“ชวรัตน์” ปลื้มผลสัมมนาชาวบ้านตอบรับดีมาก เตรียมผุดนโยบาย “1 อบต.1 ธนาคารข้าว 1 โรงสี-คาร์บอนเครดิต” ออกหน้าแทน “เนวิน” แค่วิทยากรงานสัมมนาพรรค ตีกัน “สมศักดิ์” ตำหนิประชาธิปัตย์ในฐานะส่วนตัวไม่เกี่ยวกับพรรค ตอก “เพื่อไทย” ดูถูกประชาชนกล่าวหารับเงินค่าดำนา 2 พันบาท
วันนี้ (8 มิ.ย.) นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงผลการสัมมนาของพรรคภูมิใจไทยในพื้นที่ จ.สกลนคร ว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้เพื่อต้องการให้สมาชิกพรรคไปสัมมนานอกพื้นที่ เพื่อให้สัมผัสกับชาวบ้านว่ามีความเป็นอยู่อย่างไร และสิ่งที่ชาวบ้านต้องการคืออะไร ซึ่งกระแสตอบรับถือว่าดีมาก แต่เพราะเราก็ติดดินเพราะแทนที่จะไปพักที่โรงแรม เราก็ไปพักกับชาวบ้านแทน และเชื่อว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้จะมีผลต่อการเลือกตั้งซ่อมเขต 2 จ.สกลนครอยู่บ้าง แม้จะเป็นคนละเขตก็ตาม แต่เชื่อว่าการที่ชาวบ้านได้เห็นผลงานของพรรคผ่านทางสื่อต่างๆ ซึ่งก็เป็นผลพลอยได้ไม่ได้คิดว่าจะไปสู้กับใคร แต่หากได้เปรียบพรรคอื่นก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ เพราะแต่ละพรรคก็มีอิสระในการที่จะทำให้ประชาชนอยู่แล้ว
“การไปลงพื้นที่ครั้งนี้อย่างน้อยที่สุดเรารู้ว่าชาวบ้านเขาคิดอะไร ต้องการอะไร และเราสามารถจัดหาให้เขาได้ โดยจากการลงพื้นที่พรรคภูมิใจไทยได้พบนโยบายใหม่ๆ คือ ชาวนาขายข้าวเปลือกถูก แต่ซื้อข้าวสารแพง ฉะนั้นทางพรรคจึงจะออกนโยบาย 1 อบต.1 ธนาคารข้าวกับ 1 โรงสีข้าว ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในการศึกษาความเป็นไปได้ ซึ่งหากพบว่าทำได้ก็จะเขียนนโยบายนี้ออกมาทันที” นายชวรัตน์ กล่าว
นอกจากนี้ ทางพรรคจะทำโครงการคาร์บอนเครดิตซึ่งถือว่าเป็นเรื่องใหม่ เพราะขณะนี้มีปัญหาโลกร้อน ซึ่งหลักการของนโยบายนี้ที่ต่างประเทศรณรงค์อยู่คือการสร้างอุตสาหกรรม ทำให้เกิดคาร์บอนออกไซด์มาก ผู้ที่ลงทุนต้องไปซื้อคาร์บอนเครดิตมาชดเชยตามจำหน่วยที่ก่อให้เกิดก๊าซคาร์บอน นโยบายนี้จะทำให้ผู้ที่มีป่ามีต้นสามารถทำได้มีรายได้จากการขายคาร์บอนเครดิตและจะไม่มีการตัดไม้ทำลายป่า อย่างไรก็ตาม ถือว่าเรื่องนี้ยังอีกไกลเพราะต้องมีการแก้กฎหมายด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า การจัดสัมมนาครั้งนี้ดูเหมือนว่า นายเนวิน ชิดชอบ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองไปจะมีบทบาทสูงมาก นายชวรัตน์ กล่าวว่า นายเนวิน และคนอื่นๆ ที่พรรคเชิญมาเราเชิญมาในฐานะวิทยากรที่มีประสบการณ์ทางการเมืองคล้ายๆกับเป็นครูอาจารย์ แต่ไม่ได้เกี่ยวกับการที่นายเนวินเป็นผู้ดำเนินการจัดการสัมมนาในฐานะที่เป็นพรรคการเมือง เพราะเจ้าหน้าที่พรรคเป็นการจัดสัมมนาเอง
เมื่อถามว่า มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า นายเนวิน ได้เข้ามาดูแล ส.ส.พรรคภูมิใจไทย เต็มตัวแล้ว นายชวรัตน์ กล่าวว่า ก็ไม่เชิง นายเนวินไม่ได้มีหน้าที่ตรงนี้ ส่วนที่นายเนวินเป่านกหวีดแล้วลูกพรรคกลัวก็เหมือนกับครูพละเท่านั้น ไม่มีนัยยะว่าจะเป็นการควบคุมแต่อย่างใด เพราะแท้จริงแล้วคนที่เป่านกหวีดควรจะเป็นตนเองมากกว่า แต่บังเอิญว่าไม่มีแรงเป่าเพราะอายุมากแล้วเลยให้ นายเนวิน เป่าแทน
เมื่อถามว่า การที่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำพรรคภูมิใจไทย ออกมาโจมตีการทำงานของพรรคประชาธิปัตย์ จะมีผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายชวรัตน์ กล่าวว่า เชื่อว่า นายสมศักดิ์ วิจารณ์ในฐานะที่ทำงานการเมืองมาก่อน แต่ตนไม่ได้ยินเขาพูดจึงไม่อยากจะวิจารณ์ แต่หากพรรคประชาธิปัตย์ถาม ก็จะอธิบายไปว่า ความคิดดังกล่าวไม่ใช่ของพรรคภูมิใจไทย แต่ นายสมศักดิ์ พูดในฐานะส่วนตัวที่ทำงานการเมืองก็มีสิทธิ์ที่จะวิจารณ์ได้ไม่เกี่ยวกับพรรคแต่อย่างใด
เมื่อถามว่า กลัวว่าสังคมจะมองได้หรือไม่ พรรคภูมิไทย ส่ง นายสมศักดิ์ ออกมาโจมตีพรรคประชาธิปัตย์ เพราะโครงการต่างๆของพรรคภูมิใจไทยถูกระงับหลายโครงการ นายชวรัตน์ กล่าวว่า ตนเองไม่เคยมีความคิดแบบนี้
เมื่อถามว่า กรณีที่พรรคเพื่อไทยได้ไปร้องกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่มีการแจกเงินชาวสกลนครที่ให้มาดำนา เป็นความจริงหรือไม่ นายชวรัตน์ หัวเราะ พร้อมกับกล่าวว่า เรื่องดำนาคงไม่ต้องมีใครจ้าง เพราะเขาเห็นคนกรุงเทพฯมาทำนาเขามาช่วยเอง เรื่องนี้ไม่มีมูลความจริงเลย ตนเองคิดว่าคนที่พูดแบบนี้เป็นการดูถูกประชาชนเกินไป
“ผมไม่รู้ว่าใครเป็นคนพูดแต่ถ้าคนพูดเป็นนักการเมือง ผมก็คิดว่าคนๆนั้นไม่ควรจะเป็นนักการเมือง เพราะนักการเมืองต้องดูแลประชาชน เป็นปากเป็นเสียงให้ประชาชน แต่นี่กลับไปกล่าวหาประชาชนว่าไปรับเงินไปดำนา เป็นเรื่องที่น่าละอายมาก” นายชวรัตน์ กล่าว