน 5 ล้านบาทกับฝ่ายปกครอง ในเขตเลือกตั้งหากพรรคภูมิใจไทยชนะเลือกตั้งซ่อมที่ จ.สกลนคร แต่อยากถามกลับไปว่าหากขณะนี้ ร.ต.อ.เฉลิม เป็นรัฐบาลจะพูดแบบนี้หรือไม่ พรรคภูมิใจไทยมีแต่การสร้างแรงศรัทธา โชว์ผลงานบำบัดทุกข์บำรุงสุข ตามแนวพระราชดำหริ
ส่วนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ โอนฟินให้กำลังใจในการเลือกตั้งซ่อมกับพรรคเพื่อไทยนั้น ถือเป็นการโฆษณาพรรคเพื่อไทย ส่วนพรรคตนก็โฆษณาให้พรรคตัวเอง ขึ้นอยู่กับประชาชนจะตัดสินใจ เราก็มีของดีมาหักล้างเยอแยะ เช่น เอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง กำหนดนโยบาย ประชาชนอยากได้อะไรก็จัดให้ได้ ถ้าผิดกฎหมายและๆไม่ผิดทำนองคลองธรรม และยกระดับเศรษฐกิจถือเป็นเป้าหมายของพรรคภูมิใจไทย
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การเลือกตั้งซ่อมที่จ.สกลนคร ระหว่างพรรคภูมิใจไทยและพรรคเพื่อไทยนั้นมีสัญญาณของการแข่งขันที่ดุเดือดเข้มข้นเพราะมีเดิมพันสูง เนื่องจากผลการเลือกตั้งซ่อมครั้งนั้จะเป็นการชี้วัดความนิยมของทั้งสองพรรคในภาคอีสาน ไม่เช่นนนั้น คนอย่าง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทยคงไม่เปลืองตัวออกมาเป็นแม่ทัพด้วยตัวเอง ถ้าหากไม่มีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จ
โดยมี 5 ปัจจัยที่ส่งสัญญาณดังกล่าว คือ 1. การที่ร.ต.อ.เฉลิมออกมาประกาศยอมรับว่าหัวหน้าพรรคเพื่อไทยตัวจริงอยู่ที่ดูไบ ไม่ใช่เป็นพรรคผีหัวขาดตามที่ถูกกล่าวหา แต่ตนเห็นว่าพรรคเพื่อไทยไม่ใช่พรรคผีหัวขาด แต่เป็นพรรคผีปอบที่หัวอยู่ทาง ตัวอยู่ทาง การที่ ร.ต.อ.เฉลิมยอมชูประเด็นนี้แม้จะเสี่ยงต่อการถูกร้องต่อ กกต.ก็ตาม แต่คาดว่า พ.ต.ท.ทักษิณคงประเมินแล้วว่า คนในพรรคเพื่อไทยคงจะมีแต่ตัวท่านเพียงคนเดียวที่จะเป็นแม่เหล็กชู ขายคนอีสานในเวลานี้ได้
2. การโฟนอินจาก พ.ต.ท.ทักษิณถึงส.ส.พรรคเพื่อไทยยืนยันว่าไม่ต้องห่วงเรื่องเงินทุนเลือกตั้ง เป็นการตีเกราะเคาะกะลาเพื่อให้ ส.ส.ของพรรค ที่กำลังลังเลจะย้ายพรรคให้เห็นว่าน้ำเลี้ยงที่หายไปจะกลับคืนมา เพราะพ.ต.ท.ทักษิณเองรู้ว่าในพื้นที่อีสานกระแสยังสู้กระสุนไม่ได้ เพราะถ้ามีกระสุนก็สร้างกระแสได้ จึงออกมารับรองเรื่องเงินทุนที่จะใช้ในการเลือกตั้งครั้งหน้า
3. พ.ต.ท.ทักษิณยอมเปลืองตัวเปลืองเงินโดยการโทรศัพท์เข้าหากำนัน ผู้ใหญ่บ้านและข้าราชการในพื้นที่ด้วยตัวเอง ทั้งที่ไม่เคยทำเช่นนี้มาก่อน แต่ในยามหน้าสิ่วหน้าขวานจำเป็นต้องรักษาฐานเสียงไว้ จึงลงทุนโทร.ถึง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หัวคะแนน และยังบอกให้นักธุรกิจ นักการเมืองในพื้นที่ว่า นโยบายของรัฐบาลชุดนี้จอดไม่ต้องแจวแน่ จึงขอฝากบอกพ.ต.ท.ทักษิณด้วยว่า ยุคนี้ไม่มีเรือแจวแล้ว มีแต่เรือเจ็ต
4. พ.ต.ท.ทักษิณต้องการปลุกกระแสทักษิณฟีเวอร์ใหม่อีกครั้ง โดยแจกรูป ของพ.ต.ท.ทักษิณพร้อมลายเซ็นให้ ส.ส.ภาคอีสานหวังสร้างกระแส หรือเอาไปบูชาก็ไม่ทราบ แต่ขอแนะนำว่าควรจะออกเป็นเหรียญหลวงพ่อแม้วและนำไปปลุกเสกแจกส.ส.พรรคเพื่อไทยห้อยคอไปหาเสียงแทนจะดีกว่า
5. มติพรรคเพื่อไทยให้ขับไล่นายจุมพฎ บุญใหญ่ ส.ส. สกลนครและนายปองพล อดิเรกสาร ส.ส. สระบุรี ออกจากการเป็นสมาชิกพรรค ถือเป็นการเชือดไก่ ให้ลิงดู เพื่อไม่ให้ ส.ส.คนอื่นเอาเป็นเยี่ยงอย่าง เพราะจะเป็นตัวอย่างให้ ส.ส.ที่เหลือแตกแถว ไปหาเสียงให้พรรคคู่แข่ง เพราะปกติพรรคการเมืองจะหลีกเลี่ยงการขับสมาชิกพรรคออก กรณีนี้ถือเป็นการบอกนัยยะที่หวังผลทางการเมืองจึงมีมติออกมาในลักษณะนี้
นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานกกต.กล่าวว่าการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอินยืนยันสนับสนุนการเงินกับพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งครั้งหน้า ต้องดูข้อเท็จจริงว่าพูดอย่างไร แต่คนที่ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งกฎหมาย ห้ามเป็นกรรมการบริหารพรรรค จัดตั้งพรรค ฉะนั้นต้องดูพฤติกรรมว่า เสมือนเป็นกรรมการบริหารพรรคหรือไม่
อย่างไรก็ตามการประกาศเช่นนี้หากอยู่ในประเทศไทยก็ถือว่าผิดกฎหมาย แต่เมื่ออยู่ต่างประเทศก็ยังไม่ทราบว่ากฏหมายไทยจะไปถึงหรือไม่ ส่วนพรรคเพื่อไทย ที่จูงเข้ามา กกต.กำลังดูพฤติกรรมว่าเป็นเสมือนกรรมการบริหารพรรคหรือไม่ ซึ่งก่อนหน้า กกต.เคยตอบความเห็นไว้ว่า ผู้ถูกตัดสิทธิทางการเมืองจะช่วยหาเสียง หรือเป็นที่ปรึกษาพรรคไม่ได้
ส่วนที่พ.ต.ท.ทักษิณ อ้างว่าได้พูดคุยกับ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในเขตเลือกตั้งที่ 3 จ.สกลนคร เพื่อให้ช่วยในการเลือกตั้งซ่อมนั้นเรื่องนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ ฝ่ายสืบสวนเก็บหลักฐานไว้ทั้งหมดแล่ว ซึ่งต้องดูว่าได้พูดตามที่เป็นข่าวจริงหรือไม่ แต่ถ้าอยู่ต่างประเทศกฏหมายไทยไม่สามารถตามเอาผิดได้ และก็ต้องดูว่าพฤติกรรมทั้งหมดก่อให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบในการเลือกตั้งหรือทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริตหรือไม่
กรณีนี้กกต.จะดูว่าผู้สมัครไปจูงใจ จูงมือ ให้มีการโฟนอินเข้ามาและทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริตหรือไม่ โดยทั้งหมดอนุกรรมการสอบข้อเท็จจริงที่กกต.ตั้งขึ้นจะรวบรวมและสรุปเสนอ กกต.ภายใน 10 วัน ขณะที่ประชาชนก็ต้องช่วยกันตรวจสอบเพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริต แต่จะมีการเชิญนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และนายเนวิน ชิดชอบ มาให้ปากคำหรือไม่ ก็เป็นเรื่องที่คณะอนุฯจะพิจารณา
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ปฏิเสธว่าไม่ทราบข่าวที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ระบุว่ามีการให้เงิน 5 ล้านบาทกับฝ่ายปกครอง ในเขตเลือกตั้งหากพรรคภูมิใจไทยชนะเลือกตั้งซ่อมที่ จ.สกลนคร แต่อยากถามกลับไปว่าหากขณะนี้ ร.ต.อ.เฉลิม เป็นรัฐบาลจะพูดแบบนี้หรือไม่ พรรคภูมิใจไทยมีแต่การสร้างแรงศรัทธา โชว์ผลงานบำบัดทุกข์บำรุงสุข ตามแนวพระราชดำหริ
ส่วนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ โอนฟินให้กำลังใจในการเลือกตั้งซ่อมกับพรรคเพื่อไทยนั้น ถือเป็นการโฆษณาพรรคเพื่อไทย ส่วนพรรคตนก็โฆษณาให้พรรคตัวเอง ขึ้นอยู่กับประชาชนจะตัดสินใจ เราก็มีของดีมาหักล้างเยอแยะ เช่น เอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง กำหนดนโยบาย ประชาชนอยากได้อะไรก็จัดให้ได้ ถ้าผิดกฎหมายและๆไม่ผิดทำนองคลองธรรม และยกระดับเศรษฐกิจถือเป็นเป้าหมายของพรรคภูมิใจไทย
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การเลือกตั้งซ่อมที่จ.สกลนคร ระหว่างพรรคภูมิใจไทยและพรรคเพื่อไทยนั้นมีสัญญาณของการแข่งขันที่ดุเดือดเข้มข้นเพราะมีเดิมพันสูง เนื่องจากผลการเลือกตั้งซ่อมครั้งนั้จะเป็นการชี้วัดความนิยมของทั้งสองพรรคในภาคอีสาน ไม่เช่นนนั้น คนอย่าง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทยคงไม่เปลืองตัวออกมาเป็นแม่ทัพด้วยตัวเอง ถ้าหากไม่มีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จ
โดยมี 5 ปัจจัยที่ส่งสัญญาณดังกล่าว คือ 1. การที่ร.ต.อ.เฉลิมออกมาประกาศยอมรับว่าหัวหน้าพรรคเพื่อไทยตัวจริงอยู่ที่ดูไบ ไม่ใช่เป็นพรรคผีหัวขาดตามที่ถูกกล่าวหา แต่ตนเห็นว่าพรรคเพื่อไทยไม่ใช่พรรคผีหัวขาด แต่เป็นพรรคผีปอบที่หัวอยู่ทาง ตัวอยู่ทาง การที่ ร.ต.อ.เฉลิมยอมชูประเด็นนี้แม้จะเสี่ยงต่อการถูกร้องต่อ กกต.ก็ตาม แต่คาดว่า พ.ต.ท.ทักษิณคงประเมินแล้วว่า คนในพรรคเพื่อไทยคงจะมีแต่ตัวท่านเพียงคนเดียวที่จะเป็นแม่เหล็กชู ขายคนอีสานในเวลานี้ได้
2. การโฟนอินจาก พ.ต.ท.ทักษิณถึงส.ส.พรรคเพื่อไทยยืนยันว่าไม่ต้องห่วงเรื่องเงินทุนเลือกตั้ง เป็นการตีเกราะเคาะกะลาเพื่อให้ ส.ส.ของพรรค ที่กำลังลังเลจะย้ายพรรคให้เห็นว่าน้ำเลี้ยงที่หายไปจะกลับคืนมา เพราะพ.ต.ท.ทักษิณเองรู้ว่าในพื้นที่อีสานกระแสยังสู้กระสุนไม่ได้ เพราะถ้ามีกระสุนก็สร้างกระแสได้ จึงออกมารับรองเรื่องเงินทุนที่จะใช้ในการเลือกตั้งครั้งหน้า
3. พ.ต.ท.ทักษิณยอมเปลืองตัวเปลืองเงินโดยการโทรศัพท์เข้าหากำนัน ผู้ใหญ่บ้านและข้าราชการในพื้นที่ด้วยตัวเอง ทั้งที่ไม่เคยทำเช่นนี้มาก่อน แต่ในยามหน้าสิ่วหน้าขวานจำเป็นต้องรักษาฐานเสียงไว้ จึงลงทุนโทร.ถึง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หัวคะแนน และยังบอกให้นักธุรกิจ นักการเมืองในพื้นที่ว่า นโยบายของรัฐบาลชุดนี้จอดไม่ต้องแจวแน่ จึงขอฝากบอกพ.ต.ท.ทักษิณด้วยว่า ยุคนี้ไม่มีเรือแจวแล้ว มีแต่เรือเจ็ต
4. พ.ต.ท.ทักษิณต้องการปลุกกระแสทักษิณฟีเวอร์ใหม่อีกครั้ง โดยแจกรูป ของพ.ต.ท.ทักษิณพร้อมลายเซ็นให้ ส.ส.ภาคอีสานหวังสร้างกระแส หรือเอาไปบูชาก็ไม่ทราบ แต่ขอแนะนำว่าควรจะออกเป็นเหรียญหลวงพ่อแม้วและนำไปปลุกเสกแจกส.ส.พรรคเพื่อไทยห้อยคอไปหาเสียงแทนจะดีกว่า
5. มติพรรคเพื่อไทยให้ขับไล่นายจุมพฎ บุญใหญ่ ส.ส. สกลนครและนายปองพล อดิเรกสาร ส.ส. สระบุรี ออกจากการเป็นสมาชิกพรรค ถือเป็นการเชือดไก่ ให้ลิงดู เพื่อไม่ให้ ส.ส.คนอื่นเอาเป็นเยี่ยงอย่าง เพราะจะเป็นตัวอย่างให้ ส.ส.ที่เหลือแตกแถว ไปหาเสียงให้พรรคคู่แข่ง เพราะปกติพรรคการเมืองจะหลีกเลี่ยงการขับสมาชิกพรรคออก กรณีนี้ถือเป็นการบอกนัยยะที่หวังผลทางการเมืองจึงมีมติออกมาในลักษณะนี้
