นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่พรรคภูมิใจไทย ประกาศจะเป็นพรรคอันดับ 1 ในการเลือกตั้งครั้งหน้าว่า การเคลื่อนไหวทางการเมืองเป็นเรื่องปกติ ทุกพรรคมีอิสระในการเคลื่อนไหวทางการเมือง แต่ละพรรคจะมีรูปแบบ หรือทำกิจกรรมอย่างไรในพื้นที่เขามีสิทธิที่จะทำได้
ส่วนที่มีการนำโครงการของรัฐบาลไปวิจารณ์โยงการเมืองนั้น นายสาทิตย์ กล่าวว่า เมื่อมีการดำเนินการไปแล้ว แต่ละฝ่ายมีสิทธิ์ตรวจสอบได้ เหมือนกับการที่พรรคประชาธิปัตย์ไปเคลื่อนไหวทางการเมือง ทุกฝ่ายตรวจสอบได้ ผลออกมาเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง
ผู้สื่อข่าวถามว่า มองการเคลื่อนไหวของนายเนวิน ชิดชอบ และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน อย่างไร นายสาทิตย์ กล่าวว่า การเคลื่อนไหวทางการเมืองเป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่เฉพาะนายสมศักดิ์ กับนายเนวิน ทุกพรรคก็เคลื่อนไหว พรรคเพื่อไทย ก็เคลื่อนไหว และการออกมาวิจารณ์การทำงานร่วมกันของพรรคร่วมรัฐบาล ก็ไม่ถือว่าผิดมารยาท เพราะระบอบประชาธิปไตย ห้ามการวิพากษ์วิจารณ์ไม่ได้ อยู่รัฐบาลเดียวกันวิพากษ์วิจารณ์กันได้ เป็นเรื่องปกติ
เมื่อถามว่า มองกันว่าพรรคภูมิใจไทย ต้องการตีฐานเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ในพื้นที่ กทม. นายสาทิตย์ กล่าวว่า เวลาทำงานเป็นรัฐบาล ต่างคนต่างทำงานในหน้าที่ของตัวเอง พอเป็นพรรคการเมือง การแย่งคะแนนนิยมก็เป็นเรื่องปกติ ประชาชนจะเป็นคนตัดสินว่า จะเลือกใคร
เมื่อถามว่าพรรคภูมิใจไทยเริ่มออกนโยบายมากเยอะและลงพื้นที่หาเสียงลักษณะนี้ มีนัยยะส่งสัญญาณปลายปีจะขอแยกตัวกดดันให้มีการยุบสภาเลือกตั้งใหม่ นายสาทิตย์ กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่มี อำนาจการเสนอยุบสภา อยู่ที่นายกรัฐมนตรี หากเขาจะขอแยกตัว ก็เป็นสิทธิ์ของเขาในทางกาารเมือง
เมื่อถามว่า มั่นใจหรือไม่พรรคภูมิใจไทย จะอยู่ร่วมรัฐบาลถึงสิ้นปี นายสาทิตย์ กล่าวว่า มั่นใจ พ.ร.ก.และพ.ร.บ. ก็ต้องผ่านอยู่แล้ว เพราะมันเป็นประโยชน์กับประชาชน หากคุณเอาการต่อรองเรื่องการผ่าน ไม่ผ่านงบประมาณ มาเป็นเกณฑ์ ประชาชนจะเกิดคำถามได้เช่นเดียวกันว่า ไหนตกลงจะทำเพื่อประชาชน ตนไม่คิดว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะทำอย่างนั้น
เมื่อถามว่าพรรคภูมิใจไทยจะเป็นพรรคที่น่ากลัวของพรรคประชาธิปัตย์ในการเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่ นายสาทิตย์ กล่าวว่า ประชาธิปัตย์ผ่านการเมืองมา 62 ปี เผชิญมาแล้วทุกรูปแบบ
**เสธ.หนั่นเชื่อรัฐบาลอยู่ถึงสิ้นปี
ด้านพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงกรณีพรรคภูมิใจไทย ประกาศจะเป็นพรรคอันดับ1 ว่า เป็นเรื่องธรรมดา เวลาหาเสียงก็ต้องประกาศนโยบายใหม่ๆ ต้องการให้ประชาชนเลือกเป็นเรื่องธรรมดา ส่วนที่มีการระบุว่า ส.ส.จากหลายๆ พรรค ย้ายเข้ามาร่วมด้วยนั้น ก็แล้วแต่ความสามารถของแต่ละพรรค ส.ส.เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา เป็นเรื่องธรรมดา
อย่างไรก็ตาม พรรคชาติไทยพัฒนา ไม่ได้หวั่นไหวอะไร เราเป็นพรรคเล็กๆ อยู่อย่างสมถะ เมื่อถามว่ากลัวลูกพรรคจะโดนดูดไปหรือไม่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า กลัวคงไม่ ต้องดูว่าลูกพรรคล่อกแล่กไหม ถ้าไม่ล่อกแล่ก ยังยึดมั่นก็อยู่ที่เดิม คนไหนที่ล่อกแล่ก ก็อาจจะไป ทั้งนี้ผู้แทนเขาจะต้องดูว่า พรรคที่จัดตั้งขึ้นมามีอำนาจทุกอำนาจอยู่ในมือหรือไม่ ถ้ามีก็ไป ถ้าไม่มี ก็ไม่ไป มันไหลเข้าไหลออกอย่างนี้แหละผู้แทน แต่ในพรรคชาติไทยพัฒนา ยังไม่มี ส.ส.ย้ายพรรค
เมื่อถามว่าจากประสบการณ์ทางการเมืองคิดว่าพรรคภูมิใจไทย จะก้าวขึ้นเป็นอับดับหนี่งได้หรือไม่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ประมาทไม่ได้ ถ้าภาคอีสานพรรคเพื่อไทยอ่อนลง เขาอาจจะได้คะแนนเสียงเยอะขึ้น
เมื่อถามว่า พรรคภูมิใจไทย เปิดนโยบายจำนวนมากเหมือนกับจะมีการเลือกตั้งปลายปีนี้ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า การเลือกตั้งทำนายได้เลย แต่คิดว่ายังไม่มีการเลือกตั้งในระยะนี้ คิดว่ารัฐบาลอยู่ได้ถึงสิ้นปี อย่างน้อยหลังเดือนตุลาคมไปแล้ว ตอนนี้ยังไม่มีเหตุบอกชัดเจนว่าจะมีการแยกตัว
สำหรับการเลือกตั้งซ่อมที่ จ.สกลนครนั้น พล.ต.สนั่น กล่าวว่าสูสีกัน หากจะชนะคงไม่มาก เมื่อถามว่า จะเป็นตัววัดค่านิยมของ พ.ต.ท.ทักษิณ และนายเนวิน หรือไม่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า อาจจะเป็นการชี้วัดบ้าง แต่ไม่ใช่ 100% เมื่อถามว่า มองว่าพรรคภูมิใจไทย มีโอกาสก้าวแรกในการกุมภาคอีสานหรือไม่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า มีโอกาสชนะ แม้แต่ที่ จ.ศรีสะเกษ ในส่วนของพรรคชาติไทย ก็มีโอกาสชนะ เพราะเป็นฐานเสียงเดิม
**"ชาญชัย"เปิดกว้างหากส.ส.ย้ายพรรค
นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รมว.อุตสาหกรรม ในฐานะว่าที่หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าวถึงกรณีที่มีส.ส.กลุ่มบ้านริมน้ำ ของพรรคเพื่อแผ่นดิน ที่นำโดยนายพิเชษฐ์ ตันเจริญ ส.ส.ฉะเชิงเทรา ไปร่วมงานลงพื้นที่ ที่ จ.สกลนคร กับพรรคภูมิใจไทยว่า ยังไม่ทราบว่าเป็นใคร แต่ที่ผ่านมาตนได้ให้สิทธิ์กับส.ส.เต็มที่ ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด ใครอยากจะอยู่กับพรรคไหน ก็ถือว่าเป็นสิทธิ และหากอยู่สบายใจกับพรรคใดก็ขอให้มาบอก ตนไม่ได้ห้ามปราม หรือไม่ให้ย้ายพรรค ทั้งนี้ยังไม่เห็นว่านายพิเชษฐ์ ยื่นใบลาออกจากพรรค แต่อาจเป็นเพราะเป็นเพื่อนฝูงกัน จึงไปช่วยงานกัน ก็ถือเป็นสิทธิของนายพิเชษฐ์ ที่ไปร่วมงาน
นายชาญชัย ยืนยันว่า พรรคเพื่อแผ่นดิน ยังมี ส.ส.32 คนเท่าเดิม ยังไม่มีใครยื่นใบลาออก แต่หากใครจะย้ายไป ถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัว แต่ตอนนี้ทุกคนยังอยู่กับพรรค
" เป็นธรรมชาติทางการเมือง หากจะมีการดูดส.ส.ไปอยู่กับพรรคโน้น พรรคนี้ และอย่าคิดว่ามีแต่เพียงพรรคภูมิใจไทย กับพรรคเพื่อไทย เท่านั้น ที่จะสามารถดูดส.ส.จากพรรคอื่นเข้าไปได้ ทำไมไม่คิดว่าพรรคเพื่อแผ่นดิน จะดูดส.ส.มาบ้าง แต่วันนี้ยังไม่ขอบอกว่าพรรคเพื่อแผ่นดินดูดส.ส.จากพรรคอื่นมาได้กี่คน ถึงเวลาแล้วจะบอก แต่มีการประสานงานในทางลึกอยู่ ซึ่งมีทั้งส.ส.ฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายค้าน ที่มีแนวคิดสอดคล้องกับพรรคเพื่อแผ่นดิน" นายชาญชัยกล่าว
เมื่อถามว่า ขณะนี้พรรคประชาธิปัตย์ กับพรรคภูมิใจไทย มีปัญหาขัดแย้ง ตอบโต้กันไปมา จะส่งผลต่อเสถียรภาพรัฐบาลหรือไม่ นายชาญชัย กล่าวว่า เรื่องความเห็นแตกต่างทางการเมือง มีได้ แต่ยังเชื่อว่ารัฐบาลอยู่ได้นาน เพราะอยู่ที่ประชาชนโอเค หรือโนเค ถ้าประชาชนยังโอเค ก็อยู่ได้
เมื่อถามว่า มีข่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ ดักจับโครงการของพรรคร่วมรัฐบาล ตามที่แกนนำภูมิใจไทยกล่าวหาหรือไม่ นายชาญชัย กล่าวว่า ตนไม่เห็นว่า พรรคประชาธิปัตย์จะมาดักจับอะไร ก็ทำงานด้วยกัน ร่วมกันอย่างมีความสุข ตนมองในทางบวกว่า ความเห็นแตกต่างกันในการทำงานเป็นเรื่องธรรมดาของการเมือง
ส่วนที่มีการนำโครงการของรัฐบาลไปวิจารณ์โยงการเมืองนั้น นายสาทิตย์ กล่าวว่า เมื่อมีการดำเนินการไปแล้ว แต่ละฝ่ายมีสิทธิ์ตรวจสอบได้ เหมือนกับการที่พรรคประชาธิปัตย์ไปเคลื่อนไหวทางการเมือง ทุกฝ่ายตรวจสอบได้ ผลออกมาเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง
ผู้สื่อข่าวถามว่า มองการเคลื่อนไหวของนายเนวิน ชิดชอบ และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน อย่างไร นายสาทิตย์ กล่าวว่า การเคลื่อนไหวทางการเมืองเป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่เฉพาะนายสมศักดิ์ กับนายเนวิน ทุกพรรคก็เคลื่อนไหว พรรคเพื่อไทย ก็เคลื่อนไหว และการออกมาวิจารณ์การทำงานร่วมกันของพรรคร่วมรัฐบาล ก็ไม่ถือว่าผิดมารยาท เพราะระบอบประชาธิปไตย ห้ามการวิพากษ์วิจารณ์ไม่ได้ อยู่รัฐบาลเดียวกันวิพากษ์วิจารณ์กันได้ เป็นเรื่องปกติ
เมื่อถามว่า มองกันว่าพรรคภูมิใจไทย ต้องการตีฐานเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ในพื้นที่ กทม. นายสาทิตย์ กล่าวว่า เวลาทำงานเป็นรัฐบาล ต่างคนต่างทำงานในหน้าที่ของตัวเอง พอเป็นพรรคการเมือง การแย่งคะแนนนิยมก็เป็นเรื่องปกติ ประชาชนจะเป็นคนตัดสินว่า จะเลือกใคร
เมื่อถามว่าพรรคภูมิใจไทยเริ่มออกนโยบายมากเยอะและลงพื้นที่หาเสียงลักษณะนี้ มีนัยยะส่งสัญญาณปลายปีจะขอแยกตัวกดดันให้มีการยุบสภาเลือกตั้งใหม่ นายสาทิตย์ กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่มี อำนาจการเสนอยุบสภา อยู่ที่นายกรัฐมนตรี หากเขาจะขอแยกตัว ก็เป็นสิทธิ์ของเขาในทางกาารเมือง
เมื่อถามว่า มั่นใจหรือไม่พรรคภูมิใจไทย จะอยู่ร่วมรัฐบาลถึงสิ้นปี นายสาทิตย์ กล่าวว่า มั่นใจ พ.ร.ก.และพ.ร.บ. ก็ต้องผ่านอยู่แล้ว เพราะมันเป็นประโยชน์กับประชาชน หากคุณเอาการต่อรองเรื่องการผ่าน ไม่ผ่านงบประมาณ มาเป็นเกณฑ์ ประชาชนจะเกิดคำถามได้เช่นเดียวกันว่า ไหนตกลงจะทำเพื่อประชาชน ตนไม่คิดว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะทำอย่างนั้น
เมื่อถามว่าพรรคภูมิใจไทยจะเป็นพรรคที่น่ากลัวของพรรคประชาธิปัตย์ในการเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่ นายสาทิตย์ กล่าวว่า ประชาธิปัตย์ผ่านการเมืองมา 62 ปี เผชิญมาแล้วทุกรูปแบบ
**เสธ.หนั่นเชื่อรัฐบาลอยู่ถึงสิ้นปี
ด้านพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงกรณีพรรคภูมิใจไทย ประกาศจะเป็นพรรคอันดับ1 ว่า เป็นเรื่องธรรมดา เวลาหาเสียงก็ต้องประกาศนโยบายใหม่ๆ ต้องการให้ประชาชนเลือกเป็นเรื่องธรรมดา ส่วนที่มีการระบุว่า ส.ส.จากหลายๆ พรรค ย้ายเข้ามาร่วมด้วยนั้น ก็แล้วแต่ความสามารถของแต่ละพรรค ส.ส.เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา เป็นเรื่องธรรมดา
อย่างไรก็ตาม พรรคชาติไทยพัฒนา ไม่ได้หวั่นไหวอะไร เราเป็นพรรคเล็กๆ อยู่อย่างสมถะ เมื่อถามว่ากลัวลูกพรรคจะโดนดูดไปหรือไม่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า กลัวคงไม่ ต้องดูว่าลูกพรรคล่อกแล่กไหม ถ้าไม่ล่อกแล่ก ยังยึดมั่นก็อยู่ที่เดิม คนไหนที่ล่อกแล่ก ก็อาจจะไป ทั้งนี้ผู้แทนเขาจะต้องดูว่า พรรคที่จัดตั้งขึ้นมามีอำนาจทุกอำนาจอยู่ในมือหรือไม่ ถ้ามีก็ไป ถ้าไม่มี ก็ไม่ไป มันไหลเข้าไหลออกอย่างนี้แหละผู้แทน แต่ในพรรคชาติไทยพัฒนา ยังไม่มี ส.ส.ย้ายพรรค
เมื่อถามว่าจากประสบการณ์ทางการเมืองคิดว่าพรรคภูมิใจไทย จะก้าวขึ้นเป็นอับดับหนี่งได้หรือไม่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ประมาทไม่ได้ ถ้าภาคอีสานพรรคเพื่อไทยอ่อนลง เขาอาจจะได้คะแนนเสียงเยอะขึ้น
เมื่อถามว่า พรรคภูมิใจไทย เปิดนโยบายจำนวนมากเหมือนกับจะมีการเลือกตั้งปลายปีนี้ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า การเลือกตั้งทำนายได้เลย แต่คิดว่ายังไม่มีการเลือกตั้งในระยะนี้ คิดว่ารัฐบาลอยู่ได้ถึงสิ้นปี อย่างน้อยหลังเดือนตุลาคมไปแล้ว ตอนนี้ยังไม่มีเหตุบอกชัดเจนว่าจะมีการแยกตัว
สำหรับการเลือกตั้งซ่อมที่ จ.สกลนครนั้น พล.ต.สนั่น กล่าวว่าสูสีกัน หากจะชนะคงไม่มาก เมื่อถามว่า จะเป็นตัววัดค่านิยมของ พ.ต.ท.ทักษิณ และนายเนวิน หรือไม่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า อาจจะเป็นการชี้วัดบ้าง แต่ไม่ใช่ 100% เมื่อถามว่า มองว่าพรรคภูมิใจไทย มีโอกาสก้าวแรกในการกุมภาคอีสานหรือไม่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า มีโอกาสชนะ แม้แต่ที่ จ.ศรีสะเกษ ในส่วนของพรรคชาติไทย ก็มีโอกาสชนะ เพราะเป็นฐานเสียงเดิม
**"ชาญชัย"เปิดกว้างหากส.ส.ย้ายพรรค
นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รมว.อุตสาหกรรม ในฐานะว่าที่หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าวถึงกรณีที่มีส.ส.กลุ่มบ้านริมน้ำ ของพรรคเพื่อแผ่นดิน ที่นำโดยนายพิเชษฐ์ ตันเจริญ ส.ส.ฉะเชิงเทรา ไปร่วมงานลงพื้นที่ ที่ จ.สกลนคร กับพรรคภูมิใจไทยว่า ยังไม่ทราบว่าเป็นใคร แต่ที่ผ่านมาตนได้ให้สิทธิ์กับส.ส.เต็มที่ ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด ใครอยากจะอยู่กับพรรคไหน ก็ถือว่าเป็นสิทธิ และหากอยู่สบายใจกับพรรคใดก็ขอให้มาบอก ตนไม่ได้ห้ามปราม หรือไม่ให้ย้ายพรรค ทั้งนี้ยังไม่เห็นว่านายพิเชษฐ์ ยื่นใบลาออกจากพรรค แต่อาจเป็นเพราะเป็นเพื่อนฝูงกัน จึงไปช่วยงานกัน ก็ถือเป็นสิทธิของนายพิเชษฐ์ ที่ไปร่วมงาน
นายชาญชัย ยืนยันว่า พรรคเพื่อแผ่นดิน ยังมี ส.ส.32 คนเท่าเดิม ยังไม่มีใครยื่นใบลาออก แต่หากใครจะย้ายไป ถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัว แต่ตอนนี้ทุกคนยังอยู่กับพรรค
" เป็นธรรมชาติทางการเมือง หากจะมีการดูดส.ส.ไปอยู่กับพรรคโน้น พรรคนี้ และอย่าคิดว่ามีแต่เพียงพรรคภูมิใจไทย กับพรรคเพื่อไทย เท่านั้น ที่จะสามารถดูดส.ส.จากพรรคอื่นเข้าไปได้ ทำไมไม่คิดว่าพรรคเพื่อแผ่นดิน จะดูดส.ส.มาบ้าง แต่วันนี้ยังไม่ขอบอกว่าพรรคเพื่อแผ่นดินดูดส.ส.จากพรรคอื่นมาได้กี่คน ถึงเวลาแล้วจะบอก แต่มีการประสานงานในทางลึกอยู่ ซึ่งมีทั้งส.ส.ฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายค้าน ที่มีแนวคิดสอดคล้องกับพรรคเพื่อแผ่นดิน" นายชาญชัยกล่าว
เมื่อถามว่า ขณะนี้พรรคประชาธิปัตย์ กับพรรคภูมิใจไทย มีปัญหาขัดแย้ง ตอบโต้กันไปมา จะส่งผลต่อเสถียรภาพรัฐบาลหรือไม่ นายชาญชัย กล่าวว่า เรื่องความเห็นแตกต่างทางการเมือง มีได้ แต่ยังเชื่อว่ารัฐบาลอยู่ได้นาน เพราะอยู่ที่ประชาชนโอเค หรือโนเค ถ้าประชาชนยังโอเค ก็อยู่ได้
เมื่อถามว่า มีข่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ ดักจับโครงการของพรรคร่วมรัฐบาล ตามที่แกนนำภูมิใจไทยกล่าวหาหรือไม่ นายชาญชัย กล่าวว่า ตนไม่เห็นว่า พรรคประชาธิปัตย์จะมาดักจับอะไร ก็ทำงานด้วยกัน ร่วมกันอย่างมีความสุข ตนมองในทางบวกว่า ความเห็นแตกต่างกันในการทำงานเป็นเรื่องธรรมดาของการเมือง