เอเจนซี/เอเอฟพี - เครื่องบินค้นหาของบราซิลส่องพบซากปรักหักพังในมหาสมุทรแอตแลนติกในวันอังคาร(2) คาดอาจเป็นชิ้นส่วนที่แตกหักของเครื่องบินแอร์ฟรานซ์ซึ่งบรรทุกผู้โดยสาร 228 ที่หายไปท่ามกลางพายุหนึ่งวันก่อนหน้านี้ กองทัพอากาศระบุ
เครื่องบินทหารส่องเห็นวัตถุโลหะและเก้าอี้เครื่องบิน ห่างจากเกาะเฟอร์นันโด เดอ นอรอนญา ฝั่งทะเลทางเหนือของบราซิล ราว 650 กิโลเมตร บริเวณใกล้เคียงกับจุดสุดท้ายก่อนเครื่องบินแอร์บัสเอ330 ขาดการติดต่อ
"เครื่องบินพบซากวัตถุและพยายามพิสูจน์ว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องบินแอร์ฟรานซ์หรือไม่" พันเอก จอร์จ อมารัล แห่งกองทัพอากาศบราซิลแถลงต่อผู้สื่อข่าว
"เรายังไม่สามารถบอกได้อย่างชัดเจนว่ามันคือชิ้นส่วนของเครื่องบิน ศูนย์บัญชาการจำเป็นต้องได้ชิ้นส่วนอย่างน้อยหนึ่งชิ้นที่มีซีเรียลนัมเบอร์เพื่อยืนยันว่ามันเป็นชิ้นส่วนของเครื่องบินหรือไม่" อมารัลกล่าว
เครื่องบินของสายการบินแอร์ฟรานซ์ เที่ยวบิน 447 ต้นทางริโอ เดจาเนโร ปลายทางกรุงปารีส ฝรั่งเศสเมื่อคืนวันอาทิตย์(31) ต้องเผชิญกับพายุและสภาพอากาศที่เลวร้าย 4 ชั่วโมง หลังจากทะยานออกจากสนามบินในกรุงริโอ เดจาเนโร และ 15 นาทีจากนั้นก็ได้ส่งข้อความอัตโนมัติรายงานว่า พบปัญหาไฟฟ้าลัดวงจร แต่ไม่มีสัญญาณที่ลูกเรือส่งเพื่อความช่วยเหลือหรือส่งสัญญาณบ่งบอกถึงสถานการณ์ฉุกเฉินตามข้อปฏิบัติตามปกติในกรณีที่เครื่องตก
เจ้าหน้าที่จากทั้งฝรั่งเศสและบราซิล รวมไปถึงประธานาธิบดีนิโกลาส์ ซาร์โกซี แห่งฝรั่งเศส ต่างคาดหมายว่าคงไม่พบผู้รอดชีวิตจากอุบัติเหตุครั้งนี้
หากเป็นไปตามนั้นก็เท่ากับว่าเหตุการณ์นี้จะกลายเป็นโศกนาฏกรรมที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ 75 ปีของสายการบินแอร์ฟรานซ์ และเลวร้ายที่สุดของการบินพลเรือนในรอบกว่า 1 ทศวรรษ
ด้านเอเอฟพีรายงานอ้างคำแถลงที่กองทัพอากาศบราซิลระบุว่าวัตถุที่พบนอกจากเก้าอี้นั่งของเครื่องบินแล้วยังมี ชิ้นส่วนของวัตถุสีขาว ถังออกซิเจน และมีคราบน้ำมันบริเวณรอบๆ
เมื่อวันจันทร์(1)แอร์ฟรานซ์ ระบุว่า ฟ้าผ่าอาจเป็นสาเหตุของเครื่องตก อย่างไรก็ตาม อิซาแบล ไบเรม ผู้อำนวยการทั่วไปของแอร์ฟรานซ์ในบราซิล กล่าวว่า ยังเร็วเกินไปที่จะบอกว่าอะไรเกิดขึ้นและอะไรเป็นสาเหตุของโศกนาฏกรรมครั้งนี้ โดยต้องรอผลตรวจสอบกล่องดำเสียก่อน
ด้านผู้เชี่ยวชาญ ระบุว่า แค่โดนฟ้าผ่าอย่างเดียวไม่น่าจะอธิบายหายนะครั้งนี้ได้ โดยผู้เชียวชาญ ระบุว่า เครื่องบินอาจจะพบกับปัญหาไฟฟ้าขัดข้อง ส่งผลทำให้นักบิน "มองไม่เห็น" และทำให้สถานการณ์แย่ลงในพื้นที่ที่ขึ้นชื่อในเรื่องสภาพอากาศเลวร้าย ขณะที่ ฌอง หลุยส์ บอร์ลู รัฐมนตรีฝรั่งเศส ปฏิเสธความเป็นไปได้ว่าจะเป็นการจี้เครื่องบิน
แอร์ฟรานซ์ เผยด้วยว่า เครื่องบินลำนี้ใช้เครื่องยนต์ระบบไฟฟ้าของเจเนอรัล อิเล็กทริก มีชั่วโมงบิน 18,870 ชั่วโมง และเริ่มให้บริการในเดือนเมษายน 2005 เพิ่งผ่านการซ่อมบำรุงล่าสุดในเดือนเมษายนทีผ่านมานี้ และนักบินก็เป็นนักบินที่มีประสบการณ์สูง