ASTVผู้จัดการรายวัน - ฟิทช์เรทติ้งจัดอันดับหุ้นกู้พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟคมูลค่า 520 ล้าน อายุ 3 ปีที่ระดับ "BBB+(tha)" แนวโน้มมีเสถียรภาพ ระบุมีผลดีจากการที่สคืบค้ำประกันในมูลค่า 260 ล้านหรือ 50%ของหุ้นกู้ แต่ยังต้องจับตาภาคอสังหาฯขาลงที่อาจยาวนานกว่าที่คาดการณ์ไว้
บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Rating) ระยะยาวที่ระดับ "BBB+(tha)" แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ แก่หุ้นกู้มีหลักประกันของบริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) หรือ PF มูลค่า 520 ล้านบาท อายุ 3 ปี ซึ่งได้รับการค้ำประกันบางส่วนจากธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCIB ซึ่งมีอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวอยู่ที่ระดับ A-(tha) แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ
ทั้งนี้ หุ้นกู้ดังกล่าวมีหลักประกันเป็นที่ดินปลอดจำนองซึ่งมีราคาประเมินเฉลี่ยมูลค่า 884 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนมูลค่าหลักประกันต่อจำนวนเงินกู้ (Value-to-Loan Ratio) ที่ 170% ซึ่ง PF จะต้องรักษาสัดส่วนมูลค่าหลักประกันต่อจำนวนเงินกู้ให้อยู่ในระดับที่ไม่ต่ำกว่า 160% ตามที่ได้กำหนดไว้ในข้อกำหนดสิทธิและหน้าที่ของผู้ออกหุ้นกู้ของหุ้นกู้ดังกล่าว นอกจากนี้ หุ้นกู้ดังกล่าวยังได้รับการค้ำประกันโดย SCIB ในมูลค่าไม่เกิน 260 ล้านบาทหรือคิดเป็น 50% ของมูลค่าเงินต้นของหุ้นกู้ โดยเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ครั้งนี้จะนำไปใช้สำหรับพัฒนาโครงการในอนาคตและเป็นเงินทุนหมุนเวียน
อันดับเครดิตสะท้อนถึงชื่อเสียงที่ดีของบริษัทและประสบการณ์อันยาวนานในการทำโครงการบ้านเดี่ยวขนาดใหญ่ในกรุงเทพและปริมณฑล และยังสะท้อนถึงฐานะทางการเงิน ความสามารถในการทำกำไร และยอดขายที่ดีขึ้นในช่วงสองปีที่ผ่านมา แม้ว่าอัตราส่วนหนี้สินมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคตเนื่องจากการซื้อที่ดินใหม่และการขยายโครงการก็ตาม
อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งของอันดับเครดิตได้ถูกลดทอนลงจากความผันผวนที่สูงของวัฏจักรธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ นอกจากนี้ สภาวะเศรษฐกิจโลกที่ถดถอยและปัญหาความไม่มั่นคงทางการเมืองซึ่งส่งผลให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคลดลงน่าจะทำให้ความต้องการซื้อบ้านและที่อยู่อาศัยลดลงในช่วง 12 ถึง 18 เดือนข้างหน้า การแข่งขันในตลาดบ้านเดี่ยวและที่อยู่อาศัยในกรุงเทพและปริมณฑลคาดว่าจะทวีความรุนแรงมากขึ้น แต่น่าจะเกิดในกลุ่มของผู้ประกอบการรายใหญ่ เนื่องจากผู้ประกอบการรายเล็กมีความยากลำบากมากขึ้นในการดำเนินธุรกิจเป็นผลมาจากการหาสินเชื่อที่ยากขึ้น อย่างไรก็ตามความเสี่ยงดังกล่าวได้ถูกลดทอนลงบ้างจากนโยบายสนับสนุนธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จากภาครัฐ อุปทานในตลาดบ้านเดี่ยวและที่อยู่อาศัยที่เพิ่มขึ้นน้อยลง รวมถึงอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำ ซึ่งอาจช่วยกระตุ้นยอดขายให้เพิ่มขึ้นได้
นอกจากนี้ PF ยังมีความเสี่ยงในการบริหารกระแสเงินสดอันเป็นผลมาจากความไม่สอดคล้องของกระแสเงินสดรับและจ่ายในแต่ละโครงการ ซึ่งส่งผลให้บริษัทมีความต้องการใช้เงินทุนหมุนเวียนมากขึ้นและมีอัตราส่วนหนี้สินสูงขึ้นในช่วงขยายโครงการหรือในช่วงขาลงของวัฎจักรธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์
และแนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพสะท้อนถึงการคาดการณ์ว่า สถานะทางการตลาดที่มั่นคงและประสบการณ์อันยาวนานของ PF น่าจะช่วยให้บริษัทสามารถรักษาความได้เปรียบในการแข่งขัน และมีฐานะทางการเงินสอดคล้องกับอันดับเครดิต ณ ปัจจุบัน การเพิ่มขึ้นของรายได้และอัตราส่วนกำไรต่อรายได้ รวมถึงการลดลงของอัตราส่วนหนี้สินอย่างมีนัยสำคัญอาจมีผลต่อการปรับเพิ่มอันดับเครดิตของบริษัทได้ ในทางตรงกันข้ามอันดับเครดิตอาจปรับลดลงได้หากวัฏจักรขาลงของตลาดบ้านและที่อยู่อาศัยยาวนานกว่าที่คาดการณ์ไว้ รวมถึงสภาพคล่องที่ลดลงและอัตราส่วนหนี้สินโดยวัดจากอัตราส่วนหนี้สินสุทธิที่ปรับปรุงแล้วต่อกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่าย และค่าเช่า เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Rating) ระยะยาวที่ระดับ "BBB+(tha)" แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ แก่หุ้นกู้มีหลักประกันของบริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) หรือ PF มูลค่า 520 ล้านบาท อายุ 3 ปี ซึ่งได้รับการค้ำประกันบางส่วนจากธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCIB ซึ่งมีอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวอยู่ที่ระดับ A-(tha) แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ
ทั้งนี้ หุ้นกู้ดังกล่าวมีหลักประกันเป็นที่ดินปลอดจำนองซึ่งมีราคาประเมินเฉลี่ยมูลค่า 884 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนมูลค่าหลักประกันต่อจำนวนเงินกู้ (Value-to-Loan Ratio) ที่ 170% ซึ่ง PF จะต้องรักษาสัดส่วนมูลค่าหลักประกันต่อจำนวนเงินกู้ให้อยู่ในระดับที่ไม่ต่ำกว่า 160% ตามที่ได้กำหนดไว้ในข้อกำหนดสิทธิและหน้าที่ของผู้ออกหุ้นกู้ของหุ้นกู้ดังกล่าว นอกจากนี้ หุ้นกู้ดังกล่าวยังได้รับการค้ำประกันโดย SCIB ในมูลค่าไม่เกิน 260 ล้านบาทหรือคิดเป็น 50% ของมูลค่าเงินต้นของหุ้นกู้ โดยเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ครั้งนี้จะนำไปใช้สำหรับพัฒนาโครงการในอนาคตและเป็นเงินทุนหมุนเวียน
อันดับเครดิตสะท้อนถึงชื่อเสียงที่ดีของบริษัทและประสบการณ์อันยาวนานในการทำโครงการบ้านเดี่ยวขนาดใหญ่ในกรุงเทพและปริมณฑล และยังสะท้อนถึงฐานะทางการเงิน ความสามารถในการทำกำไร และยอดขายที่ดีขึ้นในช่วงสองปีที่ผ่านมา แม้ว่าอัตราส่วนหนี้สินมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคตเนื่องจากการซื้อที่ดินใหม่และการขยายโครงการก็ตาม
อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งของอันดับเครดิตได้ถูกลดทอนลงจากความผันผวนที่สูงของวัฏจักรธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ นอกจากนี้ สภาวะเศรษฐกิจโลกที่ถดถอยและปัญหาความไม่มั่นคงทางการเมืองซึ่งส่งผลให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคลดลงน่าจะทำให้ความต้องการซื้อบ้านและที่อยู่อาศัยลดลงในช่วง 12 ถึง 18 เดือนข้างหน้า การแข่งขันในตลาดบ้านเดี่ยวและที่อยู่อาศัยในกรุงเทพและปริมณฑลคาดว่าจะทวีความรุนแรงมากขึ้น แต่น่าจะเกิดในกลุ่มของผู้ประกอบการรายใหญ่ เนื่องจากผู้ประกอบการรายเล็กมีความยากลำบากมากขึ้นในการดำเนินธุรกิจเป็นผลมาจากการหาสินเชื่อที่ยากขึ้น อย่างไรก็ตามความเสี่ยงดังกล่าวได้ถูกลดทอนลงบ้างจากนโยบายสนับสนุนธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จากภาครัฐ อุปทานในตลาดบ้านเดี่ยวและที่อยู่อาศัยที่เพิ่มขึ้นน้อยลง รวมถึงอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำ ซึ่งอาจช่วยกระตุ้นยอดขายให้เพิ่มขึ้นได้
นอกจากนี้ PF ยังมีความเสี่ยงในการบริหารกระแสเงินสดอันเป็นผลมาจากความไม่สอดคล้องของกระแสเงินสดรับและจ่ายในแต่ละโครงการ ซึ่งส่งผลให้บริษัทมีความต้องการใช้เงินทุนหมุนเวียนมากขึ้นและมีอัตราส่วนหนี้สินสูงขึ้นในช่วงขยายโครงการหรือในช่วงขาลงของวัฎจักรธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์
และแนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพสะท้อนถึงการคาดการณ์ว่า สถานะทางการตลาดที่มั่นคงและประสบการณ์อันยาวนานของ PF น่าจะช่วยให้บริษัทสามารถรักษาความได้เปรียบในการแข่งขัน และมีฐานะทางการเงินสอดคล้องกับอันดับเครดิต ณ ปัจจุบัน การเพิ่มขึ้นของรายได้และอัตราส่วนกำไรต่อรายได้ รวมถึงการลดลงของอัตราส่วนหนี้สินอย่างมีนัยสำคัญอาจมีผลต่อการปรับเพิ่มอันดับเครดิตของบริษัทได้ ในทางตรงกันข้ามอันดับเครดิตอาจปรับลดลงได้หากวัฏจักรขาลงของตลาดบ้านและที่อยู่อาศัยยาวนานกว่าที่คาดการณ์ไว้ รวมถึงสภาพคล่องที่ลดลงและอัตราส่วนหนี้สินโดยวัดจากอัตราส่วนหนี้สินสุทธิที่ปรับปรุงแล้วต่อกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่าย และค่าเช่า เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ