“กกต.ด้านสืบสวนสอบสวน” ยอมรับ กกต.มีจุดอ่อน ทำสำนวนส่งศาลล่าช้า เผยเร่งเจ้าหน้าที่ปรับปรุงการทำสำนวนค้างให้แล้วเสร็จ เตรียมรับศึกเลือกตั้งท้องถิ่นเดือน ก.ค.กว่า 3,000 แห่ง พร้อมยืนยันมีที่มาถูกต้องมีกฎหมายรับรอง ปัดเพิกถอนใบรับรอง ส.ส.-ส.ว. ตามที่ “สดศรี” ระบุ รับสามารถแก้ไขได้
วันนี้ (5 มิ.ย.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง นายสมชัย จึงประเสริฐ กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย กล่าวภายหลังการเป็นประธานในการประชุมชี้แจงการจัดทำคำวินิจฉัย คำสั่งของ กกต.ว่า ต้องยอมรับว่า ที่ผ่านมา งานด้านสืบสวนสอบสวนมีความล่าช้า เพราะบุคลากรที่มีอยู่มีไม่เพียงพอกับจำนวนเรื่องที่ร้องเข้ามา ดังนั้น กว่าสำนวนจะมาถึงที่ประชุม กกต.บางเรื่องก็ใกล้ขาดอายุความ บางเรื่องต้องสอบสวนเพิ่มเติมทำให้เสียเวลา ที่สำคัญ การเลือกตั้งเกี่ยวพันกับนักการเมือง ผู้มีอิทธิพลทำให้การสืบสวนสอบสวนทำได้ยาก เพราะพยานหรือผู้แจ้งเบาะแส แม้กระทั้งเจ้าหน้าที่ กลัวเรื่องความปลอดภัย จึงให้การทำงานของ กกต.ก็เกิดปัญหาอุปสรรค
“ที่แล้วๆ มาบ้านเมืองไม่ปกติ กกต.ก็โดนมรสุมเขย่าแทบยืนไม่อยู่ ตอนนี้บ้านเมืองเริ่มสงบแล้ว จึงมีเวลาปรับปรุงแก้ไขปัญหาต่างๆ ให้เข้าที่เข้าทาง เพื่อการทำงานจะได้มีประสิทธิภาพไม่เกิดการล่าช้าคั่งค้างเหมือนอย่างที่ผ่านมา ซึ่งต่อไปหลักการบริหารจัดการว่าเรื่องที่จะเข้า กกต.ชุดใหญ่ เป็นเรื่องที่มีหลักฐานมีมูลพอสมควร ไม่ใช่เรื่องร้องเรียนทุกเรื่องต้องเข้ามาสู่การพิจารณา” นายสมชัย กล่าว
นายสมชัย กล่าวว่า คดีของ กกต.ร้อยละ 70-80 มักยกคำร้อง หลังจากที่ได้หารือกับศาลแล้วก็พบว่า กกต.มีจุดอ่อนในการไม่พร้อมที่จะนำคดีขึ้นสู่ศาล ซึ่งเราก็ตระหนักอยู่เหมือนกัน แต่ถึงอย่างไรก็พอใจในการทำงานในระดับหนึ่ง แต่ก็รับฟังคำตำหนิจากทุกฝ่ายที่ให้ข้อคิดเห็นนำมาปรับปรุง ขณะนี้มีสำนวนที่ กกต.ลงมติยกคำร้องแต่ยังเขียนคำวินิจฉัยไม่แล้วเสร็จมีจำนวน 700-800 เรื่อง ที่เราจะต้องเร่งให้เจ้าหน้าที่ทำให้เสร็จสินโดยเร็วก่อนที่จะมีการเลือกตั้งท้องถิ่นครั้งใหม่ในเดือน ก.ค.นี้เป็นจำนวนอีกกว่า 3,000 แห่ง
นายสมชัย ยังกล่าวถึงกรณีคณะอนุกรรมการปฏิรูปการเมืองได้พิจารณาผลการศึกษาที่เสนอให้ กกต.และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ยุติบทบาท เพราะได้รับการแต่งตั้งจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ว่า กกต.ไม่ได้มาจาก คมช.มาจากการเลือกเหมือนกัน เพียงแต่ คมช.ออกประกาศ คปค.รับรองว่า กกต.ชอบด้วยกฎหมายเท่านั้น อย่าสับสนว่า มาจาก คมช.เมื่อถามว่า การที่ออกมาระบุอย่างนี้ ทำให้ กกต. ทำงานลำบาก และเป็นการตีรวนหรือไม่ นายสมชัย กล่าวว่า ไม่ตีรวนเขามีสิทธิ์ที่จะมองทุกคนมีสิทธิที่จะมอง แต่ทำต้องอยู่ในกรอบ พูดได้ออกกฎหมายได้ แต่อย่ามาไล่อย่างนี้ไม่ดี
ต่อข้อถามว่า นางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมืองจะหารือกับ ที่ประชุม กกต.ให้เพิกถอนใบรับรอง ส.ส.และ ส.ว.นายสมชัย กล่าวว่า ไม่น่าจะมีประเด็นนี้ในการหารือ กกต.คงพิจารณาเรื่องนี้ไม่ได้เรารู้จักหน้าที่ของเราดี เพียงแต่ กกต.ต้องทำหน้าที่ให้สมบูรณ์ บ้านเมืองก็จะเดินต่อไปได้ เมื่อถามย้ำว่า กฎหมายให้อำนาจ กกต.ในการเพิกถอนหนังสือรับรองความเป็น ส.ส.และ ส.ว.ได้หรือไม่ นายสมชัย กล่าวว่า การรับรองถ้ารับรองไม่ถูกต้อง กกต.จะแก้ไขคำรับรองได้ ถ้าไม่ถูกต้อง แต่ตนเห็นว่าหนังสือรับรอง ส.ส.และ ส.ว.ไม่เห็นจะมีอะไรไม่ถูกต้อง
เมื่อถามอีกว่า มีกระบวนการที่ชัดเจนอย่างไรให้ทุกฝ่ายยุติปัญหาว่า กกต.เข้ามาโดยไม่ชอบ นายสมชัย กล่าวว่า ประกาศ คปค.ยืนยันว่า เราได้รับการสรรหามาโดยชอบ และการที่จะเรียกร้องให้ กกต.ลาออกนั้น อาจจะมีเหตุผลของคนที่ร้องเรียน
“การตัดสินใจควรเป็นของเรา เขาควรเคารพความเห็นคนอื่นบ้าง จะไปร่างหรือแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต้องอยู่บนพื้นฐานของประชาธิปไตยที่ต้องเคารพความเห็นของผู้อื่น ไม่ใช่ว่าอยากจะเอาอย่างไรก็ทำตามนั้น นั่นคือเผด็จการไม่ใช่ประชาธิปไตย” นายสมชัย กล่าว
