ศูนย์ข่าวศรีราชา- พันธมิตรฯภาคตะวันออก มีมติเป็นเอกฉันท์ หนุนการตั้งพรรคการเมือง คัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และคัดค้านพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ลั่นพร้อมร่วมงานครบรอบ 1 ปี การต่อสู้ของพันธมิตรฯ
นายสุวิชาณ สุวรรณาคะ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จันทบุรี และประธานเครือข่ายการเมืองภาคประชาชนจังหวัดจันทบุรี เผยว่า เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ที่ศูนย์ประสานงานพันธมิตรฯจันทบุรี ได้มีการประชุมย่อยพันธมิตรฯจันทบุรี โดยมี นายไพโรจน์ ลิมป์ธนวงศ์ แกนนำและผู้ประสานงานพันธมิตรฯจันทบุรี และนางนันทิดา นิธิวงศ์ แกนนำระดมทุนพันธมิตรฯ จันทบุรี พร้อมพันธมิตรฯ จันทบุรี จำนวนหนึ่ง เข้าร่วมประชุม เพื่อหารือเตรียมความพร้อมเพื่อร่วมกิจกรรมครบรอบ 1 ปี พันธมิตรฯ การจัดประชุมใหญ่พันธมิตรฯจันทบุรี และแสดงความเห็นเพื่อมีมติใน 3 เรื่องสำคัญ คือ 1) การตั้งพรรคการเมือง 2) การแก้ไขรัฐธรรมนูญ และ 3) การเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม
ที่ประชุมได้ข้อสรุปว่า พันธมิตรฯ มีความจำเป็นต้องมีเครื่องมือเพิ่มเติม เพื่อทำการเมืองใหม่ ขณะนี้พันธมิตรฯ มีเครื่องมือเพียงอย่างเดียวคือ “การชุมนุม” เป็นการเคลื่อนไหวนอกสภาฯ ซึ่งไม่เพียงพอที่จะทำให้เกิดการเมืองใหม่ได้ จึงมีความจำเป็นต้องมีเครื่องมือเพิ่ม คือ “พรรคการเมือง” เพื่อการเคลื่อนไหวในสภาฯ
ดังนั้น พรรคการเมืองจึงเป็นเครื่องมือหนึ่งของพันธมิตรฯ เท่านั้น อย่าเข้าใจว่า พันธมิตรฯจะเปลี่ยนไปเป็นพรรคการเมืองทั้งหมด พันธมิตรฯยังคงอยู่เหมือนเดิม ยังคงเป็นการเมืองภาคประชาชนที่ต้องคอยควบคุม กำกับ ถ่วงดุล และตรวจสอบอำนาจรัฐต่อไป ในฐานะเจ้าของอำนาจอธิปไตยตัวจริง
อย่างไรก็ตาม หากพันธมิตรฯจัดตั้งพรรคการเมือง ก็อาจมีคำถามจากสังคมว่า พันธมิตรฯ ที่ชุมนุมยืดเยื้อมา ก็เพราะต้องการแสวงหาอำนาจและผลประโยชน์ ซึ่งก็ต้องยอมรับว่า “จริง” แต่ พันธมิตรฯ แสวงหาอำนาจและผลประโยชน์เพื่อประโยชน์ของปวงชนชาวไทย มิใช่เพื่อตนเองและพวกพ้อง ส่วนพรรคการเมืองของพันธมิตรฯ จะประสบความสำเร็จมากน้อยเพียงใดนั้น ขึ้นอยู่กับพี่น้องพันธมิตรฯ
นายสุวิชาณ กล่าวว่า การประชุมพันธมิตรฯจันทบุรี ครั้งนี้ มีมติเป็นเอกฉันท์ คือ 1.เห็นด้วย ต่อการตั้งพรรคการเมืองของพันธมิตรฯ และจะสนับสนุนอย่างเต็มที่
2.คัดค้าน การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในขณะนี้อย่างถึงที่สุด เพราะเห็นว่ารัฐธรรมนูญ 50 กำลังเป็นยาแรงแก้ปัญหานักการเมืองชั่ว และพรรคการเมืองชั่วอย่างได้ผล แต่หากจะแก้ไขฯอยากให้ตัดสิทธินักการเมืองชั่วตลอดชีวิต หรือให้มีโทษอาญา จำคุกด้วยจะดีที่สุด
3. คัดค้าน การเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เพราะเห็นว่า บ้านเมืองต้องมีกฎหมาย กฎหมายต้องศักดิ์สิทธิ์ เมื่อทำผิดต้องรับโทษ
4.ให้จัดกิจกรรมริ้วขบวนร่วมงานครบรอบ 1 ปี พันธมิตรฯ อย่างเต็มที่ โดยการจัดรถบัส 2 ชั้นอย่างดี บริการพี่น้องพันธมิตรฯ จันทบุรี รถออกเดินทางวันที่ 25 พฤษภาคม 2552 เวลา 09.00 น. ตรง ผู้สนใจสำรองที่นั่งได้ที่ ร้านสแคว (สี่แยกเมืองจันท์) ตรงข้ามห้างทองสัมพันธ์ จันทบุรี หรือที่ โทร.08-1889-1964 ด่วน
5. แต่งตั้ง ผู้ประสานงานมวลชนพันธมิตรฯ จันทบุรี ทำหน้าที่ติดต่อ แจ้งข่าว แก่มวลชนฯ
6. จัด “ชุมนุมประชุมใหญ่พันธมิตรฯ จันทบุรี ครั้งที่ 1” ในวันเสาร์ที่ 16 พฤษภาคม 2552 เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป ที่บริเวณ ลานพันธมิตรฯจันทบุรี
ด้านนายไพโรจน์ ลิมป์ธนวงศ์ แกนนำและผู้ประสานงานพันธมิตรฯจันทบุรี กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมเพื่อร่วมกิจกรรมครบรอบ 1 ปี พันธมิตรฯ ว่า พันธมิตรฯจันทบุรี ได้แต่งตั้งทีมงานเพื่อดำเนินการระดมความคิดเห็น และออกแบบขบวนมวลชนร่วมกิจกรรมครั้งนี้ เรียบร้อยไปกว่า 80% แล้ว เหลือเพียงรายละเอียดเล็กน้อยเท่านั้น จะได้เห็นความเข้มแข็ง พร้อมเพรียงของพันธมิตรฯ จันทบุรี ในวันที่ 25 พฤษภาคม แน่นอน
นอกจากนี้ ในวันเสาร์ที่ 16 พฤษภาคม ตั้งแต่ เวลา 17.00น. จะจัดให้มีการประชุมใหญ่พันธมิตรฯ จันทบุรี ณ ลานพันธมิตรฯจันทบุรี เพื่อระดมความเห็นของพันธมิตรฯ จันทบุรี ในเรื่องสำคัญ ๆ อีกครั้งหนึ่ง จึงขอเชิญพันธมิตรฯ จันทบุรีทุกท่าน ร่วมประชุมใหญ่ครั้งนี้โดยพร้อมกัน สอบถามเพิ่มเติมที่ 08-0098-5511 และ 08-1622-0664
ชลบุรี เอาด้วยพรรคพันธมิตรฯ
ขณะที่ในส่วนของจ.ชลบุรี วานนี้( 14 พ.ค.) พันธมิตรฯชลบุรี ได้จัดประชุม ในหัวข้อ เห็นชอบหรือไม่เห็นชอบในการจัดตั้งพรรคการเมืองของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยมีตัวแทนของอำเภอแต่ละอำเภอเข้าร่วมประชุม โดยมีนายสมชาย กีรติยพงษ์ พันธมิตรฯ อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี เป็นประธาน
ในที่ประชุมตัวแทนแต่ละอำเภอมีการแสดงความเห็นหลากหลาย โดยเฉพาะหากจัดตั้งพรรคการเมือง และการแข่งขันจะเป็นไปในรูปแบบใด เพราะที่ผ่านมาในจังหวัดชลบุรีผู้ที่ได้รับการเลือกตั้งเป็น ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่ ไม่ต้องการพรรคของทักษิณ ชินวัตร ทำให้ ส.ส. ของพรรคประชาธิปัตย์ ได้รับการเลือกตั้งทั้งหมด ซึ่งถือว่าพรรคประชาธิปัตย์ อยู่ในกลุ่มพันธมิตรฯแล้วในขณะนี้
ด้านนายพิสัย ไมยวงษ์ พันธมิตรฯ อำเภอบางละมุง กล่าวว่า หากจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นมา ผลกระทบก็จะเกิดขึ้น เพราะจะเป็นการตัดคะแนนกันเองของพรรคพันธมิตรฯ กับพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนั้นพรรคฝ่ายตรงข้ามก็จะชนะการเลือกตั้งอย่างแน่นอน
นายสมชาย ได้กล่าวชี้แจงว่า การตั้งพรรคการเมือง หากมีการจัดตั้งจริงๆ การส่งตัวส.ส.ลงแข่งขัน จะส่งหรือไม่ส่งก็ขึ้นอยู่กับแกนนำพันธมิตรฯ ส่วนกลาง เพราะหากวิเคราะห์แล้ว ส่ง ส.ส.ลงแข่งขัน และไม่สามารถสู้คู่แข่งได้ แกนนำก็คงจะไม่ส่งลงแข่งขันอย่างแน่นอน
นอกจากนั้น หากลงแข่งขันและไปตัดคะแนนเสียงกับพรรคประชาธิปัตย์ ก็ต้องมีการเจรจาพูดคุยกันว่าใครจะลงสมัคร โดยหากไม่ลงสมัครในเขตนั้น จะให้สนับสนุนในส่วนของปาร์ตี้ลิสต์ ซึ่งเรื่องนี้จะต้องมีการเจรจากันหากมีการจัดตั้งพรรคเกิดขึ้นเป็นรูปธรรม
นายสมชาย กล่าวต่อไปว่า ในความเป็นจริงแล้ว พันธมิตรฯมีนโยบายและแนวทางที่จะให้เป็นการเมืองใหม่ ซึ่งหากไม่มีพรรคการเมืองแล้ว การเมืองใหม่จะเกิดขึ้นได้อย่างไร ดังนั้นการจะเป็นการเมืองใหม่ได้นั้นจะต้องมีพรรคการเมือง เพื่อเข้าไปเปลี่ยนแปลงการเมืองใหม่ให้เกิดเป็นรูปธรรม
หลังจากได้เสนอแนวความคิดต่างๆมากมาย ที่ประชุมยกมือสนับสนุนให้มีการจัดตั้งพรรคการเมือง 100 %
นายสมชาย กล่าวต่อไปว่า หลังจากจังหวัดชลบุรี มีมติให้จัดตั้งพรรคการเมืองแล้ว จังหวัดชลบุรี จะนำมติดังกล่าวเสนอให้แกนนำพันธมิตรฯได้รับทราบต่อไป โดยจะนำเสนอ และพร้อมไปร่วมประชุมใหญ่ในวันที่ 24 พ.ค. ที่กรุงเทพฯ ซึ่งจะมีตัวแทนของแต่ละอำเภอ จำนวน 20 คน ไปร่วมประชุมและเสนอแนะในการประชุมใหญ่ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า นอกจากพันธมิตรฯชลบุรี ที่สนับสนุนการตั้งพรรคการเมืองของพันธมิตรฯแล้ว จากการประชุมร่วมกันของพันธมิตรฯภาคตะวันออก ที่มีพันธมิตรฯระยอง จันทบุรี ตราด ปราจีนบุรี และสระแก้ว ก็มีมติเห็นด้วยในการตั้งพรรคการเมืองพันธมิตรฯ
ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ในการประชุมพันธมิตรฯภาคตะวันออก วานนี้(14 พ.ค.) ที่มีพันธมิตรฯชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ปราจีนบุรี และสระแก้ว ที่ประชุมก็มีมติ สนับสนุนการตั้งพรรคการเมืองพันธมิตรฯ