ASTV ผู้จัดการรายวัน – บอสใหญ่ เซ็นจูรี่21จับมือพันธมิตร ผุดบริษัทอสังหาฯ เฉพาะกิจพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย-โรงแรม มูลค่า400ล้านบาทย่านเขาใหญ่ แจงเป็นการลงทุนส่วนตัว หวังดันให้เกิดโครงการหางานเข้าเซ็นจูรี่21 ล่าสุดอยู่ระหว่างเจรจากลุ่มคนรู้จักหวังดันขึ้นคอนโดฯใหม่ ย่านสุขุมวิท พร้อมเข้ามาบริหารงานขายครบวงจร ขณะที่เซ็นจูรี่21เร่งคุยอสังหาฯรายใหญ่ TOP10 ในตลาดเป็นลูกค้าแฟรนไชส์ คาดสิ้นเดือนมิ.ย. ได้ข้อสรุป 2 รายแรก
นายธิติวัฒน์ ธีรกุลธัญโรจน์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท เซ็นจูรี่ 21 เรียลตี้แอฟฟิลิเอทส์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ “เซ็นจูรี่21” กล่าวถึงความคืบหน้าการดึงผู้ประกอบการอสังหาฯเข้ามาเป็นลูกค้าแฟรนไซน์ซีว่า ในปีนี้เราตั้งเป้าว่าจะดึงผู้ประกอบการอสังหาฯ TOP10 ในตลาดเข้ามาเป็นลูกค้าแฟรนไชส์ซี ซึ่งขณะนี้ได้เข้าไปเจรจาร่วมกับบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ 3 บริษัทแล้ว ซึ่งในเบื้องต้นอยู่ระหว่างการศึกษารูปแบบ(เวิร์คช็อป โมเดล)สำนักงานและระบบ คาดว่าจะสามารถได้ข้อสรุปเบื้องต้นจากบริษัทอสังหาฯ2รายแรกในเดือนมิ.ย.นี้
“ ในช่วง3ปีแรกนี้ ถือว่าเป็นระยะทดลองใช้บริการ ซึ่งเซ็นจูรี่21 จะไม่เก็บค่าแฟรนไชส์จากลูกค้า ซึ่งเบื้องต้นบริษัทจะร่วมลงทุนสร้างอาคารสำนักงานขนาดเล็ก เพื่อเป็นจุดให้บริการป้อนข้อมูลสินค้าเข้าระบบร่วมกับผู้ประกอบการแต่ละบริษัท โดยลูกค้าจะนำสินค้าที่เหลือขายและสินค้าที่พัฒนาใหม่ในแต่ละโครงการเข้ามาแสดงไว้ในเครือข่าย(เน็ตเวิร์ค)ของ เซ็นจูรี่21 ซึ่งจะทำให้สามารถเสนอขายสินค้าผ่านเน็ตเวิร์คได้ทั่วโลก”
ด้านนายกิติศักดิ์ จำปาทิพย์พงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริษัทเซ็นจูรี่21ฯ กล่าวว่า บริษัทเตรียมนำที่ดินสะสมจำนวน 100 ไร่เศษ ติดกับเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา ที่ซื้อเข้ามาในช่วงต้นปี 2551 มาพัฒนาโครงการอสังหาฯ แยกออกเป็น 2 ส่วน คือ โรงแรมในรูปแบบบูติคโฮเทลขนาดเล็กใช้พื้นที่การพัฒนาประมาณ 3 ไร่ พัฒนาเป็นห้องพัก 40-50 ยูนิต มูลค่าโครงการ 100 ล้านบาท เพื่อรองรับกลุ่มนักท่องเที่ยว และลูกค้าที่เข้ามาซื้อที่ดินสร้างบ้านในโครงการในอนาคต
ส่วนที่ 2 จะพัฒนาเป็นที่อยู่อาศัยประเภทบ้านเดี่ยวจำนวน 150-200 ยูนิต พื้นที่เริ่มต้น 150-800 ตารางวา มูลค่าขายรวมประมาณ 300 ล้านบาท โดยที่ดินแปลงดังกล่าวเป็นที่ดินส่วนตัวที่ซื้อไว้ในราคา 40 ล้านบาทเศษ ทั้งนี้ การพัฒนาโครงการดังกล่าวจะไม่เกี่ยวข้องกับบริษัท เซ็นจูรี่21 โดยจะลงทุนร่วมกับพันธมิตรอีก1ราย โดยจะมีการจัดตั้งบริษัทใหม่ขึ้นมา ถือหุ้นร่วมกับพันธมิตรในสัดส่วน 50-50% เบื้องต้นจะใช้งบลงทุน 80 ล้านบาท โดยคาดว่าจะสามารถก่อสร้างและเปิดขายโครงการได้ในปลายปีนี้
สำหรับรูปแบบการพัฒนาโครงการดังกล่าว จะแบ่งเป็นขายที่ดินเปล่าพร้อมปลูกสร้างบ้าน มีแบบบ้านให้ลูกค้าเลือก 5 แบบ หรือขายเฉพาะที่ดินเปล่า ซึ่งลูกค้าสามารถนำแบบบ้านของตนเองมาปลูกสร้างในที่ดิน
“นโยบายของเซ็นจูรี่ 21 ไม่มีนโยบายลงทุนพัฒนาโครงการ เพราะจะเน้นเรื่องการบริหารการขายและรับเป็นที่ปรึกษาการลงทุนด้านอสังหาฯแก่ลูกค้าแบบครบวงจร ซึ่งไม่ต้องการให้ถูกมองว่าเป็นคู่แข่งของลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ แต่เนื่องจากโครงการดังกล่าวเป็นการร่วมทุน โดยมีพันธมิตรเป็นผู้ทำหน้าที่ดูแล ซึ่งส่วนตัวเป็นเพียงผู้ถือหุ้น นอกจากนี้ การที่มีพันธมิตรเข้ามาชักชวนให้ลงทุน ก็ต้องการเข้าร่วมเพื่อผลักดันให้โครงการเกิด และจะเข้าไปรับเป็นที่ปรึกษาในทุกด้านผ่านบริษัทเซ็นจูรี่21”
นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างการเจรจาร่วมกับพันธมิตรอีกราย ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินในย่านซอยสุขุมวิท เพื่อร่วมลงทุนพัฒนาโครงการคอนโดฯ โดยตนอาจจะเข้าไปถือหุ้นบางส่วน และจะดึงเข้ามาเป็นลูกค้าของเซ็นจูรี่ 21 เพื่อรับเป็นที่ปรึกษาการลงทุนและบริหารการขายและการตลาดให้ทั้งหมด
นายธิติวัฒน์ ธีรกุลธัญโรจน์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท เซ็นจูรี่ 21 เรียลตี้แอฟฟิลิเอทส์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ “เซ็นจูรี่21” กล่าวถึงความคืบหน้าการดึงผู้ประกอบการอสังหาฯเข้ามาเป็นลูกค้าแฟรนไซน์ซีว่า ในปีนี้เราตั้งเป้าว่าจะดึงผู้ประกอบการอสังหาฯ TOP10 ในตลาดเข้ามาเป็นลูกค้าแฟรนไชส์ซี ซึ่งขณะนี้ได้เข้าไปเจรจาร่วมกับบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ 3 บริษัทแล้ว ซึ่งในเบื้องต้นอยู่ระหว่างการศึกษารูปแบบ(เวิร์คช็อป โมเดล)สำนักงานและระบบ คาดว่าจะสามารถได้ข้อสรุปเบื้องต้นจากบริษัทอสังหาฯ2รายแรกในเดือนมิ.ย.นี้
“ ในช่วง3ปีแรกนี้ ถือว่าเป็นระยะทดลองใช้บริการ ซึ่งเซ็นจูรี่21 จะไม่เก็บค่าแฟรนไชส์จากลูกค้า ซึ่งเบื้องต้นบริษัทจะร่วมลงทุนสร้างอาคารสำนักงานขนาดเล็ก เพื่อเป็นจุดให้บริการป้อนข้อมูลสินค้าเข้าระบบร่วมกับผู้ประกอบการแต่ละบริษัท โดยลูกค้าจะนำสินค้าที่เหลือขายและสินค้าที่พัฒนาใหม่ในแต่ละโครงการเข้ามาแสดงไว้ในเครือข่าย(เน็ตเวิร์ค)ของ เซ็นจูรี่21 ซึ่งจะทำให้สามารถเสนอขายสินค้าผ่านเน็ตเวิร์คได้ทั่วโลก”
ด้านนายกิติศักดิ์ จำปาทิพย์พงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริษัทเซ็นจูรี่21ฯ กล่าวว่า บริษัทเตรียมนำที่ดินสะสมจำนวน 100 ไร่เศษ ติดกับเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา ที่ซื้อเข้ามาในช่วงต้นปี 2551 มาพัฒนาโครงการอสังหาฯ แยกออกเป็น 2 ส่วน คือ โรงแรมในรูปแบบบูติคโฮเทลขนาดเล็กใช้พื้นที่การพัฒนาประมาณ 3 ไร่ พัฒนาเป็นห้องพัก 40-50 ยูนิต มูลค่าโครงการ 100 ล้านบาท เพื่อรองรับกลุ่มนักท่องเที่ยว และลูกค้าที่เข้ามาซื้อที่ดินสร้างบ้านในโครงการในอนาคต
ส่วนที่ 2 จะพัฒนาเป็นที่อยู่อาศัยประเภทบ้านเดี่ยวจำนวน 150-200 ยูนิต พื้นที่เริ่มต้น 150-800 ตารางวา มูลค่าขายรวมประมาณ 300 ล้านบาท โดยที่ดินแปลงดังกล่าวเป็นที่ดินส่วนตัวที่ซื้อไว้ในราคา 40 ล้านบาทเศษ ทั้งนี้ การพัฒนาโครงการดังกล่าวจะไม่เกี่ยวข้องกับบริษัท เซ็นจูรี่21 โดยจะลงทุนร่วมกับพันธมิตรอีก1ราย โดยจะมีการจัดตั้งบริษัทใหม่ขึ้นมา ถือหุ้นร่วมกับพันธมิตรในสัดส่วน 50-50% เบื้องต้นจะใช้งบลงทุน 80 ล้านบาท โดยคาดว่าจะสามารถก่อสร้างและเปิดขายโครงการได้ในปลายปีนี้
สำหรับรูปแบบการพัฒนาโครงการดังกล่าว จะแบ่งเป็นขายที่ดินเปล่าพร้อมปลูกสร้างบ้าน มีแบบบ้านให้ลูกค้าเลือก 5 แบบ หรือขายเฉพาะที่ดินเปล่า ซึ่งลูกค้าสามารถนำแบบบ้านของตนเองมาปลูกสร้างในที่ดิน
“นโยบายของเซ็นจูรี่ 21 ไม่มีนโยบายลงทุนพัฒนาโครงการ เพราะจะเน้นเรื่องการบริหารการขายและรับเป็นที่ปรึกษาการลงทุนด้านอสังหาฯแก่ลูกค้าแบบครบวงจร ซึ่งไม่ต้องการให้ถูกมองว่าเป็นคู่แข่งของลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ แต่เนื่องจากโครงการดังกล่าวเป็นการร่วมทุน โดยมีพันธมิตรเป็นผู้ทำหน้าที่ดูแล ซึ่งส่วนตัวเป็นเพียงผู้ถือหุ้น นอกจากนี้ การที่มีพันธมิตรเข้ามาชักชวนให้ลงทุน ก็ต้องการเข้าร่วมเพื่อผลักดันให้โครงการเกิด และจะเข้าไปรับเป็นที่ปรึกษาในทุกด้านผ่านบริษัทเซ็นจูรี่21”
นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างการเจรจาร่วมกับพันธมิตรอีกราย ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินในย่านซอยสุขุมวิท เพื่อร่วมลงทุนพัฒนาโครงการคอนโดฯ โดยตนอาจจะเข้าไปถือหุ้นบางส่วน และจะดึงเข้ามาเป็นลูกค้าของเซ็นจูรี่ 21 เพื่อรับเป็นที่ปรึกษาการลงทุนและบริหารการขายและการตลาดให้ทั้งหมด