เอเอฟพี/รอยเตอร์ - ทีมสอบสวนของฝรั่งเศสแถลงวานนี้ (3) ว่า คงไม่มีทางพบกล่องดำของเครื่องบิน ที่ช่วยอธิบายปริศนาว่าทำไมเครื่องบินแอร์ฟรานซ์ ถึงตกลงสู่มหาสมุทรแอตแลนติกพร้อมกับผู้โดยสารและลูกเรือจำนวนทั้งสิ้น 228 ชีวิต ขณะที่กองทัพเรือของบราซิลและฝรั่งเศสเร่งส่งฝูงเรือตรวจค้นจุดที่พบเศษชิ้นส่วนของเครื่องบินมรณะลำนี้
การสอบสวนเกี่ยวกับสาเหตุของอุบัติภัยที่เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อวันจันทร์(1)ได้เริ่มขึ้นแล้วทว่ายังจะต้องค้นหาและรวบรวมกู้ซากต่างๆ ของเครื่องบินที่กระจัดกระจายและจมใต้น้ำเสียก่อน จึงจะสามารถให้คำตอบใดๆ ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คณะสอบสวนปรารถนาที่สุดที่จะได้ “กล่องดำ” บันทึกข้อมูลเที่ยวบิน แต่ว่ามันอาจจะนอนอยู่ใต้มหาสมุทรในความลึก 6,000 เมตร และอยู่ห่างจากแผ่นดิน 500 กิโลเมตร
ผู้อำนวยการสำนักงานวิเคราะห์และสอบสวนของฝรั่งเศส ปอล หลุยส์ อาร์สลานิออง แถลงว่า "ไม่มีความหวังเลย" ที่จะพบกล่องดำจากบริเวณกลางน่านน้ำ "ที่ลึกและมหึมา" เช่นนี้ โดยบางทีมันอาจจะจมลงในมหาสมุทรแอตแลนติก
อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากพบเห็นซากชิ้นส่วนลอยอยู่นอกชายฝั่งของบราซิลเพียง 1 วัน กองทัพเรือฝรั่งเศสและบราซิล ก็ได้ส่งกองเรือเดินทางไปยังบริเวณดังกล่าวแล้ว
รัฐมนตรีกลาโหมของบราซิลและเจ้าหน้าที่ทหารของฝรั่งเศสยืนยันตรงกันว่า เศษชิ้นส่วนเหล่านี้เกิดจากเหตุเครื่องบินตกครั้งนี้แน่นอน
เรือลำแรกของกองทัพบราซิลเดินทางถึงเมื่อรุ่งสางวานนี้ (3) เพื่อสมทบกับเรือสินค้าอีก 3 ลำที่เป็นเรือสัญชาติฝรั่งเศสและเนเธอร์แลนด์ ซึ่งถูกระดมไปยังบริเวณดังกล่าว หลังพบซากชิ้นส่วนของเครื่องบินแอร์ฟรานซ์เที่ยวบินเอเอฟ447
เครื่องบินกองทัพอากาศบราซิล ซึ่งติดตั้งอุปกรณ์ที่สามารถตรวจการณ์ในเวลากลางคืน ได้ตรวจการณ์รอบๆ บริเวณดังกล่าว ซึ่งอยู่ห่างจากด้านตะวันออกเฉียงเหนือของหมู่เกาะเฟอร์นันโด ดู โนรอนญาในบราซิลราว 500 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่กล่าว
เครื่องบินของกองทัพอากาศบราซิลอีก 3 ลำ จะถูกส่งออกไปหลังพระอาทิตย์ขึ้น ซึ่งเป็นเวลาที่ทัศนวิสัยเอื้ออำนวยต่อการค้นหาศพผู้เสียชีวิต
เนลสัน โจบิม รัฐมนตรีกลาโหมบราซิลแถลงในวันอังคาร (2) ว่า บริเวณที่พบเศษชิ้นส่วนของเครื่องบินในน่านน้ำบราซิล เป็นจุดที่เครื่องบินแอร์ฟรานซ์แอร์บัส เอ330 ตกลงสู่มหาสมุทรแอตแลนติก
"แน่นอนเลย" จากเศษชิ้นส่วนที่ลอยอยู่เป็นแนวยาวตลอด 5 กิโลเมตร ซึ่งมีทั้งสายเคเบิล, ชิ้นส่วนเครื่องบินและคราบน้ำมัน สามารถยืนยันว่า บริเวณดังกล่าวเป็นจุดที่เครื่องบินทั้งลำตกลงสู่มหาสมุทร รัฐมนตรีกลาโหมบอกกับผู้สื่อข่าว
ด้านเจ้าหน้าที่ทหาระดับสูงของฝรั่งเศสแสดงความเห็นในทำนองเดียวกัน
"ขณะที่การยืนยันอย่างเป็นทางการ ยังต้องอาศัยซากชิ้นส่วนที่พบ ประกอบกับการวิเคราะห์ทางเทคนิค แต่ ณ ตอนนี้ไม่มีข้อสงสัยอีกแล้ว" เรืออากาศเอกคริสตอฟ ปราซัค บอกกับเอเอฟพี
"ภารกิจในตอนนี้เปลี่ยนจากภารกิจทางอากาศ ซึ่งครอบคลุมพื้นที่อันกว้างใหญ่มหาศาลของมหาสมุทรแอตแลนติก เปลี่ยนมาเป็นภารกิจทางเรือ ซึ่งมีคลอบคลุมพื้นที่ที่ถูกจำกัดมากยิ่งขึ้น"
สายการบินแอร์ฟรานซ์คาดว่า เครื่องบินลำนี้ น่าจะถูกฟ้าผ่า โดยแม้ปรากฎการณ์ทางธรรมชาติดังกล่าวจะภัยที่เกิดขึ้นบ่อย ๆ และไม่สามารถทำให้เครื่องบินสมัยใหม่ตกได้
อย่างไรก็ตาม การโดนฟ้าผ่าอาจกลายเป็นอันตรายมาก เมื่อประกอบกับปัญหาอื่น ๆ เช่น พายุลมกรรโชกแรง
ทฤษฎีอื่น ๆ ที่ผู้เชี่ยวชาญหลายคนหยิบยกขึ้นมาพูดถึงเพื่อคลี่คลายปมปริศนาที่เกิดขึ้นกับเครื่องบินมรณะลำนี้ มีตั้งแต่ความผิดพลาดของนักบิน, ระบบเครื่องยนต์ขัดข้อง หรือกระทั่งความเป็นไปได้ในการก่อการร้าย
"ในตอนนี้ยังไม่มีแนวคิดทฤษฎีใดที่ดูใกล้เคียงเลย" ฟรองซัวส์ ฟิลยง นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศสบอก
การสอบสวนเกี่ยวกับสาเหตุของอุบัติภัยที่เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อวันจันทร์(1)ได้เริ่มขึ้นแล้วทว่ายังจะต้องค้นหาและรวบรวมกู้ซากต่างๆ ของเครื่องบินที่กระจัดกระจายและจมใต้น้ำเสียก่อน จึงจะสามารถให้คำตอบใดๆ ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คณะสอบสวนปรารถนาที่สุดที่จะได้ “กล่องดำ” บันทึกข้อมูลเที่ยวบิน แต่ว่ามันอาจจะนอนอยู่ใต้มหาสมุทรในความลึก 6,000 เมตร และอยู่ห่างจากแผ่นดิน 500 กิโลเมตร
ผู้อำนวยการสำนักงานวิเคราะห์และสอบสวนของฝรั่งเศส ปอล หลุยส์ อาร์สลานิออง แถลงว่า "ไม่มีความหวังเลย" ที่จะพบกล่องดำจากบริเวณกลางน่านน้ำ "ที่ลึกและมหึมา" เช่นนี้ โดยบางทีมันอาจจะจมลงในมหาสมุทรแอตแลนติก
อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากพบเห็นซากชิ้นส่วนลอยอยู่นอกชายฝั่งของบราซิลเพียง 1 วัน กองทัพเรือฝรั่งเศสและบราซิล ก็ได้ส่งกองเรือเดินทางไปยังบริเวณดังกล่าวแล้ว
รัฐมนตรีกลาโหมของบราซิลและเจ้าหน้าที่ทหารของฝรั่งเศสยืนยันตรงกันว่า เศษชิ้นส่วนเหล่านี้เกิดจากเหตุเครื่องบินตกครั้งนี้แน่นอน
เรือลำแรกของกองทัพบราซิลเดินทางถึงเมื่อรุ่งสางวานนี้ (3) เพื่อสมทบกับเรือสินค้าอีก 3 ลำที่เป็นเรือสัญชาติฝรั่งเศสและเนเธอร์แลนด์ ซึ่งถูกระดมไปยังบริเวณดังกล่าว หลังพบซากชิ้นส่วนของเครื่องบินแอร์ฟรานซ์เที่ยวบินเอเอฟ447
เครื่องบินกองทัพอากาศบราซิล ซึ่งติดตั้งอุปกรณ์ที่สามารถตรวจการณ์ในเวลากลางคืน ได้ตรวจการณ์รอบๆ บริเวณดังกล่าว ซึ่งอยู่ห่างจากด้านตะวันออกเฉียงเหนือของหมู่เกาะเฟอร์นันโด ดู โนรอนญาในบราซิลราว 500 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่กล่าว
เครื่องบินของกองทัพอากาศบราซิลอีก 3 ลำ จะถูกส่งออกไปหลังพระอาทิตย์ขึ้น ซึ่งเป็นเวลาที่ทัศนวิสัยเอื้ออำนวยต่อการค้นหาศพผู้เสียชีวิต
เนลสัน โจบิม รัฐมนตรีกลาโหมบราซิลแถลงในวันอังคาร (2) ว่า บริเวณที่พบเศษชิ้นส่วนของเครื่องบินในน่านน้ำบราซิล เป็นจุดที่เครื่องบินแอร์ฟรานซ์แอร์บัส เอ330 ตกลงสู่มหาสมุทรแอตแลนติก
"แน่นอนเลย" จากเศษชิ้นส่วนที่ลอยอยู่เป็นแนวยาวตลอด 5 กิโลเมตร ซึ่งมีทั้งสายเคเบิล, ชิ้นส่วนเครื่องบินและคราบน้ำมัน สามารถยืนยันว่า บริเวณดังกล่าวเป็นจุดที่เครื่องบินทั้งลำตกลงสู่มหาสมุทร รัฐมนตรีกลาโหมบอกกับผู้สื่อข่าว
ด้านเจ้าหน้าที่ทหาระดับสูงของฝรั่งเศสแสดงความเห็นในทำนองเดียวกัน
"ขณะที่การยืนยันอย่างเป็นทางการ ยังต้องอาศัยซากชิ้นส่วนที่พบ ประกอบกับการวิเคราะห์ทางเทคนิค แต่ ณ ตอนนี้ไม่มีข้อสงสัยอีกแล้ว" เรืออากาศเอกคริสตอฟ ปราซัค บอกกับเอเอฟพี
"ภารกิจในตอนนี้เปลี่ยนจากภารกิจทางอากาศ ซึ่งครอบคลุมพื้นที่อันกว้างใหญ่มหาศาลของมหาสมุทรแอตแลนติก เปลี่ยนมาเป็นภารกิจทางเรือ ซึ่งมีคลอบคลุมพื้นที่ที่ถูกจำกัดมากยิ่งขึ้น"
สายการบินแอร์ฟรานซ์คาดว่า เครื่องบินลำนี้ น่าจะถูกฟ้าผ่า โดยแม้ปรากฎการณ์ทางธรรมชาติดังกล่าวจะภัยที่เกิดขึ้นบ่อย ๆ และไม่สามารถทำให้เครื่องบินสมัยใหม่ตกได้
อย่างไรก็ตาม การโดนฟ้าผ่าอาจกลายเป็นอันตรายมาก เมื่อประกอบกับปัญหาอื่น ๆ เช่น พายุลมกรรโชกแรง
ทฤษฎีอื่น ๆ ที่ผู้เชี่ยวชาญหลายคนหยิบยกขึ้นมาพูดถึงเพื่อคลี่คลายปมปริศนาที่เกิดขึ้นกับเครื่องบินมรณะลำนี้ มีตั้งแต่ความผิดพลาดของนักบิน, ระบบเครื่องยนต์ขัดข้อง หรือกระทั่งความเป็นไปได้ในการก่อการร้าย
"ในตอนนี้ยังไม่มีแนวคิดทฤษฎีใดที่ดูใกล้เคียงเลย" ฟรองซัวส์ ฟิลยง นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศสบอก