ศูนย์ข่าวภาคอีสาน – สมาชิกพันธมิตรฯอีสานใต้ มีมติฟรีโหวตตั้งไม่ตั้งพรรคการเมือง โดยทุกฝ่ายย้ำยังเดินหน้าให้ความรู้แนวทางการเมืองใหม่ ใช้เป็นใบเบิกทางไล่ผีปอบการเมืองเก่า ขณะที่พันธมิตรฯอุดรธานี บุรีรัมย์ ฯลฯประชุมลงมติ เห็นชอบตั้งพรรคการเมืองของพันธมิตรฯ เดินหน้าการเมืองภาคประชาชนคู่ขนานทั้งในสภาและนอกสภา พร้อมผนึกพลังมวลชนร่วมฉลอง 1 ปีไล่รัฐบาลหุ่นเชิด นช.ทักษิณ
เมื่อเร็วๆนี้ ที่อุทยานบุญนิยม อ.เมือง จ.อุบลราชธานี สมาชิกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จ.อุบลราชธานี และจังหวัดใกล้เคียง ประชุมหารือกำหนดท่าที ก่อนแกนนำแต่ละจังหวัดนำข้อสรุปร่วมประชุมกับแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยทั่วประเทศ ที่หอประชุมมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิตวันที่ 24 พฤษภาคม
การประชุมวันนี้ มีข้อถกเถียงอย่างกว้างขวาง ทั้งฝ่ายเห็นด้วยกับการตั้งพรรคการเมือง ใช้เป็นฐานปูทางเอาคนดีเข้าสภาไปกำหนดทิศทางการเมืองสร้างประโยชน์แก่คนส่วนใหญ่ แทนการเมืองน้ำเน่าที่ให้ประโยชน์แต่นักการเมือง จนการเมืองไทยก้าวไม่ทันการเมืองเพื่อนบ้าน และอาจตกเวทีการเมืองโลกในอนาคต
สำหรับกลุ่มที่คัดค้านให้ความเห็นว่า การตั้งพรรคการเมืองอาจทำลายแนวร่วมทางการเมืองของพันธมิตรฯ และกลัวว่าในที่สุดแล้ว การดำเนินกิจกรรมของพรรคการเมืองที่ ตั้งขึ้นจะตกไปอยู่ภายใต้การนำของกลุ่มทุนทางการเมืองเหมือนในอดีต
เมื่อทุกฝ่ายต่างมีเหตุผลที่รับฟังได้ จึงมีข้อสรุปจะไม่ใช้การหารือในวันนี้ ใช้เป็นมติร่วมโหวตตั้งหรือไม่ตั้งพรรคการเมืองกับแกนนำทั่วประเทศ แต่ใช้วิธีให้แกนนำทั้ง 14 คน ใช้ระบบฟรีโหวต เพื่อให้อิสระแก่ทุกความเห็นในการประชุมแกนนำในวันที่ 24 พฤษภาคม นี้
ส่วนวันที่ 25 พฤษภาคม ซึ่งเป็นเวทีของสมาชิกพันธมิตรฯ ทั่วไปที่สนามกีฬามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ก็ให้สมาชิกใช้วิธีเดียวกันออกเสียงชี้ชะตาการตั้งพรรคการเมืองครั้งนี้
ทั้งนี้ ข้อหารือที่ทุกฝ่ายเห็นพ้องต้องกันคือ การสร้างการเมืองใหม่อาจต้องใช้เวลา เพราะปัจจุบันรากฐานการเมืองไทยยังถูกครอบงำอยู่ในระบบอุปถัมภ์ของนักการเมืองเก่า ดังนั้นสมาชิกพันธมิตรฯ ยังทำหน้าที่เผยแพร่ความรู้ทางการเมืองลงสู่รากหญ้า ให้คนที่ยังไม่รู้ได้รู้เท่าทันนักการเมืองน้ำเน่า เพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนโครงสร้างให้เป็นการเมืองใหม่ที่ทุกคนได้รับประโยชน์ร่วมกัน
ดร.ทวีศักดิ์ วังไพศาล แกนนำคนหนึ่งของพันธมิตรฯ อุบลราชธานี ได้เปรียบเทียบการเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ วันนี้ เป็นการตื่นตัวของภาคการเมืองประชาชน ซึ่งมีความสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงการเมืองในอนาคต โดยขาข้างหนึ่งทำหน้าที่ผลักดันการเมืองใหม่ให้เกิดในระบบรัฐสภา ส่วนขาอีกข้างหนึ่ง ก็ต้องก้าวไปพร้อมกันในรูปแบบการเมืองภาคประชาชน เพื่อสร้างความรู้ให้ประชาชนก่อนส่งเข้ามาเป็นมวลชนรู้ทันพฤติกรรมนักการเมืองโกงบ้านโกงเมือง ดังนั้นการทำหน้าที่เผยแพร่ความรู้ของพันธมิตรฯ ยังหยุดไม่ได้ การดำเนินงานต่อไปของพันธมิตรฯ จึงเข้าลักษณะแยกกันเดินแต่ร่วมกันตี
“หากผลโหวตในวันที่ 24-25 พฤษภาคม มีผลออกมาอย่างไรพันธมิตรฯ ทุกคนต้องยอมรับมติของเสียงส่วนใหญ่ และต้องทำหน้าที่ของตนเองต่อไป โดยไม่หมดกำลังใจหรือท้อแท้ต่อสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัว” ดร.ทวีศักดิ์กล่าว
พันธมิตรฯอุดรธานีเห็นด้วยต้องตั้งพรรคการเมือง
ขณะที่ ที่จังหวัดอุดรธานี เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม พันธมิตรฯ จังหวัดอุดรธานี จัดกิจกรรมงาน 193 วัน รำลึกครบรอบ 1 ปี พันธมิตรฯทำไมต้องตั้งพรรคการเมืองขึ้น โดยมีพันธมิตรฯจ.อุดรธานี หนองคาย และเลย เข้าร่วมกิจกรรมกันอย่างคึกคักมากกว่า 500 คน ณ โรงแรมนภาลัย อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี ภายในงานมีตั้งกล่องรับบริจาคช่วยเหลือ ASTV และเป็นทุนพันธมิตรฯสู้คดี ท่ามกลางแม่ยกที่นำอาหารและเครื่องดื่มมาให้บริการ
วัตถุประสงค์ของการจัดงานครั้งนี้ เพื่อเป็นการร่วมรับฟังความคิดเห็นของพันธมิตรฯจ.อุดรธานี และจังหวัดใกล้เคียง เกี่ยวกับเรื่องการจัดตั้งพรรคการเมือง และเป็นการพบปะสมาชิกพันธมิตรฯก่อนเดินทางไปร่วมงาน 193 วันรำลึกครบรอบ 1 ปีแห่งการต่อสู้ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต 24-25 พฤษภาคม
สำหรับข้อสรุปในที่ประชุม พันธมิตรฯอุดรฯ มีมติเห็นด้วยในการจัดตั้งพรรคการเมือง โดยได้ส่งตัวแทนที่พี่น้องพันธมิตรฯ ได้คัดเลือกเอาไว้แล้วจำนวน 10 คน เข้าไปร่วมชี้แจงในเวทีประชุมร่วมกับแกนนำพันธมิตรฯ และพี่น้องพันธมิตรฯจากทั่วประเทศ ที่หอประชุมมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต
ขณะเดียวกันพี่น้องพันธมิตรฯในพื้นที่ จ.อุดรธานี และใกล้เคียง ต่างยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า พร้อมจะเดินทางเข้าไปร่วมกิจกรรม งานรำลึก 193 วัน ครบรอบ 1 ปีแห่งการต่อสู้ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในวันที่ 25 พฤษภาคมด้วย
นายณัฐกฤษณ์ เศวตวรานนท์ ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ จ.อุดรธานี ให้ความเห็นถึงการจัดตั้งพรรคการเมืองของพี่น้องพันธมิตรฯ ว่า การจัดตั้งพรรคการเมืองเป็นสิ่งที่ดี เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ทำให้ประชาชนธรรมดามีสิทธิที่จะแสดงความคิดเห็น การมีส่วนร่วมด้านการเมืองเพิ่มมากขึ้น และการที่พรรคพันธมิตรฯจัดตั้งขึ้นหรือในนามพรรคอะไรก็ตาม เชื่อว่าจะเป็นทางเลือกอีกทางเลือกหนึ่งที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปสู่การเมืองใหม่ ที่พันธมิตรฯ วางเป้าหมายสูงสุดไว้ร่วมกัน
“พธม.บุรีรัมย์”มีมติเห็นชอบตั้งพรรคการเมือง
นายเสฏวุฒิ ชมพูพงษ์ คณะกรรมการเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม ที่ผ่านมาได้ประสานกับเครือข่ายพันธมิตรฯทุกอำเภอของจังหวัดบุรีรัมย์และประชุมร่วมกันทั้งจังหวัดอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรก ซึ่งที่ผ่านมาตั้งแต่ปลายปี 2548 ไม่เคยจัดประชุมร่วมกันมาก่อนทั้ง ๆ ที่ทุกคนต่างเรียกตัวเองว่า พันธมิตรฯ และต่างก็เดินทางไปร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯ ตามสถานที่ต่างๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยไม่นัดหมายตลอดมา
นายเสฏวุฒิ กล่าวต่อว่า วันนี้สถานการณ์บ้านเมืองของไทยเริ่มเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี และเป็นผลดีสำหรับประชาชน แม้การเมืองในระบบรัฐสภายังไม่ดีหรือสมบูรณ์อย่างที่เราต้องการ รวมทั้งยังมีนักการเมืองบางกลุ่มทำร้ายประเทศชาติอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเชื่อว่าไม่เพียงแต่พวกเราที่อยากให้การเมืองไทยดีขึ้น คนไทยทุกคนก็มีความต้องการเหมือนกัน จึงหลีกหนีไม่พ้นที่เครือข่าย พันธมิตรฯ ต้องใส่ใจในเรื่องการเข้ามาทำงานการเมืองในสภา ให้เกิดขึ้นคู่ขนานกับการเมืองนอกสภา
“ในที่ประชุมเครือข่ายพันธมิตรฯ จ.บุรีรัมย์ครั้งนี้ ได้ลงมติร่วมกันว่า ถึงเวลาแล้วที่จำเป็นจะต้องตั้งพรรคการเมืองขึ้นมา แต่ต้องคำนึงถึงข้อจำกัด และจุดอันตรายที่ยังมีอยู่เป็นจำนวนมากด้วย” นายเสฏวุฒิ กล่าว
ขณะนี้คณะกรรมการเครือข่ายพันธมิตรฯ บุรีรัมย์ มีตัวแทนประจำเกือบครบอำเภอแล้ว เช่น อ.เมือง หนองกี่ โนนสุวรรณ ชำนิ นางรอง หนองหงส์ ละหานทราย และกระสัง และเชื่อว่าเร็ว ๆ นี้ก็จะมีตัวแทนครบทั้ง 23 อำเภอ ของจ.บุรีรัมย์
นายเสฏวุฒิ กล่าวอีกว่า ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ชาวพันธมิตรฯ บุรีรัมย์จะต้องทำงานให้เป็นระบบมากขึ้น ตั้งแต่การก่อตั้งคณะกรรมการพันธมิตรฯ บุรีรัมย์ และเตรียมขยายวงให้มีการประชุมร่วมของพันธมิตรฯ ทุกอำเภอในเร็ว ๆ นี้ รวมทั้งการตั้งเวทีเสวนาระดมความคิดเห็นในเรื่อง ส่วนปลีกย่อยของการตั้งพรรคการเมือง ที่ชาวพันธมิตรฯ จะต้องระมัดระวัง
อย่างไรก็ตาม การประชุมครั้งที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เราพูดคุยแลกเปลี่ยนกันเรื่อง การตั้งตัวแทนเข้าและระดมสมาชิกเข้าร่วมการสัมมนาใหญ่กับพันธมิตรฯ ทั่วประเทศในงาน “ 193 วันรำลึก 1 ปี แห่งการต่อสู้ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” ที่กรุงเทพฯ ในวันที่ 24 -25 พฤษภาคม 2552