เอเอฟพี - ราคาน้ำมันดิบร่วงอีกครั้งเมื่อวันศุกร์ (15) แตะ 111 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลแล้ว จากดีมานด์พลังงานเติบโตต่ำกว่าที่โอเปกคาดการณ์ไว้ สืบเนื่องมาจากปัญหาเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอ
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดเบรนต์ทะเลเหนือของลอนดอน งวดส่งมอบเดือนตุลาคม ลดลง 2.56 ดอลลาร์ ปิดที่ 111.12 ดอลลาร์ตาอบาร์เรล ส่วนงวดส่งมอบเดือนกันยายน ซึ่งหมดอายุเมื่อวันพฤหัสบดี (14) อยู่ที่ 112.64 ดอลลาร์
ด้านสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของตลาดไนเม็กซ์แห่งนิวยอร์ก งวดส่งมอบเดือนกันยายน ดิ่งลง 2.66 ดอลลาร์ ปิดที่ 122.35 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
"สถานการณ์เศรษฐกิจที่อ่อนแอนำไปสู่ดีมานด์น้ำมันเติบโตเบาลง" องค์การกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) คาดการณ์รายเดือนเมื่อวันศุกร์ (15) ทั้งนี้โอเปก ซึ่งผลิตน้ำมันราว 40 เปอร์เซนต์ของโลกใบนี้ ยังได้แก้ไขคาดการณ์การเติบโตทางดีมานด์น้ำมันของโลกสำหรับปี 2008 ลดลงมาอยู่ที่ 1.17 เปอร์เซนต์ จากเดิม 1.20 เปอร์เซนต์ในเดือนกรกฎาคม
อย่างไรก็ตาม โอเปกยังคงคาดการณ์อัตราเติบโตดีมานด์น้ำมันโลกในปี 2009 ไว้ที่ 1.03 เปอร์เซนต์ เช่นเดิม "ด้วยอัตราการบริโภคพลังงานทางการขนส่งและอุตสาหกรรมเติบโตอย่างช้าๆ ไม่ใช่แค่อเมริกาเหนือ แต่รวมไปถึงยุโรปและแปซิฟิก (ชาติอุตสหกรรม) ดีมานด์ น้ำมันจะลดลงในปี 2009 และจะทำให้ดีมานด์น้ำมันของโลกเติบโตต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2002" รายงานประจำเดือนของโอเปกระบุ
อีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ราคาน้ำมันดิ่งลงมาจากค่าเงินที่กำลังแข็งค่าขึ้น เนื่องจากเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น ส่งผลต่อดีมานด์น้ำมันเพราะว่าน้ำมันจะแพงขึ้นสำหรับผู้ซื้อ
น้ำมันดิบดิ่งลงมาต่อเนื่องจากวันพฤหัสบดี (14) หลังสำนักงานสถิติอียูแถลงตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจของยุโรปในไตรมาส 2 ปีนี้ที่หดตัวลงมา 0.2 เปอร์เซ็นต์ โดยถือเป็นสถิติที่เลวร้ายที่สุดของยุโรปนับตั้งแต่ปี 1995 ก่อนหน้านี้ 1 วัน ญี่ปุ่นเพิ่งแถลงตัวเลขทางเศรษฐกิจในไตรมาสเดียวกันที่ลดลงมา 0.6 เปอร์เซ็นต์ ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐฯ