xs
xsm
sm
md
lg

“พธม.ใต้”หนุนตั้งพรรคแต่ระบุยังไม่ถึงเวลา เหตุต้องขยายฐาน-สร้างการเมืองใหม่ให้เข้มแข็งก่อน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

น.ส.อาภารัตน์ ชาติชุติกำจร
ศูนย์ข่าวภูเก็ต-แนวร่วมพันธมิตรประชาชน เพื่อประชาธิปไตย ภาคใต้ เห็นด้วยหากพันธมิตรฯ ตั้งพรรคการเมือง หวังล้างระบบการเมืองเก่า นำการเมืองใหม่เข้าบริหารประเทศ แต่ระบุชัดยังไม่ถึงเวลา เหตุต้องขยายฐานสมาชิก-ความรู้การเมืองใหม่ให้กว้าง และสร้างความเชื่อมั่นให้มากกว่านี้ และต้องแบ่งให้ชัดเจนระหว่าง ภาคที่จะสู้ในสภา และภาคเคลื่อนไหวการเมืองภาคประชาชน หวั่นถูกการเมืองเก่ากลืน หากฐาน และความรู้ยังไม่แข็งแรง


น.ส.อาภารัตน์ ชาติชุติกำจร คณะทำงานกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงแนวคิดตั้งพรรคการเมืองของกลุ่มพันธมิตรประชาชน เพื่อประชาธิปไตย ที่คาดว่า น่าจะมีการหารือร่วมกันภายในงานรำลึก 193 วัน และครบรอบ 1 ปี การรวมตัวชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่กรุงเทพมหานคร วันที่ 25 พฤษภาคม 2552 ว่า โดยส่วนตัวเห็นด้วยอย่างมาก

ทั้งนี้ เพราะถือว่า พรรคการเมืองของพันธมิตรฯ เป็นพรรคที่เกิดขึ้นจากการรวมตัวของกลุ่มพลังมวลชนจริง ๆ ที่ออกมาเรียกร้อง เสียสละ และเห็นแก่ประโยชน์ของประเทศชาติเป็นที่ตั้ง นับตั้งแต่มองเห็นกลุ่มก๊วนทางการเมืองจับมือกันเพื่อผลประโยชน์ของพวกตัวเองมากกว่าประเทศชาติ เพราะฉะนั้นไม่ต้องกลัวเลยว่า พรรคการเมืองของพันธมิตรฯ ที่จะเกิดขึ้นใหม่นี้ต้องเห็นแก่ประโยชน์ของประเทศชาติอย่างแน่นอน

ฉะนั้นขอให้พี่น้องประชาชนชาวพันธมิตรฯ และผู้ที่ยังยืนอยู่รอบนอก หรือผู้ที่ไม่สนับสนุนพันธมิตรฯ โปรดอย่าได้เคลือบแคลงใจว่า หลังจากที่พันธมิตรฯ ตั้งพรรคการเมืองแล้ว คนกลุ่มนี้จะเห็นแก่ประโยชน์ของประเทศชาติมาเป็นอันดับแรก มากกว่าจะเห็นแก่ประโยชน์ของตนเองเป็นใหญ่ เพราะมีหลายสิ่งหลายอย่างที่พิสูจน์ได้ในข้อนี้ แต่ขอให้พวกเราจงหันมาเป็นพลัง สนับสนุนในการร่วมกันขับเคลื่อนให้เป็นรูปธรรม และมีพรรคการเมืองเกิดขึ้นจริง ๆ คือ เป็นการปักธงชัยของประชาชนของชาติ แม้จะมีหลายคำถามว่า ทำไมพันธมิตรฯ ไม่สนับสนุนพรรคการเมืองที่มีอยู่เดิม และมีอุดมการณ์ หรือจุดยืนที่คล้ายคลึงกัน

คำตอบที่ตามมาในความเห็นส่วนตัว คือ พรรคการเมืองเหล่านี้สนองตอบ หรือเห็นแก่ประโยชน์ของประชาชน และประเทศชาติเป็นใหญ่หรือไม่ หลายสิ่งหลายอย่างที่เกิดขึ้น เชื่อว่า ประชาชนชาวไทยในหลายพื้นที่ของประเทศคงจะรู้ และเห็นแล้วในบางเรื่องของการทำงานรัฐบาลชุดที่เราคิดว่า จุดยืนคล้ายกับพันธมิตรฯ หรือแทบจะเรียกได้ว่า เป็นความหวังของพันธมิตรฯ

ในทางกลับกันเมื่อถึงเวลาที่พวกเขามอำนาจอยู่ในมือ พวกเขาก็เล่นการเมืองเหมือนเกมอย่างหนึ่ง คือ การช่วงชิงอำนาจ เพื่อรวบรวมผลประโยชน์ให้พวกพ้อง และกลุ่มก้อนของตัวเองเป็นที่ตั้งเพียงกลุ่มเดียว เหมือนกับทุกรัฐบาลที่ผ่านมา ๆ มา

น.ส.อาภารัตน์ กล่าวต่อไปว่า ฉะนั้นถ้าเราจะตั้งพรรคการเมืองในนามของพันธมิตรฯ ถึงแม้ว่าจะเป็นพรรคเล็ก พรรคใหญ่ อยู่ฝ่ายไหน และมีเสียงข้างมากหรือไม่ก็ตามในสภา อย่างน้อยเราก็พอที่จะมีสิทธิและเสียงในการคัดค้านอำนาจของผู้ที่คิดจะโกงกินชาติบ้านเมืองได้อย่างเต็มที่

สังเกตได้จากจากการรวมตัวของพี่น้องพันธมิตรฯ ตลอด 193 วันที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่า ภาพที่ออกมาหลีกเลี่ยงไม่ได้ ที่จะเห็นคนที่เคยเคลื่อนไหวกับพันธมิตรฯ เพียงไม่กี่คนเข้าไปอยู่ในพรรคการเมืองยังสามารถจะช่วยเปลี่ยนแปลงบางสิ่งบางอย่างได้ ในช่วงที่กระแสการเมืองเชี่ยวกรากของนักการเมืองที่เห็นแก่ผลประโยชน์

ทั้งนี้ คิดว่า การตั้งพรรคการเมืองจะเป็นตัวช่วยอีกตัวหนึ่ง ที่จะช่วยขับเคลื่อนการเมืองใหม่ให้เดินหน้าไปได้
แต่ก็ต้องแยกกันให้ชัดเจนว่า ส่วนไหนของพันธมิตรฯ ที่จะเข้าไปคลุกในวงการเมืองรูปแบบรัฐสภา และภาคไหนของพันธมิตรฯ ที่จะเคลื่อนไหวต่อสู้ทางการเมืองภาคประชาชน ไม่ใช่ว่า จะนำมารวมกัน เพราะภาพที่ออกมาจะไม่สวยงามมากนักในสายตาของมวลชน โดยส่วนตัวเชื่อว่าอย่างนั้น

**ตั้งพรรคเพราะประเทศไทยไม่ได้มีเพียงภาคใต้

ในส่วนของหลายภาคส่วนที่มองว่า พันธมิตรฯ มีพรรคประชาธิปัตย์ เป็นพรรคการเมืองร่วมอุดมการณ์อยู่แล้ว โดยเฉพาะพื้นที่ทางภาคใต้นั้น น.ส.อาภารัตน์ กล่าวว่า เราลืมพื้นที่ทางภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคตะวันออกไปแล้วหรืออย่างไร เพราะเป็นพื้นที่ที่พรรคประชาธิปัตย์ ไม่เคยเข้าถึง และตีไม่เคยแตก แต่เสียงของพันธมิตรฯ ยังมี

เรามีคนที่มีศักยภาพพอที่คิดว่า จะสามารถเปลี่ยนแปลงแนวคิดทางการเมืองของคนในพื้นที่นั้น ๆ ได้ ให้หลุดออกจากการเมืองเก่าสู่การเมืองใหม่ แม้จะเป็นเพียงเสียงส่วนน้อย ไม่ใช่ทั้งหมดก็ตาม แต่ก็ยังดีที่จะมีเข้ามาบ้าง แล้วค่อยจับมือกับพรรคประชาธิปัตย์ ในด้านที่จะช่วยกันขับเคลื่อนนำพาประเทศไทยให้พ้นจากวิกฤตนี้ไปได้อย่างมั่นคงในสภาวการณ์ที่เป็นอยู่ในช่วงนี้ได้ดีอย่างแน่นอน

“เราไม่ได้ขายฝัน แต่กำลังทำให้กฎนิติธรรมในรัฐให้เกิดขึ้นจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการขับเคลื่อนภาคประชาชน หรือการตั้งพรรคการเมืองเราต่างทำได้ เพราะแยกไม่ออกกันอยู่แล้ว มันคือความรับผิดชอบตั้งแต่ที่เราไปหย่อนบัตรเลือกตั้ง ถ้าเกิดว่า เรามีรัฐบาลที่ดีที่เกิดจากการผสมผสาน และเราทำงานอย่างเป็นระบบกับภาคประชาชน ประเทศชาติย่อมขับเคลื่อนไปในทางที่เป็นประโยชน์ของชาติอยู่แล้ว” น.ส.อาภารัตน์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม เรื่องความเกี่ยวข้องกันระหว่างการเมืองในสภากับการเมืองภาคประชาชน จงศึกษาจากประเทศที่พัฒนาแล้วอย่าง ประเทศสหรัฐอเมริกา หรืออังกฤษ มิใช่แค่ทะเบียนบ้านที่เกิดขึ้นมาได้ แต่หมายถึงพรรคการเมืองเจาะเข้าไปอยู่ในสายเลือดของประชาชน มันคือความรับผิดชอบในอุดมการณ์ร่วม และความเห็นบางสิ่งบางอย่างที่เหมือน หรือคล้ายคลึงกัน และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ พรรคประชาธิปัตย์ ไม่ใช่เสียงของเราอย่างแท้จริง

**เปรียบหากรีบร้อนเหมือนกินผักที่ปนเปื้อนสารพิษ

ด้านนายกฤช เทพบำรุง กล่าวว่า โดยส่วนตัวไม่เคยเห็นด้วยกับการตั้งพรรคการเมือง และการเล่นการเมืองมาตั้งแต่ต้น แต่ถ้าหากมองเรื่องผลประโยชน์ที่ส่วนรวมจะได้รับจากการตั้งพรรคการเมืองของพันธมิตรฯ ก็คิดว่า จำเป็นต้องตั้ง แต่มองอีกว่า หากพันธมิตรฯ มีการตั้งพรรคการเมืองจริง ๆ ยังไม่ถึงเวลา การเลือกตั้งสมัยที่ใกล้ที่สุดที่จะมาถึงนี้ ไม่สมควรที่จะส่งผู้สมัครลงชิงพื้นที่ ต้องหาแนวร่วม หรือสมาชิกให้มากกว่านี้ ที่สำคัญต้องให้ความรู้เรื่องการเมืองให้แก่กลุ่มคนให้มากขึ้น เพื่อเป็นการละลายการเมืองเก่าให้หมดสิ้นไป เมื่อคนเห็น และเชื่อว่า การเมืองใหม่มีข้อดีจริง เมื่อนั้นจึงเห็นว่า เป็นเวลาของพรรคพันธมิตรฯ

ทั้งนี้ หากเปรียบเทียบให้เห็นภาพที่ชัดเจน คือ การทำเกษตรปลูกพืชผักอย่างใดอย่างหนึ่งลงในดินแบบธรรมชาติ ลงในดินที่ไม่เคยผ่านการใช้สารเคมีมาก่อน ผักที่เราได้ก็จะปลอดสารพิษ แต่หากเมื่อใดที่เราปลูกผักลงในดินที่เคยผ่านการใช้สารเคมีมา และยังไม่มีการปรับสภาพ หรือฟื้นฟู ผักที่เราได้ก็จะดูดสารพิษขึ้นมา เราก็จะได้ผักที่มีสารพิษเจือปน เมื่อนั้นก็ไม่ปลอดภัยในการที่จะรับประทาน

**ชี้ต้องแบ่งภาคให้ชัดระหว่างการเมืองในสภา-ภาคประชาชน

เช่นเดียวกับนายอรรคพล นนทรีย์ ที่ยอมรับว่า ก่อนหน้านี้ไม่เห็นด้วยกับการที่พันธมิตรฯ จะตั้งพรรคการเมือง เพื่อเข้าไปมีสิทธิมีเสียงในสภา แต่มาวันนี้ เห็นด้วย เพราะการทำงานหลายอย่างของรัฐบาลภายใต้การนำของพรรคประชาธิปัตย์ พรรคการเมืองที่เราเคยคิดว่า ดีที่สุดเท่าที่มีอยู่ ไร้ซึ่งการคลี่คลายปมปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นให้เบาบางลง ง่ายที่สุด คือ ไม่แม้แต่จะดำเนินการใด ๆ เพื่อเอาผิด นช.ทักษิณ ให้ชัดเจน

แต่ต้องมีการแบ่งภาคส่วนกันให้ชัดเจนระหว่าง กลุ่มที่ลงเล่นการเมืองในสภา กับกลุ่มที่เคลื่อนไหวในภาคประชาชน อย่านำมาเกี่ยวข้องกัน แม้ว่าในทางปฏิบัติอาจจะทำได้ไม่เต็มที่ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่เรามีทางเลือกไม่มากนัก

**สุราษฎร์ฯระบุ70%เห็นด้วยตั้งพรรคแต่ยังไม่ถึงเวลา

นายเกียรติศักดิ์ ชาครหัตถะการ ประธานศูนย์ประสานงาน พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย สุราษฎร์ธานี กล่าวถึงการเดินทางไปร่วมงานรำลึกครบรอบ 1 ปี 193 วัน การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชน เพื่อประชาธิปไตย ซึ่งจะจัดขึ้นที่เมืองทองธานี ว่า ในส่วนของเครือข่ายพันธมิตรฯจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้มีการหารือเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว และจะเดินทางไปร่วมจำนวนมากแน่นอน ซึ่งได้มีการประสานงานและจัดรถเรียบร้อยแล้ว

สำหรับรถที่จะนำเครือข่ายพันธมิตรฯไปร่วมนั้นมีไม่อั้นเต็มออกเต็มออกตลอดเวลา โดยรถจะออกจากหน้าร้านแม่เหล็กสุราษฎร์ธานี ตรงข้ามลานจอดรถภัตตาคารลักกี้ ถนนท่าทองใหม่ อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งรถออกในช่วงกลางคืนของวันที่ 24 พฤษภาคม 2552

ส่วนการส่งตัวแทนเครือข่ายพันธมิตรฯเข้าร่วมประชุมในวันที่ 24 พฤษภาคม เพื่อระดมความเห็นเกี่ยวกับการจัดตั้งพรรคการเมืองนั้นในส่วนของพันธมิตรฯสุราษฎร์ธานีได้คัดเลือกตัวแทนเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยเป็นตัวแทนจากอำเภอต่างๆทั้ง 10 คน

ขณะที่ความคิดเห็นของพันธมิตรฯสุราษฎร์ธานีเกี่ยวกับการจัดตั้งพรรคการเมือง นายเกียรติศักดิ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาศูนย์ประสานงานเครือข่าย พันธมิตรฯสุราษฎร์ธานี ได้ทำแบบสอบถามความคิดเห็นเครือข่ายพันธมิตรฯจำนวน 5,000 ชุด ซึ่งเครือข่ายพันธมิตรฯประมาณ 70 % ซึ่งเห็นด้วยกับการจัดตั้งพรรคการเมืองแต่มองว่ายังไม่ถึงเวลาการจัดตั้งพรรคการเมือง จะต้องมีการเตรียมความพร้อม และให้ความรู้กับเครือข่ายในเรื่องของการเมืองใหม่ให้มากกว่านี้ เพราะถ้าเริ่มดำเนินการตั้งแต่ตอนนี้ อาจจะทำให้การตอบคำถามของคนทั่วไปยังไม่ชัดเจน นอกจากนั้นมีเครือข่ายพันธมิตรฯ 15 % โดยไม่มีข้อแม้และอยากให้มีการจัดตั้งพรรคการเมือง และมีจำนวน 15 % ที่ไม่เห็นด้วยกับการจัดตั้งพรรคการเมือง โดยมองว่าเอาความหวังของสังคมมาทำ เพราะมองว่าถ้าคนเข้าสู่ระบบการเมืองแล้วกลับไปสู่วงจรการเมืองเก่า ก็จะทำให้ความหวังของสังคมทั้งปัจจุบันอนาคตสูญหายไป

นอกจากนั้น พันธมิตรฯสุราษฎร์ธานี ได้รวบรวมความคิดออกแบบให้เกิดการทำงานร่วมกันระหว่างพรรคการเมืองและการเมืองภาคประชาชนสมควรต้องมีความสอดคล้องกันแต่ในขณะเดียวกันต้องแยกบทบาทกันให้ได้อย่างชัดเจน คือ พรรคการเมืองของประชาชนก็ต้องมีและมีแบบมีคุณภาพด้วย และ การเมืองภาคประชาชนที่มีความชอบธรรมในการตรวจสอบก็ต้องได้รับการยอมรับจากสังคม

สิ่งเหล่านี้จะได้มีการนำเสนอแนวคิดที่ชาวจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ร่วมกันออกแบบไว้แล้วว่าจะให้การมีส่วนร่วมของประชาชนในการร่วมกันก่อสร้างพรรค ร่วมกันออกนโยบายจากประชาชนธรรมดานี่แหละไม่ต้องพึ่งพานักวิชาการที่ไหนแล้วประโยชน์จะตกลงถึงประชาชนจริงๆ เพราะเขาเป็นคนร่างมาเองกับมือเรามีวิธีการ คิดว่าน่าจะเป็นแบบอย่างที่จะเป็นประโยชน์ในการประชุมสภา พันธมิตรฯ ในวันที่ 24 พฤษภาคม นี้แน่นอน

**พธม.16จ.ภาคใต้ยันความคิดเดิมยังไม่เหมาะตั้งพรรค

ขณะที่นายสุนทร รักษ์รงค์ ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ 16 จังหวัดภาคใต้ กล่าวถึงการระดมความคิดเห็นเกี่ยวกับการจัดตั้งพรรคการเมือง ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 24 พฤษภาคม ในส่วนของ พันธมิตรฯ 16 จังหวัดภาคใต้ ซึ่งได้มีการประชุมกัน 4 ครั้ง และขณะนี้การระดมความคิดเห็นเรื่องนี้ตกผลึกแล้ว และยืนยันตามความคิดของพันธมิตรฯ16 จังหวัดภาคใต้ที่เห็นว่ายังไม่ควรตั้งพรรคการเมืองเป็นของพันธมิตรฯ

อย่างไรก็ตาม เราจะให้การสนับสนุนพรรคการเมืองที่มีแนวความคิดสอดคล้องกับ พันธมิตรฯ และจะต้องดำเนินการตามข้อเรียกร้องของพันธมิตรฯทั้ง 13 ข้อที่เคยยื่นไปแล้ว จากการพูดคุยเรื่องนี้ในที่ประชุมต่างๆ เสียงส่วนใหญ่สะท้อนว่า ภาคใต้มีพรรคการเมืองที่เป็นทางเลือกต่างจากระบบการเมืองเก่า

แต่หากมีพรรคการเมืองที่เกิดขึ้นโดยใช้ชื่อเป็นส่วนรวมนั้น ยังไม่เห็นด้วยในเรื่องนี้ ยกเว้นหากคนในพันธมิตรฯ มีความประสงค์จะตั้งพรรคการเมืองเองในนามส่วนตัว ซึ่งทุกคนสามารถที่จะพิจารณาและให้ความสนับสนุนตามความเห็นของแต่ละคน

นายสุนทร กล่าวต่อไปว่า หากพันธมิตรฯประกาศตั้งพรรคการเมืองความชอบธรรมในความคิดของประชาชนจะลดลงมา เพราะหลายคนมองว่าเสียงที่สะท้อนออกไปจากการเมืองภาคประชาชน จะไม่ใช่เสียงที่บริสุทธิ์ต่อไป และขณะนี้ตนคิดว่าทุกพรรคการเมืองกำลังรอวันที่ 24-25 พฤษภาคม 2552 และลุ้นให้พันธมิตรฯตั้งพรรคการเมือง ซึ่งถ้าพันธมิตรฯตั้งพรรคการเมือง การเมืองภาคประชาชนก็จะหายไป เพราะฉะนั้นการตั้งพรรคการเมืองจะต้องคิดให้รอบคอบ

“สำหรับพื้นที่ภาคใต้ ตนเชื่อว่าพรรคปชป.ไม่กลัวพันธมิตรฯตั้งพรรคการเมือง เพราะเขามองว่าถ้าพันธมิตรฯตั้งพรรคการเมือง ในการเลือกตั้งพรรคของพันธมิตรฯจะสอดแทรกเข้ามาได้น้อยมาก แต่สิ่งที่ปชป.กลัวคือ ความเข้มแข็งของพันธมิตรฯ 16 จังหวัดภาคใต้”
กฤช เทพบำรุง
สุนทร รักษ์รงค์
กำลังโหลดความคิดเห็น