นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึง การสัมมนาพรรคภูมิใจไทย ที่จ.สกลนคร ว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้เพื่อไปสัมผัสกับชาวบ้านว่าเขามีความเป็นอยู่อย่างไร และสิ่งที่ชาวบ้านต้องการคืออะไร ซึ่งกระแสตอบรับถือว่าดีมาก เพราะเราติดดิน ไปพักค้างกับชาวบ้าน และเชื่อว่าการลงพื้นที่ครั้งนี้ จะมีผลต่อการเลือกตั้งซ่อมที่ จ.สกลนครอยู่บ้าง แต่ถ้าจะเป็นการได้เปรียบพรรคอื่น ก็ช่วยไม่ได้ เพราะแต่ละพรรคมีอิสระในการที่จะทำประโยชน์ให้ประชาชนอยู่แล้ว
"จากการลงพื้นที่ครั้งนี้ พรรคภูมิใจไทยได้พบนโยบายใหม่ๆคือ ชาวนาขายข้าวเปลือกถูก แต่ซื้อข้าวสารแพง ฉะนั้นทางพรรคจึงจะออกนโยบาย 1 อบต.1 ธนาคารข้าวกับ1 โรงสีข้าว ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ หากพบว่าทำได้ ก็จะเขียนนโยบายนี้ออกมาทันที" นายชวรัตน์กล่าว
นอกจากนี้ทางพรรคจะทำโครงการคาร์บอนเครดิต ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องใหม่ เพราะขณะนี้มีปัญหาโลกร้อน ซึ่งหลักการของนโยบายนี้ ที่ต่างประเทศรณรงค์อยู่คือ การสร้างอุตสาหกรรมทำให้เกิดคาร์บอนไดออกไซด์มาก ผู้ที่ลงทุนต้องไปซื้อคาร์บอนเครดิต มาชดเชยตามจำหน่วยที่ก่อให้เกิดก๊าซคาร์บอนฯ นโยบายนี้จะทำให้ผู้ที่มีป่า มีต้นไม้ สามารถมีรายได้จากการขายคาร์บอนเครดิต และจะไม่มีการตัดไม้ทำลายป่า อย่างไรก็ตาม ถือว่าเรื่องนี้ยังอีกไกลเพราะต้องมีการแก้กฎหมายด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า การจัดสัมมนาครั้งนี้ดูเหมือนว่านายเนวิน ชิดชอบ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง จะมีบทบาทสูงมาก นายชวรัตน์ กล่าวว่า นายเนวิน และคนอื่นๆที่พรรคเชิญมา เราเชิญมาในฐานะวิทยากรที่มีประสบการณ์ทางการเมือง คล้ายๆกับเป็นครูอาจารย์ แต่ไม่ได้เกี่ยวกับการที่ นายเนวิน เป็นผู้ดำเนินการจัดการสัมมนาในฐานะที่เป็นพรรคการเมือง เพราะเจ้าหน้าที่พรรคเป็นการจัดสัมมนาเอง
เมื่อถามว่า มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่านายเนวินได้เข้ามาดูแล ส.ส.พรรคภูมิใจไทย เต็มตัวแล้ว นายชวรัตน์ กล่าวว่า ก็ไม่เชิง นายเนวินไม่ได้มีหน้าที่ตรงนี้ ส่วนที่นายเนวิน เป่านกหวีดแล้วลูกพรรคกลัว ก็เหมือนกับครูพละเท่านั้น ไม่มีนัยยะว่าจะเป็นการควบคุมแต่อย่างใด เพราะแท้จริงแล้วคนที่เป่านกหวีด ควรจะเป็นตนเองมากกว่า แต่บังเอิญว่าไม่มีแรงเป่า เพราะอายุมากแล้ว เลยให้นายเนวินเป่าแทน
ส่วนกรณี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำพรรคภูมิใจไทย ออกมาโจมตีการทำงานของพรรคประชาธิปัตย์ นั้น นายชวรัตน์ กล่าวว่านายสมศักดิ์ วิจารณ์ในฐานะที่ทำงานการเมืองมาก่อน แต่ตนไม่ยินในสิ่งที่เขาพูด จึงไม่อยากจะวิจารณ์ แต่หากพรรคประชาธิปัตย์ถามมา ก็จะอธิบายไปว่า ความคิดดังกล่าวไม่ใช่ของพรรคภูมิใจไทย แต่นายสมศักดิ์ พูดในฐานะส่วนตัว ก็มีสิทธิ์ที่จะวิจารณ์ได้ ไม่เกี่ยวกับพรรค
เมื่อถามว่ากลัวว่าสังคมจะมองได้หรือไม่ พรรคภูมิไทย ส่งนายสมศักดิ์ ออกมาโจมตีพรรคประชาธิปัตย์ เพราะโครงการต่างๆของพรรคภูมิใจไทยถูกระงับหลายโครงการ นายชวรัตน์กล่าวว่า ตนไม่เคยมีความคิดแบบนี้ เมื่อถามว่ากรณีที่พรรคเพื่อไทย ไปร้องเรียนกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ว่ามีการแจกเงินชาวสกลนคร ที่ให้มาดำนา เป็นความจริงหรือไม่ นายชวรัตน์ หัวเราะพร้อมกับกล่าวว่า เรื่องดำนาคงไม่ต้องมีใครจ้าง เพราะเขาเห็นคนกรุงเทพฯ มาทำนา เขาก็มาช่วยเอง เรื่องนี้ไม่มีมูลความจริงเลย ตนเองคิดว่าคนที่พูดแบบนี้ เป็นการดูถูกประชาชนเกินไป
"ผมไม่รู้ว่าใครเป็นคนพูด แต่ถ้าคนพูดเป็นนักการเมือง ผมก็คิดว่าคนๆนั้นไม่ควรจะเป็นนักการเมือง เพราะนักการเมืองต้องดูแลประชาชน เป็นปากเป็นเสียงให้ประชาชน แต่นี่กลับไปกล่าวหาประชาชน ว่าไปรับเงินไปดำนา เป็นเรื่องที่น่าละอายมาก" นายชวรัตน์กล่าว
"จากการลงพื้นที่ครั้งนี้ พรรคภูมิใจไทยได้พบนโยบายใหม่ๆคือ ชาวนาขายข้าวเปลือกถูก แต่ซื้อข้าวสารแพง ฉะนั้นทางพรรคจึงจะออกนโยบาย 1 อบต.1 ธนาคารข้าวกับ1 โรงสีข้าว ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ หากพบว่าทำได้ ก็จะเขียนนโยบายนี้ออกมาทันที" นายชวรัตน์กล่าว
นอกจากนี้ทางพรรคจะทำโครงการคาร์บอนเครดิต ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องใหม่ เพราะขณะนี้มีปัญหาโลกร้อน ซึ่งหลักการของนโยบายนี้ ที่ต่างประเทศรณรงค์อยู่คือ การสร้างอุตสาหกรรมทำให้เกิดคาร์บอนไดออกไซด์มาก ผู้ที่ลงทุนต้องไปซื้อคาร์บอนเครดิต มาชดเชยตามจำหน่วยที่ก่อให้เกิดก๊าซคาร์บอนฯ นโยบายนี้จะทำให้ผู้ที่มีป่า มีต้นไม้ สามารถมีรายได้จากการขายคาร์บอนเครดิต และจะไม่มีการตัดไม้ทำลายป่า อย่างไรก็ตาม ถือว่าเรื่องนี้ยังอีกไกลเพราะต้องมีการแก้กฎหมายด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า การจัดสัมมนาครั้งนี้ดูเหมือนว่านายเนวิน ชิดชอบ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง จะมีบทบาทสูงมาก นายชวรัตน์ กล่าวว่า นายเนวิน และคนอื่นๆที่พรรคเชิญมา เราเชิญมาในฐานะวิทยากรที่มีประสบการณ์ทางการเมือง คล้ายๆกับเป็นครูอาจารย์ แต่ไม่ได้เกี่ยวกับการที่ นายเนวิน เป็นผู้ดำเนินการจัดการสัมมนาในฐานะที่เป็นพรรคการเมือง เพราะเจ้าหน้าที่พรรคเป็นการจัดสัมมนาเอง
เมื่อถามว่า มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่านายเนวินได้เข้ามาดูแล ส.ส.พรรคภูมิใจไทย เต็มตัวแล้ว นายชวรัตน์ กล่าวว่า ก็ไม่เชิง นายเนวินไม่ได้มีหน้าที่ตรงนี้ ส่วนที่นายเนวิน เป่านกหวีดแล้วลูกพรรคกลัว ก็เหมือนกับครูพละเท่านั้น ไม่มีนัยยะว่าจะเป็นการควบคุมแต่อย่างใด เพราะแท้จริงแล้วคนที่เป่านกหวีด ควรจะเป็นตนเองมากกว่า แต่บังเอิญว่าไม่มีแรงเป่า เพราะอายุมากแล้ว เลยให้นายเนวินเป่าแทน
ส่วนกรณี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำพรรคภูมิใจไทย ออกมาโจมตีการทำงานของพรรคประชาธิปัตย์ นั้น นายชวรัตน์ กล่าวว่านายสมศักดิ์ วิจารณ์ในฐานะที่ทำงานการเมืองมาก่อน แต่ตนไม่ยินในสิ่งที่เขาพูด จึงไม่อยากจะวิจารณ์ แต่หากพรรคประชาธิปัตย์ถามมา ก็จะอธิบายไปว่า ความคิดดังกล่าวไม่ใช่ของพรรคภูมิใจไทย แต่นายสมศักดิ์ พูดในฐานะส่วนตัว ก็มีสิทธิ์ที่จะวิจารณ์ได้ ไม่เกี่ยวกับพรรค
เมื่อถามว่ากลัวว่าสังคมจะมองได้หรือไม่ พรรคภูมิไทย ส่งนายสมศักดิ์ ออกมาโจมตีพรรคประชาธิปัตย์ เพราะโครงการต่างๆของพรรคภูมิใจไทยถูกระงับหลายโครงการ นายชวรัตน์กล่าวว่า ตนไม่เคยมีความคิดแบบนี้ เมื่อถามว่ากรณีที่พรรคเพื่อไทย ไปร้องเรียนกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ว่ามีการแจกเงินชาวสกลนคร ที่ให้มาดำนา เป็นความจริงหรือไม่ นายชวรัตน์ หัวเราะพร้อมกับกล่าวว่า เรื่องดำนาคงไม่ต้องมีใครจ้าง เพราะเขาเห็นคนกรุงเทพฯ มาทำนา เขาก็มาช่วยเอง เรื่องนี้ไม่มีมูลความจริงเลย ตนเองคิดว่าคนที่พูดแบบนี้ เป็นการดูถูกประชาชนเกินไป
"ผมไม่รู้ว่าใครเป็นคนพูด แต่ถ้าคนพูดเป็นนักการเมือง ผมก็คิดว่าคนๆนั้นไม่ควรจะเป็นนักการเมือง เพราะนักการเมืองต้องดูแลประชาชน เป็นปากเป็นเสียงให้ประชาชน แต่นี่กลับไปกล่าวหาประชาชน ว่าไปรับเงินไปดำนา เป็นเรื่องที่น่าละอายมาก" นายชวรัตน์กล่าว
