รอยเตอร์/เอเอฟพี - ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกทะลุ 71 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลแล้ววานนี้(10) โดยถือเป็นสถิติสูงสุดในรอบ 7 เดือน หลังมีสัญญาณว่า ความต้องการพลังงานกำลังจะฟื้นตัวขึ้นอีกครั้ง เนื่องจากปริมาณน้ำมันตามคลังเก็บทั่วสหรัฐฯ ลดลงอย่ามโหฬาร ประกอบกับทางการสหรัฐฯปรับเพิ่มประมาณการณ์ดีมานด์น้ำมันทั่วโลกในปีนี้ อย่างไรก็ตาม ทางด้านบิ๊กบอสสายการบินลุฟต์ฮันซาโวยแหลก พวกเก็งกำไรทำราคาน้ำมันพุ่งพรวด
สถาบันอเมริกันปีโตรเลียม (เอพีไอ) รายงานในวันอังคาร(9)ว่า น้ำมันในคลังเก็บทั่วสหรัฐฯ ลดลงอย่างมโหฬารถึง 6 ล้านบาร์เรลเมื่อสัปดาห์ก่อนซึ่งสิ้นสุดในวันศุกร์(5) ซึ่งเกินกว่าการคาดการณ์ของบรรดานักวิเคราะห์ที่มองว่าปริมาณ น้ำมันจะลดลงมาเพียง 400,000 บาร์เรล ขณะที่โรงกลั่นกำลังเร่งผลิตน้ำมันสำเร็จรูป
การที่ปริมาณน้ำมันในคลังเก็บของสหรัฐฯ เป็นผู้บริโภคน้ำมันรายใหญ่สุดของโลกลดลงมากเช่นนี้ ตอกย้ำว่า ภาวะที่ดีมานด์น้ำมันถดถอยนั้นกำลังสิ้นสุดลแล้วง ขณะที่สำนักงานสารสนเทศพลังงานของสหรัฐฯ (อีไอเอ) ก็ปรับเพิ่มประมาณการณ์ดีมานด์น้ำมันทั่วโลกในปีนี้ โดยถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้ว
ระหว่างการซื้อขายผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์เมื่อวันพุธ(10) เมื่อถึงเวลา 08.55 น.จีเอ็มที (17.55 น.เวลาเมืองไทย) น้ำมันดิบไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ เพื่อการส่งมอบเดือนกรกฎาคม ขยับขึ้น 1.35 ดอลลาร์ อยู่ที่ 71.36 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากราคาปิดตลาดในวันอังคาร(9) ซึ่งอยู่ที่ 70.01 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบเบรนต์ของลอนดอนปรับขึ้น 1.17 ดอลลาร์ อยู่ที่ 70.73 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
"น้ำมันในคลังเก็บทั่วประเทศลดลงอย่างฮวบฮาบแบบนี้ ประกอบกับอีไอเอปรับเพิ่มประมาณการณ์ดีมานด์น้ำมัน ช่วยเพิ่มความหวังว่า ความต้องการพลังงานเริ่มจะฟื้นตัวแล้ว" นักวิเคราะห์จากวีทีบีแคปิตอลกล่าว
"ตลาดยังตอบสนองกับข้อมูลที่ว่า ปริมาณน้ำมันตามคลังทั่วโลกจากที่เคยล้นเหลือ ตอนนี้กำลังจะลดลงอย่างรวดเร็วในไตรมาส 3 และ 4 หากองค์การกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก)คงเพดานการผลิตในปัจจุบัน
**ลุฟต์ฮันซาโวยนักเก็งกำไรทำน้ำมันพุ่ง**
โวล์ฟกัง แมร์ฮูเบอร์ บิ๊กบอสของสายการบินลุฟต์ฮันซาแห่งเยอรมนีระบุ
ว่า พวกนักเก็งกำไรในตลาดการเงินต้องรับผิดชอบต่อการที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกผันผวนจนส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการบินไปด้วย
เขาให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทมส์ฉบับภาษาเยอรมันซึ่งตีพิมพ์เผยแพร่ในฉบับวานนี้(10)ว่า “ทุกวันนี้พวกนักเก็งกำไรมีอิทธิพลอย่างมหาศาลต่อธุรกิจของเรา” และเขายังเรียกร้องให้มีกฎระเบียบควบคุมในเรื่องนี้ให้เข้มงวดขึ้น
“กฎเกณฑ์ดั้งเดิมที่ว่าอุปสงค์กับอุปทานจะเป็นตัวกำหนดราคาวัตถุดิบต่างๆ นั้น ใช้การไม่ได้เสียแล้วในตอนนี้”
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันทะยานขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แถวๆ 147 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อปีที่แล้ว ก่อนจะดิ่งตัวลงมาตามภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย ทว่าในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา ราคาน้ำมันกลับดีดตัวขึ้นอีกครั้ง โดยไต่ระดับจาก 47 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลขึ้นมาจนถึงราว 70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลแล้ว
“หากราคาน้ำมันยังพุ่งสูงขึ้นอีก ธุรกิจของเราก็จะได้รับแรงกดดันมากขึ้น และจะทำให้กำหนดเป้าหมายธุรกิจในปี 2009 ได้ยากมาก” บิ๊กบอสลุฟต์ฮันซาบ่น
อย่างไรก็ตาม สายการบินลุฟต์ฮันซาก็เป็นหนึ่งในสายการบินไม่กี่รายที่ยังคงตั้งเป้าหมายว่าจะไม่ประสบขาดทุนในปีนี้ แม้ว่าธุรกิจการบินจะย่ำแย่อย่างมากก็ตาม
สถาบันอเมริกันปีโตรเลียม (เอพีไอ) รายงานในวันอังคาร(9)ว่า น้ำมันในคลังเก็บทั่วสหรัฐฯ ลดลงอย่างมโหฬารถึง 6 ล้านบาร์เรลเมื่อสัปดาห์ก่อนซึ่งสิ้นสุดในวันศุกร์(5) ซึ่งเกินกว่าการคาดการณ์ของบรรดานักวิเคราะห์ที่มองว่าปริมาณ น้ำมันจะลดลงมาเพียง 400,000 บาร์เรล ขณะที่โรงกลั่นกำลังเร่งผลิตน้ำมันสำเร็จรูป
การที่ปริมาณน้ำมันในคลังเก็บของสหรัฐฯ เป็นผู้บริโภคน้ำมันรายใหญ่สุดของโลกลดลงมากเช่นนี้ ตอกย้ำว่า ภาวะที่ดีมานด์น้ำมันถดถอยนั้นกำลังสิ้นสุดลแล้วง ขณะที่สำนักงานสารสนเทศพลังงานของสหรัฐฯ (อีไอเอ) ก็ปรับเพิ่มประมาณการณ์ดีมานด์น้ำมันทั่วโลกในปีนี้ โดยถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้ว
ระหว่างการซื้อขายผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์เมื่อวันพุธ(10) เมื่อถึงเวลา 08.55 น.จีเอ็มที (17.55 น.เวลาเมืองไทย) น้ำมันดิบไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ เพื่อการส่งมอบเดือนกรกฎาคม ขยับขึ้น 1.35 ดอลลาร์ อยู่ที่ 71.36 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากราคาปิดตลาดในวันอังคาร(9) ซึ่งอยู่ที่ 70.01 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบเบรนต์ของลอนดอนปรับขึ้น 1.17 ดอลลาร์ อยู่ที่ 70.73 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
"น้ำมันในคลังเก็บทั่วประเทศลดลงอย่างฮวบฮาบแบบนี้ ประกอบกับอีไอเอปรับเพิ่มประมาณการณ์ดีมานด์น้ำมัน ช่วยเพิ่มความหวังว่า ความต้องการพลังงานเริ่มจะฟื้นตัวแล้ว" นักวิเคราะห์จากวีทีบีแคปิตอลกล่าว
"ตลาดยังตอบสนองกับข้อมูลที่ว่า ปริมาณน้ำมันตามคลังทั่วโลกจากที่เคยล้นเหลือ ตอนนี้กำลังจะลดลงอย่างรวดเร็วในไตรมาส 3 และ 4 หากองค์การกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก)คงเพดานการผลิตในปัจจุบัน
**ลุฟต์ฮันซาโวยนักเก็งกำไรทำน้ำมันพุ่ง**
โวล์ฟกัง แมร์ฮูเบอร์ บิ๊กบอสของสายการบินลุฟต์ฮันซาแห่งเยอรมนีระบุ
ว่า พวกนักเก็งกำไรในตลาดการเงินต้องรับผิดชอบต่อการที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกผันผวนจนส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการบินไปด้วย
เขาให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทมส์ฉบับภาษาเยอรมันซึ่งตีพิมพ์เผยแพร่ในฉบับวานนี้(10)ว่า “ทุกวันนี้พวกนักเก็งกำไรมีอิทธิพลอย่างมหาศาลต่อธุรกิจของเรา” และเขายังเรียกร้องให้มีกฎระเบียบควบคุมในเรื่องนี้ให้เข้มงวดขึ้น
“กฎเกณฑ์ดั้งเดิมที่ว่าอุปสงค์กับอุปทานจะเป็นตัวกำหนดราคาวัตถุดิบต่างๆ นั้น ใช้การไม่ได้เสียแล้วในตอนนี้”
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันทะยานขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แถวๆ 147 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อปีที่แล้ว ก่อนจะดิ่งตัวลงมาตามภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย ทว่าในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา ราคาน้ำมันกลับดีดตัวขึ้นอีกครั้ง โดยไต่ระดับจาก 47 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลขึ้นมาจนถึงราว 70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลแล้ว
“หากราคาน้ำมันยังพุ่งสูงขึ้นอีก ธุรกิจของเราก็จะได้รับแรงกดดันมากขึ้น และจะทำให้กำหนดเป้าหมายธุรกิจในปี 2009 ได้ยากมาก” บิ๊กบอสลุฟต์ฮันซาบ่น
อย่างไรก็ตาม สายการบินลุฟต์ฮันซาก็เป็นหนึ่งในสายการบินไม่กี่รายที่ยังคงตั้งเป้าหมายว่าจะไม่ประสบขาดทุนในปีนี้ แม้ว่าธุรกิจการบินจะย่ำแย่อย่างมากก็ตาม