ศูนย์ข่าวภูเก็ต –อสังหาริมทรัพย์ภูเก็ตซบหนัก เหตุเศรษฐกิจ-การท่องเที่ยวแย่ ที่สำคัญการเข้มงวดของแบงก์ ในการปล่อยกู้รายย่อย ทำให้โครงการเริ่มขายไม่ออก ผู้ประกอบการเริ่มชะลอการสร้างไปแล้ว20-30% วอนแบงก์ชาติพิจารณาเรื่องนี้ใหม่เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ด่วน
นายธนันต์ ตันไพบูลย์ ประธานชมรมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงสถานการณ์อสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดภูเก็ต หลังเกิดวิกฤตเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องว่า ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกับพื้นที่อื่นๆ รวมทั้งการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งเรื่องของการท่องเที่ยวมีผลต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มาก เพราะการเติบโตของอสังหาริมทรัพย์ของภูเก็ตจะอิงกับการท่องเที่ยว เมื่อสถานการณ์การท่องเที่ยวไม่ดีทำให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไม่ดีตามไปด้วย ซึ่งขณะนี้มีบางโครงการที่ชะลอการก่อสร้างออกไป หรือแบ่งการก่อสร้างออกเป็นเฟส เนื่องจากขายไม่หมด
สำหรับการชะลอการก่อสร้างโครงการต่างๆในจังหวัดภูเก็ต ขณะนี้พบว่ามีโครงการอสังหาริมทรัพย์ต่างๆมากกว่า 20-30 % ที่ชะลอการก่อสร้างออกไปก่อน และบางโครงการที่สร้างไปแล้วขายได้ไม่ถึง 40 – 45 % ธนาคารก็ไม่ปล่อยให้กู้ ทำให้ธุรกิจไม่สามารถที่จะเดินต่อไปได้ ส่งผลให้โครงการต่างๆต้องชะลอการก่อสร้างออกไปด้วย
นายธนันต์ กล่าวอีกว่า ตอนนี้เรื่องของการปล่อยกู้มีปัญหามาก เนื่องจากธนาคารมีความเข้มงวด ซึ่งบางโครงการเปิดขายได้ 100% พอถึงเวลาที่โอนก็โอนไม่ได้ เพราะว่า ธนาคารไม่ปล่อยเงินกู้รายย่อยให้แก่ลูกค้า หรือมีบางที่กู้ได้แต่แค่ไม่กี่หลังเท่านั้น อีกทั้งธนาคารมีนโยบายเกี่ยวกับการปล่อยกู้ให้แก่ผู้กู้รายย่อย โดยกำหนดให้พนักงานที่อยู่ในสถานประกอบการเกี่ยวกับธุรกิจการท่องเที่ยวเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง เนื่องมาจากมองว่า การท่องเที่ยวในภาพรวมไม่ดี จึงเป็นปัญหาของผู้ที่ต้องการจะซื้อบ้าน ส่งผลให้ยอดการจอง ซื้อ-ขาย อสังหาริมทรัพย์ของทุกระดับมียอดลดลงค่อนข้างชัดเจน
“บางโครงการได้มีการเจรจาหรือขอผ่อนผัน และบางครั้งผู้ซื้อเห็นว่าไม่มีความสามารถในการผ่อน อาจต้องยกเลิกไปบ้างก็มี ในส่วนบางโครงการที่ก่อสร้างใกล้จะแล้วเสร็จก็คงทำต่อเนื่องไป เพื่อรอตลาดที่จะกลับมา “ นายธนันต์ กล่าว
นายธนันต์ ยังได้กล่าวต่อไปถึง มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ที่ช่วยได้ในเรื่องของการลดภาษีธุรกิจเฉพาะและค่าธรรมเนียมภาษีในการโอนกรรมสิทธิ์เกี่ยวกับที่ดิน ว่า ในช่วงนี้ค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ลดลงมาก แต่ก็ช่วยกระตุ้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไม่ได้มากนัก เพราะเมื่อคนไม่มีเงินซื้ออสังหาริมทรัพย์ หรือธนาคารไม่ปล่อยเงินกู้ก็ช่วยไม่ได้เหมือนกัน ซึ่งเรื่องของการปล่อยเงินกู้ให้แก่รายย่อย ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์อยากจะเรียกร้องให้ทางแบงก์ชาติ ช่วยพิจารณาเรื่องความเข้มงวดของการปล่อยกู้ ถ้าทำได้เชื่อว่าสถานการณ์ต่างๆจะคลี่คลายไปได้
สำหรับสถานการณ์ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดภูเก็ต มองว่าจะเป็นแบบนี้ไปอีกระยะหนึ่งซึ่งอาจจะต้องใช้เวลา 6 เดือน- 1 ปี เพื่อดูทิศทางเศรษฐกิจโลกว่าจะเป็นอย่างไร หากยังไม่ฟื้นก็คงน่าจะลำบาก ในส่วนของภูเก็ตเองด้านการท่องเที่ยวคงไปได้เรื่อยๆ ยกเว้นในช่วงโลว์ซีซันที่ค่อนข้างลำบาก เนื่องจากนักท่องเที่ยวในตลาดหลักได้หายไป แต่ในช่วงไฮซีซันหากนักท่องเที่ยวจากยุโรปกลับมา จะทำให้เกิดการกระเตื้องได้ในช่วงปลายปี
