ASTVผู้จัดการรายวัน - บลจ.วรรณ ร่วมวงขายกองบอนด์เกาหลี ชูการลงทุนพันธบัตรรัฐบาล 12 เดือน ให้ผลตอบแทน 3% พร้อมโรลต่อเนื่องทุก 1 ปี ไอพีโอ 17-23 มิ.ย.นี้ ด้าน บลจ. ธนชาต เผยดีมานด์กองทุนบอนด์กิมจิล้น หลังดอกเบี้ยตกต่ำ ล่าสุดเปิดขาย "ธนชาตตราสารหนี้ต่างประเทศ 11และ13" ได้เพียงวันเดียว นักลงทุนแห่จองเพียบ ปิดยอดขายได้ก่อนกำหนด
นายสมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) วรรณ จำกัด เปิดเผยว่า บลจ.วรรณจะเปิดเสนอขายกองทุนเปิด วรรณ ตราสารหนี้ต่างประเทศ 1Y/3 ระหว่างวันที่ 17-23 มิถุนายน 2552 นี้ โดยกองทุนดังกล่าว จะเน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้ หรือพันธบัตรธนาคารชาติเกาหลีใต้ หรือพันธบัตรภาครัฐไทย หรือเงินฝาก โดยตราสารที่ลงทุนจะมีอายุประมาณ 12 เดือน โดยผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับจากการลงทุนประมาณ 3.0% ต่อปี (โดยรวมการยกเว้นภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายด้วย)
ทั้งนี้ กองทุนเปิด วรรณ ตราสารหนี้ต่างประเทศ 1Y/3 เป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในพันธบัตรหรือตราสารแห่งหนี้ที่เสนอขายในต่างประเทศ ที่มีอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในระดับเพื่อการลงทุน (Investment Grade) โดยจะเปิดเสนอขายครั้งแรกที่หน่วยลงทุนละ 10 บาท ด้วยเงินขั้นต่ำเพียง 10,000 บาท ซึ่งหลังจากเปิดเสนอขายช่วงไอพีโอแล้ว จะมีการเปิดขายครั้งต่อไปทุกรอบระยะเวลา 10-13 เดือน ถัดจากวันทำการซื้อขายหน่วยลงทุนครั้งล่าสุด
นายสมจินต์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ที่ลงทุนในกองทุน 1FIXFIF1Y/3 นั้น จะเป็นกลุ่มผู้ลงทุนที่ยังคงมีความเชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศเกาหลีใต้ ทั้งนี้ การจัดอันดับ Credit Rating ของประเทศเกาหลี โดย S&P ระยะสั้นอยู่ที่ A-1 และระยะยาวอยู่ที่ A ว่า มีความมั่นคงทั้งด้านเศรษฐกิจการเงิน ซึ่งเมื่อพิจารณาจากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยผลตอบแทนที่ได้รับหลังจากทำการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนแล้ว กองทุน 1FIXFIF1Y/3 ยังให้ผลตอบแทนในระดับที่สูงกว่าการลงทุนในพันธบัตรในประเทศ ปัจจุบันรัฐบาลประเทศเกาหลีใต้ มีนโยบายยกเว้นภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย 15% สำหรับการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้ให้กับผู้ลงทุนต่างชาติ ซึ่งประกาศโดย Ministry of Strategy and Finance (MoSF) ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 21 พ.ค. 2552 ทำให้คาดว่ากองทุนจะได้รับผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้น
ด้านรายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) ธนชาต จำกัด เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่บริษัทได้ทำการเปิดขายกองทุนเปิดธนชาตตราสารหนี้ต่างประเทศ 11 (T-FixFIF 11) อายุโครงการประมาณ 2 ปี และกองทุนเปิดธนชาตตราสารหนี้ต่างประเทศ 13 (T-FixFIF 13) อายุโครงการประมาณ10 - 12 เดือน ที่เน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้ โดยมีมูลค่าโครงการกองทุนละ 1,400 ล้านบาท ไปเมื่อวันที่ 15 - 22 มิถุนายน 2552 ทั้งนี้ 2 กองทุนดังกล่าวได้รับการตอบรับจากลูกค้าอย่างล้นหลาม จนสามารถปิดขายหน่วยลงทุนได้ก่อนกำหนดเพียงวันเดียว ขณะเดียวกันก่อนหน้านี้บริษัทได้เปิดขายกองทุนเปิดธนชาตตราสารหนี้ต่างประเทศ 10 หรือ (T-FixFIF 10) แล้ว ซึ่งได้ปิดการขายหน่วยลงทุนก่อนกำหนดเช่นกัน
สำหรับกองทุนดังกล่าวมีนโยบายการลงทุนในหลักทรัพย์ หรือทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับตราสารแห่งหนี้ เงินฝาก หรือตราสารทางการเงินต่าง ๆ ของภาครัฐหรือภาคเอกชน โดยกองทุนจะลงทุนในตราสารแห่งหนี้ต่างประเทศไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ซึ่งกองทุนดังกล่าวจะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ประกาศคณะกรรมการ ก.ล.ต. หรือกฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนด หรือตามที่สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. เห็นชอบให้ลงทุนได้
นอกจากนี้กองทุนอาจจะลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยง หรือจัดให้มีการป้องกันความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการลงงทุน เช่น อัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา ที่อาจเกิดขึ้นได้จากการลงทุนในประเทศตามความเหมาะสม และสภาวการณ์ในแต่ละขณะ โดยจะไม่ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ตอบแทน และตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง
นายบุญชัย เกียรติธนาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) ธนชาต จำกัด ได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า ลูกค้าที่เข้ามาลงทุนส่วนใหญ่แล้วยังคงเป็นนักลงทุนที่เป็นลูกค้าของธนาคารธนชาต ซึ่งเป็นแบงก์แม่เป็นหลัก และบางส่วนก็มาจากนักลงทุนที่เป็นลูกค้าของ บลจ. ธนชาต เองด้วย โดยสาเหตุที่นักลงทุนให้การตอบรับเป็นอย่างดี เนื่องจากว่าอัตราดอกเบี้ยในประเทศมีการปรับตัวลดลงจึงไม่ค่อยน่าสนใจนักลงทุนมากนัก ดังนั้นนักลงทุนเองยังคงต้องหาช่องทางใหม่ ๆ ในการลงทุนแทน
ทั้งนี้ ในภาวะปัจจุบัน ตราสารหนี้ต่างประเทศที่ให้อัตราผลตอบแทนที่น่าสนใจแก่ผู้ลงทุน คือ ตราสารภาครัฐของประเทศเกาหลีใต้ กองทุนดังกล่าว เป็นทางเลือกให้กับผู้ลงทุนที่ต้องการกระจายเงินลงทุนบางส่วนไปลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ เพื่อโอกาสในการรับผลตอบแทนที่สูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากในประเทศ และเข้าใจความเสี่ยงของการลงทุนในตราสารหนี้ในต่างประเทศ และประเทศที่กองทุนไปลงทุน
นายสมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) วรรณ จำกัด เปิดเผยว่า บลจ.วรรณจะเปิดเสนอขายกองทุนเปิด วรรณ ตราสารหนี้ต่างประเทศ 1Y/3 ระหว่างวันที่ 17-23 มิถุนายน 2552 นี้ โดยกองทุนดังกล่าว จะเน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้ หรือพันธบัตรธนาคารชาติเกาหลีใต้ หรือพันธบัตรภาครัฐไทย หรือเงินฝาก โดยตราสารที่ลงทุนจะมีอายุประมาณ 12 เดือน โดยผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับจากการลงทุนประมาณ 3.0% ต่อปี (โดยรวมการยกเว้นภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายด้วย)
ทั้งนี้ กองทุนเปิด วรรณ ตราสารหนี้ต่างประเทศ 1Y/3 เป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในพันธบัตรหรือตราสารแห่งหนี้ที่เสนอขายในต่างประเทศ ที่มีอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในระดับเพื่อการลงทุน (Investment Grade) โดยจะเปิดเสนอขายครั้งแรกที่หน่วยลงทุนละ 10 บาท ด้วยเงินขั้นต่ำเพียง 10,000 บาท ซึ่งหลังจากเปิดเสนอขายช่วงไอพีโอแล้ว จะมีการเปิดขายครั้งต่อไปทุกรอบระยะเวลา 10-13 เดือน ถัดจากวันทำการซื้อขายหน่วยลงทุนครั้งล่าสุด
นายสมจินต์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ที่ลงทุนในกองทุน 1FIXFIF1Y/3 นั้น จะเป็นกลุ่มผู้ลงทุนที่ยังคงมีความเชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศเกาหลีใต้ ทั้งนี้ การจัดอันดับ Credit Rating ของประเทศเกาหลี โดย S&P ระยะสั้นอยู่ที่ A-1 และระยะยาวอยู่ที่ A ว่า มีความมั่นคงทั้งด้านเศรษฐกิจการเงิน ซึ่งเมื่อพิจารณาจากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยผลตอบแทนที่ได้รับหลังจากทำการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนแล้ว กองทุน 1FIXFIF1Y/3 ยังให้ผลตอบแทนในระดับที่สูงกว่าการลงทุนในพันธบัตรในประเทศ ปัจจุบันรัฐบาลประเทศเกาหลีใต้ มีนโยบายยกเว้นภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย 15% สำหรับการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้ให้กับผู้ลงทุนต่างชาติ ซึ่งประกาศโดย Ministry of Strategy and Finance (MoSF) ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 21 พ.ค. 2552 ทำให้คาดว่ากองทุนจะได้รับผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้น
ด้านรายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) ธนชาต จำกัด เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่บริษัทได้ทำการเปิดขายกองทุนเปิดธนชาตตราสารหนี้ต่างประเทศ 11 (T-FixFIF 11) อายุโครงการประมาณ 2 ปี และกองทุนเปิดธนชาตตราสารหนี้ต่างประเทศ 13 (T-FixFIF 13) อายุโครงการประมาณ10 - 12 เดือน ที่เน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้ โดยมีมูลค่าโครงการกองทุนละ 1,400 ล้านบาท ไปเมื่อวันที่ 15 - 22 มิถุนายน 2552 ทั้งนี้ 2 กองทุนดังกล่าวได้รับการตอบรับจากลูกค้าอย่างล้นหลาม จนสามารถปิดขายหน่วยลงทุนได้ก่อนกำหนดเพียงวันเดียว ขณะเดียวกันก่อนหน้านี้บริษัทได้เปิดขายกองทุนเปิดธนชาตตราสารหนี้ต่างประเทศ 10 หรือ (T-FixFIF 10) แล้ว ซึ่งได้ปิดการขายหน่วยลงทุนก่อนกำหนดเช่นกัน
สำหรับกองทุนดังกล่าวมีนโยบายการลงทุนในหลักทรัพย์ หรือทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับตราสารแห่งหนี้ เงินฝาก หรือตราสารทางการเงินต่าง ๆ ของภาครัฐหรือภาคเอกชน โดยกองทุนจะลงทุนในตราสารแห่งหนี้ต่างประเทศไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ซึ่งกองทุนดังกล่าวจะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ประกาศคณะกรรมการ ก.ล.ต. หรือกฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนด หรือตามที่สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. เห็นชอบให้ลงทุนได้
นอกจากนี้กองทุนอาจจะลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยง หรือจัดให้มีการป้องกันความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการลงงทุน เช่น อัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา ที่อาจเกิดขึ้นได้จากการลงทุนในประเทศตามความเหมาะสม และสภาวการณ์ในแต่ละขณะ โดยจะไม่ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ตอบแทน และตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง
นายบุญชัย เกียรติธนาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) ธนชาต จำกัด ได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า ลูกค้าที่เข้ามาลงทุนส่วนใหญ่แล้วยังคงเป็นนักลงทุนที่เป็นลูกค้าของธนาคารธนชาต ซึ่งเป็นแบงก์แม่เป็นหลัก และบางส่วนก็มาจากนักลงทุนที่เป็นลูกค้าของ บลจ. ธนชาต เองด้วย โดยสาเหตุที่นักลงทุนให้การตอบรับเป็นอย่างดี เนื่องจากว่าอัตราดอกเบี้ยในประเทศมีการปรับตัวลดลงจึงไม่ค่อยน่าสนใจนักลงทุนมากนัก ดังนั้นนักลงทุนเองยังคงต้องหาช่องทางใหม่ ๆ ในการลงทุนแทน
ทั้งนี้ ในภาวะปัจจุบัน ตราสารหนี้ต่างประเทศที่ให้อัตราผลตอบแทนที่น่าสนใจแก่ผู้ลงทุน คือ ตราสารภาครัฐของประเทศเกาหลีใต้ กองทุนดังกล่าว เป็นทางเลือกให้กับผู้ลงทุนที่ต้องการกระจายเงินลงทุนบางส่วนไปลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ เพื่อโอกาสในการรับผลตอบแทนที่สูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากในประเทศ และเข้าใจความเสี่ยงของการลงทุนในตราสารหนี้ในต่างประเทศ และประเทศที่กองทุนไปลงทุน
