วานนี้ ( 4 มิ.ย.) นางสดศรี สัตยธรรม คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวถึง กรณีคณะอนุกรรมการปฏิรูปการเมือง ที่ตั้งโดยคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปการเมืองและศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ออกมาเสนอแนวทางให้ กกต. และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต แห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชุดปัจุบันลาออก เนื่องจากมีที่มาไม่ถูกต้องว่า เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการเมือง พอไม่พอใจ กกต.หรือป.ป.ช.ก็จะพูดกันตลอดของนักการเมือง ว่า 2 องค์กรนี้มาโดย ไม่ชอบ และจะมีการโจมตีว่ามาจาก คมช.แต่งตั้ง ประกาศ คปค.ฉบับแรกที่ได้มีการ แต่งตั้งศาลรัฐธรรมนูญขึ้นมาก็สามารถทำงานได้เลย ไม่ต้องโปรดเกล้าฯ ถือ ว่า คมช.ในขณะนั้นเป็นนิติรัฐ ขอถามว่าหาก กกต.มาโดยไม่ชอบแล้ว ส.ส.และส.ว.ที่กกต.รับรองจะชอบหรือไม่ แน่นอนที่สุดก็ต้องไม่ชอบ เหมือนกัน ก็จะเป็นโมฆะเหมือนกัน เพราะหากเห็นว่า กกต.ไม่ชอบ การออกหนังสือรับรองส.ส. และส.ว.ก็ไม่ชอบ
ฉะนั้น กกต.จะต้องมีการหารือกันว่า วันข้างหน้านี้ กกต.จะต้องเพิกถอนหนังสือรับรอง ส.ส.และ ส.ว.ทั้งหมดหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้เป็นอำนาจของกกต.ที่จะหารือกันและต้องลงมติ และเมื่อเพิกถอนแล้วส.ส.และส.ว.ก็จะไม่มีสถานภาพเป็นส.ส.และส.ว. หากคณะอนุกรรมการที่ตั้งขึ้นมาเพื่อสร้างความสมานฉันท์ อยากให้เกิดความไม่ สมานฉันท์ ก็สามารถทำได้ แล้วกกต.ก็จะหารือกันว่าจะเพิกถอนหนังสือรับรอง ส.ส.ทั้งหมดหรือไม่
มีการพูดเรื่องนี้กันมากน่าจะมีการตั้งใจ เพราะองค์กรอิสระมีหลายองค์กร แต่ก็ไม่ได้ไปแตะต้องเขา เอาเฉพาะ กกต.และ ป.ป.ช.เนื่องจากปัญหาทางด้านการเมือง เมื่อ กกต.ชุดนี้มาโดยไม่ชอบ ขอถามว่าหนังสือรับรองที่ กกต.ให้ไปคืนกลับมาได้ หรือไม่ เมื่อไม่มีรับรองก็ไม่สามารถทำงานได้ และจะเกิดสูญญากาศทางการเมือง และอาจจะย้อนไปถึงประกาศ คปค.ฉบับที่ 1 ที่ตั้งศาลรัฐธรรมนูญว่าชอบหรือไม่ ทุกอย่าง จะเสียหายไปหมดไปทั้งประเทศ เรื่องนี้เราไม่ได้ขู่ แต่การตีความตามกฎหมาย ถ้าบอกว่า คมช.ไม่มีอำนาจแต่งตั้งองค์กรใดๆ เลยทุกอย่างก็จะเป็นสูญญากาศ เมื่อทุกอย่างไม่ชอบแล้วการปฏิวัต ิเมื่อวันที่ 19 ก.ย.จะถือว่าถูกต้องหรือไม่ หากเป็น เช่นนี้จะถือว่าคมช.เป็นกบฏหรือไม่ เมื่อไม่มีอำนาจเป็นนิติรัฐก็ต้องตีความว่าเป็นกบฏ นางสดศรี กล่าวอย่างมีอารมณ์
นางสดศรี กล่าวด้วยว่า กกต.จะนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมหารือกันว่า ถ้ากกต. มาโดยไม่ชอบแล้วการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 23 ธ.ค.2550 นั้นถูกต้องหรือไม่ เ
ผู้สื่อข่าวถามว่าเมื่อนายกรัฐมนตรีพ้นสภาพการเป็นส.ส.แล้วระหว่างรักษาการณ์จะยุบสภาได้หรือไม่ นางสดศรี กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องให้ศาลรัฐธรรมนูญ ตีความ เพราะ กกต.จะนำเรื่องนี้เขาสู่ศาลรัฐธรรมนูญเช่นกันว่าเรามีที่มาโดยชอบ หรือไม่ เพราะขณะนี้ถือว่าเรื่องดังกล่าวมีการโต้แย้งทางของกฎหมายเกิดขึ้นแล้ว เราจะต้องดูว่าการปฏิบัติหน้าที่เราถูกต้องหรือไม่
ส่วนที่การที่คณะอนุกรรมการปฏิรูปการเมืองเสนอแนวทางเช่นนี้มองว่า มีจุดประสงค์อย่างไร นางสดศรี กล่าวว่า มองว่าเป็นประเด็นทางการเมือง และเห็นว่า เราเป็นปัญหา เพราะเจาะจงเพียงแค่ 2 องค์กรที่มาจาก คมช.เท่านั้น คือถ้ามองแล้วว่า การแก้กฎหมายนิรโทษกรรมยากก็เลยต้องล้มบุคคลที่มีแต่งตั้ง หรือบุคคลที่มีอำนาจ ทำหน้าที่ที่นำไปสู่การยุบพรรค ไม่ได้เป็นเหตุผลที่ยากเย็นอะไรไม่ต้องออกกฎหมาย นิรโทษกรรมก็ได้
อย่าทำอะไรในลักษณะที่แบ่งแยกว่าเฉพาะ 2 องค์กรนี้ที่มาจากคมช. แล้วไม่ชอบ แต่องค์กรอื่นที่ทำเรื่องของกระบวนการยุติธรรมชอบหรือไม่ เพราะคมช. แต่งตั้งเหมือนกัน อย่างไรก็ตามถ้าเราไม่ชอบแล้ว อนุกรรมฯที่แก้ไขรัฐธรรมนูญ ถือว่าชอบหรือไม่ รัฐธรรมนูญปี 2550 ที่มาจากส.ส.ร.ชอบหรือไม่
ฉะนั้น กกต.จะต้องมีการหารือกันว่า วันข้างหน้านี้ กกต.จะต้องเพิกถอนหนังสือรับรอง ส.ส.และ ส.ว.ทั้งหมดหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้เป็นอำนาจของกกต.ที่จะหารือกันและต้องลงมติ และเมื่อเพิกถอนแล้วส.ส.และส.ว.ก็จะไม่มีสถานภาพเป็นส.ส.และส.ว. หากคณะอนุกรรมการที่ตั้งขึ้นมาเพื่อสร้างความสมานฉันท์ อยากให้เกิดความไม่ สมานฉันท์ ก็สามารถทำได้ แล้วกกต.ก็จะหารือกันว่าจะเพิกถอนหนังสือรับรอง ส.ส.ทั้งหมดหรือไม่
มีการพูดเรื่องนี้กันมากน่าจะมีการตั้งใจ เพราะองค์กรอิสระมีหลายองค์กร แต่ก็ไม่ได้ไปแตะต้องเขา เอาเฉพาะ กกต.และ ป.ป.ช.เนื่องจากปัญหาทางด้านการเมือง เมื่อ กกต.ชุดนี้มาโดยไม่ชอบ ขอถามว่าหนังสือรับรองที่ กกต.ให้ไปคืนกลับมาได้ หรือไม่ เมื่อไม่มีรับรองก็ไม่สามารถทำงานได้ และจะเกิดสูญญากาศทางการเมือง และอาจจะย้อนไปถึงประกาศ คปค.ฉบับที่ 1 ที่ตั้งศาลรัฐธรรมนูญว่าชอบหรือไม่ ทุกอย่าง จะเสียหายไปหมดไปทั้งประเทศ เรื่องนี้เราไม่ได้ขู่ แต่การตีความตามกฎหมาย ถ้าบอกว่า คมช.ไม่มีอำนาจแต่งตั้งองค์กรใดๆ เลยทุกอย่างก็จะเป็นสูญญากาศ เมื่อทุกอย่างไม่ชอบแล้วการปฏิวัต ิเมื่อวันที่ 19 ก.ย.จะถือว่าถูกต้องหรือไม่ หากเป็น เช่นนี้จะถือว่าคมช.เป็นกบฏหรือไม่ เมื่อไม่มีอำนาจเป็นนิติรัฐก็ต้องตีความว่าเป็นกบฏ นางสดศรี กล่าวอย่างมีอารมณ์
นางสดศรี กล่าวด้วยว่า กกต.จะนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมหารือกันว่า ถ้ากกต. มาโดยไม่ชอบแล้วการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 23 ธ.ค.2550 นั้นถูกต้องหรือไม่ เ
ผู้สื่อข่าวถามว่าเมื่อนายกรัฐมนตรีพ้นสภาพการเป็นส.ส.แล้วระหว่างรักษาการณ์จะยุบสภาได้หรือไม่ นางสดศรี กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องให้ศาลรัฐธรรมนูญ ตีความ เพราะ กกต.จะนำเรื่องนี้เขาสู่ศาลรัฐธรรมนูญเช่นกันว่าเรามีที่มาโดยชอบ หรือไม่ เพราะขณะนี้ถือว่าเรื่องดังกล่าวมีการโต้แย้งทางของกฎหมายเกิดขึ้นแล้ว เราจะต้องดูว่าการปฏิบัติหน้าที่เราถูกต้องหรือไม่
ส่วนที่การที่คณะอนุกรรมการปฏิรูปการเมืองเสนอแนวทางเช่นนี้มองว่า มีจุดประสงค์อย่างไร นางสดศรี กล่าวว่า มองว่าเป็นประเด็นทางการเมือง และเห็นว่า เราเป็นปัญหา เพราะเจาะจงเพียงแค่ 2 องค์กรที่มาจาก คมช.เท่านั้น คือถ้ามองแล้วว่า การแก้กฎหมายนิรโทษกรรมยากก็เลยต้องล้มบุคคลที่มีแต่งตั้ง หรือบุคคลที่มีอำนาจ ทำหน้าที่ที่นำไปสู่การยุบพรรค ไม่ได้เป็นเหตุผลที่ยากเย็นอะไรไม่ต้องออกกฎหมาย นิรโทษกรรมก็ได้
อย่าทำอะไรในลักษณะที่แบ่งแยกว่าเฉพาะ 2 องค์กรนี้ที่มาจากคมช. แล้วไม่ชอบ แต่องค์กรอื่นที่ทำเรื่องของกระบวนการยุติธรรมชอบหรือไม่ เพราะคมช. แต่งตั้งเหมือนกัน อย่างไรก็ตามถ้าเราไม่ชอบแล้ว อนุกรรมฯที่แก้ไขรัฐธรรมนูญ ถือว่าชอบหรือไม่ รัฐธรรมนูญปี 2550 ที่มาจากส.ส.ร.ชอบหรือไม่