นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวถึง การลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าที่เขตเลือกตั้งที่ 3 จ. สกลนคร เมื่อวันที่ 13-14 มิ.ย. ที่ผ่านมาว่า ขณะนี้ได้รับรายงานว่า มีผู้มาลงคะแนนล่วงหน้าจำนวน 21,060 คน คิดเป็น 7% ของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง และมากกว่าการเลือกตั้งล่วงหน้าครั้งที่ผ่านมา ที่มีผู้ใช้สิทธิเพียง 3,000 คน ชี้ให้เห็นว่าการเลือกตั้งคราวนี้ การแข่งขันเข้มข้น โดยกำลังให้ กต.จว. .สกลนคร ทำการตรวจสอบ อย่างไรก็ตามขณะนี้มีเรื่องร้องเรียนจำนวน3 เรื่อง มีทั้งเรื่องเจ้าหน้าที่วางตัวไม่เป็นกลางและการซื้อเสียง
เมื่อถามว่าจะมีการตรวจสอบเรื่องผู้มาลงคะแนนล่วงหน้าที่มีเป็นจำนวนมากหรือไม่ นายประพันธ์กล่าวว่า เรื่องนี้อยู่ที่กกต. เขต แต่เท่าที่ทราบ ผู้ที่จะมาใช้สิทธิต้องรายงานตัวกับเจ้าหน้าที่ และแจ้งเหตุผล และต้องได้อนุญาตเป็นรายบุคคล โดยที่ผู้มีสิทธิจะต้องไม่ได้ถือใบเซ็นมาก่อนอย่างแน่นอน และเมื่อมีผู้มาใช้สิทธิมากและต้องตรวจสอบทำให้คิวค่อนข้างยาว จึงมีการใช้สิทธิหลัง 17.00 น. กฎหมายระบุว่า หากมาถึงสถานที่ลงคะแนนก่อนหมดเวลา ก็สามารถใช้สิทธิจนเสร็จสิ้นได้ แม้จะเลยเวลาแล้วก็ตาม ทั้งนี้หากผู้ที่มาใช้สิทธิแจงเหตุผลเท็จก็ต้องรับผิดชอบตามกฎหมาย
"ขณะนี้เจ้าหน้าที่เองก็กดดัน แม้แต่ตำรวจที่ปกติเราจะฝากหีบบัตรเลือกตั้งไว้ที่ห้องขังของสถานีตำรวจ แต่ครั้งนี้ทางตำรวจกลับปฏิเสธไม่รับฝาก เขาก็กลัวกันหมด โดย ตำรวจได้นำรถขังผู้ต้องหามาให้ และจอดไว้ข้างโรงพัก โดยให้มีกรรมการ และผู้แทนของพรรคการเมืองมาเฝ้า นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่บางส่วนขอลาออกซึ่งก็ต้องเห็นใจ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าในวันเลือกตั้ง คิดว่าคงไม่มีปัญหากรรมการประจำหน่วย ที่ไม่มาปฏิบัติหน้าที่เพราะส่วนใหญ่จะเป็นข้าราชการ แต่ก็ไม่ประมาทโดยได้เตรียมกรรมการประจำหน่วยสำรองเอาไว้แล้ว”
ส่วนที่พรรคเพื่อไทยร้องว่า มีการขนคนมาลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า นายประพันธ์ กล่าวว่า หากมีอะไร ก็ขอให้แจ้งกับ กต.จว. เพื่อจะได้สอบตามระเบียบ เพราะการพูดเฉยๆ ไม่ถือเป็นสำนวนสอบสวน และการจัดการเลือกตั้งล่วงหน้า ก็เป็นไปเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้มีสิทธิ ไม่ได้จัดเพื่อเหตุอื่น อีกทั้งการเลือกตั้งล่วงหน้านั้นแม้แต่ในสหรัฐอเมริกา ก็มี
เมื่อถามถึงการลงพื้นที่ช่วยลูกพรรคหาเสียงของ นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่ระบุว่า ไม่สนใจกกต. นายประพันธ์ กล่าวว่าหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรคมีสิทธิที่จะช่วยลูกพรรคหาเสียง เพราะกฎหมายไม่ได้ห้ามไว้ แต่อย่าใช้ตำแหน่งหน้าที่เพื่อเป็นคุณเป็นโทษ และใครที่บอกว่า กกต.ไม่สนใจ ก็ไม่จริง เพราะกกต. สนใจมาตลอดแม้แต่การเลือกตั้งวันที่ 23 ธ.ค. 50 ก็ได้บอกแล้วว่ายาแรง แต่ก็ไม่มีใครฟังจึงถูกยุบไป3 พรรค
นายประพันธ์กล่าวถึงกรณีพรรคเพื่อไทย เสนอให้องค์กรระหว่างประเทศ เข้ามาสังเกตการณ์การเลือกตั้งว่า ไม่ขัดข้องหากใครจะเข้ามาสังเกตการณ์ เพื่อให้การเลือกตั้งเกิดความสุจริต การสังเกตการณ์ใครก็สามารถทำได้ แต่จะเข้าไปในหน่วยหรือเข้าไปเป็นกรรมการประจำหน่วยไม่ได้ และที่ทางพรรคเพื่อไทยเรียกร้องให้ กกต. ทั้ง 5 คนลงพื้นที่ จ.สกลนครนั้น คงทำไม่ได้ เพราะหากต้องลงพื้นที่ทุกคนทุกครั้งที่มีการเลือกตั้งก็ไม่ต้องทำอะไรกันพอดี
ด้านนายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และโฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการเลือกตั้งซ่อมที่ จ.สกลนคร ที่มีการตั้งข้อสังเกตตัวเลขการเลือกตั้งล่วงหน้าว่า ตนคิดว่าเป็นปกติ เนื่องจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวนกว่า 2 แสนคน เนื่องจากผู้สมัครทั้ง 2 พรรค ได้รณรงค์หาเสียงอย่างเอาจริงเอาจัง อีกทั้งเป็นเรื่องที่ประชาชนตื่นตัว จึงไปใช้สิทธิล่วงหน้า ตนพยายามดูถึงความผิดปกติ ซึ่งอาจจะมีการทำผิดกฎหมาย เช่น มีการขนคนไปเลือกตั้งหรือไม่ ตนยืนยันได้ว่า เท่าที่เห็นเป็นไปตามธรรมชาติ อย่าลืมว่าผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า เป็นผู้ที่มีสิทธิเลือกตั้งในเขตอยู่แล้ว การที่ใช้สิทธิก่อนเพราะกกต.เปิดทางให้ ย่อมทำได้ ถือว่าไม่ได้ผิดปกติเกินสมควร
เมื่อถามว่ามีการตั้งข้อสังเกตถึงจำนวนตัวเลข หมู่บ้านเลขที่ คี่ กับคู่ ติดใจอะไรหรือไม่ นายศุภชัย กล่าวว่า ไม่มี เพราะมีการสอบสวน เจ้าหน้าที่ กกต. อยู่เต็มไปหมด ฉะนั้นถ้ามีอะไรที่ผิดกฎหมายเลือกตั้งกกต.จะทราบ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ตรวจสอบได้อยู่แล้ว ถือเป็นเรื่องปกติเพราะแข่งขันกัน 2 พรรค
เมื่อถามว่า มีการเปิดให้ใช้สิทธิเกินเวลาด้วย นายศุภชัย กล่าวว่า ไม่ใช่เป็นเรื่องการใช้สิทธิเกินเวลา ซึ่งผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งไปถึงคูหาเลือกตั้งแล้ว แตเจ้าหน้าที่กกต. ไม่สามารถดำเนินการให้ใช้สิทธิได้ตามเวลากำหนด จึงแสดงตนขอใช้สิทธิ และกกต. ก็ต้องดำเนินการให้ผู้ที่ไปถึงเวลาใช้สิทธิกันทุกคน เพื่อให้ผู้ใช้สิทธิได้ใช้สิทธิไม่ได้เป็นการทำอะไรผิดกฎหมาย
เมื่อถามว่า ข้อกล่าวหาว่า กระทรวงมหาดไทย มีการใช้อำนาจโดยมิชอบ นายศุภชัย กล่าวว่า เรื่องแบบนี้ สมัยรัฐบาล พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ก็มี พรรคประชาธิปัตย์ ก็กล่าวหา เป็นการกล่าวหากันโดยปกติว่า เป็นการใช้อำนาจรัฐ ยืนยันว่า นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย กำชับ ในส่วนของพรรคภูมิใจไทย ก็กำชับอย่างเอาจริงเอาจังว่า อย่าทำอะไรที่เป็นการทำผิดกฎหมาย เมื่อได้กำชับอย่างนั้นแล้ว รมต.ทุกท่าน และรมต.ที่ลงไปช่วยหาเสียงก็ระมัดระวัง เรื่องนี้พูดจาซักซ้อมทำความเข้าใจกันอยู่แล้ว วันนี้ กกต.อยู่ในพื้นที่อย่าเผลอไผลไปทำอะไรที่ผิดกฎหมาย ยืนยันได้ว่าการใช้อำนาจรัฐอย่างที่กล่าวหาไม่ได้มีอยู่ เป็นเรื่องปกติการกล่าวหาของพรรคเพื่อไทย
เมื่อถามว่า เท่าที่มองเห็นว่า ฝ่ายตรงข้ามมีอะไรที่ผิดกฎหมายบ้างหรือไม่ นายศุภชัย กล่าวว่า มีอยู่มากมาย ซึ่งตนได้เตือนแล้วว่า การที่กล่าวหาฝ่ายตรงข้ามระวังจะโดนร้อง ขณะนี้ตนรวบรวมเรื่องการกระทำผิดกฎหมายอยู่ 3 เรื่อง ภายใน1-2 วัน ซึ่งนายพิทักษ์ จันทศรี ผู้สมัครรับเลือกตั้ง หมายเลข 1 ของพรรคภูมิใจไทย จะร้องเรียน
นอกจากนี้ยังรวบรวมพฤติกรรมหลายส่วนของพรรคเพื่อไทย ที่ทำให้ประชาชนสำคัญผิดอยู่ว่า พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย จากการกล่าวของ ร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง หรือแม้แต่การโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ การโทรศัพท์ไปหากำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เพื่อขอให้ช่วยสนับสนุนการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ ให้กับผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย รวมถึงการนำภาพ พ.ต.ท. ทักษิณ ไปแจกจ่ายประชาชน เป็นความพยายามทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีความเกี่ยวข้อง จนถึงขั้นบางคนเชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และจัดสินใจว่าจะเลือกพรรคเพื่อไทย เพราะพ.ต.ท. ทักษิณ เป็นหัวหน้าพรรค
เมื่อถามว่า กลัวหรือไม่ว่าการที่ นาย เนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย อยู่ในพื้นที่ จะถูกมองว่าเป็นการกำหนดนโยบายพรรค นายศุภชัย กล่าวว่า คงไม่ใช่ การกำหนดนโยบายเป็นนโยบายของพรรค นายเนวิน ไปสัมมนา เป็นเรื่องคนละส่วนของการเลือกตั้งซ่อม เพราะห่างกับเขตเลือกตั้งที่ 3 ตั้ง 70- 80 กิโลเมตร ไม่เกี่ยว วันนี้นายเนวิน ระวังตัว ไม่ทำอะไรที่มองว่าเป็นการผิดกฎหมายอยู่แล้ว สิ่งที่พรรคภูมิใจไทย ได้จากนาย เนวิน คือ คำปรึกษาหารือ ถ้าเราอยากจะปรึกษา
เมื่อถามว่าจะมีการตรวจสอบเรื่องผู้มาลงคะแนนล่วงหน้าที่มีเป็นจำนวนมากหรือไม่ นายประพันธ์กล่าวว่า เรื่องนี้อยู่ที่กกต. เขต แต่เท่าที่ทราบ ผู้ที่จะมาใช้สิทธิต้องรายงานตัวกับเจ้าหน้าที่ และแจ้งเหตุผล และต้องได้อนุญาตเป็นรายบุคคล โดยที่ผู้มีสิทธิจะต้องไม่ได้ถือใบเซ็นมาก่อนอย่างแน่นอน และเมื่อมีผู้มาใช้สิทธิมากและต้องตรวจสอบทำให้คิวค่อนข้างยาว จึงมีการใช้สิทธิหลัง 17.00 น. กฎหมายระบุว่า หากมาถึงสถานที่ลงคะแนนก่อนหมดเวลา ก็สามารถใช้สิทธิจนเสร็จสิ้นได้ แม้จะเลยเวลาแล้วก็ตาม ทั้งนี้หากผู้ที่มาใช้สิทธิแจงเหตุผลเท็จก็ต้องรับผิดชอบตามกฎหมาย
"ขณะนี้เจ้าหน้าที่เองก็กดดัน แม้แต่ตำรวจที่ปกติเราจะฝากหีบบัตรเลือกตั้งไว้ที่ห้องขังของสถานีตำรวจ แต่ครั้งนี้ทางตำรวจกลับปฏิเสธไม่รับฝาก เขาก็กลัวกันหมด โดย ตำรวจได้นำรถขังผู้ต้องหามาให้ และจอดไว้ข้างโรงพัก โดยให้มีกรรมการ และผู้แทนของพรรคการเมืองมาเฝ้า นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่บางส่วนขอลาออกซึ่งก็ต้องเห็นใจ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าในวันเลือกตั้ง คิดว่าคงไม่มีปัญหากรรมการประจำหน่วย ที่ไม่มาปฏิบัติหน้าที่เพราะส่วนใหญ่จะเป็นข้าราชการ แต่ก็ไม่ประมาทโดยได้เตรียมกรรมการประจำหน่วยสำรองเอาไว้แล้ว”
ส่วนที่พรรคเพื่อไทยร้องว่า มีการขนคนมาลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า นายประพันธ์ กล่าวว่า หากมีอะไร ก็ขอให้แจ้งกับ กต.จว. เพื่อจะได้สอบตามระเบียบ เพราะการพูดเฉยๆ ไม่ถือเป็นสำนวนสอบสวน และการจัดการเลือกตั้งล่วงหน้า ก็เป็นไปเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้มีสิทธิ ไม่ได้จัดเพื่อเหตุอื่น อีกทั้งการเลือกตั้งล่วงหน้านั้นแม้แต่ในสหรัฐอเมริกา ก็มี
เมื่อถามถึงการลงพื้นที่ช่วยลูกพรรคหาเสียงของ นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่ระบุว่า ไม่สนใจกกต. นายประพันธ์ กล่าวว่าหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรคมีสิทธิที่จะช่วยลูกพรรคหาเสียง เพราะกฎหมายไม่ได้ห้ามไว้ แต่อย่าใช้ตำแหน่งหน้าที่เพื่อเป็นคุณเป็นโทษ และใครที่บอกว่า กกต.ไม่สนใจ ก็ไม่จริง เพราะกกต. สนใจมาตลอดแม้แต่การเลือกตั้งวันที่ 23 ธ.ค. 50 ก็ได้บอกแล้วว่ายาแรง แต่ก็ไม่มีใครฟังจึงถูกยุบไป3 พรรค
นายประพันธ์กล่าวถึงกรณีพรรคเพื่อไทย เสนอให้องค์กรระหว่างประเทศ เข้ามาสังเกตการณ์การเลือกตั้งว่า ไม่ขัดข้องหากใครจะเข้ามาสังเกตการณ์ เพื่อให้การเลือกตั้งเกิดความสุจริต การสังเกตการณ์ใครก็สามารถทำได้ แต่จะเข้าไปในหน่วยหรือเข้าไปเป็นกรรมการประจำหน่วยไม่ได้ และที่ทางพรรคเพื่อไทยเรียกร้องให้ กกต. ทั้ง 5 คนลงพื้นที่ จ.สกลนครนั้น คงทำไม่ได้ เพราะหากต้องลงพื้นที่ทุกคนทุกครั้งที่มีการเลือกตั้งก็ไม่ต้องทำอะไรกันพอดี
ด้านนายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และโฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการเลือกตั้งซ่อมที่ จ.สกลนคร ที่มีการตั้งข้อสังเกตตัวเลขการเลือกตั้งล่วงหน้าว่า ตนคิดว่าเป็นปกติ เนื่องจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวนกว่า 2 แสนคน เนื่องจากผู้สมัครทั้ง 2 พรรค ได้รณรงค์หาเสียงอย่างเอาจริงเอาจัง อีกทั้งเป็นเรื่องที่ประชาชนตื่นตัว จึงไปใช้สิทธิล่วงหน้า ตนพยายามดูถึงความผิดปกติ ซึ่งอาจจะมีการทำผิดกฎหมาย เช่น มีการขนคนไปเลือกตั้งหรือไม่ ตนยืนยันได้ว่า เท่าที่เห็นเป็นไปตามธรรมชาติ อย่าลืมว่าผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า เป็นผู้ที่มีสิทธิเลือกตั้งในเขตอยู่แล้ว การที่ใช้สิทธิก่อนเพราะกกต.เปิดทางให้ ย่อมทำได้ ถือว่าไม่ได้ผิดปกติเกินสมควร
เมื่อถามว่ามีการตั้งข้อสังเกตถึงจำนวนตัวเลข หมู่บ้านเลขที่ คี่ กับคู่ ติดใจอะไรหรือไม่ นายศุภชัย กล่าวว่า ไม่มี เพราะมีการสอบสวน เจ้าหน้าที่ กกต. อยู่เต็มไปหมด ฉะนั้นถ้ามีอะไรที่ผิดกฎหมายเลือกตั้งกกต.จะทราบ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ตรวจสอบได้อยู่แล้ว ถือเป็นเรื่องปกติเพราะแข่งขันกัน 2 พรรค
เมื่อถามว่า มีการเปิดให้ใช้สิทธิเกินเวลาด้วย นายศุภชัย กล่าวว่า ไม่ใช่เป็นเรื่องการใช้สิทธิเกินเวลา ซึ่งผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งไปถึงคูหาเลือกตั้งแล้ว แตเจ้าหน้าที่กกต. ไม่สามารถดำเนินการให้ใช้สิทธิได้ตามเวลากำหนด จึงแสดงตนขอใช้สิทธิ และกกต. ก็ต้องดำเนินการให้ผู้ที่ไปถึงเวลาใช้สิทธิกันทุกคน เพื่อให้ผู้ใช้สิทธิได้ใช้สิทธิไม่ได้เป็นการทำอะไรผิดกฎหมาย
เมื่อถามว่า ข้อกล่าวหาว่า กระทรวงมหาดไทย มีการใช้อำนาจโดยมิชอบ นายศุภชัย กล่าวว่า เรื่องแบบนี้ สมัยรัฐบาล พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ก็มี พรรคประชาธิปัตย์ ก็กล่าวหา เป็นการกล่าวหากันโดยปกติว่า เป็นการใช้อำนาจรัฐ ยืนยันว่า นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย กำชับ ในส่วนของพรรคภูมิใจไทย ก็กำชับอย่างเอาจริงเอาจังว่า อย่าทำอะไรที่เป็นการทำผิดกฎหมาย เมื่อได้กำชับอย่างนั้นแล้ว รมต.ทุกท่าน และรมต.ที่ลงไปช่วยหาเสียงก็ระมัดระวัง เรื่องนี้พูดจาซักซ้อมทำความเข้าใจกันอยู่แล้ว วันนี้ กกต.อยู่ในพื้นที่อย่าเผลอไผลไปทำอะไรที่ผิดกฎหมาย ยืนยันได้ว่าการใช้อำนาจรัฐอย่างที่กล่าวหาไม่ได้มีอยู่ เป็นเรื่องปกติการกล่าวหาของพรรคเพื่อไทย
เมื่อถามว่า เท่าที่มองเห็นว่า ฝ่ายตรงข้ามมีอะไรที่ผิดกฎหมายบ้างหรือไม่ นายศุภชัย กล่าวว่า มีอยู่มากมาย ซึ่งตนได้เตือนแล้วว่า การที่กล่าวหาฝ่ายตรงข้ามระวังจะโดนร้อง ขณะนี้ตนรวบรวมเรื่องการกระทำผิดกฎหมายอยู่ 3 เรื่อง ภายใน1-2 วัน ซึ่งนายพิทักษ์ จันทศรี ผู้สมัครรับเลือกตั้ง หมายเลข 1 ของพรรคภูมิใจไทย จะร้องเรียน
นอกจากนี้ยังรวบรวมพฤติกรรมหลายส่วนของพรรคเพื่อไทย ที่ทำให้ประชาชนสำคัญผิดอยู่ว่า พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย จากการกล่าวของ ร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง หรือแม้แต่การโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ การโทรศัพท์ไปหากำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เพื่อขอให้ช่วยสนับสนุนการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ ให้กับผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย รวมถึงการนำภาพ พ.ต.ท. ทักษิณ ไปแจกจ่ายประชาชน เป็นความพยายามทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีความเกี่ยวข้อง จนถึงขั้นบางคนเชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และจัดสินใจว่าจะเลือกพรรคเพื่อไทย เพราะพ.ต.ท. ทักษิณ เป็นหัวหน้าพรรค
เมื่อถามว่า กลัวหรือไม่ว่าการที่ นาย เนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย อยู่ในพื้นที่ จะถูกมองว่าเป็นการกำหนดนโยบายพรรค นายศุภชัย กล่าวว่า คงไม่ใช่ การกำหนดนโยบายเป็นนโยบายของพรรค นายเนวิน ไปสัมมนา เป็นเรื่องคนละส่วนของการเลือกตั้งซ่อม เพราะห่างกับเขตเลือกตั้งที่ 3 ตั้ง 70- 80 กิโลเมตร ไม่เกี่ยว วันนี้นายเนวิน ระวังตัว ไม่ทำอะไรที่มองว่าเป็นการผิดกฎหมายอยู่แล้ว สิ่งที่พรรคภูมิใจไทย ได้จากนาย เนวิน คือ คำปรึกษาหารือ ถ้าเราอยากจะปรึกษา