ASTVผู้จัดการรายวัน–สธ.เผยหวัดใหญ่2009 ป่วยเพิ่ม109 ราย รวมยอดสะสม 310 ราย ยันไม่ปิดข้อมูล “วิทยา” ระดมทีมออกทีวีทำความเข้าใจประชาชนอาทิตย์นี้ พร้อมประสาน รพ.รัฐ-เอกชน เปิดช่องพิเศษรับผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ฯอายุต่ำกว่า 5 ขวบซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงสุด แพทย์ยอมรับอนาคตอาจมีผู้เสียชีวิต ด้านกรมควบคุมโรคโอดเงินตรวจหาเชื้อเกลี้ยง เหตุยอดส่งตรวจพุ่งกว่า 200-300 ตัวอย่างต่อวัน เตรียมหารือของบกลางแก้ปัญหา ขณะที่มีโรงเรียนประกาศปิดเพิ่มอีก 9 แห่ง อย. หวั่นคนแห่ซื้อหน้ากากอนามัยป้องกัน ออกหนังสือห้ามขึ้นราคา กักตุนสินค้า พร้อมเฝ้าระวังคุณภาพและความปลอดภัยเจลล้างมือ
วานนี้(16 มิ.ย.) นายวิทยาแก้ว ภราดัย รมว.สาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า สธ.ได้ประกาศขึ้นทะเบียนผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อไข้หวัดใหญ่พันธุ์ใหม่ ชนิด เอ เอช1 เอ็น1 เพิ่มอีก109 ราย ในจำนวนนี้เป็นกลุ่มนักเรียน 84 ราย เป็นผู้ป่วยเดินทางมาจากต่างประเทศ 7 ราย ผู้ป่วยในประเทศ 6 ราย กำลังสอบสวน 7 ราย เป็นผู้ป่วยยืนยันเพิ่มจากชลบุรี 5 ราย รวมมียอดผู้ป่วยสะสมทั้งหมด 310 ราย ส่วนใหญ่ได้รับการรักษาจนหายดีแล้ว ไม่มีรายใดเสียชีวิต เมื่อเปรียบเทียบกับไข้หวัดใหญ่ที่เกิดขึ้นตามฤดูกาล ตั้งแต่ต้นปีพบผู้ป่วย 5,607 ราย ไม่มีเสียชีวิต และในระยะ 4-5 เดือน ต่อไปนี้ จะเป็นฤดูการระบาดของไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ทำให้ผู้ป่วยเพิ่มร้อยละ 20-30
นอกจากนี้ จะประสานไปยังโรงพยาบาลรัฐและโรงพยาบาลเอกชน ให้เปิดช่องทางพิเศษรักษาผู้ป่วยที่ถือว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงสุดของไข้หวัดใหญ่ นั่นก็คือ เด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบด้วย
นายวิทยา กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีความห่วงใยและนายกรัฐมนตรีกำชับให้ทำความเข้าใจกับประชาชน ดังนั้น ในวันอาทิตย์ที่ 21 มิ.ย.นี้ ตนจะระดมทีมนักระบาดวิทยา ออกรายการทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที เวลา 20.30-22.00 น. โดยจะเปิดให้ประชาชนโทรเข้ามาสอบถามข้อกังวลได้จากแพทย์ระบาดวิทยา ที่มารับสายตอบปัญหาและให้ความรู้เกี่ยวกับโรคนี้
ด้านนายมานิต นพอมรบดี รมช.สธ. เปิดเผยว่า สธ.ได้จัดทำสมุดปกเขียว 1 ล้านเล่ม แจกประชาชน สถานศึกษา และชุมชนทั่วประเทศ แนะนำวิธีปฏิบัติตนในการรักษาสุขภาพ และป้องกันการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ โดยคาดว่า เริ่มแจกได้ภายใน1–2วันนี้
**ปลัดสธ.ยันไม่ปิดข้อมูล
นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดสธ.กล่าวยืนยันว่า สธ.ไม่ได้ปิดบังข้อมูลหรือยุติการแถลงข่าวสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่พันธุ์ใหม่ แต่เพื่อป้องกันการตื่นตระหนกและให้ข้อมูลตัวเลขของสื่อมวลชนไม่ให้เกิดความสับสน สธ.จะให้ข้อมูลเผยแพร่ประชาสัมพันธ์วันละ1ครั้ง โดยทุกจังหวัดหากพบผู้ป่วยให้รายงานสำนักระบาดวิทยาก่อนทุกวันเพื่อให้ข้อมูลไปในทิศทางเดียวกัน หลังจากนั้นจังหวัดจึงสามารถให้รายละเอียดกับสื่อมวลชนได้ พร้อมให้แต่ละจังหวัดเฝ้าระวังผู้ป่วยในพื้นที่อย่างใกล้ชิด เน้นการประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจ การป้องกันตัวเองเพื่อไม่ให้ติดเชื้อ และปฏิบัติตัวหลังติดเชื้อ
ทั้งนี้ แม้โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่จะแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว แต่จากการศึกษาที่ผ่านมาพบว่าโรคนี้ความรุนแรงไม่มาก อัตราตายต่ำ ดังนั้นคณะทำงานด้านการรักษาพยาบาลของสธ. จึงได้ร่วมกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล รามาธิบดี และรพ.จุฬาลงกรณ์ ปรับแนวทางการวินิจฉัยและดูแลรักษาผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ ให้เหมาะสม และใช้เป็นแนวทางเดียวกันทั่วประเทศ กล่าวคือในประเด็นของการให้ยาต้านไวรัสโอเชลทามีเวียร์จะให้ เฉพาะในกลุ่มที่เป็นกลุ่มเสี่ยงเท่านั้น ได้แก่ ผู้ป่วยเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ผู้ใหญ่อายุมากกว่า 65 ปี หญิงตั้งครรภ์ ผู้ที่มีภูมิต้านทานต่ำ หรือมีโรคประจำตัวเรื้อรัง เช่นโรคปอด โรคหัวใจ โรคไต เบาหวาน เป็นต้น เพื่อป้องกันปัญหาเชื้อดื้อยา
**คนแห่ขอตรวจหาเชื้อเพียบ
รศ.(พิเศษ) นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ผู้ทรงคุณวุฒระดับ 11 กรมการแพทย์ สธ. กล่าวว่า ขณะนี้ประชาชนตื่นตระหนกต่อการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 จนแห่ไปขอตรวจหาเชื้อไข้หวัดใหญ่ชนิดนี้ที่โรงพยาบาลต่างๆเป็นจำนวนมาก ซึ่งสธ.มีนโยบายและแนวทางปฏิบัติให้กับแพทย์และพยาบาลในการตรวจหาเชื้อ โดยแบ่งพื้นที่ประเทศไทยเป็น 2 ส่วนตามการระบาดของโรค คือ 1.จังหวัดที่มีการระบาดของโรคแล้ว ขณะนี้มีเพียง3 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ จ.ชลบุรี และจ.ปทุมธานี ซึ่งหากประชาชนในพื้นที่เหล่านี้ที่ไม่ได้มีอาการป่วยหรือมีอาการป่วยเพียงเล็กน้อย เดินทางมาขอรับการตรวจเชื้อเพื่อหาสายพันธุ์ โรงพยาบาลจะไม่ดำเนินการตรวจสอบสายพันธุ์เชื้อ จะตรวจสอบเชื้อเฉพาะผู้ป่วยที่มีอาการหนักรุนแรงหรือกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง และเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีเท่านั้น และจะตรวจสอบเพียงว่ามีการป่วยเป็นกลุ่มๆหรือไม่
2.จังหวัดที่ยังไม่มีการแพร่ระบาดของโรค ซึ่งหมายถึงจังหวัดที่ยังไม่พบรายงานผู้ป่วย หรือพบผู้ป่วยจำนวนน้อย ไม่มีการแพร่ระบาดเป็นวงกว้าง เช่น จ.ภูเก็ต สงขลา ตรัง และเชียงใหม่ หากมีผู้ป่วยเข้ามารับการรักษาที่โรงพยาบาล แพทย์และพยาบาลจะต้องดำเนินการซักประวัติผู้ป่วยว่าเดินทางมาจากจังหวัดที่มีการระบาดของโรคหรือไม่ ภายในครอบครัวเดียวกันมีคนป่วยมากกว่า 3 คนหรือไม่ ในรอบ1 สัปดาห์มีการสัมผัสใกล้ชิดผู้ที่เดินทางมาจากประเทศหรือไม่ ซึ่งถ้าผู้ป่วยมีประวัติดังกล่าวให้แพทย์เก็บสารคัดหลั่งส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการหาสายพันธุ์เชื้อ จะได้ควบคุมไม่ให้เกิดผู้ป่วยพร้อมกันเป็นกลุ่มจำนวนมาก แต่ให้เกิดผู้ป่วยในอัตราน้อยที่สุด
**เชื่ออนาคตพบผู้เสียชีวิตแน่
รศ.(พิเศษ)นพ.ทวี กล่าวด้วยว่า ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ประจำปี มีผู้ป่วยทั่วโลกประมาณ 500- 1,000 ล้านรายต่อปี โดยในจำนวนผู้ป่วย 1 พันคนจะมี 10 คนที่มีอาการรุนแรงจนต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล และในจำนวน 10 คนจะมี 1 คน ที่ร่างกายอ่อนแอจนมีอาการรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต ส่วนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ในอนาคตจะต้องมีผู้เสียชีวิตเกิดขึ้นอย่างแน่นอน แต่สิ่งที่สธ.กำลังดำเนินการคือ ทำให้มีอัตราผู้เสียชีวิตน้อยที่สุด
“เมื่อเกิดการแพร่ระบาดของโรคทั่วโลก เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีใครเจ็บตัวหรือเสียชีวิต แต่จะต้องทำให้เจ็บตัวน้อยที่สุด นี่คือสิ่งที่ สธ.กำลังพยายามดำเนินการ ซึ่งการแพร่ระบาดของไวรัสชนิดนี้ในพื้นที่พัทยา จ.ชลบุรี เป็นตัวอย่างที่ดีที่บ่งบอกว่าเชื้อไวรัสนี้มีความรุนแรงต่ำ เพราะผู้ป่วยมีอาการเหมือนการเป็นไข้หวัดใหญ่ทั่วไป จนไม่มีการผิดสังเกต กระทั่งเริ่มมีจำนวนผู้ป่วยมากขึ้นจึงมีการสงสัย เพราะหากเชื้อชนิดนี้มีความรุนแรงจนผู้ป่วยในพื้นที่นี้เสียชีวิต กระทรวงฯคงอยู่ไม่ได้แล้ว” รศ.(พิเศษ)นพ. ทวีกล่าว
** โอดเงินหมด ติดหนี้ค่าตรวจแล็บ
นพ.มล.สมชาย จักรพันธุ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่าได้รับรายงานจากสำนักระบาดวิทยาว่า ขณะนี้งบประมาณในการตรวจเชื้อทางห้องปฏิบัติการที่ตั้งไว้ 2 ล้านบาทต่อปีหมดแล้ว เนื่องจากต้องใช้ในการส่งตรวจเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ในห้องปฏิบัติการของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ซึ่งมีประชาชนขอให้มีการตรวจหาเชื้อเป็นจำนวนมาก ซึ่งค่าใช้จ่ายในการตรวจเชื้ออยู่ที่ประมาณ 4,000 บาทต่อราย โดยเร็วๆนี้จะหารือกับนายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุข ในการของบกลางเพิ่มเติม
“กรมควบคุมโรคไม่มีเงินในการจ่ายค่าตรวจเชื้อในห้องปฏิบัติการแล้ว ทำให้ต้องค้างจ่ายเงินในการตรวจเชื้อทางห้องปฏิบัติการที่ได้ส่งตรวจที่กรมวิทย์ฯ ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลตัวเลขค่าใช้จ่ายทั้งหมด”นพ.มล.สมชายกล่าว
แหล่งข่าวจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า ในช่วงนี้ประชาชนเกิดความตื่นตระหนกการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่พันธุ์ใหม่เป็นอย่างมาก ทำให้ยอดการส่งเชื้อตรวจที่ห้องปฏิบัติการสูงขึ้นประมาณ 200-300 รายต่อวัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรายที่ส่งต่อมากจากโรงพยาบาลเอกชน จนถึงปัจจุบันคาดว่า ทำการตรวจเชื้อไข้หวัดใหญ่แล้วกว่า1,000 ราย ขณะที่ค่าตรวจเชื้อในห้องปฏิบัติการหากเป็นการตรวจผลเบื้องต้นค่าใช้จ่ายประมาณ 2,000 บาทต่อราย แต่หากตรวจอย่างละเอียด ซึ่งมีค่าใช้จ่าย ทั้งค่าบุคลากร ค่าน้ำยาประมาณ 4,000 บาทต่อราย เท่ากับขณะนี้เสียค่าใช้จ่ายสูงถึง 4 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่ผลการตรวจเป็นไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล
** ร.ร.หยุดเพิ่มอีก9แห่ง
วานนี้ (16 มิ.ย.) มีโรงเรียนที่ประกาศหยุดเพิ่มเติมอีก 9 แห่ง ได้แก่ 1.ร.ร.สตรีวิทยา 2 เขตลาดพร้าว เปิดเรียนวันที่ 22 มิ.ย. 2.ร.ร.มัธยมวัดมกุฏกษัตริย์ เขตพระนคร เปิดเรียนวันที่ 22 มิ.ย. 3.ร.ร.จันทร์หุ่นบำเพ็ญ เขตห้วยขวาง เปิดเรียนวันที่ 22 มิ.ย. 4.ร.ร. ภปร.ราชวิทยาลัย จังหวัดนครปฐม ปิดเรียนตั้งแต่วันที่ 17-21 มิ.ย. 5.ร.ร.อนุราชประสิทธิ์ จ.นนทบุรี 6.ร.ร.สาธิต มศว.ปทุมวัน ประกาศปิดตั้งแต่วันที่ 17 -22 มิ.ย. 7.ร.ร.ธัญวิทยาตงมิ้น ประกาศปิดตั้งแต่วันที่ 17 -22 มิ.ย. 8.ร.ร.ธัญญรัตน์ ประกาศปิดตั้งแต่วันที่ 17 -21 มิ.ย. และ 9.ร.ร.สาธิตราชภัฎสวนสุนนันทา
ส่วนที่ ร.ร.อนุบาลปทุมธานี ทางผู้บริหารโรงเรียนได้ปิดประกาศให้ผู้ปกครองเด็กได้ทราบว่าทางโรงเรียนได้ปิดโรงเรียนต่อไปอีก1 อาทิตย์ โดยให้ไปเปิดในวันที่ 22 มิ.ย. และสั่งห้ามไม่ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าไปในโรงเรียนอย่างเด็ดขาด สำหรับ ร.ร.วัดฉาง ต.บางปรอก อ.เมือง จ.ปทุมธานี ทางผู้บริหารโรงเรียนสั่งปิดเรียน 3 วัน ไปเปิดเรียนวันที่ 18 มิ.ย.นี้
**คุณหญิงกษมากลุ้ม ร.ร.แห่ปิดเพียบ
คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กล่าวว่า ขณะนี้มีโรงเรียนในกรุงเทพมหานคร โรงเรียนรอบนอก ประกาศหยุดเรียนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆโรงเรียนบางแห่งยังไม่พบว่ามีเด็กติดเชื้อก็สั่งปิด ทำให้เสียเวลาเรียน ต้องมาสอนเสริมหลังเลิกเรียน หรือวันหยุดเสาร์อาทิตย์ ดังนั้น ก่อนที่โรงเรียนจะประกาศปิดสถานศึกษาอยากให้ปรึกษากับสาธารณสุขในพื้นที่เสียก่อน เพราะยิ่งประกาศปิดยิ่งทำให้ประชาชน ผู้ปกครองตื่นตระหนกกันมากขึ้น รวมทั้งการหยุดเรียนจะมีผลกระทบต่อการเรียนการสอน ซึ่งตนจะประสานเรื่องนี้กับผู้อำนวยการเขตพื้นที่ กรณีสั่งปิดสถานศึกษา
**กทม.จ้องจับเด็ก คนแก่ฉีดวัคซีน
รายงานข่าวจากสำนักอนามัยแจ้งด้วยว่าขณะนี้ทางสำนักอนามัย ร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กทม. ทำงานประสานไปยังบุคคลที่อยู่ในข่ายที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ เช่น ผู้สูงอายุ ที่อายุมากกว่า65ปีขึ้นไป เด็กที่อายุต่ำกว่า 5 ขวบหรือผู้ที่มีโรคประจำตัวที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจ เช่น โรคหัวใจ โรคปอด โรคหอบหืด ให้เข้ามาฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงขึ้น
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม.งกล่าวว่า วานนี้ (16 มิ.ย.) ตนได้ทำหนังสือไปยังเจ้าของตลาดนัดในพื้นที่กทม.ที่มีกว่า400 แห่ง เพื่อขอความร่วมมือในการทำความสะอาดสถานที่เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่2009
**อย.ห้ามขึ้นราคาหน้ากากอนามัย
นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) กล่าวว่า จากสถานการณ์การระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ อาจทำให้ประชาชนหวั่นวิตกกับระบาดและหาซื้อหน้ากากอนามัยและเจลล้างมือมาใช้เพื่อป้องกันและลดการแพร่ระบาดของโรค ทั้งนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้สินค้าขาดแคลนในท้องตลาด ซึ่งจะส่งผลให้มีการจำหน่ายในราคาที่สูงขึ้น อย.จึงได้ทำหนังสือกำชับไปยังผู้ผลิตในการขอความร่วมมือให้มีการผลิตเต็มกำลัง อีกทั้งไม่ให้ขึ้นราคา ไม่ให้กักตุนรวมทั้งให้คงสินค้าให้เพียงพอต่อการใช้ในประเทศ และห้ามมีข้อจำกัดในการจำหน่ายและการส่งสินค้าดังกล่าวไปยังประชาชนอีกด้วย
นอกจากนี้ อย. ยังได้กำกับดูแลในส่วนของผลิตภัณฑ์ล้างมือเพื่อใช้ป้องกันการติดต่อจากการสัมผัสอีกด้วย ซึ่งมีทั้งลักษณะที่เป็นน้ำยาและเจล โดยขณะนี้มีผลิตภัณฑ์ล้างมือที่จัดเป็นยาจำนวน 5 ผลิตภัณฑ์ และที่จัดเป็นเครื่องสำอางอีก 30 ผลิตภัณฑ์ ซึ่งคาดว่าแต่ละผลิตภัณฑ์มีจำนวนมากพอต่อความต้องการของประชาชนในการป้องกันการติดเชื้อโรค ทั้งนี้อย.มีมาตรการในการเฝ้าระวังคุณภาพและความปลอดภัยของเจล ล้างมือให้มีมาตรฐานสามารถป้องกันเชื้อโรคได้จริง
ด้านนายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า วันนี้ (17 มิ.ย.) นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ ได้สั่งการให้กรมการค้าภายใน เชิญผู้ผลิตหน้ากากอนามัย ยารักษาไข้หวัด 2-3 ชนิด และน้ำยาเช็ดทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรค เข้ามาประชุมเพื่อชี้แจงและขอความร่วมมือในการรับมือไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ระบาดในไทยเพราะมีความจำเป็นที่จะต้องใช้สินค้าดังกล่าวในปริมาณที่มากขึ้น และอาจจะเป็นช่องทางให้ผู้ผลิตฉวยโอกาสในการปรับขึ้นราคาสินค้าจนกระทบกับผู้บริโภค
นอกจากนี้ กรมฯ จะเข้ามาดูแลปริมาณให้เพียงพอกับความต้องการ และได้มอบหมายให้สำนักงานค้าภายในจังหวัด สำนักงานพาณิชย์จังหวัด เป็นช่องทางขายหน้ากากอนามัย น้ำยาฆ่าเชื้อโรค ยารักษาไข้หวัด ราคาถูกแก่ประชาชนทั่วทั้งประเทศ รวมถึงจะนำสินค้าที่เกี่ยวเข้ามาเข้ามาจำหน่ายในงานธงฟ้าที่จะจัดขึ้นในสถานที่ต่างๆ ด้วย
**สธ.ขอผับ บาร์ โรงหนังทำความสะอาด
นายวิทยา กล่าวว่า สถานบันเทิง ผับ บาร์ โรงภาพยนตร์ เป็นสถานที่ที่มีคนใช้บริการมาก อยู่รวมกันหนาแน่นและเป็นสถานที่ปิด เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรคต่างๆ จึงขอความร่วมมือให้ทำความสะอาดพื้นผิวต่างๆ ที่มีคนสัมผัสเป็นจำนวนมาก เช่น ลูกบิดประตู โต๊ะ เก้าอี้ แก้วน้ำ โทรศัพท์ ราวบันได ปุ่มกดลิฟท์ ปุ่มกดชักโครก เป็นต้น ซึ่งเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่จะมีชีวิตอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้นาน 2 ชั่วโมงและหลังให้บริการเสร็จควรเปิดสถานที่ให้อากาศถ่ายเทสะดวก ซึ่งจะช่วยลดการปนเปื้อนของเชื้อในอากาศได้อย่างมาก
นอกจากนี้ สธ.จะทำหนังสือไปยังหน่วยงานต่างๆ เช่น กระทรวงต่างๆ รัฐวิสาหกิจ สมาคมธนาคาร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอความร่วมมือให้แต่ละหน่วยงานป้องกันการระบาดของเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ และโรคติดต่อทางเดินหายใจอื่นๆโดยทำความสะอาดสถานที่อย่างน้อย เดือนละ 1 ครั้ง และทำความสะอาดจุดเสี่ยงที่ถูกสัมผัสเป็นประจำด้วยน้ำยาทำความสะอาดทั่วไป หรือน้ำผสมผงซักฟอก รวมทั้งจัดหาสบู่ล้างมือ ภาชนะรองรับการดาษทิชชู ไว้บริการ
ด้าน นพ.สุวัช เซียศิริวัฒนา รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ในการทำความสะอาดสถานที่ สามารถใช้ได้ทั้งน้ำยาทำความสะอาดพื้นผิวที่มีจำหน่ายทั่วไป หรือใช้น้ำผสมผงซักฟอก ที่สำคัญคือต้องเช็ดให้ทั่วถึง หากเป็นน้ำยาทำความสะอาด ควรผสมให้ถูกสัดส่วนตามคำแนะนำข้างภาชนะบรรจุ ส่วนผู้ที่ทำความสะอาด ควรสวมถุงมือยาง ใส่รองเท้ายาง และคาดหน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันการระคายเคืองผิวหนังและทางเดินหายใจด้วย
**อธิบดีกรมควบคุมโรคฯตาม09ที่ชม.
วานนี้ (16 มิ.ย.) นพ.ม.ล.สมชาย จักรพันธุ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ เพื่อติดตามสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 โดยตรวจเยี่ยมโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย ซึ่งมีนักเรียนกว่า 3,000 คน พร้อมทั้งมอบหน้ากากและเจลทำความสะอาดมือให้กับโรงเรียน นอกจากนี้ ยังกำชับให้โรงเรียนดูแลสุขภาพและสังเกตอาการป่วยผิดปกติของนักเรียน เพราะโรงเรียนถือเป็นจุดเสี่ยงที่มีการแพร่ระบาดของโรคได้ง่าย โดยผู้บริหารโรงเรียนอาจสั่งให้นักเรียนทั้งห้อง หรือทั้งชั้นหยุดเรียน หากมีนักเรียนป่วยพร้อมกัน โดยไม่ต้องปิดทั้งโรงเรียน
สำหรับจ.เชียงใหม่ มีโรงเรียนเชียงใหม่คริสเตียน เพียงแห่งเดียวที่ผู้บริหารโรงเรียนสั่งให้นักเรียนชั้น ม.1 หยุดเรียนตลอดสัปดาห์นี้ หลังพบนักเรียนป่วยเป็นไข้หวัด 8 คน ส่วนนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่ป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ล่าสุดอาการดีขึ้นแล้ว คาดว่าจะออกจากโรงพยาบาลได้ในไม่ช้า
**เชียงรายวางมาตรการเฝ้าระวัง
นายยุทธนา จิตต์รอบอารี ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงราย ประชุมร่วมกับตัวแทนสายการบินทุกสายการบินที่นำเครื่องขึ้น-ลง ยังท่าอากาศยานเชียงราย และเจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคระหว่างประเทศ เพื่อกำหนดมาตรการและแนวทางการป้องกันการสกัดกั้นการแพร่ระบาดโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ และให้ความรู้กับตัวแทนสายการบินต่างๆ ในการเฝ้าสังเกตอาการผู้โดยสาร พร้อมระบุว่า แม้ว่าขณะนี้จะยังไม่มีการติดตั้งเครื่องเทอร์โมสแกนที่ท่าอากาศยานเชียงราย เนื่องจากไม่มีสายการบินตรงจากต่างประเทศมาลงจอด และผู้โดยสารส่วนใหญ่ต่อเครื่องจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและผ่านการตรวจวัดอุณภูมิร่างกายมาแล้ว แต่ทางท่าอากาศยานเชียงราย เตรียมการเฝ้าระวังเพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดอย่างเต็มที่ และเตรียมนำเจลล้างมือและหน้ากากอนามัยมาแจกแก่พนักงานและผู้โดยสารเพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้โดยสาร
วานนี้(16 มิ.ย.) นายวิทยาแก้ว ภราดัย รมว.สาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า สธ.ได้ประกาศขึ้นทะเบียนผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อไข้หวัดใหญ่พันธุ์ใหม่ ชนิด เอ เอช1 เอ็น1 เพิ่มอีก109 ราย ในจำนวนนี้เป็นกลุ่มนักเรียน 84 ราย เป็นผู้ป่วยเดินทางมาจากต่างประเทศ 7 ราย ผู้ป่วยในประเทศ 6 ราย กำลังสอบสวน 7 ราย เป็นผู้ป่วยยืนยันเพิ่มจากชลบุรี 5 ราย รวมมียอดผู้ป่วยสะสมทั้งหมด 310 ราย ส่วนใหญ่ได้รับการรักษาจนหายดีแล้ว ไม่มีรายใดเสียชีวิต เมื่อเปรียบเทียบกับไข้หวัดใหญ่ที่เกิดขึ้นตามฤดูกาล ตั้งแต่ต้นปีพบผู้ป่วย 5,607 ราย ไม่มีเสียชีวิต และในระยะ 4-5 เดือน ต่อไปนี้ จะเป็นฤดูการระบาดของไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ทำให้ผู้ป่วยเพิ่มร้อยละ 20-30
นอกจากนี้ จะประสานไปยังโรงพยาบาลรัฐและโรงพยาบาลเอกชน ให้เปิดช่องทางพิเศษรักษาผู้ป่วยที่ถือว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงสุดของไข้หวัดใหญ่ นั่นก็คือ เด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบด้วย
นายวิทยา กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีความห่วงใยและนายกรัฐมนตรีกำชับให้ทำความเข้าใจกับประชาชน ดังนั้น ในวันอาทิตย์ที่ 21 มิ.ย.นี้ ตนจะระดมทีมนักระบาดวิทยา ออกรายการทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที เวลา 20.30-22.00 น. โดยจะเปิดให้ประชาชนโทรเข้ามาสอบถามข้อกังวลได้จากแพทย์ระบาดวิทยา ที่มารับสายตอบปัญหาและให้ความรู้เกี่ยวกับโรคนี้
ด้านนายมานิต นพอมรบดี รมช.สธ. เปิดเผยว่า สธ.ได้จัดทำสมุดปกเขียว 1 ล้านเล่ม แจกประชาชน สถานศึกษา และชุมชนทั่วประเทศ แนะนำวิธีปฏิบัติตนในการรักษาสุขภาพ และป้องกันการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ โดยคาดว่า เริ่มแจกได้ภายใน1–2วันนี้
**ปลัดสธ.ยันไม่ปิดข้อมูล
นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดสธ.กล่าวยืนยันว่า สธ.ไม่ได้ปิดบังข้อมูลหรือยุติการแถลงข่าวสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่พันธุ์ใหม่ แต่เพื่อป้องกันการตื่นตระหนกและให้ข้อมูลตัวเลขของสื่อมวลชนไม่ให้เกิดความสับสน สธ.จะให้ข้อมูลเผยแพร่ประชาสัมพันธ์วันละ1ครั้ง โดยทุกจังหวัดหากพบผู้ป่วยให้รายงานสำนักระบาดวิทยาก่อนทุกวันเพื่อให้ข้อมูลไปในทิศทางเดียวกัน หลังจากนั้นจังหวัดจึงสามารถให้รายละเอียดกับสื่อมวลชนได้ พร้อมให้แต่ละจังหวัดเฝ้าระวังผู้ป่วยในพื้นที่อย่างใกล้ชิด เน้นการประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจ การป้องกันตัวเองเพื่อไม่ให้ติดเชื้อ และปฏิบัติตัวหลังติดเชื้อ
ทั้งนี้ แม้โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่จะแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว แต่จากการศึกษาที่ผ่านมาพบว่าโรคนี้ความรุนแรงไม่มาก อัตราตายต่ำ ดังนั้นคณะทำงานด้านการรักษาพยาบาลของสธ. จึงได้ร่วมกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล รามาธิบดี และรพ.จุฬาลงกรณ์ ปรับแนวทางการวินิจฉัยและดูแลรักษาผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ ให้เหมาะสม และใช้เป็นแนวทางเดียวกันทั่วประเทศ กล่าวคือในประเด็นของการให้ยาต้านไวรัสโอเชลทามีเวียร์จะให้ เฉพาะในกลุ่มที่เป็นกลุ่มเสี่ยงเท่านั้น ได้แก่ ผู้ป่วยเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ผู้ใหญ่อายุมากกว่า 65 ปี หญิงตั้งครรภ์ ผู้ที่มีภูมิต้านทานต่ำ หรือมีโรคประจำตัวเรื้อรัง เช่นโรคปอด โรคหัวใจ โรคไต เบาหวาน เป็นต้น เพื่อป้องกันปัญหาเชื้อดื้อยา
**คนแห่ขอตรวจหาเชื้อเพียบ
รศ.(พิเศษ) นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ผู้ทรงคุณวุฒระดับ 11 กรมการแพทย์ สธ. กล่าวว่า ขณะนี้ประชาชนตื่นตระหนกต่อการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 จนแห่ไปขอตรวจหาเชื้อไข้หวัดใหญ่ชนิดนี้ที่โรงพยาบาลต่างๆเป็นจำนวนมาก ซึ่งสธ.มีนโยบายและแนวทางปฏิบัติให้กับแพทย์และพยาบาลในการตรวจหาเชื้อ โดยแบ่งพื้นที่ประเทศไทยเป็น 2 ส่วนตามการระบาดของโรค คือ 1.จังหวัดที่มีการระบาดของโรคแล้ว ขณะนี้มีเพียง3 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ จ.ชลบุรี และจ.ปทุมธานี ซึ่งหากประชาชนในพื้นที่เหล่านี้ที่ไม่ได้มีอาการป่วยหรือมีอาการป่วยเพียงเล็กน้อย เดินทางมาขอรับการตรวจเชื้อเพื่อหาสายพันธุ์ โรงพยาบาลจะไม่ดำเนินการตรวจสอบสายพันธุ์เชื้อ จะตรวจสอบเชื้อเฉพาะผู้ป่วยที่มีอาการหนักรุนแรงหรือกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง และเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีเท่านั้น และจะตรวจสอบเพียงว่ามีการป่วยเป็นกลุ่มๆหรือไม่
2.จังหวัดที่ยังไม่มีการแพร่ระบาดของโรค ซึ่งหมายถึงจังหวัดที่ยังไม่พบรายงานผู้ป่วย หรือพบผู้ป่วยจำนวนน้อย ไม่มีการแพร่ระบาดเป็นวงกว้าง เช่น จ.ภูเก็ต สงขลา ตรัง และเชียงใหม่ หากมีผู้ป่วยเข้ามารับการรักษาที่โรงพยาบาล แพทย์และพยาบาลจะต้องดำเนินการซักประวัติผู้ป่วยว่าเดินทางมาจากจังหวัดที่มีการระบาดของโรคหรือไม่ ภายในครอบครัวเดียวกันมีคนป่วยมากกว่า 3 คนหรือไม่ ในรอบ1 สัปดาห์มีการสัมผัสใกล้ชิดผู้ที่เดินทางมาจากประเทศหรือไม่ ซึ่งถ้าผู้ป่วยมีประวัติดังกล่าวให้แพทย์เก็บสารคัดหลั่งส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการหาสายพันธุ์เชื้อ จะได้ควบคุมไม่ให้เกิดผู้ป่วยพร้อมกันเป็นกลุ่มจำนวนมาก แต่ให้เกิดผู้ป่วยในอัตราน้อยที่สุด
**เชื่ออนาคตพบผู้เสียชีวิตแน่
รศ.(พิเศษ)นพ.ทวี กล่าวด้วยว่า ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ประจำปี มีผู้ป่วยทั่วโลกประมาณ 500- 1,000 ล้านรายต่อปี โดยในจำนวนผู้ป่วย 1 พันคนจะมี 10 คนที่มีอาการรุนแรงจนต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล และในจำนวน 10 คนจะมี 1 คน ที่ร่างกายอ่อนแอจนมีอาการรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต ส่วนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ในอนาคตจะต้องมีผู้เสียชีวิตเกิดขึ้นอย่างแน่นอน แต่สิ่งที่สธ.กำลังดำเนินการคือ ทำให้มีอัตราผู้เสียชีวิตน้อยที่สุด
“เมื่อเกิดการแพร่ระบาดของโรคทั่วโลก เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีใครเจ็บตัวหรือเสียชีวิต แต่จะต้องทำให้เจ็บตัวน้อยที่สุด นี่คือสิ่งที่ สธ.กำลังพยายามดำเนินการ ซึ่งการแพร่ระบาดของไวรัสชนิดนี้ในพื้นที่พัทยา จ.ชลบุรี เป็นตัวอย่างที่ดีที่บ่งบอกว่าเชื้อไวรัสนี้มีความรุนแรงต่ำ เพราะผู้ป่วยมีอาการเหมือนการเป็นไข้หวัดใหญ่ทั่วไป จนไม่มีการผิดสังเกต กระทั่งเริ่มมีจำนวนผู้ป่วยมากขึ้นจึงมีการสงสัย เพราะหากเชื้อชนิดนี้มีความรุนแรงจนผู้ป่วยในพื้นที่นี้เสียชีวิต กระทรวงฯคงอยู่ไม่ได้แล้ว” รศ.(พิเศษ)นพ. ทวีกล่าว
** โอดเงินหมด ติดหนี้ค่าตรวจแล็บ
นพ.มล.สมชาย จักรพันธุ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่าได้รับรายงานจากสำนักระบาดวิทยาว่า ขณะนี้งบประมาณในการตรวจเชื้อทางห้องปฏิบัติการที่ตั้งไว้ 2 ล้านบาทต่อปีหมดแล้ว เนื่องจากต้องใช้ในการส่งตรวจเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ในห้องปฏิบัติการของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ซึ่งมีประชาชนขอให้มีการตรวจหาเชื้อเป็นจำนวนมาก ซึ่งค่าใช้จ่ายในการตรวจเชื้ออยู่ที่ประมาณ 4,000 บาทต่อราย โดยเร็วๆนี้จะหารือกับนายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุข ในการของบกลางเพิ่มเติม
“กรมควบคุมโรคไม่มีเงินในการจ่ายค่าตรวจเชื้อในห้องปฏิบัติการแล้ว ทำให้ต้องค้างจ่ายเงินในการตรวจเชื้อทางห้องปฏิบัติการที่ได้ส่งตรวจที่กรมวิทย์ฯ ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลตัวเลขค่าใช้จ่ายทั้งหมด”นพ.มล.สมชายกล่าว
แหล่งข่าวจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า ในช่วงนี้ประชาชนเกิดความตื่นตระหนกการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่พันธุ์ใหม่เป็นอย่างมาก ทำให้ยอดการส่งเชื้อตรวจที่ห้องปฏิบัติการสูงขึ้นประมาณ 200-300 รายต่อวัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรายที่ส่งต่อมากจากโรงพยาบาลเอกชน จนถึงปัจจุบันคาดว่า ทำการตรวจเชื้อไข้หวัดใหญ่แล้วกว่า1,000 ราย ขณะที่ค่าตรวจเชื้อในห้องปฏิบัติการหากเป็นการตรวจผลเบื้องต้นค่าใช้จ่ายประมาณ 2,000 บาทต่อราย แต่หากตรวจอย่างละเอียด ซึ่งมีค่าใช้จ่าย ทั้งค่าบุคลากร ค่าน้ำยาประมาณ 4,000 บาทต่อราย เท่ากับขณะนี้เสียค่าใช้จ่ายสูงถึง 4 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่ผลการตรวจเป็นไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล
** ร.ร.หยุดเพิ่มอีก9แห่ง
วานนี้ (16 มิ.ย.) มีโรงเรียนที่ประกาศหยุดเพิ่มเติมอีก 9 แห่ง ได้แก่ 1.ร.ร.สตรีวิทยา 2 เขตลาดพร้าว เปิดเรียนวันที่ 22 มิ.ย. 2.ร.ร.มัธยมวัดมกุฏกษัตริย์ เขตพระนคร เปิดเรียนวันที่ 22 มิ.ย. 3.ร.ร.จันทร์หุ่นบำเพ็ญ เขตห้วยขวาง เปิดเรียนวันที่ 22 มิ.ย. 4.ร.ร. ภปร.ราชวิทยาลัย จังหวัดนครปฐม ปิดเรียนตั้งแต่วันที่ 17-21 มิ.ย. 5.ร.ร.อนุราชประสิทธิ์ จ.นนทบุรี 6.ร.ร.สาธิต มศว.ปทุมวัน ประกาศปิดตั้งแต่วันที่ 17 -22 มิ.ย. 7.ร.ร.ธัญวิทยาตงมิ้น ประกาศปิดตั้งแต่วันที่ 17 -22 มิ.ย. 8.ร.ร.ธัญญรัตน์ ประกาศปิดตั้งแต่วันที่ 17 -21 มิ.ย. และ 9.ร.ร.สาธิตราชภัฎสวนสุนนันทา
ส่วนที่ ร.ร.อนุบาลปทุมธานี ทางผู้บริหารโรงเรียนได้ปิดประกาศให้ผู้ปกครองเด็กได้ทราบว่าทางโรงเรียนได้ปิดโรงเรียนต่อไปอีก1 อาทิตย์ โดยให้ไปเปิดในวันที่ 22 มิ.ย. และสั่งห้ามไม่ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าไปในโรงเรียนอย่างเด็ดขาด สำหรับ ร.ร.วัดฉาง ต.บางปรอก อ.เมือง จ.ปทุมธานี ทางผู้บริหารโรงเรียนสั่งปิดเรียน 3 วัน ไปเปิดเรียนวันที่ 18 มิ.ย.นี้
**คุณหญิงกษมากลุ้ม ร.ร.แห่ปิดเพียบ
คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กล่าวว่า ขณะนี้มีโรงเรียนในกรุงเทพมหานคร โรงเรียนรอบนอก ประกาศหยุดเรียนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆโรงเรียนบางแห่งยังไม่พบว่ามีเด็กติดเชื้อก็สั่งปิด ทำให้เสียเวลาเรียน ต้องมาสอนเสริมหลังเลิกเรียน หรือวันหยุดเสาร์อาทิตย์ ดังนั้น ก่อนที่โรงเรียนจะประกาศปิดสถานศึกษาอยากให้ปรึกษากับสาธารณสุขในพื้นที่เสียก่อน เพราะยิ่งประกาศปิดยิ่งทำให้ประชาชน ผู้ปกครองตื่นตระหนกกันมากขึ้น รวมทั้งการหยุดเรียนจะมีผลกระทบต่อการเรียนการสอน ซึ่งตนจะประสานเรื่องนี้กับผู้อำนวยการเขตพื้นที่ กรณีสั่งปิดสถานศึกษา
**กทม.จ้องจับเด็ก คนแก่ฉีดวัคซีน
รายงานข่าวจากสำนักอนามัยแจ้งด้วยว่าขณะนี้ทางสำนักอนามัย ร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กทม. ทำงานประสานไปยังบุคคลที่อยู่ในข่ายที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ เช่น ผู้สูงอายุ ที่อายุมากกว่า65ปีขึ้นไป เด็กที่อายุต่ำกว่า 5 ขวบหรือผู้ที่มีโรคประจำตัวที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจ เช่น โรคหัวใจ โรคปอด โรคหอบหืด ให้เข้ามาฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงขึ้น
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม.งกล่าวว่า วานนี้ (16 มิ.ย.) ตนได้ทำหนังสือไปยังเจ้าของตลาดนัดในพื้นที่กทม.ที่มีกว่า400 แห่ง เพื่อขอความร่วมมือในการทำความสะอาดสถานที่เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่2009
**อย.ห้ามขึ้นราคาหน้ากากอนามัย
นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) กล่าวว่า จากสถานการณ์การระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ อาจทำให้ประชาชนหวั่นวิตกกับระบาดและหาซื้อหน้ากากอนามัยและเจลล้างมือมาใช้เพื่อป้องกันและลดการแพร่ระบาดของโรค ทั้งนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้สินค้าขาดแคลนในท้องตลาด ซึ่งจะส่งผลให้มีการจำหน่ายในราคาที่สูงขึ้น อย.จึงได้ทำหนังสือกำชับไปยังผู้ผลิตในการขอความร่วมมือให้มีการผลิตเต็มกำลัง อีกทั้งไม่ให้ขึ้นราคา ไม่ให้กักตุนรวมทั้งให้คงสินค้าให้เพียงพอต่อการใช้ในประเทศ และห้ามมีข้อจำกัดในการจำหน่ายและการส่งสินค้าดังกล่าวไปยังประชาชนอีกด้วย
นอกจากนี้ อย. ยังได้กำกับดูแลในส่วนของผลิตภัณฑ์ล้างมือเพื่อใช้ป้องกันการติดต่อจากการสัมผัสอีกด้วย ซึ่งมีทั้งลักษณะที่เป็นน้ำยาและเจล โดยขณะนี้มีผลิตภัณฑ์ล้างมือที่จัดเป็นยาจำนวน 5 ผลิตภัณฑ์ และที่จัดเป็นเครื่องสำอางอีก 30 ผลิตภัณฑ์ ซึ่งคาดว่าแต่ละผลิตภัณฑ์มีจำนวนมากพอต่อความต้องการของประชาชนในการป้องกันการติดเชื้อโรค ทั้งนี้อย.มีมาตรการในการเฝ้าระวังคุณภาพและความปลอดภัยของเจล ล้างมือให้มีมาตรฐานสามารถป้องกันเชื้อโรคได้จริง
ด้านนายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า วันนี้ (17 มิ.ย.) นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ ได้สั่งการให้กรมการค้าภายใน เชิญผู้ผลิตหน้ากากอนามัย ยารักษาไข้หวัด 2-3 ชนิด และน้ำยาเช็ดทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรค เข้ามาประชุมเพื่อชี้แจงและขอความร่วมมือในการรับมือไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ระบาดในไทยเพราะมีความจำเป็นที่จะต้องใช้สินค้าดังกล่าวในปริมาณที่มากขึ้น และอาจจะเป็นช่องทางให้ผู้ผลิตฉวยโอกาสในการปรับขึ้นราคาสินค้าจนกระทบกับผู้บริโภค
นอกจากนี้ กรมฯ จะเข้ามาดูแลปริมาณให้เพียงพอกับความต้องการ และได้มอบหมายให้สำนักงานค้าภายในจังหวัด สำนักงานพาณิชย์จังหวัด เป็นช่องทางขายหน้ากากอนามัย น้ำยาฆ่าเชื้อโรค ยารักษาไข้หวัด ราคาถูกแก่ประชาชนทั่วทั้งประเทศ รวมถึงจะนำสินค้าที่เกี่ยวเข้ามาเข้ามาจำหน่ายในงานธงฟ้าที่จะจัดขึ้นในสถานที่ต่างๆ ด้วย
**สธ.ขอผับ บาร์ โรงหนังทำความสะอาด
นายวิทยา กล่าวว่า สถานบันเทิง ผับ บาร์ โรงภาพยนตร์ เป็นสถานที่ที่มีคนใช้บริการมาก อยู่รวมกันหนาแน่นและเป็นสถานที่ปิด เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรคต่างๆ จึงขอความร่วมมือให้ทำความสะอาดพื้นผิวต่างๆ ที่มีคนสัมผัสเป็นจำนวนมาก เช่น ลูกบิดประตู โต๊ะ เก้าอี้ แก้วน้ำ โทรศัพท์ ราวบันได ปุ่มกดลิฟท์ ปุ่มกดชักโครก เป็นต้น ซึ่งเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่จะมีชีวิตอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้นาน 2 ชั่วโมงและหลังให้บริการเสร็จควรเปิดสถานที่ให้อากาศถ่ายเทสะดวก ซึ่งจะช่วยลดการปนเปื้อนของเชื้อในอากาศได้อย่างมาก
นอกจากนี้ สธ.จะทำหนังสือไปยังหน่วยงานต่างๆ เช่น กระทรวงต่างๆ รัฐวิสาหกิจ สมาคมธนาคาร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอความร่วมมือให้แต่ละหน่วยงานป้องกันการระบาดของเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ และโรคติดต่อทางเดินหายใจอื่นๆโดยทำความสะอาดสถานที่อย่างน้อย เดือนละ 1 ครั้ง และทำความสะอาดจุดเสี่ยงที่ถูกสัมผัสเป็นประจำด้วยน้ำยาทำความสะอาดทั่วไป หรือน้ำผสมผงซักฟอก รวมทั้งจัดหาสบู่ล้างมือ ภาชนะรองรับการดาษทิชชู ไว้บริการ
ด้าน นพ.สุวัช เซียศิริวัฒนา รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ในการทำความสะอาดสถานที่ สามารถใช้ได้ทั้งน้ำยาทำความสะอาดพื้นผิวที่มีจำหน่ายทั่วไป หรือใช้น้ำผสมผงซักฟอก ที่สำคัญคือต้องเช็ดให้ทั่วถึง หากเป็นน้ำยาทำความสะอาด ควรผสมให้ถูกสัดส่วนตามคำแนะนำข้างภาชนะบรรจุ ส่วนผู้ที่ทำความสะอาด ควรสวมถุงมือยาง ใส่รองเท้ายาง และคาดหน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันการระคายเคืองผิวหนังและทางเดินหายใจด้วย
**อธิบดีกรมควบคุมโรคฯตาม09ที่ชม.
วานนี้ (16 มิ.ย.) นพ.ม.ล.สมชาย จักรพันธุ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ เพื่อติดตามสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 โดยตรวจเยี่ยมโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย ซึ่งมีนักเรียนกว่า 3,000 คน พร้อมทั้งมอบหน้ากากและเจลทำความสะอาดมือให้กับโรงเรียน นอกจากนี้ ยังกำชับให้โรงเรียนดูแลสุขภาพและสังเกตอาการป่วยผิดปกติของนักเรียน เพราะโรงเรียนถือเป็นจุดเสี่ยงที่มีการแพร่ระบาดของโรคได้ง่าย โดยผู้บริหารโรงเรียนอาจสั่งให้นักเรียนทั้งห้อง หรือทั้งชั้นหยุดเรียน หากมีนักเรียนป่วยพร้อมกัน โดยไม่ต้องปิดทั้งโรงเรียน
สำหรับจ.เชียงใหม่ มีโรงเรียนเชียงใหม่คริสเตียน เพียงแห่งเดียวที่ผู้บริหารโรงเรียนสั่งให้นักเรียนชั้น ม.1 หยุดเรียนตลอดสัปดาห์นี้ หลังพบนักเรียนป่วยเป็นไข้หวัด 8 คน ส่วนนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่ป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ล่าสุดอาการดีขึ้นแล้ว คาดว่าจะออกจากโรงพยาบาลได้ในไม่ช้า
**เชียงรายวางมาตรการเฝ้าระวัง
นายยุทธนา จิตต์รอบอารี ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงราย ประชุมร่วมกับตัวแทนสายการบินทุกสายการบินที่นำเครื่องขึ้น-ลง ยังท่าอากาศยานเชียงราย และเจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคระหว่างประเทศ เพื่อกำหนดมาตรการและแนวทางการป้องกันการสกัดกั้นการแพร่ระบาดโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ และให้ความรู้กับตัวแทนสายการบินต่างๆ ในการเฝ้าสังเกตอาการผู้โดยสาร พร้อมระบุว่า แม้ว่าขณะนี้จะยังไม่มีการติดตั้งเครื่องเทอร์โมสแกนที่ท่าอากาศยานเชียงราย เนื่องจากไม่มีสายการบินตรงจากต่างประเทศมาลงจอด และผู้โดยสารส่วนใหญ่ต่อเครื่องจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและผ่านการตรวจวัดอุณภูมิร่างกายมาแล้ว แต่ทางท่าอากาศยานเชียงราย เตรียมการเฝ้าระวังเพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดอย่างเต็มที่ และเตรียมนำเจลล้างมือและหน้ากากอนามัยมาแจกแก่พนักงานและผู้โดยสารเพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้โดยสาร
